TXV – 147 อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น !
TXV – 147 อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น !
เซี่ยเหล่ยลากผู้ตรวจการไปต่อยในห้องน้ำและจับหัวกดส้วม ซึ่งมันโหดร้ายมากจึงไม่ค่อยมีใครทำกันโดยนิสัยเขาแล้วเซี่ยเหล่ยไม่ชอบความรุนแรง เขามักหาทางเลือกอื่นแทนถ้าหากเลือกได้.......
ทำไมชางเซินที่ร่ำรวยและมีอำนาจถึงเลือกมี่จะช่วยเขา เซี่ยเหล่ยไม่เชื่อว่าชางเซินจะไม่ทำอะไรเขา มันไม่น่าจะใช่เรื่องเงินแน่ๆ แล้วเขาก็คิดในแง่มุมความสัมพันธ์ด้วย หรืออาจเพราะเซี่ยเหล่ยเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานลับ 101
แต่เป็นไปไม่ได้ที่ชางเซินจะรู้เรื่องนี้ อย่างมากเขาก็รู้แค่ว่าเซี่ยเหล่ยมีเครือข่ายในเมืองชิงตู่ เรื่องนี้แหละที่ทำให้ชางเซินยอมเป็นเพื่อนกับเขา
ซู่หลางล้อเซี่ยเหล่ยที่ทำงานกับชางเซิน แต่เซี่ยเหล่ยไม่สนใจ หากเกิดอะไรไม่ดีขึ้น ชางเซินจะต่อว่าเขาได้ เซี่ยเหล่ยต้องประนีประนอมในการทำธุรกิจ เขาต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เซี่ยเหล่ยมีนัดคุยกับหลีเหวินต่อทำให้เซี่ยเหล่ยต้องจับซู่หลางจับหัวกดส้วมเพื่อรีบสะสางความแค้นให้เร็วที่สุด !
เซี่ยเหล่ยกล้าทำร้ายซู่หลาง โดยที่เขาไม่กลัวว่าจะโดนตำรวจจับ !
เซี่ยเหล่ยเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานลับ 101 ถึงแม้จะไม่เป็นทางการ ซึ่งฉือโบเหยิยนเห็นว่าเขาเป็นสำคัญ เซี่ยเหล่ยก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เขาเคยขโมยความลับของสมาร์ทแมชชีน อย่างไรก็ตามเขาหวังว่าฉือโบเหยิยนจะไม่ให้เขาติดคุกเพราะซู่หลางและที่สำคัญตอนนี้เซี่ยเหล่ยยังผลิตสมาร์ทแมชชีนในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนยังไม่ถึง 50 เปอเซ็นต์เลย
เซี่ยเหล่ยคิดว่าจะเอาตรงนี้ให้รอดยังไงดี เขาต้องรอดแน่ๆ........
เมื่อพูดถึงหน่วยงานลับ 101 มันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ต้องมากังวลเรื่องซู่หลางเลยแม้แต่น้อย.....
ชางเซิน หลีเหวินและติงหยุนเห็นว่าเซี่ยเหล่ยแข็งแรงแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะสู้กับซู่หลางได้ขนาดนี้ ..........
ตั้งแต่อดีตมาช้านาน พ่อค้าต้องพึ่งพาข้าราชการที่มีอำนาจ ซึ่งมันกลายเป็นสัญชาตญาณของทุกคน วันนี้เซี่ยเหล่ยต้องแสดงด้านนี้ออกมา โดยเขาจะใช้เส้นสายส่วนตัวช่วย เขาอยากส่งสัญญาณว่าจะไม่สามารถเอาผิดเขาได้ !
หลังจากเขาทั้งสามได้นั่งดื่มในห้องหรูหราพร้อมกับสาวสวย พวกเขาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากห้องน้ำ เมื่อเซี่ยเหล่ยเดินออกมาจากห้องน้ำเขาเหมือนดาราดาวร้ายที่มีเสน่ห์ มาดเข้ม ท่าทางน่าเกรงขาม เสน่ห์บาดใจ ........
ทั้งชางเซิน หลีเหวินและติงหยุนเดินมาล้อมเซี่ยเหล่ย สามคนนี้มีสีหน้าตกตะลึงและแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น !
“ขอโทษครับ ผมเสียมารยาทไปหน่อย” เซี่ยเหล่ยพูดขณะเดินกลับมาถึงที่โซฟา
ทั้ง 3 คนนั้ตกตะลึงจนพูดออกมาเก้ๆกังๆ ชางเซินฝืนยิ้มและพูดว่า “คุณ...”
“หวังว่าเรื่องส่วนตัวผมจะไม่ได้ส่งผลต่อธุรกิจของเรา” เซี่ยเหล่ยพูดสบายๆราวกับว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“ไม่หรอก เพียงแต่...” ชางเซินถามเซี่ยเหล่ยต่อ “ซู่หลางเป็นผู้ตรวจการ เขาไม่ลืมการกระทำของคุณแน่ๆ คุณคิดว่าเขาจะแก้แค้นคุณมั้ย”
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างไม่แยแสว่า “ผมไม่สนหรอกว่าเขาเป็นผู้ตรวจการ ถ้าเขาจะเอาคืนผม คงต้องรอไปก่อนนะ...........”
เซี่ยเหล่ยไม่ชอบพูดโอ้อวด แต่บางครั้งเมื่อมีโอกาสก็ต้องมีบ้างแหละ
เมื่อซู่หลางเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมของเขาเปียกชุ่มลากยาวไปถึงเสื้อสไตล์ตะวันตกท่อนบน
“เพื่อนซู่” ชางเซินพูดต่อ “คุณส่งเสียงดังเมื่อกี้หรอ ? ผมไม่ทราบว่าคุณสองคนมีปัญหากัน ไม่เช่นนั้นผมคงไม่ให้พวกคุณดื่มหรือร้องเพลงด้วยกันวันนี้หรอก”
ซู่หลางพูดอย่างเย็นชา “พี่เซิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ อย่าได้ไปใส่ใจ” เขาหันมาชี้หน้าเซี่ยเหล่ย “ถ้ามึงอยากตาย กูจะช่วยสงเคราะห์เอง !”
เซี่ยเหล่ยชักสีหน้าใส่แต่ไม่ได้พูดโต้ตอบ
ชางเซินพยายามพูดแทรก “เพื่อนซู่ ผมว่าเรื่องนี้คุณควรจะ...”
“พี่เซิน หยุดพูดเถอะ ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ” ซู่หลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรหาใครสักคน ก่อนตะคอกใส่ว่า “พี่หวู่ ส่งคนของคุณมาที่ไนท์ฟราแกรนท์วู้ดคาราโอเกะ ตอนนี้เลย ให้คนมาเตรียมจับกุมให้พร้อม !”
เขาจงใจพูดเสียงดังให้คนทั้งห้องได้ยิน
บรรยากาศแห่งความสุขกลายเป็นความตึงเครียดไปทันที.........
ชางเซินและพวกพ้องเดินมาหาเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง พวกเขาอยากรู้ว่าเซี่ยเหล่ยจะรับมือยังไง
เซี่ยเหล่ยเองก็หยืบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเช่นกัน แล้วพูดเรียบๆว่า “ฮัลโหล.. ผมอยู่ในคาราโอเกะ”
เสียงหลงบิงดังขึ้นมาจากปลายสาย “ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนนะ”
“ผมมาเจรจาธุรกิจไม่ได้คิดเรื่องอื่น ตอนนี้มีเรื่องอยากให้คุณช่วย”
“เรื่องอะไรรึ”
“คุณรู้จักซู่หลางไหม”
“รู้จักสิ”
“เขากำลังจะจับผม”
“เกิดอะไรขึ้น” หลงบิงพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“ผมไปทำร้ายเขา”
“ทำไมคุณทำตัวใจร้อน”
“เขาเรียกให้คนมาจับผม ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย ผมไม่อยากเสียหน้า”
“คุณก็รู้ว่ามันจะมีผลตามมา แล้วยังจะไม่คิดให้ดีก่อนทำอะไร ฉันเตือนแล้วนะ บอกแล้วว่าต้องมีสติเวลาเจอปัญหา คุณก็ยังจะ...”
เซี่ยเหล่ยพูดแทรกขึ้นว่า “หากผมถูกจับ ผมก็จะลาออกแล้วก็ไม่ได้จัดการเรื่องกลุ่มอุตสาหกรรมจีนอีกต่อไป”
“คุณ...”
เซี่ยเหล่ยพูดต่อว่า “ผมจะตั้งใจลาออก” เขาพูดเสียงดังเพื่อให้ชางเซินและคนอื่นๆได้ยิน
ชางเซินและคนอื่นต่างสงสัยว่าเซี่ยเหล่ยคิดจะทำอะไรกันแน่
เสียงของหลงบิงดังผ่านโทรศัพท์ขึ้นมาอีกว่า “รอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณ แต่อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันไม่ชอบคำที่คุณพูดออกมาเลย”
“อืม” เซี่ยเหล่ยยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า “คุณฉลาดจริงๆ น่าจะเข้าใจนะว่าทำไมผมถึงคุยกับคุณ”
หลงบิงเงียบไปสักพักก่อนจะพูดตอบว่า “คุณช่างเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวัน ฉันอยากต่อยหน้าคุณจริงๆ”
“ฮ่าๆ ผมเข้าใจว่าทำไมตอนนี้คุณอยากต่อยผม ไม้เซลฟี่ที่คุณต้องการผมจะรีบส่งไปให้คุณ งั้นผมไปละ บ๊ายบาย แล้วเจอกัน” เซี่ยเหล่ยกดวางโทรศัพท์
คนแถวนั้นมองเซี่ยเหล่ยแปลกๆ ในเวลานี้ใครจะมาพูดเรื่องไม้เซลฟี่กันล่ะ
เซี่ยเหล่ยทำหน้านิ่งๆ ต่างจากซู่หลางซึ่งดูโกรธเกรี้ยว.......
เซี่ยเหล่ยมองซู่หลางแล้วพูดว่า “ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงรีบไปแล้ว ไม่อยู่ต่อให้ขายหน้าใครทั้งนั้น”
ซู่หลางกัดฟันพูดว่า “มึงใหญ่โตมาจากไหน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ หากคืนนี้กูจับมึงไม่ได้ ก็จะขอไปอยู่กับหมาข้างถนนดีกว่า !”
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ให้และพูดสวนไปว่า “งั้นคุณก็จับผมสิ”
“สามหาว พวกเขากำลังมา ไว้คุยกันอีกทีที่สถานีตำรวจแล้วกัน” ซู่หลางทำตัวกร่างตามปกติ เขานึกภาพเซี่ยเหล่ยถูกใส่กุญแจมือนอนกองที่พื้น โดยเขากำลังกระทืบเซี่ยเหล่ยอยู่อย่างมีความสุข......
แค่ซู่หลางคิดถึงก็ทำให้ความโกรธเบาบางลง
ตอนนี้ทุกคนยืนเงียบ ทำให้บรรยากาศกดดันมากขึ้นไปอีก.....
ผ่านไป 10 นาที หน่วยSWATก็บุกประตูหน้าเข้ามา
เซี่ยเหล่ยไม่คิดว่าซู่หลางจะมีเครือข่ายดีขนาดนี้ การนำหน่วยSWATมาที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หัวหน้าทีมSWATเดินมาหาซู่หลาง “หน่วยพร้อมแล้ว รอรับคำสั่ง”
ซู่หล่างยกนิ้วชี้เซี่ยเหล่ย “ไปจับมันมา”
หน่วยSWATเข้าล้อมเซี่ยเหล่ยทันที โดยมีปืนหลายกระบอกถูกเล็งมาที่ตัวเขา
“อย่าขยับ” ทีมSWATตะโกนสั่งเซี่ยเหล่ย “คุกเข่าลง วางมือไว้บนศีรษะ”
เซี่ยเหล่ยไม่ขยับตามที่ถูกสั่ง เขายืนนิ่งอยู่เฉยๆ
หน่วยSWATเตรียมจู่โจมเซี่ยเหล่ย
แต่แล้วก็มีคนตะโกนขึ้นว่า “หยุดนะ”
สถานการณ์ตอนนี้หักมุมเหมือนกับหนัง มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอด........
ผู้ชายที่เพิ่งเดินมาจากประตูทางเข้าคือผู้ใต้บัญชาของหลงบิง เซี่ยเหล่ยจำได้ว่าเขาชื่อ ‘เค่อเจีย’
“คุณเป็นใคร” หัวหน้าหน่วยSWATตะคอกเสียงดุดัน “รู้มั้ยว่าคุณกำลังทำอะไร”
เค่อเจียตอบว่า “ผมต้องเป็นฝ่ายถามว่าคุณกำลังทำอะไร”
“จับกุมชายคนนี้” หัวหน้าหน่วยSWATพูดต่อ “เราปฎิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ”
“ทำตามคำสั่ง คำสั่งของใครหรอ ?” เค่อเจียถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา........
“คำสั่งของผม” ซู่หลางประกาศเสียงดัง “คุณเป็นใคร รู้มั้ยว่ากำลังขัดขวางการฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าคุณยังไม่หยุด ผมจะจับคุณอีกคน !”
เค่อเจียเบ้ปากใส่ซู่หลาง “ไม่น่าใช่นะ ผมได้รับแจ้งมาว่า คุณเพิ่งถูกพักงาน แล้วนี่คำสั่งใครกันแน่”
เค่อเจียพูเออกไปแล้วทำให้ทุกคนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ลิตเติ้ลวู ไม่ต้องสนใจ จับมันเร็ว” ซู่หลางจะทำให้ถึงที่สุดต้องลองดูสักตั้ง
หัวหน้าหน่วยSWATกลับไม่ทำตาม เขาส่งสัญญาณให้ลูกน้องหยุดก่อน
เซี่ยเหล่ยถูกพาไปนั่งที่โซฟา ส่วนเค่อเจียยกปืนขึ้นมาจ่อซู่หลาง
“มึง...” ซู่หลางพูดอย่างเกรี้ยวกราดแต่เริ่มเสียงสั่น “มึงจะทำอะไรวะ !”
เค่อเจียพูดอย่างตายด้านว่า “ผมบอกคุณไปแล้ว ว่าผมมีสิทธิ์จะยิงคุณได้” เขาหันไปสั่งหัวหน้าหน่วยSWATว่า “คุณอยากถูกเชิญออกไหม มาจับกุมคนมั่วๆแบบนี้ ใครอนุญาตคุณ คุณเป็นหน่วยงานของประเทศ ไม่ใช่ของซู่หลาง !”
หัวหน้าหน่วยSWATรีบพูดว่า “ทุกคนถอนกำลัง” จากนั้นหน่วยSWATก็เตรียมถอนกำลังออก
ตอนนั้นโทรศัพท์ของซู่หลางก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาไม่กล้าจะขยับตัว เค่อเจียจึงหยิบมารับแทน
“มึงมันทำอะไรมั่วไปหมด บอกแล้วว่าอย่าทำพัง มึงชักจะน่ารำคาญแล้วนะ หยุดทำงานแล้วกลับมานี่ กูต้องตรวจสอบมึง” เสียงของฉื่อเจิงยี่ดังขึ้นจากปลายสาย
เขาเตือนซู่หลางว่าอย่าขัดใจหลงบิง แต่ความโมโหทำให้ซู่หลางไม่สนใจกับสิ่งที่เขาพูดเลย.....
“คุณไม่ได้ยินหรือไง” เค่อเจียพูดเสียงดัง
หัวหน้าทีมSWATพูดว่า “ทุกคนนำตัวไป” หน่วยSWATรีบพาซู่หลางไป โดยไม่มีใครกล้าสบตามองเขาเลยทุกคนต่างกลัวกันหมด.....
เค่อเจียยังคงจ่อปืนใส่ซู่หลาง “เดินไป ถ้าคุณไม่เดิน ผมคงต้องนำทางคุณเอง”
ซู่หลางหันมองเซี่ยเหล่ยที่ยืนกัดปากอยู่โดยไม่รู้ตัว เขาส่งสายตาชิงชังให้เซี่ยเหล่ยก่อนเดินไป
เซี่ยเหล่ยพูดทำลายความเงียบและบรรยากาศอึมครึม “เค่อเจีย ไปดื่มกันมั้ย”
เค่อเจียยิ้มหน้านิ่งแล้วตอบไปว่า “ผมไม่สามารถทำได้ครับ พอดีเธอฝากอะไรมาถึงคุณสักหน่อย”
“ห๊ะ?” เซี่ยเหล่ยรู้ว่าเขาหมายถึงหลงบิง ซึ่งเขาสงสัยว่าเธอฝากอะไรมาถึงเขา
เค่อเจียเดินมากระซิบข้างหูเซี่ยเหล่ยว่า “เธอฝากมาว่า ผู้หญิงให้บริการไม่ค่อยสะอาด อย่าไปยุ่งด้วย.......”
เค่อเจียหันหลังเดินกลับไป ปล่อยให้เซี่ยเหล่ยยืนอึ้งอยู่คนเดียว
ติดตามตอนต่อไป.......