เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 163 ราชาหมาป่ามุงกุฎสายฟ้า
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 163 ราชาหมาป่ามุงกุฎสายฟ้า
เมื่อฟางหยวนมองไปยังบัวสมบัติสวรรค์ ความสงสัยใจหัวใจของเขาจึงถูกปัดเป่าออกไปและสามารถคาดเดาได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นในอดีต
ย้อนกลับไปหนึ่งพันปีก่อน
ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าผู้หนึ่งเดินทางมาถึงภูเขาชิงเหมาและได้พบกับน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติอยู่ในถ้ำใต้ดิน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานที่นี่
เขาคว้าหญิงสาวชาวบ้านกว่าร้อยคนเป็นภรรยาและก่อตั้งตระกูลแสงจันทร์ขึ้น ถูกต้อง เขาก็คือผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก
หลังจากผ่านวันเวลาจนถึงรุ่นที่สี่ ผู้นำรุ่นที่สีมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นและสามารถสร้างยุคทองให้กับตระกูลอีกครั้ง
วันที่สงบสุขวันหนึ่ง
ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าศีรษะล้านในชุดคลุมสีชมพูที่เผยให้เห็นแผ่นอกเดินทางมาที่นี่เพียงลำพัง งานอดิเรกที่เขาโปรดปรานคือการสร้างมลทินให้กับหญิงสาวไร้เดียงสา เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจที่มีชื่อเสียง นักบวชปีศาจสุราดอกไม้
แต่ผู้ใดจะรู้ว่านักบวชปีศาจผู้นี้จะครอบครองเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณล้ำค่า บัวสมบัติสวรรค์ เอาไว้ หลังจากเตรียมการมากมาย เขาขาดส่วนผสมเพียงอย่างเดียวซึ่งก็คือ น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติ
หลังจากค้นหาไปทั่ว ในที่สุดเขาจึงเลือกน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติของตระกูลแสงจันทร์
แรกเริ่มเขาใช้ข้ออ้างในการซื้อกล้วยไม้จันทราเพื่อเข้าพบชนชั้นสูงของหมู่บ้าน หลังจากนั้นเมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้น เขาสามารถเอาชนะผู้นำรุ่นที่สี่ เขาสังหารผู้นำรุ่นที่สี่กับผู้อาวุโสมากมาย แต่ทะเลวิญญาณของเขากลับถูกโจมตีด้วยวิญญาณเงาจันทร์
ความสามารถของวิญญาณเงาจันทร์คือการกำจัดพลังวิญญาณ แต่นั่นยังไม่ทำให้เขาเสียชีวิต อย่างไรก็ตามนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ไม่ต้องการถูกไล่ล่า ดังนั้นเขาจึงหลอมสร้างวิญญาณบัวสมบัติสวรรค์อยู่ในที่มืด
เขาใช้แมงมุมปฐพีขุดอุโมงค์และสร้างห้องลับใต้พิภพขึ้นที่นี่ เนื่องจากการเตรียมตัวมาอย่างยาวนาน เขาจึงสามารถหลอมสร้างบัวสมบัติสวรรค์ได้สำเร็จในที่สุด
บัวสมบัติสวรรค์เป็นวิญญาณในตำนาน เคล็ดลับในการหลอมรวมมันถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนหน้าโดยผู้ใช้วิญญาณฝ่ายธรรมะ นักบวชบัวสวรรค์อมตะ!
บัวสมบัติสวรรค์เป็นเพียงวิญญาณระดับสาม แต่มันเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่วิญญาณระดับหก บัวสวรรค์อมตะ มันถือเป็นวิญญาณล้ำค่าอันดับหกในการจัดอันดับวิญญาณอมตะทั้งสิบ คุณค่าของมันเทียบเท่ากับ วิญญาณกาลเวลา ของฟางหยวน
บัวสมบัติสวรรค์ถูกขนานนามว่าเป็นน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติแบบพกพา เพราะมันสามารถผลิตหินวิญญาณขึ้นมาได้ ในความเป็นจริง ต้นกำเนิดที่ทำให้ถ้ำใต้ดินของตระกูลแสงจันทร์เต็มไปด้วยหินวิญญาณ มันไม่ได้เกิดจากกล้วยไม้จันทราแต่เป็นน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงมันขึ้นมา
อย่างไรก็ตามการหลอมรวมบัวสมบัติสวรรค์มีราคาสูงมาก
เพื่อหลอมรวมมัน สิ่งสำคัญคือน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติและมันต้องเป็นน้ำพุที่ดูดกลืนพลังงานธรรมชาติมานานนับสหัสวรรษ มันไม่สามารถใช้น้ำพุจิตวิญญาณที่พึ่งถือกำเนิดเพียงไม่กี่ปีและยังต้องใช้น้ำพุจำนวนมากอีกด้วย
หลังจากใช้งาน น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติจะสูญเสียพลังธรรมชาติไปอย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่ามันจะสูญเสียความสามารถในการผลิตหินวิญญาณ
น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติมีคุณค่ามากและชนชั้นสูงของตระกูลแสงจันทร์ก็ตระหนักถึงจุดนี้เป็นอย่างดี
การหลอมสร้างบัวสมบัติสวรรค์จะทำลายความสามารถของน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติไปอย่างสมบูรณ์ แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หากต้องการทำให้มันก้าวเข้าสู่ระดับสี่ จำเป็นต้องใช้น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติถึงเจ็ดสาย ระดับห้าใช้เก้าสาย และสิบเอ็ดสายสำหรับการกลายเป็นวิญญาณระดับหก
นอกจากนั้น พวกเขายังต้องใช้วิญญาณล้ำค่าอีกมากมายเป็นส่วนผสม
"หากข้าสามารถครอบครองบัวสมบัติสวรรค์ มันก็เหมือนกับข้าพกพาน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติติดตัวไปทุกหนทุกแห่ง แต่มันยังเป็นเพียงวิญญาณระดับสาม ดังนั้นการผลิตหินวิญญาณในแต่ละวันของมันจึงยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติตามปกติ อย่างไรก็ตามมันยังเพียงพอสำหรับการบ่มเพาะของข้า"
หินวิญญาณที่เกิดจากบัวสมบัติสวรรค์ยังไม่มากเท่ากับรายได้จากการขายใบไม้แห่งชีวิตของฟางหยวน
แต่หินวิญญาณไม่เพียงสามารถใช้ในการบ่มเพาะ มันยังเป็นสกุลเงินที่สามารถใช้แลกเปลี่ยนได้โดยตรง
ด้วยบัวสมบัติสวรรค์ ฟางหยวนสามารถลดปริมาณการสำรองหินวิญญาณไว้ในบุปผาสวรรค์และใช้พื้นที่ที่เหลือเก็บสิ่งของอื่นๆ
"อย่างไรก็ตาม...ข้าได้ยินมาว่าการปรับแต่งบัวสมบัติสวรรค์ค่อนข้างยุ่งยาก มันจะมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาของการปรับแต่ง มีเพียงต้องมองผ่านคริสตัลเท่านั้น นอกจากนี้บัวสมบัติสวรรค์ยังค่อนข้างบอบบาง มันต้องอาศัยอยู่ในน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติเป็นเวลาเก้าวันเก้าคืนจนกว่ากลีบดอกของมันจะเติบโตขึ้นครบเก้ากลีบก่อนที่จะสามารถเก็บเข้าไปในทะเลวิญญาณของคนผู้หนึ่ง หากนำมันออกมาก่อนเวลาอันควร มันจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าทันที"
ฟางหยวนไม่รู้รายละเอียดในเชิงลึกที่แท้จริงของมัน เขาเคยได้ยินเพียงข่าวลือเท่านั้น และเขาก็ไม่รู้ว่าจะยกระดับมันขึ้นไปได้อย่างไรในอนาคต
แต่ถึงกระนั้น บัวสมบัติสวรรค์ก็ยังเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ของเขาในเวลานี้
ฟางหยวนมองไปยังกำแพงคริสตัลและเฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวัง เขาพบว่าดอกบัวมีเพียงแปดกลีบที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สำหรับกลีบสุดท้าย มันเสียหายไปครึ่งหนึ่ง
ฟางหยวนไม่ประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลายร้อยปีที่ผ่านมา น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติถูกใช้งานไปเป็นเวลาถึงห้าชั่วอายุคน
บัวสมบัติสวรรค์ก่อกำเนิดขึ้นจากน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติเป็นหลัก ด้วยการคงอยู่มาตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติจึงสูญเสียพลังงงานธรรมชาติไปเป็นจำนวนมาก เมื่อพลังงานธรรมชาติลดน้อยลง มันจึงเป็นเหตุให้กลีบดอกบัวเกิดความเสียหายขึ้นในที่สุด
"บัวสมบัติสวรรค์ต้องมีเก้ากลีบจึงจะสามารถเก็บเกี่ยว ข้าต้องโยนหินวิญญาณเข้าไปให้มันก่อนที่จะสามารถปรับแต่ง"
หินวิญญาณเกิดจากพลังงานธรรมชาติของน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติ ดังนั้นการใช้หินวิญญาณหล่อเลี้ยงบัวสมบัติสวรรค์จึงถือเป็นแนวทางที่จะทำให้มันฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
โดยไม่จำเป็นต้องคาดเดา แม้จะเป็นเพียงครึ่งกลีบ แต่มันย่อมต้องใช้หินวิญญาณจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอน
"หากการคาดเดาของข้าไม่ผิดพลาด กำแพงคริสตัลต้องถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณปราการน้ำ" ฟางหยวนยกมือขึ้นสัมผัสกำแพงคริสตัลและพบว่ามือของเขาสามารถทะลุผ่านกำแพงไปได้ราวกับปราศจากสิ่งกีดขวาง
แต่เขายังไม่กล้ายื่นมือเข้าไปลึกเกินไปและรีบดึงมือกลับออกมาทันที
น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติไม่ควรมีสิ่งปนเปื้อน!
เขาส่งพลังวิญญาณให้กับบุปผาสวรรค์และนำหินวิญญาณออกมา
ฟางหยวนโยนหินวิญญาณผ่านเข้าไปในกำแพงคริสตัลเป็นเหตุให้ดอกบัวสีฟ้าอ่อนเกิดการสั่นสะเทือนและเริ่มย่อยสลายหินวิญญาณ
หลังจากรอให้บัวสมบัติสวรรค์สงบลง ฟางหยวนสำรวจมันอย่างละเอียด แต่ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น
ฟางหยวนยังคงสงบนิ่งและโยนหินวิญญาณเข้าไปอีกเกินกว่าห้าร้อยก้อน เขาจึงเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆของกลีบดอกที่เสียหาย
เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะต้องถอนหายใจออกมา
จากการคำนวณของเขา มันต้องโยนหินวิญญาณเข้าไปประมาณห้าหมื่นก้อนในครั้งเดียว หากเขาทิ้งช่วงนานเกินไป บัวสมบัติสวรรค์จะเริ่มเสียหายอีกครั้ง
"หินวิญญาณห้าหมื่นก้อน...ข้ามีเพียงหนึ่งหมื่นก้อน ยังขาดอีกสี่หมื่น..." ด้วยสถานะของฟางหยวนในเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหาหินวิญญาณสี่หมื่นก้อน
แต่ปัญหาสำคัญคือ เมื่อใดที่เขาเก็บบัวสมบัติสวรรค์ออกมา น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติทั้งหมดของตระกูลแสงจันทร์จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเวลานั้นมาถึงตระกูลจะต้องสืบหาความจริงด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอน
ฟางหยวนมีประสบการณ์มากมาย แต่เขาถูกจำกัดโดยระดับการบ่มเพาะ หากตระกูลต้องการตรวจสอบอย่างจริงจัง พวกเขาจะสามารถค้นพบเงื่อนงำบางอย่าง ในความเป็นจริงชนชั้นสูงของตระกูลมีความสงสัยในตัวฟางหยวนอยู่แล้ว มันเป็นเพียงเพราะสถานการณ์คลื่นหมาป่า พวกเขาจึงยังไม่ลงมือสืบสวน
หากเรื่องมรดกของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ถูกเปิดเผย ฟางหยวนจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
"ข้าไม่สามารถละทิ้งบัวสมบัติสวรรค์ แม้ข้าจะไม่รู้เคล็ดลับการยกระดับมัน แต่ผู้ใดจะรู้ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นไร ปัญหาเดียวก็คือเมื่อข้าเก็บมันมา มันจะเหมือนรังเคที่อยู่บนหนังศีรษะและจะนำภัยพิบัติมาสู่ข้าในที่สุด"
ฟางหยวนครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดและตัดสินใจว่าเขาต้องรอคอยโอกาสที่เหมาะสมที่สุดก่อนจะเก็บเกี่ยวบัวสมบัติสวรรค์ดอกนี้
"บัวสมบัติสวรรค์สมควรเป็นมรกดชิ้นสุดท้ายของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ แต่มันยังมีประเด็นที่น่าสงสัยอยู่อีกมากมาย นักบวชปีศาจสุราดอกไม้มาที่นี่เพื่อหลอมสร้างบัวสมบัติสวรรค์ นั่นทำให้เขาพบอุบัติเหตุบางอย่างจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นต้องรีบสร้างด่านทดสอบทิ้งไว้ให้กับผู้สืบทอดก่อนที่เขาจะตาย?"
ฟางหยวนรู้สาเหตุที่นักบวชปีศาจสุราดอกไม้สร้างด่านทดสอบรับสืบทอดมรดกแห่งนี้ขึ้นมา มันมีไว้เพื่อแก้แค้นตระกูลแสงจันทร์โดยเฉพาะ
เมื่อบัวสมบัติสวรรค์ดอกนี้ถูกนำออกไป ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติของตระกูลแสงจันทร์จะกลายเป็นไร้ค่า
หากปราศจากน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติ ตระกูลแสงจันทร์จะถึงจุดจบ มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
"ลืมมันไปเถอะ ข้ายังไม่สามารถหาเงื่อนงำใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ข้าควรกลับหมู่บ้านเป็นอันดับแรก" ฟางหยวนส่ายศีรษะและเริ่มเดินกลับออกไป
แต่เพียงเมื่อเขาเข้าใกล้ทางออกจากรอยแยกของหุบเขา เสียงหมาป่ากลับดังเล็ดลอดเข้ามา
"เสียงนี้!" ฟางหยวนขมวดคิ้วและเร่งเดินทาง
เมื่อเขาออกมาด้านนอก กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงจึงลอยมาตามสายลม
เสียงกรีดร้อง เสียงคำราม เสียงเห่าหอน และเสียงระเบิดดังสนั่นแม้ฟางหยวนจะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างห่างไกลจากหมู่บ้านก็ตาม
ฟางหยวนเร้นกายก่อนจะปีนขึ้นไปบนเนินเขา
มันเป็นยามเช้าที่ดวงอาทิตย์พึ่งส่องแสงเล็ดลอดออกมาจากขอบฟ้า
หมาป่าสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าโจมตีหมู่บ้านราวกับน้ำหลาก
สายตาของฟางหยวนกวาดผ่านไปทั่วขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้าน
ด้านหลังสุดของคลื่นหมาป่า ยืนไว้ด้วยหมาป่าสายฟ้าที่มีร่างกายใหญ่โตราวกับภูเขาลูกหนึ่ง
ราชันหมื่นอสูร ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า!
มันสูงและผอม แต่มีขาที่แข็งแกร่ง ตัวของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงินที่ดูน่าขนลุก กระจุกขนสีทองสามารถมองเห็นได้จากกรงเล็บและหางของมัน
ศีรษะของมันเชิดขึ้นขณะที่ปรากฏหนามแหลมราวกับมงกุฎอยู่ด้านบน
รอบกายมันยังเต็มไปด้วยหมาป่าสายฟ้าเดือดและหมาป่าสายฟ้าคลั่งราวกับเป็นขุนนางที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระราชา
เพียงมันยืนอยู่ที่นั่นโดยยังไม่ได้เคลื่อนไหว มันกลับสามารถสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับสมาชิกตระกูลแสงจันทร์ทุกคน
"ราชันหมื่นอสูรมาถึงในที่สุด นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญในการอยู่รอดของตระกูล" มองไปยังหมู่บ้าน ผู้ใช้วิญญาณจำนวนมากกำลังต่อสู้อยู่ในสนามรบอย่างดุเดือดโดยใช้กำลังความสามารถทั้งหมดของพวกเขาออกมา
ทันใดนั้นเงาร่างประมาณสิบสายกลับโบยบินออกมาจากหมู่บ้านเพื่อไปอยู่ในแนวหน้า
พวกเขาเป็นผู้อาวุโสทั้งหมดและผู้ที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาก็คือ ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน อวี๋โป้