ตอนที่4 เสื้อเจ้าปัญหา!
ตอนที่4 เสื้อเจ้าปัญหา!
“กำลังหาใครอยู่รึเปล่าครับท่าน?” หลินหยี่ยังไม่ได้เดินเข้าบริษัทเลยสักก้าว แต่ยามก็หยุดเขาในทันที
“โอ้ เดี๋ยวนะ นึกก่อน…” หลินหยี่กำลังจะล้วงกระเป๋าเสื้อ แต่ก็นึกอะไรได้บางอย่างว่าที่นี่ไม่เหมือนกับบ้านของเขาเลย ยามคนนี้ไม่เหมือนเอ่อกูซีเลย
เอ่อกูซีนี้เป็นเพื่อนของเขา เขาไม่รู้วิชากังฟู แต่ว่าเพียงหมัดเดียวของเขาเขาสามารถจะฆ่าวัวที่โตได้ ยามคนนี้ดูอ่อนแอมากอ่อนแอกว่าวัวสะอีก
หลินหยี่หยิบกระดาษโน้ตออกมาเพื่อดูชื่อ “ผมกำลังมองหาคนชื่อ ฉูเพงซาน”
“ฉูเพงซาน? ใครกันหน่ะ? ชื่อคุ้นๆเหมือนได้ยินที่ไหนเหมือนกันนะ..” ยามคนหนึ่งพูดพึมพำ
“เขาเป็นประธานบริษัทไงพวก!” ยามอีกคนพูดพร้อมกับดึงแขนยามคนที่ไม่รู้จักชื่อของประธานบริษัทมา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้ยิน “เห้ย ไม่รู้จักได้ไง อยากโดนไล่ออกหรอ?”
“ฉิบหาย!” ยามคนนั้นดูช็อคมากเมื่อได้ยินยามอีกคนบอกว่าฉูเพงซานเป็นใคร เกิดอะไรขึ้นกับยามคนนี้ทำไม่พวกเขาถึงไม่รู้จักชื่อเจ้านายของตนเอง?
เขามองมาที่หลินหยี่และก็เห็นว่าเขาสวมใส่ชุดอะไรมา จากการแต่งตัวของเขา เขาไม่น่าจะรู้จักคนอย่างประธานบริษัทได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวนาแบบเขาจะรู้จักกับประธานบริษัทที่ยิ่งใหญ่500บริษัทแรกทั่วโลก
เด็กนี่อาจจะเป็นใครสักคนที่ต้องการมาร้องเรียนบริษัทแน่ๆ เมื่อคิดแบบนี้แล้วเขาก็นึกถึงหนัง You Owe Me One Hundred Fifty Thousand ที่ประธานบริษัทต้องเผชิญหน้ากับชาวนา ที่เขาดูเมื่อสองวันก่อน
เขามองตากับยามอีกคนและดูเหมือนว่าจะมีความคิดเดียวกัน
“นายมีธุระอะไรกับท่านประธานหรอ?” ยามได้ถามอย่างเข้มขรึมราวกับว่าหลินหยี่ทำอะไรผิดสักอย่าง
“เอ่อ... ไม่ใช่ผม แต่เป็นตาเฒ่าของผม เขาบอกว่าให้มาหาที่นี่” หลินหยี่ตอบแบบงงๆ เขาไม่สนใจว่าลูกค้าคนนี้จะมีอำนาจมากแค่ไหน แต่เขาเป็นคนขอความช่วยเหลือหลินหยี่มาเอง
“หืม? ตาเฒ่าของนาย?” คำพูดของหลินหยี่ได้ไขข้อสงสัยในทันที เพราะชาวนาจากในหนังก็มาหาประธานบริษัทเพราะพี่ชายของเขา เด็กนี่มันทำทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ
“ไม่ทราบว่าพวกคุณสองคนหยุดพูดแบบนั้นได้ไหม? บอกผมมาสักทีว่าฉูเพงซานอยู่ชั้นไหน แล้วผมจะรีบไปทันที โอเคไหม?” หลินหยี่ไม่อยากจะเสียเวลากับพวกยามงี่เง่านี่ เขาต้องการจะไปพบกับลูกค้าให้เร็วที่สุด
“ท่านประธานไม่ได้อยู่ที่นี่...” ยามตัดสินใจพูดเพื่อให้หลินหยี่กลับไปส้ะ เพราะเขาตัดสินใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลินหยี่จะรู้จักท่านประธาน
หลินหยี่เริ่มจะเหนื่อยกับยามสองคนนี้ พวกยามมองตากันแบบน่ารังเกียจ แค่เสื้อผ้านี่มันเป็นปัญหาจริงๆ
“อ่อเข้าใจหล่ะ งั้นผมจะนั่งรอข้างในละกัน” หลินหยี่พูดขณะเดินผ่านยามทั้งสองไป
“เดี๋ยว! นายเข้าไม่ได้” ยามทั้งสองพูดเสียงดังขึ้นเพราะหลินหยี่เดินเข้าไปแล้ว
ยามทั้งสองไปตามไปหยุดหลินหยี่ขณะที่ลิฟท์ชั้นแรกกำลังเปิด ชายวันกลางคนแต่งตัวดีก้าวออกมาพร้อมกับชายผิวคล้ำอีกคน
“น่าจะได้เวลาแล้วนะ... ทำไมหลินหยี่ยังไม่มาถึงอีก? บางทีท่านน่าจะลองไปที่สถานีรถไฟดูนะ ท่านก็มีรูปของเขานิ” ชายที่แต่งตัวดีพูดอย่างไพเราะ
“ก็ดีเหมือนกันนะท่านประธาน งั้นเดียวผมจะรีบไป” หลีฟูตอบอย่างรวดเร็ว
เมื่อหลีฟูกำลังจะรีบไป ก็มีสิ่งสิ่งนึงที่เตะตาท่านประธาน ท่านประธานจึงบอกหลีฟูว่า “ก่อนอื่น นายไปดูตรงนั้นก่อนสิว่าเขามีอะไรกัน?”
หลีฟูรีบเดินไปดูทันที และถามยามที่กำลังจับตัวชายคนหนึ่งอยู่ว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ท่านฟูครับ ชายคนนี้บอกว่าอยากพบท่านประธาน และเขาก็บุกรุกเข้ามาทันที!” พวกยามรู้จักหลีฟูดี แม้ว่าเขาไม่ได้ทำงานในบริษัทนี้แต่ก็เป็นผู้ติดตามที่ท่านประธานเชื่อใจที่สุด ถ้าจะให้อธิบายถึงตำแหน่งของเขา ก็คงเป็นคนขับรถส่วนตัว
แต่ทุกคนรู้ดีว่าไม่ได้เป็นแค่คนขับรถ ดังนั้นทุกคนจึงเคารพเขาเหมือนเขาเป็นผู้นำคนนึง
และในหลายๆครั้ง หลีฟูคนนี้ก็เป็นตัวแทนของท่านประธาน
เมื่อหลีฟูมองไปยังชายคนนี้เขาก็คุ้นๆหน้าและถามว่า “หลินหยี่? หลินหยี่รึเปล่า?”
“ใช่ครับ ผมเอง” หลินหยี่พยักหน้า หลินหยี่รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ลูกค้าที่เขาตามหา เพราะว่าเขาดูไม่มีราษีในการเป็นผู้นำ
“ยินดีที่ได้พบ!” หลีฟูพยักหน้า พร้อมกับเดินเข้าไปจับมือทักทายทันที “ผมเป็นเลขาของท่านประธานฉู ชื่อว่าหลีฟู เราไม่ทราบว่าคุณมาถึงแล้ว และเราก็กำลังจะไปรับคุณที่สถานีรถไฟพอดีเลย”
“ไม่เป็นไร ผมแค่อยากจะรู้จักสถานที่ต่างๆก่อนเฉยๆหน่ะ” หลินหยี่พูดพร้อมกับจับมือกับหลีฟู
“ท่านประธานอยู่ทางนั้น เดี๋ยวผมจะพาไปหาเอง กรุณาตามผมมาด้วยครับ” หลีฟูได้เดินนำทางไปหาฉูเพงซาน
ยามทั้งสองคนนั้นได้แต่ยืนอ้าปากค้าง
“เขาเป็นแขกของท่านประธานจริงๆหรอ?” ยามไม่อยากจะเชื่อ
“ท่านฟูมาต้อนรับเอง ต้องใช่แน่!” ยามถอนหายใจ “โชคดีนะที่เขามาไว ไม่งั้นเราคงไล่เขาออกจากตึกไปแล้ว ขอบคุณพระเจ้า!”
“นายคือหลินหยี่ใช่ไหม?” ฉูเพงซานได้เดินเข้าไปหาทันทีเมื่อเขาเห็นว่าหลินหยี่กำลังเดินมา เขายิ้มพร้อมกับยื่นมือขวาออกมา