Chapter 23: ผมกลัวว่าผมจะตีนายจนตายมากกว่า
พร้อมกับการช่วยเหลือของดาบน้ำแข็ง หวังหยู่ก็เปิดรายชื่อสมาชิกกิลด์และเห็นชื่อของเขานั้นอยู่ด้านบนสุดและมีระดับ 15 อยู่ด้านหลังชื่อของเขา
เมื่อเขาเลื่อนลงมา หวังหยู่ก็ประหลาดใจที่เห็นว่ามันมีใครบางคนในนิกายซวนเฉินที่มีระดับ15และผู้เล่นที่ระดับต่ำที่สุดก็คือ 14! การเลื่อนระดับในเกมนี้นั้นจากตอนแรกที่เร็วแล้วก็จะช้าลงเรื่อยๆ ในจุดนี้ผู้เล่นส่วนมากในเกม
{REBIRTH} นั้นมีระดับอยู่ที่ 13 กลุ่มของพี่ชายไลท์นั้นก็ถูกพิจารณาได้ว่าเป็นกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว!
ประสิทธิภาพของหวังหยู่ในการล่ามอนสเตอร์นั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อและเขาก็ฆ่าบอสสองตัวโดยตัวคนเดียวมาก่อนหน้านี้ซึ่งช่วยเขาให้ถึงระดับ 15ได้ มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าจะมีผู้คนที่มีความสามารถเพียงพอที่จะไล่ตามเขาได้ทัน! ผู้คนที่โยนเงินเข้ามาในเกมนั้นเป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างแท้จริง!
“พวกเรามีสมาชิกใหม่! ทุกคนพูดสวัสดีได้แล้ว!”ดาบน้ำแข็งส่งข้อความในช่องแชทกิลด์แต่หลังจากรอไปเกือบครึ่งวันก็ยังไม่มีใครตอบกลับ
ในช่วงเวลานั้นหวังหยู่และดาบน้ำแข็งสามารถที่จะจ้องหน้ากันอย่างอึดอัด
“ไอ้พวกเหี้..! พวกสารเลวนี่แม่งปิดแชทกลุ่มอีกแล้ว!”หลังจากที่ด่าไปอีกสักพักหนึ่ง ดาบน้ำแข็งก็ส่งข้อความส่วนตัวให้กับสมาชิกคนอื่นในกิลด์
เพียงเวลาไม่นานสมาชิกอื่นก็เห็นมันและเริ่มที่จะเข้าแชทกลุ่มกันทีละคน ทีละคน
ไร้ความกลัว : มึงต้องการที่จะตายหรืออะไรกัน? ฉันบอกนายแล้วนะว่าฉันกำลังเดทอยู่!!!
โบซอน : สะกดรอยตามเธอนี้สามารถที่จะพิจารณาได้ว่าเป็นการเดทด้วยเรอะ? ถ้าอย่างงั้นละก็ถ้านายคุยกับเธอก็แปลว่ามีเซ็กส์เรียบร้อยแล้วอย่างงั้นสินะ?
รัศมีฤดูไม้ผลิ : ไอ้เหี้…ดาบน้ำแข็.! ชายที่น่าสงสารคนนี้นั้นมีแรงบันดาลใจและกำลังพยายามขอพรเพื่อที่จะล่าบอส! เสียงกรีดร้องของนายแม่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง! นายตะต้องตอบแทนฉันในครั้งหน้า!
….
เมื่อเห็นพวกเขานั้นหยอกล้อกันในช่องแชทกิลด์แล้วหวังหยู่ก็เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงพูดว่าสมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นบ้า ชื่อเสียงของพวกเขานั้นสมเหตุสมผลแล้ว!
“มันมีสมาชิกใหม่!”ดาบน้ำแข็งล้างคอของเขาและพูด
“สมาชิกใหม่? เขาอยู่ที่นี่เพื่อบูชาพวกเราอย่างงั้นเรอะ? เขาสามารถที่จะได้ในหัวใจของเขา พวกเรานั้นเป็นผู้คนที่ขี้อายมาก ดังนั้นการที่จะพูดออกมาดังๆมันน่าอายมาก….”สมาชิกที่เหลือนั้นก็พูดคุยกัน
“คนจำพวกนี้นี่นะที่ขี้อาย?”หวังหยู่ด่าอย่างเงียบๆ
สำหรับหัวหน้ากิดล์แล้ว ไร้ความกังวลเป็นคนเดียวที่สามารถจะตรวจสอบข้อความของระบบกิดล์ได้และเห็นว่ามีใครเข้าร่วม ในช่วงเวลาที่เขาเปิดมันเขาก็มึนงงในทันที
โอ้พระเจ้า!!!! นี่มันเทพเจ้ากระทิงเหล็ก!!!! ดาบน้ำแข็งแม่งพาคนอย่างเขามาได้ยังไงกัน? การพูดไร้สาระพวกนี้นั้นเหมือนเล่นตลกโดยที่ไม่ได้ดูรายชื่อกิลด์และพวกเขาก็ยังคงยั่วยุเขาไปแล้วอีกด้วย!
ทันใดนั้นไร้ความกลัวก็นึกขึ้นได้ถึงภาพราชาหมาป่าสีเงินที่น่าอนาถและก็สั่นอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วไร้ความกลัวก็รีบพูดในทันที “หยุดได้แล้ว! สมาชิกใหม่ของเรานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ!” ถึงแม้ว่าไร้ความกลัวนั้นต้องการที่จะเห็นหวังหยู่จัดการกับคนโง่พวกนี้ เขาก็ยังมีหน้าที่สำหรับการเป็นหัวหน้ากิลด์และเตือนกลุ่มคนที่เหลือ
“ผู้เชี่ยวชาญ? ฮ่า! นายไม่เห็นการจัดอันดับโลกอย่างงั้นเหรอ? หนึ่งในสมาชิกในกิลด์นั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอย่างงั้นเรอะ? ถ้าอย่างงั้นละก็ ฉันจะรอดูว่านายสามารถที่จะเผชิญหน้ากับคุณปู่คนนี้ได้กี่รอบกัน!”นักต่อสู้ที่ถูกเรียกว่าความทะนงตัวนั้นพูดอย่างดูถูก
คำพูดของเขานั้นทำให้หวังหยู่มึนงงไปชั่วขณะ หลังจากที่เขาฟื้นตัว หวังหยู่ก็หันกลับไปหาดาบน้ำแข็งที่อยู่ข้างๆและถาม “ชายคนนี้เป็นใครกัน? เขานั้นใช้คำว่า หยิ่งยโสในชื่อของเขาด้วย!” (มันมาจากชื่ออังกฤษที่ชื่อ Vainglory และคำว่า Vain นั้นแปลว่าหยิ่งแต่พอรวมกันแปลว่าความทระนงตัวครับ)
“มันก็เป็นเพียงแค่เด็กปัญญาอ่อน นายต้องเมินเขา”ดาบน้ำแข็งตอบกลับและเขาก็เปิดแชทกิลด์และพูด “เฮ้ เด็กน้อย! ทำไมนายไม่เปิดจัดอันดับของโลกแทนเองละ และนายก็จะเห็นว่ามีใครที่เป็นผู้เล่นที่สูงที่สุด!
ทันใดนั้นแชทกิลด์ก็เงียบอย่างสบูรณ์และทุกคนก็ไปตรวจสอบการจัดอันดับระดับโลก
กระทิงเหล็ก : นักต่อสู้ – ระดับ 15 (อาชีพลับนั้นไม่ถูกเปิดเผย ดังนั้นหวังหยู่จึงปรากฏ นักต่อสู้แทน)
รัศมีฤดูใบไม้ผลิ : หมอผี – ระดับ 15
โบซอน : เจ้าแห่งอาวุธ – ระดับ 14
ไร้ความกลัว : บาทหลวง – ระดับ 14
ดาบน้ำแข็ง : นักฆ่า – ระดับ 14
ความทระนงตัว : นักสู้ – ระดับ 14
2012 : นักธนู – ระดับ 14
หมิงตู่ : นักเวทย์สายฟ้า – ระดับ 14
ขุนนางครอท : ผู้พิทักษ์ – ระดับ 13
หอกทั้งเก้าอันโดดเดี่ยว : ครูเซเดอร์ – ระดับ 13
นิกายซวนเฉินนั้นมีสมาชิกที่น้อย แต่ละคนนั้นเป็นระดับท็อปของการจัดอันดับ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัศมีฤดูใบไม้ผลิที่เป็นหมอผี นี่คืออาชีพที่มีการควบคุมที่ต้องโฟกัสกับมันมากและสามารถที่จะพิจารณาว่าเลวร้ายกว่านักต่อสู้ โดยผู้เล่นบางส่วนและก็ยังเป็นอันดับสองของการจัดอันดับ!
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็เป็นคนแรกที่พูด “โอ้? ดังนั้นนี่ก็คือพี่ชายกระทิงที่ทรงเกียรติที่เข้าร่วมกับนิกายซวนเฉินของเรา! ชายที่มีความสามารถนั้นก็จะเลือกผู้อุปการะอันมั่งคั่งเช่นเดียวกัน มันเหมือนกับว่าพวกเรานั้นมีความคิดแบบเดียวกันเลย!”
“เอ่อ....” เมื่อเห็นรัศมีฤดูใบไม้ผลิพูดกับหวังหยู่เขาก็รู้สึกวอกแวกและเกือบที่จะลบข้อความของเขาในทันที
เมื่อโบซอนเห็นหวังหยู่เข้าร่วมกับนิกายซวนเฉิน เขาก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่ชายกระทิง ถ้าพี่ต้องการที่จะเข้าร่วมกับเรา ทำไมพี่ไม่บอกผมมาก่อนหน้านี้!”
“โบซอนและไร้ความกลัวนั้นเป็นเพื่อนขนาดที่แชร์เตียงร่วมกันได้! ความใกล้ชิดของพวกเขานั้นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเราที่สามารถจะเข้าใจได้!”ดาบน้ำแข็งเพิ่มหลังจากที่โบซอนพูดเสร็จ
“ผมมาที่นี่เพื่อเล่นเกมอย่างสบายๆ” หวังหยู่ตอบกลับอย่างอึดอัด และเขาก็คิดว่าเขานั้นเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง ในเวลาเดียวกันเขาก็คิดกับตัวเอง “ฉันเพียงแค่มาเล่นเกมนี้เพื่อที่จะขายอุปกรณ์และหาเงินให้สำหรับครอบครัวของฉัน.... ถ้าฉันรู้นะว่าพวกนายเป็นแบบนี้ละก็ฉันก็จะไม่เข้าร่วมมันแม้กระทั่งว่าพวกนายตีฉันจนเลย!”
“ชิ! แล้วมันเยี่ยมตรงไหนเพียงแค่มีระดับที่สูง? สิ่งที่สำคัญที่สุดในเกมก็คือเทคนิคของนายเองต่างหาก!” เมื่อเห็นทุกคนนั้นกระตือรือร้นที่จะต้อนรับหวังหยู่จนทำให้ความทระนงตัวนั้นรู้สึกอิจฉา
เด็กก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กที่รักในการเปรียบเทียบและแข่งขันกับคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เป็นนักต่อสู้เหมือนกันและหวังหยู่นั้นก็อยู่เหนือเขาบนการจัดอันดับของโลก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากที่ใครบางคนที่หยิ่งแบบความทระนงตัวนั้นจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับหวังหยู่
เมื่อฟังคำพูดของเขาแล้ว คนอื่นก็เริ่มต้นที่จะตื่นเต้นและพูด “โอ้! ไก่น้อยนายอารมณ์เสียอย่างงั้นเหรอ? ถ้านายอารมณ์เสียละก็ สู้กันสิ!”
กิลด์นี้มันช่างไร้ระเบียบ แทนที่จะพยายามทำให้เขาใจเย็นลงและให้เหตุผลกับเขา พวกเขานั้นยังเทเชื้อเพลิงลงไปเพิ่มอีก! พวกเขานั้นเพียงแค่ต้องการที่จะดูสิ่งที่น่าสนใจที่กำลังจะเกิดขึ้นแค่นั้น...
“ถูกแล้ว! นั่นมันถูกต้อง! ไก่น้อยเผชิญหน้ากับกระทิงเหล็ก! กระทิงเหล็กเป็น 1ต่อ1 และไก่น้อยนั้นเป็น 1ต่อ10! มาพนันกันเถอะ!”ในขณะที่เขานั้นทำหน้าที่ของเขาในฐานะหัวหน้ากิลด์นั้น ไร้ความกลัวก็ลงพนันด้วยเช่นกัน!
“ฉันจะลงพนันกับพี่ชายกระทิงเหล็กผู้ทรงเกียรติ!”
“ฉันจะพนันกับพี่กระทิงเหล็กด้วย”
ทุกคนเริ่มต้นที่ลงพนันการต่อสู้กันทีละคน ทีละคน
เมื่อเห็นทุกคนรู้สึกว่าเขานั้นอ่อนแอกว่าหวังหยู่ ความทระนงตัวก็โกรธและตะโกนในช่องแชท “พวกนายนั้นกล้าที่จะดูถูกฉันอย่างงั้นเรอะ? กระทิงเหล็ก นายกล้าที่จะสู้กับปู่ของนายหนึ่งต่อหนึ่งไหม?”
เมื่อฟังเรื่องนี้แล้วหวังหยู่ก็รู้สึกขัดแย้งเล็กน้อย “นี่มัน....นี่มันไม่ดีเลย...พวกเราเป็นกิลด์เดียวกัน....ผมกลัวว่า...”
“หื้อ? นายไม่กล้า? พวกนายได้ยินนั่นไหม? เขาบอกว่าเขากลัว! ฮ่าๆๆๆๆ!”ความทระนงตัวเยาะเย้ย
“หมัดไม่มีตา! ผมกลัวว่าผมจะเผลอต่อยนายจนตาย! มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลื่อนระดับดังนั้นนายควรที่จะรักษาระดับของนายไว้เป็นดั่งสมบัติ!”หวังหยู่อธิบาย
สิ่งที่หวังหยู่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง นักต่อสู้นั้นมีพลังชีวิตที่น้อยที่สุดในเกม(แต่ตอนก่อนๆ ที่เจอนักธนูกับนักเวทย์ดันบอกว่าเลือดยิ่งกว่านักต่อสู้ซะอีก) แม้กระทั่งการเปลี่ยนคลาสเป็นนักสู้ ความจริงก็ยังเป็นเหมือนเดิม ในระดับที่14นั้นถ้าความทระนงตัวไม่ได้เพิ่มแต้มพลังชีวิต เขาก็จะมีพลังชีวิตเพียงแค่ห้าหรือหกร้อยเท่านั้น!”
เมื่อใช้โหมดอิสระ ทุกการโจมตีของหวังหยู่นั้นก็มากเกินกว่า 100% สมบูรณ์แบบและทำให้เกิดความเสียหายจริง! หมัดเพียงหมัดเดียวของหวังหยู่ก็เพียงพอที่จะทำให้ความทระนงตัวตายแล้ว!
ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นอยู่กิลด์เดียวกันมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี ถ้าหวังหยู่นั้นตีเขาจนกระทั่งเขาเจ็บหนัก
หวังหยู่พูดพวกนี้ด้วยเจตนาดี อย่างไรก็ตามผู้คนที่ได้ยินมันเหมือนกับว่าเป็นความหยิ่งยโสแทน!
“ผมกลัวว่าผมจะเผลอต่อยนายจนตาย!”คำพูดพวกนี้นั้นอุกอาจเกินไป ความกล้าประเภทไหนกันถึงพูดแบบนี้ได้?
สุดท้ายแล้วความทระนงตัวไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไปและเริ่มตะโกน “เหี้....!!! เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว!!! นายกล้าที่จะพูดคำพูดพวกนี้กับฉันอย่างงั้นเหรอ?? ได้เลย! มาที่เมืองเลยในตอนนี้! พวกเราจะสู้กันจนถึงความตาย!”
“นายควรคิดให้ดีกว่านี้นะ! การใช้พลังทั้งหมดคือการแสดงความเคารพต่อฝั่งตรงข้าม ดังนั้นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นจะไม่ให้โอกาสแม้แต่น้อยเมื่อสู้กัน ถ้าพวกเราสู้กันจริงๆละก็ผมก็จะไม่มีความเมตตากับนายเลยแม้แต่น้อย!”หวังหยู่ตอบกลับ
“ฮึ่ม! มาเถอะหน่า! ฉันต้องการที่จะเห็นความสามารถของผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงแบบนาย!”ความทระนงตัวโต้กลับอย่างเย็นชา
“โอเค ถ้าอย่างงั้นละก็ เดี๋ยวผมจะไปถึงอีกชั่วครู่หนึ่ง”หวังหยู่ตอบกลับอย่างตรงๆ
หลังจากที่ออกจากกิลด์แชทแล้วหวังหยู่ก็เหลือตาไปมองการเคลื่อนไหวของดาบน้ำแข็งและถามอย่างมืดมน “ความตึงเครียดนั้นถึงระดับสูงแล้วในตอนนี้! ทำไมนายไม่ช่วยแก้มันละ?”
“เมื่อพี่จัดการกับเด็กพวกนี้ละก็พี่ไม่สามารถที่จะออมมือกับพวกเขาได้ ตั้งแต่ที่เขาต้องการที่จะสู้กับพี่ละก็ พี่ก็ต้องตีเขาจนกระทั่งเขาขอโทษ!”ดาบน้ำแข็งพูดพร้อมกับการแสยะยิ้มกว้าง