บทที่ 37 การส่งขายสินค้า (อ่านฟรี)
"ผู้จัดการซู ไม่เจอกันตั้งนาน” เฝิงหยู่กล่าว
"อ้อ หัวหน้าเฝิงนะเอง ลมอะไรหอบเธอมาที่นี่? " ผู้จัดการซูกล่าวอย่างมีความสุขเมื่อเขาเห็นเฝิงหยู่ ทุกครั้งที่เด็กคนนี้พาเจ้านายใหญ่จากรัสเซียมาที่ร้านของเขา เขาสามารถเคลียสินค้าครึ่งหนึ่งในร้านได้!
"ผมมาหาผู้จัดการซูเพื่อเอากำไรมามอบให้" เฝิงหยู่กล่าว
พอได้ยินคำพูดของเฝิงหยู่ ผู้จัดการซูก็ยิ้มหน้าแป้น
"ครั้งนี้เธออยากซื้อสินค้าอะไร? จำนวนเท่าไหร่? มั่นใจได้ว่าฉันจะให้ราคาที่ดีที่สุด " ผู้จัดการซูกล่าว
"คราวนี้ผมไม่ได้ซื้ออะไรทั้งนั้น แต่ผมอยากให้ผู้จัดการซูช่วยผมขายของได้ " เฝิงหยู่กล่าว
รอยยิ้มบนหน้าผู้จัดการซูหายไปทันที ขายของหรือ? เขายังคงมีสินค้าจำนวนมากในร้านซึ่งขายไม่ออก ตั้งแต่มีการอนุญาตผู้คนให้ตั้งร้านค้าของตนเองได้ ร้านค้าขนาดเล็กจึงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สหกรณ์จึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
อีกอย่าง เฝิงหยู่จะขายสินค้าอะไรที่สหกรณ์ไม่มี? ซัพพลายเออร์ทั้งหมดต่างทำงานร่วมกับเขามาเป็นเวลานาน ในช่วงเทศกาลและวันหยุด ซัพพลายเออร์เหล่านี้ก็มอบของขวัญให้เขา แล้วเขาจะหยุดร่วมงานกับซัพพลายเออร์เหล่านั้นได้อย่างไร?
"ขายอะไร? เธอจะขายอะไร? เสี่ยวหยู่ สหกรณ์เราขายครบทุกอย่าง เคาน์เตอร์วางสินค้าไม่พอที่จะวางขายสินค้าอื่นๆอีก" ผู้จัดการซูกล่าว เขาเปลี่ยนคำเรียกจากหัวหน้าเฝิงหยู่มาเรียกว่า เสี่ยวหยู่ ทันที ท่าทีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
"พัดลมไฟฟ้า!" เฝิงหยู่ตอบ
"พัดลมไฟฟ้า? เธอควรไปเสนอขายที่อื่น ตอนนี้ที่ห้างก็มีขายพัดลมไฟฟ้าอยู่แล้ว แถมคนที่อยากซื้อพัดลมไฟฟ้าก็มีจำนวนน้อยนิด" ผู้จัดการซูปฏิเสธเฝิงหยู่อย่างตรงไปตรงมา
"ผู้จัดการซุครับ รอให้ผมพูดจบก่อน รูปแบบการขายของผมแตกต่างจากคนอื่น ๆ ผมจะเอาพัดลมไฟฟ้ามาวางขายในราคาที่ถูกกำหนดตายตัวแล้ว ถ้าขายพัดลมได้หนึ่งตัว ผมจะให้คุณ 3 ถึง 5 หยวน แต่ถ้าขายไม่ออก ผมจะเอากลับทันที" เฝิงหยู่กล่าว
ผู้จัดการซูจึงคิดในใจว่า "เอ๊ะ? ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อนำสินค้ามาวางขาย? แค่ฝากพัดลมไฟฟ้าให้ฉันขาย? ขายพัดลมได้หนึ่งตัวจะได้เงิน 3 ถึง 5 หยวน? ถ้าขายไม่ออก เขาจะนำสินค้ากลับทันที? ความคิดนี้ไม่เลวเลย ไม่ต้องเงินทุนของฉันสักแดงเดียว นี่ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว เอามาวางขายสักตัวสองตัวจะเป็นไรไป"
“3 ถึง 5หรอ? ไม่ไหวหรอก เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายหรอที่จะเอาสินค้าของเธอมาฝากขายที่สหกรณ์? สหกรณ์ของเราขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่านั้น ฉันต้องการอย่างน้อย 10 หยวนต่อหนึ่งเครื่อง” ผู้จัดการซูกล่าว
ผู้จัดการซูคิดอย่างรอบคอบแล้ว พัดลมไฟฟ้าที่ราคาถูกที่สุดคือราคา 100หยวน กำไรควรอยู่ที่ประมาณ 30 -40 หยวน แต่เขาขอเพียง 10 หยวนเท่านั้น ที่เขากล้าขอเพราะเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อนำเข้าสินค้ามาวางขาย
"ผู้จัดการซูครับ พัดลมไฟฟ้าของเราไม่ได้มีราคาแพงขนาดนั้น ได้กำไรไม่มากเท่าไหร่ พัดลมของเราขายอยุ่ที่ประมาณ 50 ถึง 60 หยวนต่อหนึ่งเครื่อง มีกำไรน้อยกว่า 10 หยวนด้วยซ้ำ หากยอดขายดี เราจะให้คุณ5 หยวนต่อหนึ่งเครื่อง แต่ถ้ายอดขายไม่ดี แม้แต่3 หยวนผมคงไม่มีปัญญาจ่าย" เฝิงหยู่ตอบ
ผู้จัดการซูไม่เชื่อหูของเขา ขายพัดลมไฟฟ้าในราคา 50 ถึง 60 หยวนหรือ? เป็นไปได้ยังไงกัน? มันไม่ได้ใกล้เคียงกับต้นทุนในการผลิต มอเตอร์ โลหะ สวิทช์ ฯลฯ อย่างน้อยๆราคาก็น่าจะถึง 80 ถึง 90 หยวนแล้ว หากวัสดุมีคุณภาพดี ราคาคงสุงกว่า 200 หยวน แล้วเฝิงหยู่ขายในราคาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้ได้อย่างไร? จะเอากำไรมาจากไหน?
"เป็นพัดลมไฟฟ้ายี่ห้ออะไร? สินค้าเหล่านี้ชำรุดหรือเปล่า? " ผู้จัดการซูถาม สหกรณ์จะต้องไม่มีสินค้าที่มีข้อบกพร่องหรือของปลอม
“แบรนด์”เฟิงหยู่" นี่ไม่ใช่ของปลอมหรือสินค้าด้อยคุณภาพอย่างแน่นอน พัดลมถูกผลิตและออกแบบโดยโรงงานผลิตเครื่องยนต์ของพวกเรา ดูสิครับ ผมลงโฆษณาบนหนังสือพิมพ์รายวันของเมืองหลงเจียงไว้แล้ว" เฝิงหยู่กล่าว
เฝิงหยู่หยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ออกมาและชี้ให้ผู้จัดการซูดู ผู้จัดการซูนึกถึงหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ที่เขาอ่านเมื่อเช้านี้ เขายังคงสงสัยว่าพัดลมยี่ห้อเฟิงหยู่คืออะไร และทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินยี่ห้อนี้มาก่อน ฉะนั้น คงเพราะผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ยังไม่ได้เปิดตัว
"พัดลมนี่ผลิตนี่มาจากโรงงานผลิตเครื่องยนต์หรือ?" ผู้จัดการซูถาม
“แน่นอนครับ คุณไปสอบถามแถวๆนี้ก็ได้ครับ ถ้าผมโกงคุณ พัดลมไฟฟ้าที่ผมเอามาฝากขาย ผมจะยกให้ฟรีๆไม่คิดตังเลยครับ” เฝิงหยู่ตอบ
สิ่งที่เฝิงหยู่กล่าวเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว โรงงานผลิตเครื่องยนต์นี้ผลิตพัดลมเหล่านี้ก็จริง แต่เป็นเพียงการรับจ้างผลิตตามความต้องการของเฝิงหยู่เท่านั้น ผู้จัดการซูก็คิดไปเองว่าพัดลมยี่ห้อเฟิงหยู่เป็นหนึ่งในแบรนด์โรงงานผลิตเครื่องยนต์
"ถ้าอย่างนั้น จ่ายให้ฉันอย่างน้อย 5 หยวน พัดลมไฟฟ้าจะกินพื้นที่บางส่วนในร้าน แถมยังเปลืองพื้นที่ในคลังสินค้าอีก ให้มาน้อยแค่นี้ ก็เอากลับไปขายที่อื่น!" ผู้จัดการซูกล่าว เขายังต้องการกำไรเพิ่ม
"พัดลมไฟฟ้าของเรามีขนาดไม่ใหญ่มาก เอาอย่างนี้ละกัน เรามีพัดลมสองแบบ ขนาดใหญ่ ผมจะตั้งราคาขาย 59 หยวน และผมจะให้เงิน 4 หยวนต่อพัดลมหนึ่งตัวที่ถูกขายออกไป ส่วนพัดลมขนาดเล็กกว่า ผมจะตั้งราคาขาย 49 หยวน ผมจะให้เงิน 3 หยวนต่อหนึ่งตัว แล้วผมจะจ่ายเงินเพิ่มอีก 50 หยวนสำหรับยอดขายพัดลม 100 ตัว นี่เป็นราคาสูงสุดที่ผมสามารถให้ได้ ถ้าเยอะกว่านี้คุณคงฟันกำไรมากกว่าผม! ทั้งที่คุณไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายอะไรเลยด้วยซ้ำ!" เฝิงหยู่กล่าว
ผู้จัดการซูครุ่นคิด โดยเฉลี่ย พัดลมไฟฟ้าหนึ่งตัวมีกำไร 4 หยวน พัดลมไฟฟ้านี้ก็ขายในราคาที่ถูกแสนถูก ในช่วงหน้าร้อนพัดลมตัวหนึ่งสามารถขายได้ 100 ตัวเลยเชียวนะ ก็เป็นเงิน 400 หยวน ไม่ต้องลงทุนอะไรทั้งนั้น เงินจำนวนนี้จะเข้ากระเป๋าของเขาเอง!
"ตกลง แต่ครั้งต่อไปที่สหายรัสเซียคนนั้นกลับมาซื้อสินค้าอีก เธอต้องพาเขามาที่ร้านของฉันและให้เขาซื้อของเยอะๆ" ผู้จัดการซูกล่าว
"ไม่มีปัญหาครับ บางทีเขาอาจจะมาในเดือนนี้ ผมก็หวังว่าเขาจะกลับมาอีกครั้ง " เฝิงหยู่ตอบ
เฝิงหยู่หยิบสัญญาที่เตรียมไว้อย่างดีออกจากกระเป๋าของเขา และมอบให้กับผู้จัดการซู
“เอ๋? ไม่ใช่มั้ง หัวหน้าเฝิง ทำไมต้องมีเงินประกันด้วย?” ผู้จัดการซูถาม
"ผู้จัดการซูครับ มันเขียนในสัญญาชัดเจนแล้ว เงินประกันจำนวนนี้มีระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น เวลาแค่หนึ่งเดือน แล้วเราจะมานับยอดขายของคุณ พร้อมกันนั้น ผมจะคืนเงินประกันให้กับคุณทั้งหมด ผมคงไม่สามารถฝากขายสินค้าไว้ที่ร้านของคุณ ถ้าคุณไม่วางเงินประกันไว้กับผม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพัดลมไฟฟ้าของผมชำรุดหรือสูญหายในร้านของคุณ? ผมไม่ขาดทุนแย่หรือครับ " เฝิงหยู่กล่าว
"แต่ก็ยังมากเกินไปอยู่ดี อิงตามราคาเดิม อย่างน้อยๆ 100 เครื่อง? มันแพงเกินไป จะต่างอะไรกับการที่ฉันซื้อสินค้ามาวางขายหน้าร้าน" ผู้จัดการซูตอบ
"มีความแตกต่างกันแน่นอนครับ และมันเป็นความแตกต่างจนเห็นได้ชัด! ถ้าคุณซื้อสินค้าด้วยตัวคุณเอง คุณจะต้องขายพัดลมไฟฟ้าราคาเท่าไหร่? หากคุณขายพัดลมไม่ได้ คุณจะได้รับเงินคืนไหม? ความเสี่ยงทั้งหมดผมจะเป็นคนรับเอง ไม่ว่าคุณจะขายพัดลมไฟฟ้าได้กี่ตัว คุณก็ยังได้รับผลประโยชน์อยู่ดี" เฝิงหยู่กล่าว
ผู้จัดการซูครุ่นคิดสักพัก พอนึกถึงกำไร 400 หยวน ในที่สุดเขาก็กล่าวว่า "โอเค ฉันต้องการ 100 เครื่อง! แต่ขอจ่ายเงินประกันน้อยลงสักหน่อย "
"พัดลมไฟฟ้า 100ตัวทั้งสองรุ่น เงินประกัน50 หยวนต่อพัดลมหนึ่งตัว รวม 10,000 หยวน ตกลงไหมครับ" เฝิงหยู่กล่าว
"เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่แสตมป์เครื่องหมายของบริษัทผลิตเครื่องยนต์นี่นา บริษัทการค้าไท่หัว? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้มาก่อน" ผู้จัดการซูกล่าว
"นี่คือตัวแทนขายพัดลมยี่ห้อเฟิงหยู่ เจ้านายและผู้จัดการหลี่คือ ...... ก็ถ้าไม่ใช่ แล้วพัดลมไฟฟ้าจะมีราคาถูกได้อย่างไร? " เฝิงหยู่กล่าว
เขาจงใจเว้นประโยคไว้อย่างสองแง่สองง่าม ขึ้นอยู่กับว่าผู้จัดการซูจะตีความหมายว่าอะไร เฝิงหยู่ไม่รู้ไม่ชี้ด้วยนะ!
ในดวงตาของผู้จัดการซูมีแสงประกายคล้ายกับเข้าใจเรื่องราว มิน่าละ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องของโรงงานผลิตเครื่องยนต์ เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะตั้งคำถาม
หลังจากลงนามในสัญญา เฝิงหยู่ไปที่ห้างสรรพสินค้าหมายเลขหนึ่ง และชักชวนผู้จัดการของห้างสรรพสินค้า พอผู้จัดการห้างเห็นว่าสหกรณ์ได้ลงนามในสัญญาแล้ว เขาก็เห็นด้วยกับเงื่อนไขเดียวกัน และให้วางขายพัดลม 200 เครื่องแต่ละรุ่น
จากนั้น เฝิงหยู่ไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กในแต่ละเขต ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กเหล่านี้เห็นว่าห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งได้ลงนามในสัญญาแล้ว พวกเขาก็จึงให้วางสินค้าอย่างน้อย 200 เรื่องแต่ละรุ่นด้วยเช่นกัน
เวลาเพียงหนึ่งวัน เฝิงหยู่สามารถเอาสินค้าไปวางขายได้ถึง 1,400 เครื่อง เขาได้รับเงินประกันสินค้ามา 70,000 หยวน