ตอนที่ 210 มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์
"พี่ ฉันมาช่วยแล้ว" มีอีกคนกำลังบินขึ้นมาด้วยปีกเลือดศักดิ์สิทธิ เธอคือหวงฟูผิงชิง
'ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวปัญหาจริงๆ' หานเซิ่้นขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าหวงฟูผิงชิงเรียกเซินเทียนจื่อที่เป็นลูกชายของซีอีโอกลุ่มสตาร์รี่ เธอเป็นหลานสาวของหวงฟูสงเฉิง ประธานของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เอเรส เธออาจจะรู้จักกับเซินเทียนจื่อไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แต่หานเซิ่นไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับมัน หวงฟูผิงชิงเองก็ฝีมือไม่ธรรมดา ถ้าสู้กันตัวต่อตัว หานเซิ่นสามารถเอาชนะเธอได้ไม่ยาก แต่ถ้ารวมกับอีก 2 คน เธอน่าจะสร้างปัญหาให้เขาไม่น้อย
พวกเขาทั้ง 3 คนเริ่มโจมตีหานเซื่นพร้อมๆกัน แต่การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นไวกว่าพวกเขามาก เขาใช้ดาบของชูร่าป้องกันการโจมตีของพวกเขาได้ทั้งหมด ซึ่งทำให้คนอื่นๆที่กำลังดูอยู่ประหลาดใจ
"ดอลลาร์เก่งเกินไปแล้ว เขาสามารถรับมือกับศัตรู 3 คนได้ในเวลาเดียวกัน"
"ถ้าเขาปรากฏตัวในงานประลอง หลินเฟิงอาจจะไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือกอันดับ 1 ก็ได้"
"แข็งแกร่งมาก ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้? ทั้งเซินเทียนจื่อและนิ้วโป้งเกือบจะเก็บจีโนพ้อยเต็มแล้วนะ"
ซินเสวียนพูดอย่างนุ่มนวล "น่าตกใจจริงๆที่ดอลลาร์ก้าวหน้าเร็วขนาดนี้ งานประลองเพิ่งจะผ่านมาไม่นานแท้ๆ"
"ก็เพราะว่าเขาคือดอลลาร์" ชิงพูดขณะถือกล้องส่องทางไกล
"น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เข้าการประลองจัดอันดับ ไม่งั้นเขาคงจะเอาชนะหลินเฟิงได้" หยวนพูด
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับการต่อสู้ พวกเขาก็ได้ยินเสียงโลหะปะทะกัน ดาบของชูร่าไม่ใช่อาวุธเลือดศักดิ์สิทธิ เมื่อเจอการโจมตีที่กระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดาบของหานเซิ่นก็หักเป็น 2 ท่อน
เนื่องจากไม่มีอาวุธแล้ว หานเซิ่นจึงต้องหนี ถึงเขาจะสามารถรับมือกับพวกเขาทั้ง 3 คนได้ แต่เขาก็ไม่มีโอกาสฆ่าเซินเทียนจื่อ ถ้าหากไม่มีอาวุธดีๆ
"หยุดมันไว้!" เซินเทียนจื่อไม่ยอมปล่อยให้หานเซิ่นหนีไปง่ายๆ เขาใช้ดาบของเขาฟันไปที่หานเซิ่น
แววตาของหานเซิ่นยังคงเยือกเย็น เขาเปลี่ยนร่างเป็นนักฆ่ากระหายเลือด และใช้หมัดของเขาชกไปที่ดาบของเซินเทียนจื่อ ทำให้ดาบของเซินเทียนจื่อกระเด็นหลุดมือไป
หานเซิ่นต้องการจะโจมตีเซินเทียนจื่อต่อ ขณะที่นิ้วโป้งและหวงฟูผิงชิงพุ่งเข้ามา และกวัดแกว่งอาวุธของพวกเขา
เคร็ง!
แม้ว่าหวงฟูผิงชิงจะมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าเขา แต่ดาบของเธอและฉมวก 3 แฉกก็สามารถตัดเข้าไปในชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิของเขาได้ มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลของหานเซิ่น
'ฉมวกนั่นคมจริงๆ!' หานเซิ่นใช้ปีกของเขาบินสูงขึ้นไป
พวกเขาทั้ง 3 คนพยายามบินตามหานเซิ่นไป แต่ยิ่งพวกเขาบินสูงขึ้นเท่าไหร่ ลมและสภาพอากาศก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ด้วยกายหยกทำให้หานเซิ่นไม่กลัวสภาพอากาศ ขณะที่อีก 3 คนที่เหลือตัวสั่นและเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง พวกเขามองดูหานเซิ่นบินหายลับตาไปขึ้นไปในเกาะ
'สงสัยจริงๆว่าทำไมหวงฟูผิงชิงถึงมาขายวิญญาณอสูรที่นี่ เธอร่วมมือกับเซินเทียนจื่องั้นหรอ?' ที่หานเซิ่นไม่เข้าใจ อีกอย่างก็คือทำไมปีกวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่หลินเป้ยเฟิงเป็นคนประมูลได้ไป ถึงมาอยู่กับเซินเทียนจื่อ หลินเป้ยเฟิงไม่น่าจะร่วมมือกับพวกเขาแน่ๆ
ในตอนนี้หานเซิ่นแทบจะหมดโอกาสฆ่าเซินเทียนจื่อแล้ว ถ้าเขาไม่มีอาวุธเลือดศักดิ์สิทธิ
'เสียหายหนักจริงๆ! ดาบของชูร่าก็พังไปแล้ว ตอนนี้อาวุธที่พอจะใช้ได้ก็เหลือแค่หอกระดับกลายพันธ์' หานเซิ่นตัดสินใจว่าจะต้องแย้งวิญญาณอสูรบนเกาะลึกลับให้ได้ เพื่อชดเชยสิ่งที่สูญเสียไป
เมื่อเขาบินขึ้นไปเหนือก้อนเมฆ เขาสามารถมองเห็นทั้งเกาะได้ และเหนือกลุ่มเมฆขึ้นมามีภูเขาขนาดใหญ่ตั้งตะงานอยู่
'มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิน่าจะอยู่ที่ภูเขานั้น' หานเซิ่นบินตรงไปยังภูเขาด้วยความเร็วสูงสุด เขาต้องการฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ก่อนที่คนอื่นๆจะมาถึง
แต่ก่อนที่เขาจะบินไปถึงภูเขา เขาก็ต้องหยุดชะงัก เขาไม่กล้าจะเข้าไปใกล้กว่านี้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือ ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่บนภูเขา มีมอนสเตอร์รูปร่างเหมือนนางฟ้ายืนอยู่ มันมีปีกสีขาวอยู่ข้างหลัง และมีวงแหวนอยู่บนหัว มือทั้ง 2 ข้างจับดาบที่ดูแล้วน่าจะทำมาจากเพชร มันกำลังส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงอาทิตย์
"มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์? และนั่นก็คือเกียร์ระดับเลือดศักดิ์สิทธิ" หานเซิ่นประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น
ถ้าเกิดมอนสเตอร์ตัวนี้ให้วิญญาณอสูรประเภทเปลี่ยนร่าง มันก็น่าจะทรงพลังเหมือนกับนักฆ่ากระหายเลือดและแฟรี่ควีน
ตามที่มนุษย์ค้นพบ มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์นั้นมีอยู่น้อยมาก แม้แต่นักฆ่ากระหายเลือดก็ไม่ถือว่ามีรูปร่างเป็นมนุษย์ซะทีเดียว
ซึ่งมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์จะทรงพลังมาก ตัวอย่างเช่นนักฆ่ากระหายเลือด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเซินเทียนจื่อใช้ลูกธนูแบบใช้ได้ครั้งเดียว คงไม่มีใครสามารถต่อกรกับมันได้ แม้ว่าตอนนั้นพวกเขาจะร่วมมือกัน 3 กลุ่ม
หานเซิ่นคิดว่าตัวเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับนักฆ่ากระหายเลือด และจากความรู้สึกของเขาตอนนี้ มอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าดูจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านักฆ่ากระหายเลือดเสียอีก
ถ้าหานเซิ่นสามารถเปลี่ยนร่างเป็นนักฆ่ากระหายเลือดได้นานๆ เขาก็พอมีความมั่นใจ แต่ทว่าเวลาในการเปลี่ยนร่างมันมีจำกัด เขาอาจจะถูกฆ่าได้ ถ้าฝืนเปลี่ยนร่างเกินเวลา
ที่สำคัญกว่านั้นยังมีอีก 3 คนที่กำลังตามเขามา และน่าจะมาถึงในอีกไม่นานแล้ว ถ้าหานเซิ่นเข้าไปสู้ตอนนี้ พวกเขาอาจจะใช้ประโยชน์จากหานเซิ่น และฉวยโอกาสฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หานเซิ่นก็ไม่ลังเลที่จะหาที่ซ่อนตัว และเริ่มสังเกตการณ์เพื่อรอโอกาส