ตอนที่ 200 ชนะให้ได้ 5 ต่อ 0

การที่เฟิงหมิงเฉวียนส่งเหวินซิ่วซิ่วมาที่เหยี่ยวดำนั้น เขาไม่ได้ต้องการเล่นตลกหรือกลั่นแกล้งเธอ

เหวินซิ่วซิ่วมาจากครอบครัวคนใหญ่คนโต เขาจึงต้องใส่ใจกับอนาคตของเธอเป็นพิเศษ เฟิงหมิงเฉวียนส่งเธอมาก็เพราะเขารู้ว่าหานเซิ่นเข้าร่วมการแข่งด้วย นี่เป็นงานแรกของเธอ เขาต้องการให้เธอเจอกับการแข่งที่น่าสนใจ

ในตอนที่รายการสดของเธอเริ่มต้นขึ้น เฟิงหมิงเฉวียนก็ช่วยโปรโมทรายการให้ทันที และแฟนคลับของเขาจำนวนมากก็เข้าไปดูรายการของเธอ

แต่การช่วยโปรโมทของเฟิงหมิงเฉวียนกับดูไม่เป็นผลดีกับเหวินซิ่วซิ่วสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขาเป็นคนดัง ทันทีที่เขาโปรโมทยอดคนดูรายการสดของเหวินซิ่วซิ่วก็พุ่งขึ้นสูงถึง 10 ล้านคนทันที ผู้ชมมากมายขนาดนี้กับมือใหม่อย่างเธอ ถือว่าไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่

เฟิงหมิงเฉวียนโปรโมทว่าจะมีการแข่งขันระหว่างเหยี่ยวดำกับเซนท์แชร์กแมง ทำให้มีคนจำนวนมากสนใจเข้ามาดู แต่คนส่วนมากก็ให้ความสนใจทางฝั่งเซนท์แชร์กแมงมากกว่า เนื่องจากพวกเขามีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึงนาลานเฉิงนั่วก็อยู่ที่นั่นด้วย

ขณะที่เหยี่ยวดำแทบจะไม่มีใครสนใจเลย ถ้าหากพวกเขาไม่ได้แข่งกับเซนท์แชร์กแมงในรอบแรก

คนที่ดูรายการของเฟิงหมิงเฉวียนส่วนมากเป็นผู้ยังไม่วิวัฒนาการ หลังจากพวกเขาได้ดูการสัมภาษณ์ของเหวินซิ่วซิ่ว พวกเขาก็โกรธทันที

"พวกเหยี่ยวดำจะอวดดีเกินไปแล้ว"

"ทำไมถึงมั่นใจกันขนาดนั้น?"

"คู่ต่อสู้คือเซนท์แชร์กแมง พวกเหยี่ยวดำคงกลัวกันจนสติแตกไปแล้วแน่ๆ"

"พิธีกรมือใหม่แน่เลย ดูเธอกล้าๆกลัวๆ"

"รอดูพวกเขาโดนบดขยี้ได้เลย"

"รู้สึกเหยี่ยวดำจะมีคนเก่งอยู่แค่คนเดียว คนอื่นๆฉันไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ"

.....

มันช่างบังเอิญที่หนึ่งในแฟนคลับของเฟิงหมิงเฉวียนดันเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมเซนท์แชร์กแมง และกำลังนั่งดูรายการสดของเขาอยู่ด้วย

เมื่อเห็นเฟิงหมิงเฉวียนโปรโมท เขาก็เลยเข้าไปดูรายการของเหวินซิ่วซิ่ว จากนั้นเขาก็เริ่มเดือดขึ้นมาทันที

'เหยี่ยวดำจะอวดดีเกินไปแล้ว รอก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันนี่แหละจะสั่งสอนพวกนายเอง" หวังหยางจินคิด

เซนท์แชร์กแมงกับเหยี่ยวดำเป็นอริกันมานานแล้ว พวกนักเรียนทั้ง 2 โรงเรียนต่างก็ไม่ชอบหน้ากัน และยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้พวกเขาเดือดทันที

"เฉิงนั่วมาดูนี่หน่อย" หวังหยางจินเดินไปหานาลานเฉิงนั่ว และเปิดช่วงที่สัมภาษณ์ซ้ำอีกครั้ง

"ดูเหมือนว่าพวกมันจะเสียสติไปแล้วนะ" หลิวเหยียนเซิงหัวเราะเยาะหลังจากดูวิดีโอ

"ก่อนให้สัมภาษณ์พวกมันควรวางถุงกาวกันก่อนนะ" หม่าฉางเย่ หัวเราะ

"ฮาฮา ใช่ๆ" หวังหยางจินหัวเราะเช่นกัน

นาลานเฉิงนั่วดูวิดีโอ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาทำตาแคบลงและกินเยลลี่ในมือต่อ

"เฉิงนั่ว นายกินเยลลี่มากเกินไปแล้วนะ มันอาจจะทำให้เป็นโรคเบาหวานได้"

หวังหยางจินพูด ขณะมองดูผิวอันไร้ที่ติของนาลานเฉิงนั่วด้วยความอิจฉา

"เบาหวาน? นั่นเป็นโรคในตำนานเลยนะ" หลิวเหยียนเซิงหัวเราะ

ทีมของเซนท์แชร์กแมงพูดคุยและหัวเราะกันสนุกสนาน พวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพวกเหยี่ยวดำเลย

รายการนี้พวกเขาหวังถึงแชมป์ เซนท์แชร์กแมงถนัดมวยขาวและดำมาก นอกจากนาลานเฉิงนั่วแล้ว ยังมีนักกีฬาอีก 3 คนที่ติด 1 ใน 20 ของกาแล็กซี่

บวกกับนักเรียนที่เข้ามาใหม่ หลี่ยู่เป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก ในปีนี้เซนท์แชร์กแมงมีโอกาสสูงที่จะได้แชมป์ระดับกาเเล็กซี่ แค่การแข่งในเน็ตไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา

มีคนเดียวในเหยี่ยวดำที่พอจะสู้กับพวกเขาได้คือโอวหยางเสี่ยวซาน ซึ่งก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาลานเฉิงนั่ว และเขาก็ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นๆในทีมของเซนท์แชร์กแมงเท่าไหร่

"เฉิงนั่ว นายคิดว่าไง นายจะสู้เป็นคนแรกเลยไหม แล้วเอาชนะ 5 ต่อ 0 เพื่อสอนบทเรียนให้กับพวกมัน" หวังหยางจินพูดขึ้นมา

"เป็นความคิดที่ดี รอดูว่าพวกมันจะพูดอะไรหลังจบเกม" หม่าฉางเย่ยิ้ม

"ใช่ แทบจะรอดูบทสัมภาษณ์ของพวกมันตอนจบเกมไม่ไหวแล้ว" หลิวเหยียนเซิงหัวเราะ

"พวกเราควรจะลงตามที่โค้ชจัด" นาลานเฉิงนั่วพูดขณะที่กินเยลลี่

"ไม่ต้องสนมาก ก็แค่พวกเหยี่ยวดำ ยังไงเราก็ชนะไม่ว่าจะจัดทีมยังไง เดี๋ยวฉันไปคุยกับโค้ชเอง เขาต้องเห็นด้วยแน่" หวังหยางจินพูดและเดินไปหาโค้ช

โค้ชของเซนท์แชร์กแมงคือ สวี่หยุนตี่ เมื่อเขาได้ยินข้อเสนอของหวังหยางจิน ตาของเขาก็เป็นประกายทันที เขายิ้มและพูด

"แค่สู้กับเหยี่ยวดำ เราไม่จำเป็นต้องส่งนาลานไปเป็นคนแรกก็ได้ แค่ส่งหลี่ยู่ไปก็น่าจะชนะพวกเขาได้ 5 ต่อ 0 แบบสบายๆ"

"หลี่ยู่จะไหวจริงหรอครับ?" หวังหยางจินพูดด้วยความกังวลเล็กน้อย

"ไม่ต้องห่วง สบายใจได้แม้หลี่ยู่จะไม่เก่งเท่านาลาน แต่ฉันมั่นใจว่าเขามีฝีมือระดับ 1 ใน 10 ของกาแล็กซี่แล้วตอนนี้ แค่ส่งเขาไปก็พอที่จะชนะนักกีฬาของเหยี่ยวดำได้ 5 ต่อ 0" สวี่หยุนตี่หัวเราะ

หลี่ยู่เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ สวี่หยุนตี่เป็นคนพบและชวนเขาเข้าชมรม ในฐานะโค้ชเขามั่นใจมากว่าอีกไม่นานหลี่ยู่จะไม่ด้อยไปกว่านาลานเฉิงนั่ว เขามีพรสวรรค์อยู่แล้วสิ่งที่เขาขาดคือประสบการณ์เท่านั้น

สวี่หยุนตี่คิดว่าในอีก 2 ปีภายใต้การดูแลของเขา หลี่ยู่จะเก่งพอๆกับนาลานเฉิงนั่ว

ในครั้งนี้เขาตัดสินใจส่งหลี่ยู่ไปปิดบัญชีพวกเหยี่ยวดำ

"หลี่ยู่ เธอทำได้ใช่ไหม?" สวี่หยุนตี่ยิ้มให้หลี่ยู่

"ไว้ใจได้เลยโค้ช ผมจะทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้โต้กลับ" หลี่ยู่พูดอย่างนุ่มนวล

"งั้นก็แสดงให้ฉันได้เห็นพรสวรรค์ของเธอหน่อย" สวี่หยุนตี่พอใจกับความเชื่อมั่นของลูกทีมเขามาก

หวังหยางจินไม่พูดอะไรอีก หลี่ยู่มีพรสวรรค์จริงๆ ขอแค่เขาเอาชนะโอวหยางเสี่ยวซานให้ได้ก็พอ คนที่เหลือเขาจะเอาชนะ 5 ต่อ 0 ได้ง่ายๆ

ตัวหลักของเหยี่ยวดำคือ โอวหยางเสี่ยวซาน หวังหยางจินกับโอวหยางเสี่ยวซานเคยสู้กันมาหลายครั้งแล้ว และหวังหยางจินก็ชื่นชมโอวหยางเสี่ยวซานมาก แม้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะไม่ค่อยเก่ง แต่เขาก็จะพาทีมเข้าถึงรอบลึกๆได้เสมอ

"เป็นยังไงบ้าง? โค้ชเห็นด้วยไหม?" เมื่อเห็นหวังหยางจินเดินกลับมา หลิวเหยียนเซิงก็รีบถาม

"โค้ชบอกว่าจะให้หลี่ยู่จัดการกับพวกเหยี่ยวดำทั้งหมด" หวังหยางจินตอบ

"มันก็ไม่น่ามีปัญหา แต่น่าห่วงตรงโอวหยางเสี่ยวซาน ถ้าหลี่ยู่ชนะเขาได้คนอื่นก็ไม่น่ายากสำหรับเขา" หลิวเหยียนเซิงพยักหน้า