เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 166 การต่อสู้ครั้งที่สองกับไป่หนิงปิง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 166 การต่อสู้ครั้งที่สองกับไป่หนิงปิง
เส้นผมสีขาว ดวงตาสีฟ้า และมีแขนข้างเดียว
มันจะเป็นผู้ใดได้นอกจากไป่หนิงปิง
ก่อนที่ดาบน้ำแข็งจะสัมผัสร่างกายของเขา ฟางหยวนสามารถตระหนักถึงการโจมตีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนามุ่งร้ายสายนี้
แต่ดวงตาคู่สีดำของฟางหยวนกลับไม่สะทกสะท้าน เผชิญหน้ากับอันตรายที่ใกล้เข้ามา เขากระตุ้นใช้งานเกราะนภาทันที
"ปัง!" ดาบน้ำแข็งกระแทกพื้นอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ไอน้ำระเหยขึ้นมา
"ฟิ้ว..."
แท่งน้ำแข็งพุ่งตามฟางหยวนที่ล่าถอยออกไป แต่เขายังสามารถตีลังกาหลบได้อย่างง่ายดาย
แต่ด้วยพื้นที่บนเนินเขาที่มีอยู่อย่างจำกัด มันจึงทำให้ฟางหยวนไหลลื่นลงไปตามไหล่เขา
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฟางหยวน โอ้ ฟางหยวน เหตุใดทุกครั้งที่ข้าพบเจ้า ข้าจึงรู้สึกต้องการฆ่าเจ้าอย่างรุนแรง? บอกข้าที!" ไป่หนิงปิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น
เสียงหัวเราะของเขาดึงดูดความสนใจของผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆที่อยู่ด้านล่าง
"ท่านไป่หนิงปิง ให้ข้าช่วยท่าน!" ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ไม่ไกลตะโกนเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
"ท่านผู้นำ มันเป็นฟางหยวน!" ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์แจ้งเตือน
"ข้ารู้" อวี๋โป้ลังเลขณะเดียวกันก็พยายามหลบการโจมตีจากผู้นำตระกูลไป่ เป็นเพียงหลังจากนั้นเขาจึงตะโกนออกมา "เก็บวัตถุดิบเหล่านี้มาก่อน!"
ฟางหยวนหายตัวไปในช่วงเวลาที่ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าบุกโจมตีหมู่บ้าน ดังนั้นกลุ่มชนชั้นสูงของตระกูลแสงจันทร์จึงยิ่งสงสัยในตัวเขามากขึ้น นอกจากนี้ด้วยแรงกดดันจากผู้ใช้วิญญาณตระกูลไป่ จึงไม่มีผู้ใดเข้าไปให้การสนับสนุนฟางหยวน
เห็นความช่วยเหลือที่ตรงเข้ามา ไป่หนิงปิงกลับตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ "หยุด! นี่คือการต่อสู้ของข้า อย่ามารบกวน!"
"ท่านไป่หนิงปิง ท่านสูญเสียแขนไปข้างหนึ่ง ความสามารถในการสู้ของท่านลดน้อยลง ท่านเป็นความหวังของตระกูล พวกเราไม่สามารถสูญเสียท่าน ให้ข้าช่วยกำจัดขยะชิ้นนี้"
ผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่ตะโกนเสียงดังและไม่มีความคิดที่จะหยุดเท้า
เขาเร่งกระตุ้นใช้งานวิญญาณจากมือทั้งสองข้าง
"บึม!"
ด้วยการวางมือลงบนพื้น เนินเขาด้านหน้าระเบิดขึ้นก่อนที่สิ่งมีชีวิตบางอย่างจะก่อกำเนิดขึ้นจากดินโคลนและมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์
พริบตาหลังจากนั้นแขนที่ใหญ่โตของมันจึงถูกเหวี่ยงออกไปคว้าร่างของฟางหยวน
ฟางหยวนก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน จากนั้นแสงสีทองจึงส่องประกายออกมาจากทะเลวิญญาณของเขาและเริ่มรัดพันร่างกายของเขาเอาไว้ราวกับริบบิ้น
แขนใหญ่โตที่บีบรัดร่างกายของฟางหยวนถูกแสงสีทองเหล่านี้ตัดทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปในพริบตา
"โอ้ มันเป็นวิญญาณชนิดใด?" ไป่หนิงปิงตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้
หลังจากแสงสีทองเลือนหายไป มันจึงเผยให้เห็นร่างที่แท้จริงของมัน
มันมีความยาวหนึ่งเมตร กว้างเท้ากำปั้นมนุษย์ ร่างสีทองเต็มไปด้วยใบมีดอันแหลมคมเรียงรายอยู่สองข้างลำตัวและสะท้อนแสงที่เย็นเยียบออกมา
ตะขาบทองคำทำลายล้าง!
"มา!" เพียงเมื่อฟางหยวนกำหมัดและยื่นแขนออกไปข้างหน้า ตะขาบทองคำทำลายล้างจึงบิดตัวเข้าไปเกี่ยวกันรอบแขนของเขาเอาไว้ราวกับอสรพิษ
แต่สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือหลังจากนั้นมันกลับอ้าปากกลืนกินแขนของฟางหยวนเข้าไปจนถึงข้อศอก ด้วยการยืดตัวออกไป มันจึงดูเหมือนดาบสีทองที่อยู่ในมือของเขา
ผู้ใช้วิญญาณที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างตกใจ ไม่มีผู้ใดเคยคิดว่าตะขาบทองคำทำลายล้างสามารถใช้งานในลักษณะนี้
โดยปกติแล้วผู้ใช้วิญญาณจะปรับแต่งวิญญาณ เลี้ยงดูวิญญาณ และใช้วิญญาณ ทั้งสามประการเป็นสิ่งที่มีความลึกซึ้ง วิธีการของฟางหยวนเป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่มีผู้ใดเคยจินตนาการถึง
แต่ในความเป็นจริง วิธีการนี้ไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยฟางหยวน
สามร้อยปีหลังจากนี้ ผู้ใช้วิญญาณปีศาจที่มีพรสวรรค์โดดเด่น ปีศาจนักฆ่าโซ่เหล็ก ผู้ใช้วิญญาณตะขาบนักฆ่าโซ่เหล็กซึ่งเป็นวิญญาณระดับสูงขึ้นไปของตะขาบทองคำทำลายล้างเป็นผู้คิดค้นวิธีการนี้ขึ้นมา
ดังนั้นเวลานี้จึงยังไม่มีผู้ใดเคยเห็นวิธีการนี้มาก่อน
"ข้าจะให้พวกเจ้าได้ลิ้นรสชาดของมัน" ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางและส่งพลังวิญญาณให้กับตะขาบทองคำทำลายล้าง
"ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ ซี่..."
เสียงเลื่อยไฟฟ้าดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้หัวใจของผู้คนถึงกับสั่นสะท้านเพียงเมื่อได้ยิน
วิญญาณปีกสายฟ้า!
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขณะที่ปีกสายฟ้าสะบัดตัวขึ้นบนแผ่นหลังของเขา
"เปรี้ยง!"
ร่างของฟางหยวนพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
เร็ว! รวดเร็ว! รวดเร็วเกินไป!
มันเป็นความเร็วที่ทำให้รูม่านตาของผู้ใช้วิญญาณตระกูลไป่หดเล็กลงด้วยความหวาดกลัว
กลิ่นอายแห่งความตายเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา เขากรีดร้องพร้อมกับกระตุ้นใช้งานวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเป็นเหตุให้แสงสีเหลืองส่องสว่างขึ้นบนร่างของเขา
แสงสีเหลืองห่มคลุมร่างกายของชายชราราวกับเกราะแสง แต่ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนก็เข้าประชิดตัวเขาแล้ว
เส้นผมสีดำเต้นรำอยู่กลางอากาศ ดวงตาของเขาส่องประกายเย็นเยียบไม่ต่างจากเทพปีศาจที่จะนำตัวมนุษย์ไปยังดินแดนแห่งความตาย
ด้วยพละกำลังของหมูป่าสองตัว ดาบสีทองกวาดผ่านร่างกายของผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่อย่างง่ายดาย
"เพล้ง!"
เกราะแสงสีเหลืองแตกละเอียดในพริบตา
ดาบสีทองตัดเนื้อเฉือนหนังราวกับตัดเนยสด ด้วยการสะบัดแขน ร่างของผู้ใช้วิญญาณตระกูลไป่ถูกแยกออกเป็นสอง ร่างกายส่วนบนบินขึ้นสู่อากาศพร้อมกับเลือดและลำไส้ที่สาดกระจาย ขณะที่ครึ่งล่างยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ดวงตาของผู้ใช้วิญญาณผู้นี้ยังจ้องมองร่างกายส่วนล่างของตนเองด้วยความตกใจก่อนจะตกตายไปในลักษณะนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้การต่อสู้ของสองตระกูลหยุดชะงักลงชั่วขณะ ทุกคนมองไปยังฟางหยวนด้วยความตื่นตะลึง
ผู้ใช้วิญญาณผู้นี้เป็นผู้อาวุโสของตระกูลไป่ที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง
แต่ภายใต้การโจมตีที่โดดเด่นและก้าวร้าวของฟางหยวน เขากลับถูกฆ่าทันที
ร่างกายของฟางหยวนอาบย้อมไปด้วยเลือดและเศษเนื้อ ใบมีดรอบตัวตะขาบทองคำทำลายล้างยังหมุนวนอยู่อย่างดุร้ายและรุนแรง นี่ยิ่งทำให้ทุกคนแทบไม่กล้าจ้องมองมาที่มัน
"นี่มันวิญญาณชนิดใด?" ไป่หนิงปิงตะโกนด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนเป็นวิกลจริต
"ฟางหยวน เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ มาสู้กัน!" เขาตะโกนออกมาด้วยความเร้าร้อนก่อนจะกระโจนเข้าจู่โจมฟางหยวน
"เด็กน้อยมักส่งเสียงดังเสมอ" การแสดงออกของฟางหยวนยังเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขณะที่หันไปรับมือไป่หนิงปิ
"ปัง!"
ดาบสีทองปะทะดาบน้ำแข็ง เลื่อยไฟฟ้าตัดเข้าไปในดาบน้ำแข็งและทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆก่อนจะพุ่งตรงไปยังใบหน้าของไป่หนิงปิงอย่างรวดเร็ว
การแสดงออกของไป่หนิงปิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เขาเร่งปล่อยมือจากดาบน้ำแข็งและล่าถอยออกจากระยะการโจมตีของดาบสีทอง อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับสามารถส่งดาบสีทองยืดยาวออกไปได้โดยไม่คาดคิด
"นี่..." ไป่หนิงปิงกลายเป็นโง่งมเพราะไม่สามารถคาดคิดถึงเรื่องนี้
หางอันแหลมคมของตะขาบทองคำทำลายล้างปะทะกับหน้าอกของไป่หนิงปิง แม้จะได้รับการปกป้องโดยกล้ามเนื้อน้ำแข็ง แต่มันยังปรากฏบาดแผลขนาดใหญ่
เมื่อรับรู้ถึงแรงปะทะ ไป่หนิงปิงจึงเร่งกระโดดถอยหลังออกไปก่อนจะชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ที่อยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง
เลือดสาดกระเซ็นลงบนพื้น แต่กล้ามเนื้อน้ำแข็งยังสามารถหยุดเลือดของเขาได้อย่างรวดเร็ว
ไป่หนิงปิงไอออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงดังอยู่ข้างหู
ความรู้สึกหวาดกลัวที่เขาไม่เคยรู้จักปรากฏขึ้นในหัวใจของเขาอย่างกะทันหัน
รูม่านตาของไป่หนิงปิงหดเล็กลงขณะที่พยายามม้วนตัวไปข้างหน้า
"ปัง!"
วินาทีต่อมาดาบสีทองจึงถูกฟาดลงมาจากท้องฟ้าและผ่าพื้นหินให้แยกออกจากกันทันที
'หากมันโจมตีถูกร่างกายข้า...ข้าเกรงว่า...' หัวใจที่เย็นเยียบของไป่หนิงปิงเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่มด้วยความโกรธเกรี้ยว
หลังจากการต่อสู้กับฉิงซู ไป่หนิงปิงเลิกสนใจระดับการบ่มเพาะและให้มันเติบโตขึ้นด้วยตัวมันเอง
แม้เขาจะสูญเสียแขนไปข้างหนึ่ง แต่ระดับการบ่มเพาะของเขายังสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเขายังถูกกำหราบโดยฟางหยวนผู้ใช้วิญญาณระดับสามขั้นต้น!
ไม่พอใจ! อัปยศอดสู! โกรธ! นี่คือความรู้สึกของเขา
"ตาย!" ไป่หนิงปิงคำรามเสียงดังก่อนจะก่อกำเนิดดาบน้ำแข็งขึ้นมาอีกครั้ง
เห็นไป่หนิงปิงเข้ามาใกล้ ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นและโจมตีด้วยทุกสิ่งที่มี
เขาได้รับความแข็งแกร่งจากวิญญาณหมูขาวและหมูดำ กล่าวได้ว่าพละกำลังของเขาเหนือกว่าไป่หนิงไป่อย่างชัดเจน ด้วยข้อได้เปรียบนี้ ทุกการกวัดแกว่งดาบสีทอง มันจึงทรงอานุภาพยิ่งกว่าที่ผู้ใดจะคาดคิดถึง
ตัด! ผ่า! ฟาด! ฟัน! ดึงกลับ! เฆี่ยน! ตะขาบทองคำทำลายล้างเคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่าวอยู่ในมือของฟางหยวน บางครั้งมันดูเหมือนหนักหน่วงราวกับพละกำลังของคชสาร บางครั้งมันดุร้ายเหมือนเสือ และบางครั้งมันก็ยืดหยุดไม่ต่างจากอสรพิษ
จุดสำคัญคือตะขาบทองคำทำลายล้างเต็มไปด้วยเจตจำนงของฟางหยวน มันจึงสามารถเคลื่นไหวได้ดังใจที่ฟางหยวนปรารถนา นี่ทำให้ไป่หนิงปิงยากที่จะรับมือและแทบไม่สามารถป้องกันตนเองได้
เขากรีดร้องขณะที่ถูกบังคับให้ล่าถอยออกไปอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชุดคลุมสีขาวที่หรูหราของเขากลายเป็นชุดผ้าขี้ริ้วของขอทานไปอย่างสมบูรณ์
ฟางหยวนเคลื่อนไหวราวกับสายลมสีดำ การแสดงออกของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขณะแสดงทักษะดาบ ทักษะกระบี่ ทักษะขวาน และทักษะแส้ระดับปรมาจารย์ออกมา เขายังสามารถผสานทักษะเหล่านี้ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อใช้กับตะขาบทองคำทำลายล้าง อาวุธร้ายในมือของเขาอีกด้วย
วิญญาณจะแข็งแกร่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้!
"ดี ดีมาก ฟางหยวน!" ไป่หนิงปิงตะโกนออกมาอย่างยากลำบาก ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน
ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล กระทั่งกล้ามเนื้อน้ำแข็งยังไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ทัน แต่นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เท่านั้น
หากการต่อสู้ระยะประชิดไม่เป็นผล ก็ต้องใช้การโจมตีระยะไกล
วิญญาณวิหคน้ำแข็ง!
ไป่หนิงปิงส่งวิหคน้ำแข็งหลายตัวออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง
วิหคน้ำแข็งบินตรงไปยังฟางหยวนจากหลากหลายทิศทาง
แต่ฟางหยวนยังไม่สะทกสะท้าน ด้วยการสะบัดมือซ้าย ดาบแสงจันทร์สีเลือดพุ่งเข้าปะทะวิหคน้ำแข็งและทำให้พวกมันระเบิดกลางอากาศ
คนทั่วไปอาจชำนาญการใช้อาวุธด้วยมือข้างเดียว แต่ประสบการณ์อันยาวนานของฟางหยวนทำให้เขาสามารถใช้มือทั้งสองข้างได้โดยไม่มีความแตกต่าง แม้เขาจะใช้มือซ้ายยิงดาบแสงจันทร์ออกไป มันก็ยังไม่มีการเบี่ยงเบนทิศทางใดๆ
เมื่อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ ไป่หนิงปิงจึงเริ่มใช้ทั้งดาบน้ำแข็งและวิหคน้ำแข็งผสานกัน
ฟางหยวนใช้ดาบแสงจันทร์สีเลือดระเบิดทำลายวิหคน้ำแข็ง ขณะเดียวกันก็ใช้เกราะนภาป้องกันดาบน้ำแข็ง
ด้วยวิธีการนี้สุดท้ายไป่หนิงกลับกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบขึ้นมาเล็กน้อย แต่ฟางหยวนยังหัวเราะเสียงเย็นและยักไหล่อย่างไม่แยแส เขาปลดตะขาบทองคำทำลายล้างออกจากแขนและให้มันค่อยๆลอบเลื้อยคลานไปตามพื้น
ภัยคุกคามชนิดนี้หนักหนาเกินไป!
ไป่หนิงปิงตะลึง! เมื่อสังเกตเห็นมัน เขาถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนจะเร่งก้าวถอยหลังกลับไปทันที