BNH บทที่ 6 : แรงกดดัน
บทที่ 6 : แรงกดดัน
ในตอนที่เฉียว อันหาวตกหลุมรักลู่ จินเหนียนครั้งแรก, ความฝันของเธอถูกเติมเต็มโดยเขา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอกลับกลัวที่จะเจอเขา
เมื่อเขาเข้ามาใกล้เธอ, มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และความรู้สึกนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อน
โดยเฉพาะเวลานี้, ลู่ จินเหนียนนั่งอยู่ข้างหลังเธอ ประสาทสัมผัสของเธอไวต่อทุกความเคลื่อนไหวของเขา เสียง หรือแม้กระทั่งลมหายใจ มือของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจากความวิตกกังวล
บทสนทนาระหว่างลู่ จินเหนียนและผู้กำกับฯล้วนเกี่ยวข้องกับบทภาพยนตร์และละครต่างๆ แม้ว่าลู่ จินเหนียนจะไม่ค่อยพูดตอบโต้มากนัก แต่ทุกคำพูดของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว
เธอไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้อีกต่อไป..
เฉียว อันหาววางตะเกียบลง เอ่ยขอตัวไปห้องน้ำกับเซ่า เหม่ง และยืนขึ้น
แต่ในขณะที่เธอลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะเดียวกับที่ลู่ จินเหนียนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
นี่คือความบังเอิญหรือว่าเขาตั้งใจกันแน่ ?
ห้องน้ำตั้งอยู่ทางข้างหลังลู่ จินเหนียน เช่นเดียวกับประตูทางออกของห้องจัดงานฯที่ตั้งอยู่ข้างหลังเฉียว อันหาว
ด้วยเหตุนี้ทำให้ขณะที่เธอหันหลัง เขาก็ได้หันหลังกลับมาเผชิญหน้ากันกับเธอ
ทำให้พวกเขาบังเอิญจ้องตากันและกัน
เฉียว อันหาวหลบสายตาของลู่ จินเหนียนที่จ้องมองมายังเธอ
พวกเขาสองคนแต่งงานกันมาได้ห้าเดือนแล้ว แต่ข่าวยังไม่ได้เผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ พวกเขาจึงเหมือนคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน
เฉียว อันหาวกำมือของตนแน่น, พยายามควบคุมหัวใจตนเองที่เต้นเร็วให้สงบลง เธอกล่าวทักทายเขาอย่างสุภาพเฉกเช่นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“สวัสดีตอนเย็นค่ะ คุณลู่”
สีหน้าของลู่ จินเหนียนเรียบเฉย ไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อคำทักทายของเฉียว อันหาว
หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เขาหมุนตัวเพื่อเดินอ้อมไปยังประตูทางออกของห้องจัดงานฯ
เนื่องจากลู่ จินเหนียนเป็นคนที่มีบุคลิกเย็นชาและรักสันโดษทำให้คนรอบข้างยากที่จะเข้าใกล้เขา อีกทั้งอำนาจหน้าที่ในวงการอุตสาหกรรมบันเทิงของเขาก็ยิ่งทำให้คนรอบข้างเกรงกลัวเขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หลังจากที่เขาออกไปจากงาน บรรยากาศโดยรอบก็กลับมาครึกครื้นเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง
แต่ถึงกระนั้นช่วงเวลาที่เขาปรากฎตัวอยู่ในงาน ผู้คนโดยรอบก็มิวายพูดนินทาเขา
“ลู่ จินเหนียนเป็นเจ้าพ่อของวงการนี้จริงๆ”
“เขาไม่ใช่เจ้าพ่อของวงการ แต่เขาเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง สิบปีผ่านไปหลังจากที่เขาเดบิวต์ เขาก็ไม่เคยมีข่าวคาวเลย”
“เขาสร้างบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง ผู้คนยังพูดกันอีกว่า เขาเข้ามาในวงการนี้ทั้งๆที่เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายยากจนและไม่มีภูมิหลังใดๆ
หลังจากนั้นเพียงแค่สี่ปี เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น และได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’ ติดกันถึงหกปีซ้อน จ
ากการโหวตทางออนไลน์ ซึ่งเขาเป็นนักแสดงนำในหนังหกเรื่อง และนักแสดงสมทบในหนังสองเรื่อง จากหนังที่เข้าชิงรางวัลทั้งหมดสิบเรื่อง”