Chapter 15: ความเก่งกาจที่มากเกินไป
หวังหยู่น่าทึ่งมากกับสัญลักษณ์ไทจิ
ก่อนที่จะเปลี่ยนอาชีพ หวังหยู่นั้นวิจัยเกี่ยวสัญลักษณ์ของแต่ละอาชีพ ยกตัวอย่างเช่น นักสู้นั้นจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปหมัดเล็กๆ ในขณะที่เจ้าแห่งชี่กงนั้นก็มีสัญลักษณ์ชี่กงอันเล็กๆ ส่วนสัญลักษณ์ไทจิ สำหรับฝั่งที่ตะวันออกนั้นการที่ปรากฏขึ้นมาในเกมตะวันตกนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก
หวังหยู่เปิดข้อมูลเกี่ยวกับคำแนะนำของอาชีพ
อาชีพลับ : ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้
สกิลติดตัว :
[ลูกแห่งสรวงสวรรค์] – ทุกครั้งที่ผู้เล่นเลื่อนระดับ ผู้เล่นจะได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้น 7 หน่วย
[ความเชี่ยวชาญของร่างกายอย่างสมบูรณ์] – สามารถที่จะเรียนรู้สกิลทุกแขนงของอาชีพนักต่อสู้ได้
[ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง] – ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นมีโอกาสที่จะเปลี่ยนการกระทำของเขากลายเป็นสกิลที่กำหนดไว้
[พระเจ้าแห่งสรรพาวุธ] – มอบให้ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นเชี่ยวชาญอาวุธทั้งประเภท เมื่อสวมใส่อาวุธทุกประเภทนั้นจะเพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 10%
หลังจากที่ดูสกิลของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้แล้ว หวังหยู่ก็มึนงง.... ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นไม่เคยเล่นเกมคอมพิวเตอร์มาก่อนก็ตาม เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าอาชีพนั้นมันทรงเกินไป
[ลูกแห่งสรวงสวรรค์] นั้นให้ค่าสถานะกับหวังหยู่มากกว่าผู้เล่นทั่วไปถึงสองแต้ม ในขณะที่ [ความเชี่ยวชาญของร่างอย่างสมบูรณ์] นั้นสามารถที่จะให้เขาเรียนสกิลได้อย่างต่ำเพิ่มขึ้นสองเท่า ไม่ว่าผู้เล่นจะอ่อนแอแค่ไหนก็ตาม ตราบเท่าที่เขานั้นได้เรียนสกิลสองสกิลนี้ละก็ เขาก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ธรรมชาติแล้วหวังหยู่นั้นไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับสองสกิลนี้ เขานั้นแข็งแกร่งพออยู่แล้วด้วยตัวของเขาเอง มันไม่ใช่บางสิ่งที่ค่าสถานะในเกมนั้นจะวัดค่าได้
แต่สิ่งที่ทำให้หวังหยู่ตื่นเต้นที่สุดก็คือสกิล [ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง]!
สกิลนี้จะให้หวังหยู่ทดลองความสามารถที่แท้จริงของเขา
มันสามารถที่จะพูดได้ว่าคุณภาพของอาชีพนักต่อสู้นั้นถูกเปิดเป็นอย่างมากถึงเกี่ยวกับระดับความรู้ของโปรแกรมเมอร์ที่มีต่อผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้
ด้วยเหตุนี้นี่เองสกิลของอาชีพนักต่อสู้ในสายตาของหวังหยู่แล้ว มันค่อนข้างที่จะมีการออกแบบที่ย่ำแย่...
ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะมีเซตสกิลตัวเองของศิลปะการต่อสู้ มันก็มีบรรทัดฐานที่ตัดสินสกิลของหวังหยู่ตามอำเภอใจ ไม่ว่าท่าของเขาจะงดงามแค่ไหน พวกมันก็เป็นเพียงแค่การโจมตีธรรมดาของระบบ
ในตอนนี้เขาได้รับสกิล [ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง] หวังหยู่ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนท่าของผู้ที่ฝึกศิลปะกะการต่อสู้ไปเป็นสกิล เพียงเวลาไม่นานหรือในภายหลัง การโจมตีของหวังหยู่ทั้งหมดนั้นก็จะถูกจดดจำไว้ว่าเป็นสกิลโดยระบบ
ถึงแม้ว่าผู้เล่นคนอื่นนั้นจะไม่สนใจเกี่ยวกับสกิลนี้เลยแม้แต่จะชายตามอง แต่สำหรับใครบางคนอย่างเช่นหวังหยู่แล้ว [ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง] นั้นมันก็คือสกิลระดับพระเจ้า!
แต่การจัดการเกี่ยวกับสกิล [พระเจ้าแห่งสรรพาวุธ] ละ? มันเป็นสกิลที่เจาะจงที่สร้างขึ้นมาโดยระบบ!
“ไม่ใช่ว่าอาชีพนักต่อสู้นั้นจะไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธเลยเรอะ? ถ้าอย่างงั้นทำไมพวกเขาถึงสร้างสกิลที่ทำให้สามารถเชี่ยวชาญอาวุธทุกประเภทในเกมได้ละ?”
หวังหยู่ตั้งใจถามไปที่ผู้ใช้ข้อมูล
ผู้ใช้ข้อมูลหัวเราะอย่างเย็นชา “นั่นก็เป็นแค่เหล่านักต่อสู้ที่เมินเฉยต่อการไล่ล่าความฝันที่โง่เขลา และยอมแพ้สู่เส้นทางพื้นฐานของการที่จะเป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ สกิลการใช้อาวุธ! เมื่อเป็นตัวแทนของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ทำไมถึงจะไม่รู้เกี่ยวกับความซับซ้อนของศาสตร์อาวุธละ ทำไมนายยังเรียกตัวเองว่าผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้อีกละ?”
“อื้ม คุณพูดถูก!”หวังหยู่พยักหน้าเมื่อเขารื้อฟื้น เมื่อเขานั้นสร้างตัวละครของเขา คำอธิบายของอาชีพนักต่อสู้นั้นชัดเจนมาก –แขนและขาของคุณจะเป็นอาวุธ ความกล้าหาญของคุณก็การป้องกัน!
ไม่ประหลาดใจที่ระบบนั้นไม่ให้ความเชี่ยวชาญกับอาชีพนักต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แต่เหตุผลของมันช่างหยิ่งยโสมาก!
ใครก็ตามที่มาเรียนสกิลบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้อิสระเท่ากับผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่สามารถเรียนสกิลจากอาชีพอื่นได้อีกด้วย
การเรียนสกิลนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับหวังหยู่อยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างง่ายๆและประหยัดในชีวิตจริง แต่ใน {REBIRTH} เขานั้นสามารถถูกพิจารณาได้ว่าเป็นคนที่มีสถานะร่ำรวย
ในขณะที่คนอื่นนั้นกำลังตระเวนไปทั่วแผนที่เพื่อที่จะทำเควสให้สำเร็จเพื่อที่จะได้เหรียญทองเหรียญแรก หวังหยู่นั้นก็มีเหรียญทองมากกว่า 30เหรียญในคลังของเค้า
ในช่วงเวลาปัจจุบันที่ในเกมนั้นไม่ได้สร้างตัวเลือกให้แลกเปลี่ยนเงินจริงเข้าไปเป็นเงินในเกม นอกจากหัวหน้ากิลด์ใหญ่แล้วละก็ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีใครที่สามารถเทียบเท่าได้กับหวังหยู่ในเรื่องของความร่ำรวย
ใน {REBIRTH} ทุกอาชีพนั้นจะปลดล็อคสกิลใหม่ทุก5ระดับ ในแผงสกิลของหวังหยู่นั้นมีเพียงแค่สกิล [เตะด้านข้าง] ที่ถูกให้มาจากระบบ
หลังจากที่จ่ายเงินไป 30เหรียญเงินแล้ว หวังหยู่ก็เรียนรู้สกิลระดับ 5 [หมัดกระแทก] สกิลระดับ 10ของนักต่อสู้ [เข่าลอย] และของเจ้าแห่งชี่กง [ระลอกคลื่น]
คุณสมบัติของผู้เล่นในตอนนี้ก็คือ
ID : กระทิงเหล็ก (ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ – ลับ)
ระดับ : 14
พลังชีวิต: 510 (17x30)
มานา: 480 (16x30)
ความแข็งแกร่ง : 18
พละกำลัง : 17
จิตวิญญาณ : 16
สติปัญญา : 16
ความคล่องแคล่ว : 18
พลังโจมตีกายภาพ : 94-110
พลังโจมตีเวทย์ : 74-83
พลังป้องกันกายภาพ : 30-40
พลังป้อนกันเวทย์ : 28-38
ค่าสถานะคงเหลือที่ยังไม่ได้ใช้ : 91
อุปกรณ์
{ ความเสียใจของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ (อาวุธที่ใช้หมัด)(เงิน)(พัง)(ซ่อมได้) }
พลังโจมตีกายภาพ : 40-40
พลังโจมตีเวทย์มนตร์ : 40-40
ผลกระทบ :
[เฮสต์] – ความเร็วการโจมตีเพิ่มขึ้น 20%
[กระจาย] – 10%ของความเสียหายกายภาพต่อเป้าหมายจะกระจายไปสู่มอนสเตอร์รอบข้าง ความเสียหายมากที่สุดคือ 60%ของพลังโจมตีพื้นฐาน
ความสามารถพิเศษ :
[กลืนกิน] – อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถที่จะผสานเข้ากันกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นได้ในเวลาเดียวกัน มันสร้างที่จะซ่อมแซมตัวเองและอัพเกรดระดับของอุปกรณ์ได้
ระดับที่ต้องการ : 1
{ เสิ้อผ้าเก่าๆ }
พลังป้องกันกายภาพ : 1-1
{ โชคลาภของราชาหมาป่า (สร้อยคอ) (ทอง) }
การโจมตีกายภาพ : 31-42
[ตั้งสมาธิ] : ฟื้นฟูจำนวนมานาที่คงที่ทุกสามวินาที
[ฟื้นฟู] : ฟื้นฟูเลือด 1% จากเลือดเต็มทุกสามวินาที
สกิลเพิ่มเติม :
[ท่าพุ่งดั่งพระจันทร์เต็มดวง] : เรียกราชาหมาป่าเจ็ดตัวเพื่อที่จะแทงศัตรูพร้อมกัน ราชาหมาป่าแต่ละตัวนั้นทำความเสียหายเท่ากับความแข็งแกร่งของผู้เล่นคูณสาม มีระยะเวลาคูลดาวน์ 6ชั่วโมง
ระดับที่ต้องการ : 10
{ เงาของราชาหมาป่า (รองเท้า) (เงิน) }
พลังป้องกันกายภาพ : 22-29
พลังป้องกันเวทย์มนต์ : 10-13
เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ : 10%
[เฮสต์] : เพิ่มความเร็วโจมตี 10%
[โกสต์] : เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 200%ภายในสามวินาที มีระยะเวลาคูลดาวน์ 180 วินาที
ระดับที่ต้องการคือ : 10
สกิล :
[เตะด้านข้าง] (ระดับ2) นักต่อสู้นั้นใช้กล้ามเนื้อขาที่แข็งแกร่งของผู้ใช้นั้นทำความเสียหายกายภาพ 120% กับป้าหมายและทำให้เป้าหมายนั้นลอยด้วย ค่าใช้งาน มานา : 30
[หมัดกระแทก] (ระดับ2) นักต่อสู้ใช้ความแข็งแกร่งภายในโจมตีใส่ศัตรูนั้นทำให้เกิดความเสียหาย 125% ต่อเป้าหมายและติดสถานะมึนงง ค่าใช้งาน มานา : 30
[เข่าลอย] (ระดับ 1) นักสู้พุ่งหน้าเข้าหาเป้าหมายและใช้เข่าของเขาโจมตีอย่างกราดเกรี้ยวใส่เป้าหมาย ทำให้เกิดความเสียหายกายภาพ 150% ต่อเป้าหมาย และทำให้เป้าหมายมึนงงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ค่าใช้งาน มานา : 50
[ระลอกคลื่น] (ระดับ1) เจ้าแห่งชี่กงใช้ความแข็งแกร่งภายในระเบิดการโจมตีใส่เป้าหมาย ทำให้เกิดความเสียหายเวทมนตร์ 160% ค่าใช้งาน มานา : 50
หลังจากที่เขาเปลี่ยนอาชีพแล้ว ค่าสถานะทั้งหมดที่ถูกเพิ่มลงไปนั้นก็ถูกรีเซ็ต ในขณะที่ผู้เล่นธรรมดาทั่วไปในระดับ 14นั้นจะมีค่าสถานะเพิ่มเติมอยู่ที่ 65หน่วย แต่เนื่องจากเขานั้นเป็นอาชีพลับ หวังหยู่จึงมีค่าสถานะ 91หน่วยให้เพิ่มลงไป
เมื่อเขาเพิ่มตามรูปแบบ ความแข็งแกร่ง 3หน่วย ความคล่องแคล่ว 2หน่วยและ สติปัญญา2หน่วย หวังหยู่ก็เพิ่มค่าสถานะที่เขามีจนหมด
ซึ่งมันทำให้การโจมตีของหวังหยู่นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 144 ในขณะที่การโจมตีทางด้านเวทย์มนตร์นั้นขึ้นเป็น 111 มันไม่เหมือนกับว่ามีผู้เล่นคนไหนในเกมที่อยู่ในระดับเดียวกันสามารถที่จะเทียบกับค่าสถานะของหวังหยู่ที่มีได้
เมื่อเขาเสร็จสิ้นในการเปลี่ยนคลาส หวังหยู่ก็ดูไปที่ ช่องเควส แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่มีเควสต่อสำหรับเควส “หัวใจของความกล้าหาญ” แล้ว ส่วนต่อไปของเควสนั้นจะเปิดเผยเมื่อหวังหยู่นั้นถึงระดับ 15 และกลับมาหาผู้ให้ข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
สิ่งที่หวังหยู่ต้องทำในตอนนี้คือโฟกัสในการฝึกฝนและเลื่อนระดับของเขาให้เป็นระดับ 15
หลังจากที่เขาเลื่อนระดับถึงระดับ 15แล้วไม่เพียงแต่หวังหยู่สามารถที่จะทำเควสได้ เขายังคงไปล่าในดันเจี้ยนได้อีกด้วย ตามที่เว็ปไซต์ทางการนั้นบอก ผู้เล่นสามารถที่จะหาไอเทมที่หายากได้และค่าประสบการณ์จำนวนมากได้ในดันเจี้ยนอีกด้วย แต่จนกระทั่งวันนี้หวังหยู่ก็ไม่เข้าใจว่าดันเจี้ยนนั้นเป็นยังไง สำหรับเกมแล้วหวังหยู่นั้นก็ยังเป็นมือใหม่ที่น่าสงสารอยู่
หวังหยู่เปิดแผนที่ขึ้นเพื่อยินยันตำแหน่งที่เขาจะไป ต่อมาเขาก็วิ่งออกมาจากเมืองโดยไม่มีความลังเลใดๆ
ป่าพงไพรแห่งความลับด้านนอกเมืองรัตติกาลนั้นเต็มไปด้วยโจรใจแคบระดับ10และคนจรจัดระดับ12 ที่เป็นมอนสเตอร์ประเภทมนุษย์
ในขณะที่พลังป้อนกันและพลังชีวิตของมันนั้นไม่ค่อยสูง พวกมันก็มีพลังโจมตีกายภาพที่สูงจนน่าประหลายใจและสกิลพิเศษ พวกมันจึงยากมากในการจัดการด้วย ผู้เล่นส่วนมากนั้นตั้งปาร์ตี้และจัดการกับมอนสเตอร์พวกนี้ด้วยความยุ่งยาก
ในขณะที่พวกเขานั้นสู้กับมันอย่างยากลำบาก มอนสเตอร์พวกนี้นั้นก็มีอัตราการดรอปที่เหมาะสมคือหนึ่งเหรียญเงินและสามารถที่จะพิจารณาได้ว่ามันเป็นทางที่ดีในการหาเงินในช่วงเริ่มต้นของเกม
หวังหยู่นั้นไม่ได้ขาดเงิน ดังนั้นเขาจึงสนใจเกี่ยวกับค่าประสบการณ์ที่ได้มากกว่า ด้วยเหตุนี้นี่เองเขาก็เดินลึกเข้าไปในป่าพงไพรแห่งความลับ เมื่อเขาเข้าไปลึกเรื่อยในป่า มอนสเตอร์ระดับสูงก็ปรากฏตัวขึ้น
มอนสเตอร์ที่อยู่ลึกในป่าพงไพรแห่งความลับนั้นคือ ก็อบลินระดับ 15
หวังหยู่นั้นไม่มีความสนใจกับการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่ทั้งตัวเล็กและมีหน้าตาที่น่าเกลียด แต่เพียงแค่เขาจะมุ่งหน้าเข้าไปต่อในป่า เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของผู้เล่นจากระยะไกล
จากเสียงตะโกนในระยะไกล หวังหยู่สามารถที่จะมองเห็นได้ว่าคือผู้เล่นหญิง
หวังหยู่ลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปยังทิศทางของเสียง และก็เห็นเพียงแค่ก็อบลินห้าตัวกำลังไล่ล่าผู้หญิงสามตัวบนแผ่นดินที่ว่างเปล่า
ก็อบลินห้าตัวนั้นแตกต่างจากก็อบลินธรรมดาทั่วไป
ก็อบลินธรรมดานั้นจะมีผิวหนังสีเขียวซีดและหน้าตาน่าเกลียดมาก
ส่วนก็อบลินทั้งห้าตัวนี้ สองตัวมีสีแดง สองตัวมีสีน้ำเงินและอีกตัวที่มีหัวใหญ่ที่สุดที่มีผิวสีเทา
{ หัวหน้าเผ่าก็อบลิ้น (ระดับ15)(ทองแดง)(บอส) }
พลังชีวิต : 5000
มานา : 2000
สกิล : [เรียกสายฟ้า] [ขว้าง]
{ ก็อบลินน้ำแข็ง (ระดับ15)(Elite) }
พลังชีวิต : 3000
มานา : 1000
สกิล : [ลูกศรน้ำแข็ง] [อาณาเขตแห่งความเหน็บหนาว]
{ ก็อบลินลาดตระเวน (ระดับ15)(Elite) }
พลังชีวิต : 3000
มานา : 1000
สกิล : [ลูกศรไฟ] [อาณาเขตแห่งการลุกไหม้]
ก็อบลินห้าตัวนั้นขู่คำรามอย่างโหดเหี้ยมเมื่อพวกมันนั้นกำลังไล่ล่า เด็กผู้หญิงทั้งสามคนวิ่งอย่างสุดกำลัง และก็หันกลับไปมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นฉากที่น่าตื่นตระหนกมาก
ในฝูงก็อบลินนั้น ก็อบลินน้ำแข็งก็ร่าย [ลูกศรน้ำแข็ง] พร้อมกับมีผลกระทบเพิ่มเติมที่ทำให้เป้าหมายนั้นช้าลง ซึ่งมันทำให้เด็กผู้หญิงอีกสามคนนั้นอีกไม่นานก็จะถูกจับโดยเหล่าก็อบลิน
หวังหยู่พุ่งไปอย่างเงียบๆ ลงพื้นพร้อมกับส่งลูกเตะไปยังใบหน้าของก็อบลินน้ำแข็งและทำให้กระเด็นขึ้น หวังหยู่ก็ยืดมือของเขาออกมาและจับไปที่คอของมันและทุ่มมันลงใส่หน้าอกของเขาซ้ำๆด้วย [หมัดกระแทก]
-864
-1036
-1210
-100
ตัวเลขโชกเลือดนั้นปรากฏขึ้นบนหัวของก็อบลินน้ำแข็งและมันก็เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีขาว
เมื่อ [หมัดกระแทก] นั้นเกินกว่า 160% ของความสมบูรณ์แบบ มันก็มีผลกระทบเพิ่มเติมคือเจาะเกราะของเป้าหมาย ก็อบลินน้ำแข็งอีกตัวที่อยู่ข้างๆก็สูญเสียเลือดไปมากกว่าครึ่งหนึ่งโดยที่ไม่ได้โดนโจมตีจากหวังหยู่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
เนื่องจากผลกระทบของ [กระจาย]จากอาวุธหมัดของเขา ก็อบลินตัวอื่นนั้นก็ได้รับความเสียหายบางส่วนจากการโจมตีของหวังหยู่ก่อนหน้านี้อีกด้วย
พร้อมกับความเสียหายที่บ้าคลั่งนั้น หวังหยู่ก็ดึงดูดความสนใจของก็อบลินทั้งหมด
ก็อบลินที่เหลืออีกสี่ตัวนั้นคำรามและพวกเขาก็ปลดปล่อยสกิลของมันเข้าหาหวังหยู่
แต่บางสิ่งที่เหมือนกับมีวิถีกระสุนที่คงที่อย่างสกิลของก็อบลินนั้นจะโจมตีโดนหวังหยู่ได้ยังไง? หวังหยู่ก้าวเท้าไปข้างหน้าและบิดร่างกายของเขาหลบสกิลทั้งสี่ และจับไปที่ก็อบลินน้ำแข็งที่ตายไปแล้วครึ่งตัวที่อยู่ใกล้กับเขาที่สุด ทุ่มมันกับพื้นอย่างรุนแรง
หวังหยู่ก็กระโดดขึ้นกลางอากาศ “ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง!”เสียงเหยียบย่ำอันรุนแรงบนหัวของก็อบลินน้ำแข็งดังขึ้นสามครั้ง ก็อบลินน้ำแข็งก็ร้องเสียงคร่ำครวญออกมาและก็กลายเป็นลำแสงสีขาวอีกหนึ่งเส้น
ในตอนนี้ก็อบลินน้ำแข็งนั้นตายลงแล้ว หวังหยู่ก็เปลี่ยนความสนใจไปยังก็อบลินลาดตระเวนอีกสองตัว และพุ่งไปหาพวกมันและก็เปลี่ยนมันกลายเป็นค่าประสบการณ์สำหรับเขาอย่างแทบจะไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย
หลังจากที่เห็นลูกน้องนั้นถูกกวาดล้างภายใต้มือของหวังหยู่แล้ว หัวหน้าเผ่าก็อบลินก็คำรามอย่างโกรธแค้น มันใช้ [เรียกสายฟ้า] และเรียกสายฟ้าฟาดออกมาโจมตีใส่หวังหยู่ หวังหยู่รีบกระโดดหลบไปด้านข้าง และหลบการโจมตีที่แคบของหัวหน้าเผ่าก็อบลิน
โดยปราศจากการรอคอยหัวหน้าเผ่าก็อบลินให้ฟื้นฟูจากการใช้สกิลนั้นหวังหยู่ก็มาถึงด้านหน้าของมันแล้ว เพียงแค่หัวหน้าเผ่าก็อบลินนั้นจะใช้อีกสกิลหนึ่ง หวังหยู่นั้นก็ปลดปล่อยการโจมตีของเขาไปก่อนแล้ว
[เข่าลอย]!!
[เตะด้านข้าง]!
[หมัดกระแทก]!
….
หลังจากที่รับความเสียหนึ่งรอบจากการโจมตีของหวังหยู่ หัวหน้าเผ่าของก็อบลินก็นอนอยู่บนพื้นอย่างน่าอนาถพร้อมกับเลือดที่เหลือเพียงเล็กน้อย
หวังหยู่นั้นไม่ให้โอกาสแม้แต่นิดเดียวกับมัน เขาก็ยืดมือขวาออกไปอย่างโหดร้ายและกดไปที่ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าก็อบลิน
[ระลอกคลื่น]!
“เพล้ง!!”
หัวหน้าเผ่าก็อบลินนั้นเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาว เหลือกองไอเทมทิ้งไว้ด้านหลัง