Chapter 18: ตำนานที่รวดเร็ว
การโจมตีแรกของวาร์ตันนั้นเหมือนกับหิมะถล่ม ไม่เพียงแต่พวกมันทั้งเร็วและพวกมันก็ยังทรงพลัง พวกมันยังเต็มไปด้วยของเหลวอีกด้วย! อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันใช้สามสกิลเสร็จแล้ว วาร์ตันก็ดูเหนื่อยล้าและไม่มีเรี่ยวแรง
โดยปราศจากสกิล วาร์ตันสามารถที่จะทำได้เฟียงฟาดดาบและฟันไปข้างหน้าใส่หวังหยู่เท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับข้อมูลง่ายๆ วาร์ตันสามารถที่จะพึ่งพาค่าสถานะที่สูงเพื่อที่จะกดดันผู้เล่น นอกจากการต่อสู้นี้แล้ว หวังหยู่ก็คือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง!
เขาหลบไปทางขวา หวังหยู่นั้นเหมือนกับปลาในน้ำและการโจมตีมั่วซั่วของวาร์ตันนั้นไม่ได้แม้แต่ที่จะโดนเสื้อของหวังหยู่
สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ในชีวิตจริง หวังหยู่นั้นเชี่ยวชาญมาเป็นเวลานั้นกับศิลปะการต่อสู้และใจเย็นอยู่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เมื่อเขาหลบการโจมตีของวาร์ตันแล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะสวนกลับไปหนึ่งที
เมื่อเขาสวมทั้งเกราะที่หนาและหนักแล้ว วาร์ตันก็โดนการโจมตีของหวังหยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการที่เขาจะพ่ายแพ้นั้นขึ้นอยู่กับเวลา
ทุกการโจมตีของหวังหยู่นั้นลงไปในส่วนของร่างกายวาร์ตันที่ไม่ได้สวมเกราะ คสบคู่ไปกับค่าสมบูรณ์แบบที่สูงของการโจมตีเขา ทำให้ทุกการโจมตีนั้นทำความเสียหายมากกว่าหลักพัน!
ไม่เพียงแต่การโดนตีที่ทำให้วาร์ตันนั้นพัฒนาสถานะกลายเป็น “พิกลพิการ” ก็ทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่ของเขาช้าลงมาและทำให้เขานั้นน่าสงสารมากขึ้นเรื่อยๆ
เพียงแค่ไม่กี่รอบ หวังหยู่ก็ทำให้เลือดของวาร์ตันลดลงไป10%จากทั้งหมด 200000 ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะยังคงผ่อนคลายเหมือนกับเขาเดินเล่นในสวนก็ตาม วาร์ตันก็ยังไม่สามารถที่จะแตะได้แม้แต่เส้นผมของหวังหยู่ ไม่ต้องพูดถึงตีโดนเขาเลย!
โจรร้ายทีน่าหวาดกลัวที่ทำให้ความหวาดกลัวนั้นฝึกลึกอยู่ในใจของประชาชนเมืองรัตติกาลนั้นกำลังถูกเล่นโดยหวังหยู่แบบนั้น!
หลังจากที่ถูกหวังหยู่เล่นเป็นเวลายาวนาน วาร์ตอนก็คำรามออกมาเสียงและยกดาบของเขาและเริ่มใช้ [พุ่งเข้าชน] ในช่วงเวลาที่วาร์ตันนั้นก้มหัวลง หวังหยู่ก็เขยิบไปด้านข้างและหลบการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์!
เมื่อวาร์ตันนั้นโจมตีหวังหยู่พลาด เขาก็รีบยกเลิก [พุ่งเข้าชน]และกระโดดไปต่อยหวังหยู่ด้วย [หมัดทำลายภูผา]
เมื่อใช้ท่าเดิมสองครั้งสำหรับผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ได้รับประสบการณ์กับมันแล้วนั้นมันไร้ประโยชน์และหวังหยู่ก็เห็นจุดอ่อนการโจมตีนั้นอย่างเรียบร้อย
ในขณะที่วาร์ตันกำลังอยู่กลางอากาศ หวังหยู่ก็ได้โอกาสและยืดแขนของเขาไปจับไปที่วาร์ตันอย่างเต็มกำลังและใช้ [เข่าลอย] กระแทกเข้ากับร่างกายของวาร์ตันอย่างแรง
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นบอส วาร์ตันก็ไม่สามารถที่จะผ่านกฎของสรวงสวรรค์ได้ (ระบบเกม) ก่อนที่เขาจะใช้สกิลได้สำเร็จ หวังหยู่ก็ขัดจังหวะมันและใช้เข่านั้นแทงเข้าไปที่กระเพาะของวาร์ตัน!
ทำไมถึงพิจารณาว่านักต่อสู้นั้นอาชีพขยะอย่างงั้นเหรอ? เนื่องจากว่านักต่อสู้นั้นสามารถที่จะใช้หมัดของเขานั้นเป็นอาวุธได้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้นี่เอง นักต่อสู้จึงมีระยะการโจมตีที่ใกล้ที่สุดในเกม! และมันใกล้ยิ่งกว่าโจรและกริชของพวกเขาซะอีก
ถึงแม้ว่าระยะการโจมตีของโจรนั้นมั้นแต่พวกเขาก็ยังคงสามารถที่จะเรียน [หลบซ่อน] ได้ สกิลนี้นั้นจะทำให้พวกเขาหายตัวและไปฟันด้านหลังของศัตรูได้ ทำให้โจรนั้นเข้าไปในระยะใกล้ได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมือนกับนักต่อสู้ที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการเข้าไปในระยะการโจมตี
ยิ่งไปกว่านั้น อาชีพนักต่อสู้นั้นมีพลังป้องกันที่อ่อนแอที่สุดและก็มีพลังชีวิตน้อยที่สุดอีกด้วย มีลักษณะพิเศษอย่างเดียวที่พวกเขามีก็คือมีท่าทางที่ดูกล้าหาญมาก ถ้านักต่อสู้นั้นพยายามที่จะแอบโจมตีบอสละก็พวกเขาก็จะจบลงด้วยการโดนสกิล
ด้วยเหตุผลเบื้องต้นนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมานอกจากนักต่อสู้นั้นจะตายจะมีด้วยเหรอ?
พูดให้แน่ชัดว่าอาชีพนี้นั้นไม่ได้ถูกสร้างให้มีข้อได้เปรียบอะไรเลย นักต่อสู้นั้นก็ยิ่งไร้ประโยชน์มากขึ้นไปเรื่อยๆและผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆก็ยอมแพ้กับมันไปแล้ว
ในทางตรงกันข้าม ถ้านักต่อสู้นั้นสามารถที่จะเข้าไปในระยะระหว่างตัวเขาและเป้าหมายได้แล้วละก็ ถ้าอีกฝั่งหนึ่งไม่ใช่อาชีพนักต่อสู้ละก็จะไม่มีอาชีพที่ไหนสามารถต้านทานพวกเขาได้เลย!
ตั้งแต่อาวุธนั้นไม่สามารถที่จะยืดหรือหดได้ในเกม เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเข้าสู่ระยะการโจมตีของนักต่อสู้แล้ว อาวุธไหนๆก็ตามจะกลายเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ในทันที!
ด้วยเหตุนี้นี่เอง “ทำลายอย่างรวดเร็ว” นั้นกลายเป็นศัพท์แสลงของนักต่อสู้เมื่ออธิบายพวกเขาในตำแหน่งของระยะการโจมตี
“ไม่สำคัญว่าอาชีพของนายนั้นคืออะไร ถ้าท่านขุนนางคนนี้นั้นทำลายอย่างรวดเร็วบนหน้าของคุณละก็หลังจากนั้นมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปว่านายนั้นจะเป็นเทพเจ้าหรือปีศาจ มันก็มีเพียงแค่ความตายที่รอหายนายอยู่!”
นี่เป็นคำพูดทั่วไปที่สุดของนักต่อสู้บนเว็บบอร์ด
แน่นอนว่าส่วนที่สำคัญหลักของสถานการณ์นี้ก็คือคำว่า “ถ้า” สถานการณ์นี้นั้นก็เป็นแค่เพียงการวิเคราะห์ พร้อมกับอุปสรรคอันมากมายของนักต่อสู้ที่พลังชีวิตของมันน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ
โชคร้ายที่ เหล่านักต่อสู้ที่ยังคงใฝ่ฝันถึงความฝันเหล่านั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ดูการต่อสู้ของหวังหยู่ และพลาดโอกาสที่จะดูการสาธิตที่ดีเลิศว่าควรที่จะทำยังไงกับการทำลายล้างที่รวดเร็ว
เมื่อพบกับสกิลที่ไม่สามารถหลบได้ของวาร์ตัน หวังหยู่ก็ใช้ [เข่าลอย] เพื่อที่จะทำลายสกิลของวาร์ตัน หลังจาก [เข่าลอย]จบลง หวังหยู่ก็รีบใช้ [เตะด้านข้าง] ตามในทันทีเพื่อที่จะทำให้เป้าหมายนั้นติดสถานะมึนงงและหลังจากนั้นก็ปล่อยคอมโบทั้งหมดไปที่จุดสำคัญของเขา!
หวังหยู่นั้นไม่ได้ใช้ท่าศิลปะการต่อสู้ของเขาจริงๆเลยและสกิลทั้งหมดที่เขขาใช้นั้นก็คือสกิลในเกมเท่านั้น เพียงแค่นี้เขานั้นก็กดดันวาร์ตันจนกระทั่งไม่มีโอกาสให้มันได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย!!
“อ๊ากกกกกกกก!”เมื่อเขานั้นร้องคร่ำครวญใส่หวังหยู่ วาร์ตันนั้นสุดท้ายก็ปล่อยเสียงคำรางดังก้องออกมาจากร่างกายของเขาพร้อมกันกับแสงสีทองอันดุร้ายที่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขา
หวังหยู่รู้ทันทีว่าระบบนั้นจะไม่ทำให้เกิดเรื่องดีๆขึ้นอีกครั้ง เขานั้นจบคอมโบของเขาด้วย [หมัดกระแทก] หวังหยู่นั้นก็ทำความเสียหายไปมากกว่า 10000ใส่วาร์ตันไปแล้ว! หวังหยู่นั้นประหลาดใจกับคอมโบของเขานั้นก็ยังทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมไปอีก1000หน่วยอีกด้วย!
ในเวลานั้นเอง กลุ่มของพี่ชายไลท์ในป่าพงไพรอันแห่งความลับนั้นก็มาถึงหุบเขาอันธกาล หวังหยู่นั้นกำลังโซโลกับบอสนั้นทำให้พวกเขานั้นมึนงงอย่างสมบูรณ์
“ไอ้ชายคนนี้แม่งบ้ามากที่แม่งโซโลกับบอสอยู่! เขาแม่งไม่มีมันสมองจริงด้วย ฮึ!”พี่ชายไลท์ร้องออกมา
เมื่อโทมนัสนั้นเห็นหวังหยู่นั้นเห็นหวังหยู่ไม่เพียงแต่โซโลบอสแต่ยังคงกดดันวาร์ตันอีกด้วย เขาก็กระซิบอย่างแหยๆกับพี่ชายไลท์ “พี่ชายไลท์ทำไมพวกเราไม่ถอนตัวกลับไปละ? ชายคนนี้เหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างมาก….”
ความกังวลของโทมนั้นนั้นไม่ใช่ไม่สมเหตุสมผล ในขณะช่วงเบต้าเทสน์นั้นโทมนั้นเห็นพลังส่วนตัวของวาร์ตันแล้ว หลังจากนั้นเขาก็เห็นแท้งค์ด้านหน้าสองคนของดาบวอยด์นั้นสวมใส่ชุดเกราะระดับเหล็กก็ถูกฆ่าตายในทันทีโดยสกิลคอมโบ [พุ่งเข้าชน] และ [หมัดทำลายภูผา]ของวาร์ตัน
อย่างไรก็ตอบ นักต่อสู้คนนี้นั้นสามารถที่จะทำให้พลังชีวิตของบอสลดลง20%ด้วยตัวของเขาเองได้! ถ้าโทมนัสนั้นไม่ได้เห็นตัวเองละก็ โทมนัสก็จะไม่มีทางกล้าที่จะเชื่อมมัน
“ฮ่า! ดังนั้นถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญละ? นายบอกฉันว่าพวกเราสิบหกคนนั้นไม่สามารถที่จะรับมือกับชายเพียงแค่คนเดียวอย่างงั้นเรอะ?”พี่ชายไลท์หัวเราะอย่างโอหัง
“แต่...”โทมนัสรู้เกี่ยวกับในเกมนี้ว่าผู้เล่นนั้นถูกจำกัดโดยค่าสถานะของตัวละคร ไม่สำคัญว่าคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดเพียงไหนก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะสู้ทั้งกองทัพได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
“แต่อะไร? พวกเรากิลด์อะโพคาลิปส์นั้นมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก! ทำไมพวกเราควรที่จะหวาดกลัวเขาละ? เลิกทำตัวเป็นขี้ป๊อดและรีบใช้สกิล [หลบซ่อน]ของนายได้แล้ว! สำหรับที่เหลือนั้น โจรใช้ [หลบซ่อน] นักแม่นปืนไปหาตำแหน่งได้แล้วและแท้งค์ก็ปกป้องฮีลเลอร์ของพวกเราซะ! ไปขโมยบอสกัน!”
“โอเค หลังจากนั้น....”โทมนัสพยักหน้าและเขาก็หายตัวไป
ตั้งแต่ที่บอสนั้นสกิลกำลังติดคูลดาวน์อยู่ หวังหยู่ก็ผิดหวังเนื่องจากเขาไม่สามารถที่จะจับไปที่คอมันได้และเริ่มที่จะทำคอมได้อีกครั้ง
ปกติแล้ว ผู้เล่นนั้นจะหวาดกลัวเมื่อสกิลบอสไม่มีคูลดาวน์ แต่หวังหยู่นั้นไม่เหมือนกันซึ่งกระตือรือร้นอย่างมากในการรอที่บอสจะสามารถใช้สกิลได้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าผู้สร้างนั้นรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็จะอ้วกออกมาเป็นเลือดอย่างแน่นอน
เพียงแค่หวังหยู่นั้นกำลังหาโอกาสในการโจมตีของวาร์ตัน หวังหยู่นั้นก็รู้สึกถึงเจตนาฆ่าสิบหกเส้นที่กำลังเล็งเข้ามาที่ร่างกายเขา! คนที่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ห่างจากเขาแค่ประมาณ20เมตร!
“มีใครบางคนต้องการที่จะ KSฉัน!”เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การแสดงออกของหวังหยู่นั้นจริงจังมากยิ่งขึ้นในทันที