Chapter 16: เขาปัญญาอ่อนอย่างงั้นเหรอ?
ตกตะลึง!! ประหลาดใจ!!
ตั้งแต่หวังหยู่ปรากฏตัวจนกระทั่งกำราบก็อบลินทั้งหมดนั้นใช้เวลาไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ!!
การเคลื่อนที่ของหวังหยู่นั้นนุ่มนวลเหมือนกับแม่น้ำที่ไหลผ่าน มันไม่มีการเคลื่อนที่ที่ไร้ประโยชน์เลยแม้แต่น้อย และเขาก็กำราบคู่ต้อสู้ได้อย่างง่ายดาย
เขานั้นเหมือนกับผีและเขาก็สามารถที่จะหลบการโจมตีระยะไกลทั้งหมดของก็อบลินและแม้กระทั่งสายฟ้านั่นก็เช่นกัน!
ผู้เล่นผู้หญิงทั้งสามคนนั้นมึนงงกับการสไตล์การโจมตีที่อุกอาจและความเสียหายที่บ้าคลั่งของเขา!
หลังจากผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง หนึ่งในสาวที่เล่นอาชีพอัศวินก็ยกอาวุธของเธอขึ้นและพึมพำ “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม...... นักต่อสู้นั้นพึ่งจะจัดการบอสไปนี่นะ???”
“นี่......นี่มันไม่น่าจะใช่! ทำไมพลังโจมตีกายภาพของเขาสูงถึงขนาดนี้?”นักเวทย์ถามขึ้นเมื่อเธอหยิบคทาของเธอ
มันเป็นเรื่องที่ต้องพูดเนื่องจากในช่วงเวลานี้ของเกม ผู้เล่นจำนวนมากนั้นระดับประมาณ 10 ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะใช้สกิลทั้งหมดเพื่อเพิ่มความเสียหายที่ทำแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะทำได้เพียงประมาณ 300ร้อยต่อบอสระดับ 15 และนั่นก็สามารถพิจารณาได้ว่ามันดีมากแล้ว!
แต่นักต่อสู้ด้านหน้าสายตาของพวกเธอนั้นแสดงให้เห็นวิธีการฆ่าบอสมอนสเตอร์ที่มีพลังชีวิตถึงห้าพันให้ย่อยยับภายในหนึ่งคอมโบ..... ถึงแม้ว่าพวกเธอทั้งสามคนนั้นจะทำความเสียหายกับบอสไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังคงเหลือพลังชีวิตเกิน 4000 และความเสียหายที่เขาทำนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปสามารถที่จะจินตนาการได้!
“พวกเธอโอเคไหม!” หวังหยู่มองกลับไปและถามกลุ่มเด็กสาว
“พวกเรา.....พวกเราสบายดี…”เด็กสาวทั้งสามคนนั้นยังคงอยู่ในสภาวะตกตะลึง
“โอ้!”หวังหยู่ตอบกลับ ขณะที่เขาหยิบไอเทมที่ดรอปมาจากบอส
บอสนั้นดรอปหนังสือสกิลสองเล่มและอาวุธระดับทองแดง
[หนังสือแห่งพิษ] สอนวิธีสร้างพิษแก่ผู้ใช้
อาชีพที่ต้องการ : นักบวช
[หนังสือแห่งการชุบชีวิต] สอนสกิล [ชุบชีวิต] แก่ผู้ใช้
อาชีพที่ต้องการ : อัศวิน
{ เกียรติยศของก็อบลิน (ดาบรบ) (ทองแดง) }
พลังโจมตีกายภาพ : 15-19
พลังโจมตีเวทมนตร์ : 7-13
[เรียกสายฟ้า] การโจมตีธรรมจะมีโอกาส 20% ที่จะเรียกสายฟ้าฟาดลงใส่เป้าหมาย
ระดับที่ต้องการ : 15
เมื่อเขามองไปที่ค่าสถานะของไอเทมที่เขาหยิบขึ้นมา หวังหยู่ก็บ่นพึมพำอย่างผิดหวัง “นี่มันกองขยะ....”
คนรวยนั้นไม่เข้าใจถึงสภาพของคนจน ในยุคที่อุปกรณ์ระดับเหล็กนั้นถูกพิจารณาว่าหายาก ชายคนนี้ก็กล้าที่จะเรียกอุปกรณ์ระดับทองแดงว่ากองขยะ..... บางทีทั่วทั้งเกมอาจจะมีเพียงแค่หวังหยู่ที่กล้าพูดคำนี้
อย่างไรก็ตามขยะก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย อย่างน้อยมันก็สามารถที่จะขายเป็นเงินได้เล็กน้อย หวังหยู่ปลอบประโลมตัวเองเมื่อเขาเก็บไอเทมพวกนี้เข้าคลัง
ในเวลานั้นเอง เด็กสาวอายุน้อยที่สุดในกลุ่มสามสาวนั้นหยิบดาวขึ้นมาและตะโกนใส่หวังหยู่ “นี่มันน่ารังเกียจมาก! เมื่อคิดว่ามีใครบางคนกล้าที่จะขโมยมอนสเตอร์ของเรา (KS)!” (ประมาณมีคนสู้อยู่ก่อนแล้ว และก็มีอีกคนหนึ่งมาสร้างความเสียหายจนมอนสเตอร์ตัวนั้นตายเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายครับ)
“KS?”หวังหยู่มึนงงกับคำพูดของเธอ
“ผมขอโทษจริงๆ ผมคิดว่าเธอ....”
เมื่อเขาพูด หวังหยู่ก็หยิบไอเทมที่ดรอปมาจากบอสให้กับเด็กสาว
ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นมือใหม่กับเกม แต่เขาก็ผ่านหมู่บ้านเริ่มต้นมาแล้ว และเขาก็รู้เกี่ยวกับการกระทำที่เช่น KS ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก
“หื้อ???!!!”
เมื่อพวกเธอเห็นหวังหยู่ให้ไอเทมที่ดรอปจากบอสกับพวกเธอ เด็กสาวทั้งสามคนก็พูดไม่ออก
เมื่อดันเจี้ยนระดับ15นั้นปรากฏขึ้น อุปกรณ์ระดับทองแดงนั้นไม่มีค่า แต่หนังสือสกิลทั้งสองเล่มนั้นคนละเรื่องกันเลย
นักบวชนั้นจะใช้ศาสตร์แห่งพิษทำให้เป้าหมายเลือดไหลอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัศวินนั้นจะใช้สกิลนี้เพื่ออวยพรให้แก่พันธมิตร เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกัน (คือผมงงมากครับ ปกติแล้ว Revive จะเป็นสกิลชุบชีวิต แต่เหมือนกับว่าในเกมนั้นอธิบายเหมือนกับสกิลที่เพิ่มค่าสถานะของผู้เล่นยังงั้นอะครับ ทางอิ้งแปลมาแบบนี้ครับ)
[พิษ]และ[ชุบชีวิต] สองสกิลนี้นั้นจำเป็นมากกับอาชีพทั้งสองอาชีพ ถ้ามันไม่ได้มาจากหวังหยู่ที่หยิบมันขึ้นมาละก็ สกิลพวกนี้นั้นสามารถที่จะซื้อได้จากผู้แนะนำอาชีพเท่านั้น
เหรียญทองแดงบางเหรียญ ผู้เล่นนั้นก็ได้มันมาจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะว่าพวกเขาจะต้องซื้อยาเพิ่มพลังชีวิตและยาเพิ่มมานาอีกด้วย เมื่อต้องการที่จะซื้อสกิลแบบนี้นั้นจะทำให้การเงินของผู้เล่นเหล่านั้นย่ำแย่มาก
ด้วยเหตุนี้นี่เอง สกิลทั้งสองเล่มนี้มันมีค่ามาก!
เนื่องจาก {REBIRTH}เป็นเกมเสมือนจริง ดังนั้นมันก็เป็นโลกที่แตกต่างไปจากคลิ๊กเมาส์และเกมที่ใช้คีย์บอร์ด ผู้เล่นนั้นต้องพึ่งกับสกิลของตัวเองและการตัดสินใจในเกม ซึ่งมันทำให้มันยากกว่าเกมอื่น ด้วยเหตุนี้นี่เองผู้เล่นจำนวนมากจึงรวมกลุ่มกันฝึกฝนและสู้กับมอนสเตอร์
อัตราการดรอปไอเทมในเกมนี้นั้นต่ำมาก แต่มันยิ่งต่ำเข้าไปอีกถ้าผู้เล่นนั้นรวมกลุ่มกันล่า สำหรับอะไรบางอย่างที่หายากเช่นหนังสือสกิล ถึงแม้ว่าจะล่าไปนับสิบตัว หนังสือสกิลอาจจะไม่ดรอปเลยแม้แต่ครั้งเดียว หนึ่งในเหตุผลที่หัวหน้าเผ่าก็อบลินนั้นดรอปหนังสือสกิลสองเล่มนั้นเหตุผลหลักก็คือบอสนี้นั้นเกิดขึ้นในป่า ในขณะที่เหตุผลอย่างที่สองก็คือหวังหยู่นั้นฆ่าบอสโดยตัวของเขาเอง แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือมันเป็นครั้งแรกที่บอสตัวนี้ถูกฆ่า
ในตลาดตอนนี้ ราคาของหนังสือสกิลสองเล่มนี้นั้นสามารถที่จะขึ้นสูงมากได้
ทำไมนักต่อสู้คนนี้ถึงให้ไอเทมที่ล้ำค่านี้ละ.....
เด็กผู้หญิงทั้งสามคนนั้นจ้องไปที่หวังหยู่ ไม่มีใครในพวกเธอที่สามารถจะเชื่อกับสิ่งที่พวกเธอได้ยินด้วย
“คุณ.....คุณจะให้แก่พวกเรา?”นักบวชนั้นพบว่าสถานการณ์นั้นไม่สะดวกสบายอย่างมาก
หวังหยู่พยักหน้า และพูดที่แตกต่างออกไป “มอนสเตอร์มันเป็นของพวกเธอในตอนแรกอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่ได้ใช้กับกองขยะพวกนี้....ตั้งแต่ที่พวกเธอนั้นต้องการพวกมัน พวกเธอก็เอาไป....”
เด็กสาวทั้งสามคนตกตะลึง “ขยะ.... เขาพูดว่ากองขยะ…”
“มันสำคัญอะไรละ? ถ้าเธอไม่ต้องการมันละก็ ผมก็จะเก็บมันไปเองละ!”เมื่อเห็นเด็กสาวทั้งสามคนไม่ตอบกลับ หวังหยู่ก็พูดในทันที
“พวกเราต้องการมัน! พวกเราต้องการมัน!”
เด็กสาวทั้งสามคนวิ่งเข้าหาหวังหยู่และหยิบไอเทมไปจากมือของเขา หลังจากที่ได้รับหนังสือสกิลจากหวังหยู่แล้ว พวกเธอก็ยังคิดว่าเธอนั้นยังฝันกันอยู่
หลังจากที่ได้รับหนังสือจากความฝัน นักบวชก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยอารมณ์ “ชื่อของฉันก็คือ พริมโรสอันนองเลือดและสองคนนี้ก็คือกุหลาบอันนองเลือดและอาซาเลียอันนองเลือดพวกเรามาจากกองทัพพริมโรส”
เมื่อเธอพูดเกี่ยวกับกิลด์ของเธอ เขาก็สัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจที่สามารถเห็นได้บนใบหน้าของเธอ กองทัพพริมโรสนั้นสามารถที่จะพิจารณาได้ว่าเป็นกิลด์ที่ค่อนข้างใหญ่
“โอ้”หวังหยู่ตอบกลับอย่างเหม่อลอย
“เฮ้.....”เมื่อเธอเห็นหวังหยู่ไม่สนใจกับสิ่งที่เธอพูด เธอรู้สึกค่อนข้างผิดหวัง แต่เธอก็ยังคงถาม “ฉันสงสัยว่าคุณจะสามารถบอกชื่อของคุณได้ไหม?”
“ชื่อของผมก็คือกระทิงเหล็ก”หวังหยู่ตอบกลับ
“เทพเจ้ากระทิงเหล็ก??!!”
เด็กสาวทั้งสามตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้หวังหยู่ช็อค
“ใช่ นั่นคือผมเอง….”หวังหยู่ยอมรับกับชื่อเล่นอย่างอายๆที่มันให้แก่เขา “เทพเจ้า”
เด็กสาวทั้งสามรู้สึกโล่งอกมาก ดังนั้นคนนี้ก็คือเทพเจ้ากระทิงเหล็ก ไม่ประหลาดใจเลยที่เขานั้นไม่สนใจเมื่อเขาได้ยินชื่อกองทัพพริมโรส
ไม่มีใครในพวกเธอที่รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้เล่นใหม่ หวังหยู่ก็ไม่มีไอเดียเลยว่ากิลด์นี้คืออะไร ไม่ต้องพูดถึงกองทัพพริมโรสเลย แม้กระทั่งกิลด์อะโพคาลิปส์ก็ไม่ได้แตกต่างไม่จากกลุ่มของอันธพาลในสายตาของหวังหยู่
“เทพเจ้ากระทิงเหล็ก ถ้าคุณไม่มีกิลด์ในตอนนี้ ทำไมคุณไม่เข้าร่วมกับกองทัพพริมโรสของพวกเราละ ถ้าคุณเข้าร่วมจะได้รับผลประโยชน์ที่ดีมาก...”เมื่อเธอพูด ตาของพริมโรสอันนองเลือดก็สังเกตเห็นถึงบนอกของหวังหยู่
เมื่อเธอมองไปที่สัญลักษณ์ไทจิบนหน้าอกเขา กุหลาบอันนองเลือดก็พูดอย่างผิดหวัง “ดังนั้นกระทิงเหล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาจากนิกายซวนเฉิน! ไม่ประหลาดใจเลยที่การกระทำของคุณนั้นช่างเด็ดขาดเหลือเกิน!”
“นิกายซวนเฉิน?”หวังหยู่มึนงอีกครั้งหนึ่ง เกมตะวันตกนั้นก็สร้างนิกายซวนเฉินด้วยเหรอ? แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนเคยพูดชื่อนี้มาก่อนหน้านี้กับเขา
“คุณหมายความว่าคุณไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพวกเขา?”เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหวังหยู่ กุหลาบอันนองเลือดก็ถามอย่างสงสัย
หลังจากที่ถึงระดับ 10 ผู้เล่นคนไหนก็ได้สามารถที่จะสร้างกิลด์ได้ แต่ละกิลด์นั้นจะมีสัญลักษณ์ของพวกเขาเองและสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือสัญลักษณ์ไทจิของนิกายซวนเฉิน
ในตอนนี้ ทุกอาชีพนั้นมีสัญลักษณ์ของตัวเอง แต่ไม่มีใครเคยเห็นสัญลักษณ์ไทจิมาก่อน มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมกุหลาบอันนองเลือดถึงคาดเดาผิดว่าหวังหยู่นั้นเป็นหนึ่งในนิกายซวนเฉินเนื่องจากตราไทจิที่อยู่บนหน้าอกของเขา
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน.....แต่ผมน่าจะอยู่!”หวังหยู่ลูบหัวของเขาและคิดเกี่ยวกับตัวเอง ผู้คนจากนิกายซวนเฉินนั้นก็ดีมากและผู้เล่นคนอื่นก็เรียกพวกเขาว่าผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้! เกมตะวันตกนั้นส่วนมากแล้วไม่ค่อยมีความเข้าใจกับคอนเซปต์ของตะวันออกและบางทีก็โกงภายใต้ชื่อพวกนี้”
เมื่อเห็นหวังหยู่มาจากนิกายซวนเฉิน กุหลาบอันนองเลือดก็ตระหนักได้ว่าเธอน่าจะยั่วยุศัตรูที่เธอไม่สามารถที่จะจัดการได้เพื่อที่จะรักษาใบหน้าของเธอ เธอจึงรีบที่จะเปลี่ยนหัวข้อในทันที “พวกเราต้องขอบคุณเทพเจ้ากระทิงเหล็กมากในครั้งนี้!
ถ้าไม่เป็นเพราะคุณละก็ พวกเราก็จะตายแล้วในครั้งนี้! แม้ว่าจำนวนเงินนี้มันจะไม่มากพอสำหรับการซื้อหนังสือสกิลสองเล่มนี้ แต่พวกเราก็หวังหว่าคุณจะตกลงรับรางวัลนี้ไว้!”
เด็กสาวทั้งสามคนนั้นเคยประมูลมาก่อนหน้านี้และรู้ว่าราคาของหนังสือสองเล่มนี้มีค่ามาก พวกเธอจึงซื้อข้อมูลมาว่าบอสนี้มีศักยภาพที่จะดรอปหนังสือสองเล่มนี้ ใครจะไปคิดละว่าก็อบลินนั้นยากที่จะฆ่ามันมาก ถ้าไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของหวังหยู่แล้ว เด็กสาวทั้งสามคนก็จะตายอย่างแน่นอนและสูญเสียค่าประสบการณ์ 10%
เมื่อเธอพูด กุหลาบอันนองเลือดก็หยิบกระเป๋าเงินออกมา ระบบก็แจ้งเตือนหวังหยู่ว่าในนั้นมีเหรียญทองอยู่ 24เหรียญ มันเหมือนกับว่าเด็กสาวพวกนี้ค่อนข้างท่าจะรวย!
หวังหยู่หัวเราะอย่างแตกต่างออกไปและปฏิเสธเงิน “ฮ่าๆ โลกนี้มันไม่แฟร์กันเลยแต่สำหรับผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับผมที่ต้องช่วยผู้คนที่ต้องการ! ผมไม่สามารถที่จะรับเงินพวกนี้จากพวกเธอได้!”
“ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้?”
เด็กสาวทั้งสามคนตะลึง และมองหน้ากันและกันและพึมพำ “เทพเจ้ากระทิงเหล็กนั้นถูกดูดซึมไปกับท่าทางนี้แล้ว.....อย่าบอกฉันนะว่าเขาปัญญาอ่อน?”
“ฉันคิดแบบเดียวกันเลย คนธรรมดาที่ไหนจะให้ไอเทมที่ล้ำค่าได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?”
“ฮ่าๆ ดังนั้นข่าวลือก็คือเรื่องจริง สมาชิกทั้งหมดของนิกายซวนเฉินนั้นบ้าคลั่ง ไม่ประหลาดใจที่เขานั้นไม่รู้ว่าเขานั้นอยู่ในกิลด์นั้น..”
“นั่นถูกเลย ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกศิลปะการต่อสู้!”หวังหยู่พอใจมากกับตัวเอง หลังจากที่ฝึกซ้อมมาหลายปีแล้ว ก็มีเพียงเกมนี้เท่านั้นที่เขาสามารถจะแสดงให้เห็นอำนาจของศิลปะการต่อสู้อันเกรียงไกรต่อคนอื่น
“ฮ่าๆ.....ฮ่าๆ”เด็กสาวทั้งสามคนหัวเราะอย่างกระวนกระวาย “เทพเจ้ากระทิงเหล็ก ทำไมพวกเราไม่ฝึกซ้อมด้วยกันละ?”
หวังหยู่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจอะไรและตอบกลับ “ไม่จำเป็น ผมต้องการที่จะฝึกคนเดียวมากกว่า!”
“ช่างน่าเสียดายอะไรเช่นนี้...”เด็กสาวทั้งสามคนนั้นตอบไปด้วยความผิดหวัง
หวังหยู่ตอบกลับอย่างเที่ยงธรรม “มันไม่มีอะไรผิดปกติเลยกับเรื่องนี้! เส้นทางของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นจะต้องโดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยอันตราย!”
เมื่อพวกเธอได้ยินสิ่งที่หวังหยู่พูด เด็กสาวทั้งสามคนก็รู้สึกขนลุกจากแขนของพวกเธอได้ และก็รีบพูด “ตั้งแต่มันเป็นกรณีแบบนี้ ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็จะไม่รบกวนคุณอีกแล้ว! ถ้าคุณจะมีเวลาให้พวกเราเลี้ยงขาวคุณบ้างสักครั้งได้ไหม!”
เมื่อพวกเธอพูด เด็กสาวทั้งสามคนก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนกับหวังหยู่
หวังหยู่กดยอมรับกับคำขอเป็นเพื่อนและหัวเราะ “ถ้าอย่างงั้น ไว้พวกเราเจอกันครั้งหน้านะเด็กสาวทั้งหลาย!”
“….อื้ม!”เด็กสาวทั้งสามพยักหน้า
หวังหยู่หันหลังกลับและกระโดดตรงเข้าไปส่วนลึกของป่าพงไพรอันลึกลับ
เมื่อพวกเธอไม่เห็นหวังหยู่แล้ว เด็กสาวทั้งสามก็ถอนหายใจ “โชคร้ายเหลือเกิน ใครจะไปคิดว่าผู้ที่เล่นที่แข็งแกร่งนั้นจะปัญญาอ่อน!”
อัศวินอาซาเลียอันนองเลือดก็พูด “แต่พวกเราก็ต้องขอบคุณเทพเจ้ากระทิงเหล็กจริงๆ ในตอนสุดท้ายเขาก็ยังให้หนังสือสกิลกับพวกเราสองเล่มและแม้กระทั่งอาวุธระดับทองแดง....”
พริมโรสอันนองเลือดพยักหน้า “นั่นถูกต้องเลย ถ้าเทพเจ้ากระทิงเหล็กนั้นพบเจอกับความยากลำบากในอนาคต พวกเราจะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในกำลังของพวกเราเพื่อที่จะช่วยเขา….”
“ฮื้มมม นอกจากสิ่งที่เธอพูดแล้ว ฉันก็ยังคงคิดว่าพวกเราควรที่จะติดต่อกับคนบ้าจากนิกายซวนเฉินให้น้อยลงจะดีกว่า”กุหลาบอันนองเลือดและเธอก็ชี้ไปที่หน้าของเธอ การแสดงออกที่หวาดกลัวก็ยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ