ตอนที่แล้วตอนที่ 6 : ดาบบิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 : ระฆังทองแดงลึกลับ

ตอนที่ 7 : ทองแดงประหลาด


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

ตอนที่ 7 : ทองแดงประหลาด

พลันท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ซ่งจงจึงหยุดมือเพียงแค่นั้น แม้ว่าสภาพแวดล้อมของนิยายศักสิทธิ์นั้นจะดูสงบ แต่นั่นไม่ได้บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดภัย มีสัตว์ป่าระดับต่ำมากมายอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ โดยเฉพาะในหุบเหวเทียนโกว แม้ว่าวันนี้ทั้งวันเขาจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้วเหล่าสัตว์พวกนี้จะออกล่าอาหารโดยธรรมชาติของมัน ปัจจุบันซ่งจงยังอ่อนแอเกินไปที่จะรับมือ และเขาก็ไม่ได้ต้องการมาตายโง่ๆ ณ ที่แห่งนี้

ในเวลาสามวัน หลังจากขุดไปประมาณสามสิบฟุต เจ้าอ้วนก็ได้หยิบบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ขณะที่เขากำลังจะโยนมันทิ้งไปนั้น ไข่มุกดำมีอาการสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้ซ่งจงตกใจอย่างมาก และเขารู้ได้ทันทีว่าเขาพบสิ่งของที่เจ้าไข่มุกน้อยตามหาแล้ว เขารีบตรวจสอบวัตถุนั้นทันที มันเป็นชิ้นส่วนทองแดงที่หักแล้ว ขนาดของมันเท่ากับฝ่ามือและมีความหนาประมาณสองนิ้ว ลักษณะของมันดูเหมือนจะเป็นชิ้นส่วนอะไรสักอย่างที่แตกหักออกมา

ซ่งจงไม่สามารถสัมผัสถึงปราณจิตวิญญาณจากมันได้แม้เพียงนิด และเขาก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่ามันมีความพิเศษอย่างไร ‘ข้าอาจจะเข้าใจผิด สิ่งนี้คงมิใช่สิ่งของที่เจ้าไข่มุกตามหาอยู่กระมัง?’ คิดได้ดังนั้นเขาจึงโยนมันออกไปอีกครั้ง เจ้าไข่มุกก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครา ซ่งจงเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าไข่มุกกำลังหาของสิ่งนี้อยู่

ทันทีที่ซ่งจงหยิบทองแดงนั้นขึ้นมาแล้วเข้าไปในมิติลึกลับของเขา เขาโบกทองแดงไปมาแล้วถามออกไปว่า “เฮ้ สาวน้อย เจ้ากำลังมือหาสิ่งนี้อยู่งั้นหรือ แล้วมันเอาไปใช้ประโยชน์อันใดได้บ้างล่ะ?” ไร้เสียงตอบกลับมา ในมิติเงียบงันไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ซ่งจงรู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด เพราะเขาใช้เวลาขุดอยู่สามวันเพื่อหาชิ้นส่วนนี้ และมันดูไร้ค่าสำหรับเขามาก เขาขว้างทองแดงลงไปในดินสีดำแล้วตะโกนออกมาอย่างเหลืออด “ข้าไม่รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรต่อ งั้นย่อยสลายมันไปเลยก็แล้วกัน!”

หลังจากได้กระทำลงไปอย่างนั้น เจ้าอ้วนก็ออกไปจากมิติพร้อมบินกลับกระท่อมน้อยของเขาด้วยดาบที่คล้ายว่าใกล้จะพังเต็มที ทันทีที่ถึงกระท่อมเขาก็ล้มตัวลงนอนผล่อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

เช้าวันถัดมาซ่งจงไม่ได้ออกจากกระท่อมแต่ยังคงอยู่ในสมาธิ แม้ว่าเขาจะเสียเวลาไปเก็บขยะอยู่นานสามวัน แต่ขยะพวกนั้นก็มิได้ไร้ประโยชน์ ภายใต้กองขยะมีอุปกรณ์ที่ดีอยู่มากมาย เขาพบเครื่องมือและอุปกรณ์วิญญาณมากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งเก็บไว้ในมิติลึกลับจนแน่นขนัดไปถึงขอบมิติ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องวนกลับไปที่หุบเขาอีกครา เพราะมันมีเพียงแค่จำนวนที่มากแต่เป็นเพียงอุปกรณ์ระดับต่ำเท่านั้น

แม้ว่าอุปกรณ์ระดับต่ำที่สุดก็ยังสามารถทำให้ตื่นเต้นได้อยู่ คือมันมีวัสดุดี ๆ ผสมอยู่บ้าง ดินสีดำก็มิได้ทำให้ซ่งจงผิดหวังแต่อย่างใด มันไม่สนใจถึงระดับของสมบัติ ตราบใดที่โยนสิ่งของเหล่านั้นลงไปมันก็จะทำหน้าที่ย่อยสลายเช่นเดิม และยังมีอีกหลายหุบเขาที่ยังมีสมบัติมากมายซ่อนอยู่

ความเร็วของดินสีดำมีไม่มากนัก แต่ก็ไม่ถือว่าช้าจนเกินไป เพราะโดยปรกติแล้วการย่อยสลายอุปกรณ์ทั่วไปจะใช้เวลาหนึ่งวัน อุปกรณ์วิญญาณใช้เวลาไม่เกินสามวัน บางช่วงเวลาสามารถฝังสิ่งของลงไปได้ถึงสิบชิ้น ดังนั้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซ่งจงทำการย่อยสลายไปแล้วกว่าร้อยชิ้น

ในตอนนี้มิติลึกลับของเจ้าอ้วนได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ได้มีลักษณะเลือนลางอีกต่อไป ตอนนี้มีขนาดที่ร้อยคูณร้อย และเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าห้าร้อยฟุต เมื่อประกอบกันแล้วก็เป็นมิติเก็บของขนาดใหญ่

เมื่อขนาดของมิติเก็บของใหญ่มากขึ้น ดินสีดำก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน มันสูงห้าฟุตและกว้างขึ้นสิบฟุต การเพิ่มขนาดน่าจะมาจากการดูดซึมพวกกระดูก เขาของสัตว์ หรือสิ่งของที่มีสารอินทรีย์อื่น ๆ แต่เจ้าอ้วนก็ย้อนคิดได้ว่าสิ่งของที่เขานำมาย่อยสลายนั้นมีเพียงโลหะและหยกเท่านั้น ไม่มีกระดูกใด หรือสมบัติใด ๆ ที่ทำมาจากกระดูกสัตว์หรือเขาของสัตว์เลย มากไปกว่านั้นคือมีดินสีเหลืองเพิ่มมากขึ้นด้วย พร้อมกับน้ำพุที่เต็มไปด้วยพลังจิตอย่างหนาแน่น จนถึงตอนนี้เจ้าอ้วนก็ยังไม่ทราบว่าเจ้าน้ำพุนี่มาจากไหน

แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีผลกับการบ่มเพาะของซ่งจงมากนัก สมบัติหลายร้อยชิ้นได้ถูกย่อยสลายเป็นวัสดุนับพัน ๆ ชิ้น สิ่งที่มีปริมาณมากที่สุดก็คือเหล็กสีดำเกรดต่ำ ซึ่งมีความสูงประมาณสิบฟุต รูปร่างของมันก็จะคล้าย ๆ ยอดเขา นอกจากนั้นก็ยังมีลมทองแดง เงินกลั่น ทองคำม่วง และวัสดุเกรดต่ำอื่น ๆ มีตั้งแต่ขนาดเล็กที่สุดคือเท่ากำปั้น และใหญ่ที่สุดเท่ากับลูกแตงโม

วัสดุเกรดสูงเป็นสิ่งที่ทำให้ซ่งจงรู้สึกมีความสุข อย่างพวกหยกไฟแก่นแท้และเหล็กเย็น นอกจากนี้ยังมีวัสดุอีกมากมายที่เขาไม่รู้จัก แม้ว่าส่วนใหญ่ขนาดของพวกมันจะเล็กพอ ๆ กับเมล็ดข้าวและใหญ่ที่สุดเทียบเท่ากับไข่ไก่ อย่างไรก็ตามเขาหวังว่ามูลค่าของมันจะมีมากกว่าเหล็กสีดำ

เห็นได้ชัดว่าซ่งจงเข้าใจว่าเหล็กสีดำคือวัสดุเกรดต่ำที่สุด ซึ่งสำหรับเจ้านี่มูลค่ามันเพียงแค่หนึ่งร้อยจินก็เพียงพอแล้ว ทว่าทองคำม่วงก็หาใช่วัสดุที่ธรรมดาไม่ เพียงแค่หนึ่งหรือสองก้อนก็มีมูลค่าถึงสองสามร้อยถึงหนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณระดับต่ำ ซึ่งหินจิตวิญญาณถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่บ่มเพาะพลังขั้นพื้นฐาน

ส่วนของวัสดุที่มีค่าก็พวกสารสกัดจากหยกไฟ วัสดุเหล่านี้ถูกใช้งานโดยผู้ที่มีพลังระดับจินตัน หรือสูงกว่านั้น สำหรับมูลค่าของมันนั้นมิใช่สิ่งที่ซ่งจงจะประเมิณค่าได้ เนื่องจากเขายังขาดความรู้ในส่วนนี้ ซ่งจงมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นว่าวัสดุทั้งหมดที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาไม่รู้จัก อาจจะมีวัสดุเกรดสูง ถ้ามีบางอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญหยวนหยินต้องการล่ะก็ แม้ว่าจะขนาดจะเล็กเทียบเท่ากับเมล็ดพืช ก็ต้องสามารถแลกได้กับอุปกรณ์วิเศษที่ค่อนข้างดี

ก่อนหน้านี้มีเด็กชายอยู่หนึ่งคนซึ่งไม่กี่วันก่อนเขายังมีฐานะไม่ต่างจากยาจก บัดนี้เขาได้กลายเป็นบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยเพียงข้ามคืน การคิดเรื่องนี้ทำให้ซ่งจงตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน อย่างไรก็ตามเขากลับมาสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ดีว่ามีปัญหาที่กำลังรอเขาอยู่

เขาไม่สามารถที่จะครอบครองสมบัติที่ถูกทิ้งเหล่านี้ได้ สมบัติล้ำค่าระดับสูงเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แต่ว่าเหล่าบุคคลที่ทิ้งมันนั้นพบเจอได้ยากยิ่งกว่า การขุดดินในหุบเหวเทียนโกวเพียงไม่กี่วันเพื่อค้นหาเจ้าสิ่งของพวกนี้ ภายในเวลาไม่กี่ปีเหมืองทองคำตรงนี้ก็จะหมดไป ตอนนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นจึงยังไม่ต้องกังวลกับปัญหาตรงนี้มากนัก เพียงแค่คิดว่าในตอนนี้เขาครอบครองสิ่งใดอยู่บ้าง เขาก็มีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปอีกนับร้อยปี

ปัญหาต่อมาคือวิธีการใช้มัน ขณะนี้เจ้าอ้วนได้นึกย้อนกลับไปในช่วงวัยเยาว์ เขาเคยได้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกกันว่านครเวหา เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีพลังห่างไปประมาณหนึ่งหมื่นไมล์จากสำนักเสวียนเทียน มันถูกจัดการโดยนิกายต่าง ๆ ของอาณาเขตและเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างผู้ที่มีพลัง มีร้านค้ามากมายที่มีชื่อเสียง ซึ่งบางแห่งเปิดทำการค้ามาแล้วกว่าพันปี ถ้าเขาสามารถบินไปที่แห่งนั้นได้ด้วยตนเอง เขาก็จะสามารถใช้หินจิตวิญญาณนี้ได้ทั้งหมด

มีเพียงสองทางเลือกที่จะไปยังนครเวหาได้ หนึ่งคือบินไปด้วยตนเอง ด้วยความสามารถของเจ้าอ้วนคงต้องใช้เวลาสักสามเดือน ตามทางก็จะพบเจอกับสัตว์ร้ายหรือแม้กระทั่งโจร เมื่อมองไปถึงความกล้าหาญของเขาด้วยแล้ว เขาพบเพียงว่าการเลือกเส้นทางนี้คือรนหาที่ตายชัด ๆ

อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ประตูเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเข้าเมืองได้โดยตรง ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ มากวนใจอีกทั้งยังรวดเร็วมากเสียด้วย ณ ตอนนั้นซ่งจงจำได้ว่าเขาเคยไปกับท่านพ่อท่านแม่ด้วยวิธีนี้ แต่ว่าประตูนี้เก็บค่าธรรมเนียมเป็นหินจิตวิญญาณระดับต่ำยี่สิบก้อนต่อคน และนั่นคือปัญหา !

สิ่งของที่เจ้าอ้วนครอบครองอยู่นั้น แม้ว่ามันมีมูลค่ามากมาย เขาก็มิอาจจะนำมันไปโอ้อวดให้กับผู้ใดได้เชยชม แม้แต่หินเหล็กดำที่มีมูลค่าต่ำที่สุดเขายังไม่กล้าจะที่จะเปิดเผย เพราะในอดีตเขามีฐานะที่ยากจนและไม่เคยใช้จ่ายใด ๆ ในสำนักเสวียนเทียน ถ้าเขาหยิบของมีค่าออกไปขาย มันจะต้องไปสะกิดต่อมอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้านอย่างแน่นอน และนั่นก็ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตายสักเท่าไหร่

หลังจากที่เขาคิดอยู่นาน และยังไม่มีทางออกสำหรับเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายนี้ วูบหนึ่งเขาก็รู้สึกอยากยอมแพ้ขึ้นมา เจ้าอ้วนรู้สึกว่าดินสีดำที่กำลังย่อยสลายนั้นเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากเจ้านี่อยากเต็มที่ ซ่งจงคว้าดาบแดงข้าง ๆ ที่ตั้งใจจะสลายมันอยู่แล้ว แทงลงไปในดินสีดำ แต่ขณะนั้นเองเขารู้สึกว่ามือเขาถูกกระแทกกลับมาราวกับเขากำลังแทงดาบลงไปในของแข็งอย่างไรอย่างนั้น

เจ้าอ้วนรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ‘จะมีสิ่งของอยู่ในนี้ได้อย่างไรกัน ? ทุกสิ่งก่อนหน้านี้ควรถูกย่อยสลายไปหมดแล้วมิใช่รึ?’ ซ่งจงรีบใช้สัมผัสทางวิญญาณของเขาตรวจสอบดินสีดำเพื่อไขข้อข้องใจให้กับตนเอง เขาตรวจพบชิ้นของแข็งซึ่งมันก็คือชิ้นส่วนทองแดงที่เขาฝังไว้ในดินสีดำ

อีกครั้งที่เจ้าอ้วนรู้สึกตื่นตระหนก เขารีบใช้ปราณจิตวิญญาณของเขาดูดเศษทองแดงออกมาตรวจสอบทันที และนั่นทำให้เขายิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เพราะเจ้าเศษทองแดงที่ดูไร้ค่าในวันนั้น มิได้ถูกย่อยสลายไปแม้แต่น้อย มันถูกฝังอยู่ในนี้นานนับครึ่งเดือน ด้วยความสามารถของดินสีดำแม้แต่อุปกรณ์วิญญาณยังใช้เวลาไม่เกินสามวัน แต่เศษทองแดงกลับไม่บุบสลายแม้แต่น้อย

ในใจของซ่งจงตอนนี้นั้นคิดเพียงอย่างเดียวว่านี่ต้องเป็นสมบัติที่พิเศษมากอย่างแน่นอน ถ้าไม่ได้เจ้าไข่มุกดำในวันนั้น เขาคงไม่มีโอกาสได้พบเจอกับมัน ดีใจได้เพียงครู่ เจ้าอ้วนก็กลัวมาคอตกเช่นเดิม เขาคร่ำครวญอยู่ภายในใจ ‘แม้ว่ามันจะล้ำค่าแค่ไหน แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ในมือคนโง่อย่างข้า เว้นเสียแต่ว่าข้าจะสามารถสร้างเจ้านี่ขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้?’

เมื่อคิดดังนั้น นัยน์ตาของเจ้าอ้วนเริ่มเปล่งประกายออกมา เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง ‘ชิ้นส่วนนี้ถูกข้าค้นพบในหุบเหวเทียนโกว ซึ่งแปลว่าอาจจะมีชิ้นส่วนอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ถ้ายืมพลังของมิติลึกลับแล้วล่ะก็ข้าอาจจะค้นหามันเจอครบทุกชิ้นก็ได้ แล้วข้าก็จะได้รู้ถึงพลังของมันด้วย’ เมื่อคิดแล้วซ่งจงไม่รีรอ เขาวิ่งออกจากกระท่อมน้อยและบินไปด้วยดาบพัง ๆ ของเขาอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่หุบเหวเทียนโกว

สามเดือนหลังจากนั้น เจ้าอ้วนรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างถึงที่สุด เขากลับไปที่กระท่อมของเขา ถึงแม้ตอนนี้น้ำหนักของเขาได้ลดลงอย่างมาก สีผิวของเขานั้นเข้มขึ้นมาก พร้อมกับใบหน้าที่ผุพังนั้น ก็ยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา ราวกับว่าใบหน้าของเขาได้ถูกเลือกสรรมาแล้วอย่างดี

สามเดือนที่ผ่านมานั้นเจ้าอ้วนกลับมากินอาหารเพียงครั้งเดียว ในฐานะที่เขาเป็นศิษย์ชั้นนอกแล้ว แม้ว่าเขาจะกินอาหารหรือไม่กินอาหาร ก็ไม่มีใครมาสนใจใยดีเขาอยู่แล้ว สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของเขานั้น เขาได้จดจ่ออยู่กับการขุดค้นหาชิ้นส่วนอยู่บนหุบเหวเทียนโกวเป็นระยะทางกลายร้อยไมล์ ในที่สุดเขาก็รวบรวมเศษทองแดงได้ทั้งหมดสามสิบหกชิ้น เศษทองแดงเหล่านี้มิใช่ว่าได้มาอย่างง่ายดาย บางส่วนก็หยิบขึ้นมา บางส่วนก็ขุดขึ้นมา และบางส่วนต้องไปขโมยจากรังของสัตว์ร้ายมา โชคดีที่มันเป็นเพียงหมูปิศาจระดับต่ำเท่านั้น และมันไม่รู้จักการบิน หลังจากซ่งจงล่อมันออกจากถ้ำแล้ว เขาก็ทำทุกอย่างโดยง่ายดาย แต่ในตอนสุดท้ายเขาก็ถูกหมูร้ายไล่ล่าอยู่หลายร้อยไมล์จนคิดว่าจะเอาชีวิตไม่รอดเสียแล้ว

หลังจากที่ใช้ความพยายามไปจนหมดสิ้นในการเก็บรวบรวมเศษทองแดงทั้งหมด ก็หามีประโยชน์อันใดไม่ที่จะอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไป เขาต้องการจะพักผ่อนเต็มทีแล้ว เจ้าอ้วนกลับมายังกระท่อมน้อยพร้อมกลับสนิทไปตลอดทั้งวัน เมื่อตื่นมาเขาก็รู้สึกเกียจคร้านอย่างหนักเมื่อคิดว่าต้องเดินไปยังโรงอาหาร เขาจึงหยิบของว่างบางส่วนมาแบ่งกิน หลังจากที่กินหมดในชิ้นสุดท้าย จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าตรงเข้ามิติลึกลับของเขาไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด