ตอนที่แล้วChapter 11: อัพเกรดระบบเกม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 13: เว็บบอร์ดอันบ้าคลั่ง

Chapter 12: ความรับผิดชอบของผู้ชาย


หลังจากออกมาจากเกม หวังหยู่ก็ถอนหายใจออกมายาวๆเมื่อเขาเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะล้างหน้า

เล่นเกมในช่วงเวลาแบบนี้นั้นมันเหนื่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขานั้นกำลังสู้กับราชาหมาป่าสีเงินอยู่ เขานั้นติดอยู่ในกับการต่อสู้และไม่สามารถที่จะสูญเสียโฟกัสได้แม้กระทั่งวินาทีเดียว ซึ่งมันทำให้หวังหยู่รู้สึกเหนื่อย หลังจากเล่นเกมมาทั้งวันแล้ว หวังหยู่ก็สามารถที่จะรู้สึกได้ว่าผิวหนังของเขานั้นมันมันเยิ้ม

เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ เด็กสาวที่อยู่ห้องต่อไปก็ออกมาจากเกมด้วยเช่นกัน และพูดคุยกันเสียงดังเมื่อพวกเธอออกมาจากห้องของพวกเธอ

ในขณะที่เขานั้นแอบอยู่ในห้องและกำลังเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ หวังหยู่ก็สามารถที่จะได้ยินเสียงบ่นไม่หยุดของแมรี่ “พี่ใหญ่ พวกเราเล่นเกมนี้มาหลายชั่วโมงมากตลอดทั้งสามวัน แต่การเลื่อนระดับมันช้าโคตร! ใครกันจะคิดว่าเกมนี้มันยากแบบนี้....”

“ใช่เลย ทุกคนเห็นข้อความประกาศวันนี้ใช่ไหม ใครจะคิดว่ามีใครบางคนที่สามารถที่จะฆ่าบอสระดับเงินแบบตัวคนเดียวได้ ฉันพึ่งจะสามารถฆ่าพวกกลุ่มหมาป่าและวัวป่าได้เอง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาของบอสเป็นยังไง!”เสียงนี้ก็ดังขึ้นมา มันคือเมิ่งเมิ่งที่กำลังพูดอยู่

เซี่ยวยี่พูด “สิ่งที่เป็นบอสนั้นสามารถที่จะค้นพบได้แต่ก็ไม่สามารถที่จะงมหามันเจออยู่ดี แต่ผู้เล่นที่ฆ่าบอสนั้นโชคดีมาก พร้อมกับค่าประสบการณ์จำนวนมากที่ได้จากการสู้กับบอสนั้นก็ทำให้เขาเลื่อนระดับไปถึงระดับ 10!”

แมรี่บ่น “ใช่เลย ฉันพึ่งจะชวนกองทัพสีแดงเข้มได้ ฉันกำลังจะปาร์ตี้กับพวกเขาเพื่อที่จะฆ่าหมาป่าบางตัว แต่พวกเราก็ถูกบังคับให้ออกจากเกม! มันช่างน่าผิดหวังอะไรแบบนี้...”

“โอเค โอเค!”หลี่ซัวพูด “กลุ่มการฟาร์มเงินสีเหลืองอ่อนของพวกเรานั้นมีเป้าหมายหลักในการหาตัง ตราบเท่าที่พวกเราสามารถที่จะหาเงินในเกมได้มันก็เพียงพอแล้ว! สิ่งที่เป็นแบบบอสนั้นไม่จำเป็นที่พวกเราต้องไปสู้กับมันอยู่ดี!!”

แมรี่หัวเราะ “ฉันกำลังเดาอยู่ว่าคุณเจ้าของบ้านของเรานั้นกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบเขา บางทีเขาอาจจะยังไม่ถึงระดับสามด้วยซ้ำ!”

หลี่ซัวตอบกลับ “อย่าดูถูกพี่ชายหยู่ เขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะการต่อสู้ เมื่อเขานั้นคุ้นเคยกับโหมดช่วยเหลือ เขาจะแข็งแกร่งกว่าพวกเราอย่างแน่นอน!”

“เอาจริงดิ? ฉันสังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อของเขาค่อนข้างเยี่ยมเลย ฉันต้องการที่จะจับมัน...”

“โอ้? ฉันก็ต้องการที่จะแตะพวกมันเช่นกัน.... พี่ใหญ่ทำไมหน้าของพี่แดงละ? อย่าบอกว่าพี่ก็ต้องการที่จะแตะพวกมันเช่นกัน...”

หลังจากที่ฟังพวกเธอพูดกัน หน้าผากของหวังหยู่ก็เต็มไปด้วยเส้นสีดำ เขารู้สึกได้ว่าเด็กสาวทั้งสี่ที่อยู่ในบ้านเขานั้นไม่แตกต่างจากหมาป่าที่หิวโหยสี่ตัวเลย

เมื่อมองไปที่นาฬิกา มันก็ถึงเวลาที่มู่จี่เซียนนั้นจะกลับบ้าน หวังหยู่ก็หยิบเครดิตการ์ดและใส่มันเข้าไปในกระเป๋าตังของเขา

ไม่นานหลังจากนั้น มู่จี่เซียนก็กลับบ้าน และถือวัตถุดิบมาจำนวนมากในมือของเธอเมื่อเธอนั้นเดินตรงไปที่ห้องครัว

หวังหยู่ตามไปด้านหลังเธอและถามขึ้น “ที่รัก มันยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นเลย ทำไมคุณถึงกำลังจะทำอาหารละ?”

มู่จี่เซียนอธิบาย “ฉันจำเป็นที่จะต้องออกไปทำงานร้านอาหารต่อ ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าฉันทำอาหารตอนนี้เลย มิฉะนั้นละก็คุณก็จะหิวจนเหมือนกับเมื่อวานอีก”

เมื่อวานมู่จี่เซียนนั้นออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ เมื่อเธอนั้นทำงานเลิกเสร็จในตอนดึกนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าสามีของเธอนั้นยังไม่ได้กินอะไรเลย....โชคดีที่ผู้เช่าคนใหม่นั้นซื้ออาหารมาให้เขากิน มิฉะนั้นละก็หวังหยู่จะต้องอดทนหิวแน่

มู่จี่เซียนรู้เกี่ยวกับอารมณ์ของสามีเธอเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่หยิ่งยโสแต่เขาก็ยังมีความภาคภูมิใจของเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเขานั้นจะหิวจนตายเขาก็จะไม่ขอคนอื่นกินอยู่ดี

หวังหยู่หยิบผักออกมาจากมือของมู่จี่เซียนและเขาก็เช็ดเหงื่อที่มือของเธออย่างนุ่มนวลและพูด “ที่รัก ไม่ต้องออกไปทำงานคืนนี้ พวกเราไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะ ฉันรู้สึกอยากออกไปช็อปปิ้ง!”

หลังจากที่ฟังคำพูดของเขา มู่จี่เซียนลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง และพูดอย่างไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก “โอเค ถ้าอย่างงั้นฉันจะโทรไปหาร้านอาหาร...”

80 ดอลลาร์นั้นคือครึ่งหนึ่งของค่าแรงต่อวันของเธอ ถ้ามันไม่ใช่ที่หวังหยู่พูดว่าเขาต้องการที่จะออกไปเดินเล่น มู่จี่เซียนก็จะไม่เคยถามหาวันหยุดเลย!

“อื้ม!”หวังหยู่พยักหน้า

หวังหยู่พามู่จี่เซียนมาที่ร้านอาหารอันหรูหราในเขตช็อปปิ้งและผลักเธอเข้าไปข้างใน

มู่จี่เซียนมีท่าทางกังวลมากและพูดอย่างเงียบๆ “ที่รัก ฉันคิดว่าเราไม่มีเงินที่จะจ่ายมื้ออาหารที่นี่ ถ้าคุณต้องการที่จะกินที่นี่จริงๆ พวกเราสามารถที่จะกลับมาที่นี่หลังจากที่ฉันได้รับเงินเดือนมาในเดือนหน้าแล้ว!”

มู่จี่เซียนนั้นเคยได้ยินร้านอาหารนี้มาก่อน แม้แต่จานอาหารง่ายๆเช่นข้าวผัดก็มีราคา 80ดอลลาร์แล้ว พร้อมกับความจุของหวังหยู่ พวกเธอนั้นจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินหลายพันก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากร้าน

หวังหยู่หัวเราะ “ที่รักบริษัทเกมของคุณนั้นดีจริงๆ ฉันได้เงินบางส่วนมาจากมัน ดังนั้นฉันจะจ่ายค่าอาหรมื้อนี้เอง!”

“จริงหรอ?”มู่จี่เซียนมึนงงเล็กน้อย “ถ้าอย่างงั้นทำไมคุณถึงไม่ประหยัดเงินละ อย่าจ่ายมันทั้งหมดกับที่นี่ ผู้ชายไม่ควรที่จะออกจากบ้านโดยไม่มีเงินในกระเป๋าตังเลย ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะดูน่าอายมาก!”

หวังหยู่ตอบกลับ “มันโอเค! เงินสามารถที่จะหาได้เสมอๆ! ถ้าผมไม่ได้เลี้ยงภรรยาของผมแล้วละก็..... ถ้าอย่างงั้นจะมีใครอีกละที่ผมจะเลี้ยง?”

“ใครจะไปคิดละว่าถึงแม้ว่าหน้าตาของคุณจะดูใสซื่อมากก็ตามคุณก็ยังปากคอร้ายแบบนี้....”หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวังหยู่แล้ว ความรู้สึกอันหวานก็เพิ่มขึ้นในหัวใจของมู่จี่เซียน

หวังหยู่หัวเราะและไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

หลังจากกินเสร็จแล้ว หวังหยู่ก็พามู่จี่เซียนไปยังห้างสรรพสินค้า

“ที่รัก ไปซื้อเสื้อผ้าเถอะ....”

“โอเค! ฉันคิดว่าคุณควรที่จะไปซื้อเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน!”เมื่อเธอพูด มู่จี่เซียนก็กอดแขนหวังหยู่พร้อมกับเดินไปที่แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย

เมื่อผ่านแผนกเสื้อผ้าผู้หญิง มู่จี่เซียนก็ถูกหยุดโดยหวังหยู่

“มีอะไรหรอ?”

“พวกเราไปซื้อของในนี้กันเถอะ!”หวังหยู่พูดอย่างดื้อรั้น

มู่จี่เซียนหัวเราะ “ฉันไม่ได้ขาดเสื้อผ้าและบริษัทของฉันยังมีแอร์อีกด้วย...”

หวังหยู่ตอบกลับ “ผมก็ไม่ได้ขาดเงินเช่นกัน!”

มู่จี่เซียนพูดอย่างสงสัย “ที่รัก ฉันตระหนักได้ว่าคุณแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้…”

“มันไม่สำคัญที่ว่าผมนั้นเปลี่ยนไป ผมนั้นไม่เคยมีความกล้าที่จะพูดเรื่องแบบนี้มาก่อนหน้านี้เลยในอดีต!”หวังหยู่พูดพร้อมกับมีการแสดงออกที่ข่มขืนบนใบหน้าเขา

หวังหยู่นั้นอาศัยอยู่ในชีวิตที่หรูหราตั้งแต่ที่เขาเกิด เขาไม่เคยกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงิน ตั้งแต่ที่แต่งงานกับมู่จี่เซียนเกินกว่าครึ่งปี และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสองเดือนก่อนนั้นทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขานั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเงินมากแค่ไหน

สองเดือนก่อน ณ ที่ตรงนี้ มู่จี่เซียนนั้นจ้องไปที่เสื้อตัวหนึ่งเป็นระยะนานมาก แต่ก็ไม่ได้ซื้อมัน

เสื้อตัวนั้นมันไม่ได้แพงมาก มันประมาณ 1000 ดอลลาร์ ทุกครั้งที่พวกเขามาที่นี่ มู่จี่เซียนจะหยุดชั่วครู่หนึ่งและจ้องไปที่มันและก็กัดฟันของเธอและก็เดินจากไป

ในขณะที่มู่จี่เซียนนั้นไม่เคยงกเลยกับที่เธอจ่ายเสื้อผ้าให้กับหวังหยู่ เธอนั้นไม่แม้แต่ซื้อเสื้อกันหนาวให้กับตัวของเธอเองเลยด้วยซ้ำ

ไม่สำคัญว่าหวังหยู่นั้นไร้เดียงสาและไม่รู้เรื่องรู้ราวแค่ไหน เขาก็ยังรู้ว่าเสื้อผ้าคือหน้าตาของผู้หญิง ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยแค่ไหน ถ้าเธอนั้นสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันตลอดทั้งปี เธอก็จะไม่กล้าที่จะยกหัวขึ้นเมื่อเธออยู่กับเพื่อน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หวังหยู่นั้นแก้ไขปัญหาในการที่จะหาเงินได้แล้ว ดังนั้นเขาต้องการที่จะซื้อเสื้อกันหนาวให้กับมู่จี่เซียน

มู่จี่เซียนพูดอย่างอ่อนโยน “ที่รัก คุณก็รู้ว่าในตอนนี้ฉันนั้นมีความสุขมากแล้ว ครั้งหน้าเมื่อพวกเรามีลูก ฉันก็ต้องการให้พวกเขานั้นเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะดีทั้งศิลปะการต่อสู้และความรู้ทั่วไปอีกด้วย...”

หวังหยู่หัวเราะ “ไม่ต้องมาพูดหวานหน่า ผมเป็นผู้ชายและเป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ในอนาคตผมจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้เอง! นี่คือความรับผิดชอบของลูกผู้ชาย!”

“เฮ้ นั่นไม่ใช่ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้หรอกเรอะ?”

ในขณะที่หวังหยู่และมู่จี่เซียนกำลังคุยกันอยู่ เสียงที่น่ารำคาญก็ดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล

เมื่อเขามองไปทิศที่เสียงนั้นดังขึ้น หวังหยู่ก็เห็นชายที่ผอม

ชายคนนี้มีหน้าตาที่คุ้นมาก ด้านหลังของเขานั้นคือเด็กสาวที่อายุประมาณสิบเจ็ดปี ชายคนนี้จ้องไปที่มู่จี่เซียนอย่างหยาบคาย และพึมพำกับตัวเอง “ใครจะไปคิดว่าขยะที่ไม่รู้หนังสืออย่างมันจะมีแฟนที่สวยขนาดนี้?”

“และนายคือใคร?”หวังหยู่ถามอย่างเคร่งขรึม

ชายผอมตอบกลับ “นายลืมฉันไปแล้วเรอะ? พวกเราพึ่งจะพบกันในสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานที่มีความสามารถพิเศษก่อนหน้านี้ยังไงละ....”เมื่อเขาพูด ชายผอมก็หันหัวกลับไปหาเด็กผู้หญิงด้านแหลังเขาและพูด “นี่เธอเห็นหรือยัง? นี่คือผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่ฉันบอกเธอไง....ฮ่าๆๆๆ!”

หลังจากที่ฟังคำพูดของชายคนนี้พูด ทั้งหัวเราะและมองมาที่หวังหยู่เหมือนกับเธอกำลังมองคนบ้า

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอันแสบหูนั้น หวังหยู่ก็จำได้ในทันที ชายผอมคนนี้คือคนที่สัมภาษณ์เขาเมื่อวานที่หน่วยงานที่มีความพิเศษ

ชายผอมก็หัวเราะอีกครั้ง “เฮ้ ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ถ้านายพาแฟนสาวของนายมาซื้อของละก็ ทำไมนายไม่พาไปที่ถนนคนเดินละ นายสามารถที่จะซื้อที่นี่ได้อะไรบ้างอย่างงั้นเรอะ?”ถนนคนเดินนั้นเป็นตลาดที่ขายทุกอย่างในย่านช็อปปิ้ง เสื้อผ้าแถวนั้นมีราคาถูก และมันก็มีคุณภาพที่แย่พร้อมกับการออกแบบที่ธรรมดาๆทั่วไป มันเป็นทางเลือกของผู้คนที่ยากจน

“นี่ไม่ใช่ปัญหาของนาย!”มู่จี่เซียนไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้เมื่อเธอได้ยินคำด่าของชายผอม

ชายผอมนั้นเผยให้เห็นการแสดงที่ดำมืดและเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา “เคะเคะ สาวน้อย เธอนั้นค่อนข้างที่จะสวยนะ เธอสามารถที่จะหาหนุ่มที่ดีกว่านี้ได้ แต่เธอก็ยังเลือกคนบ้าแบบเขา! มองมาที่ฉัน ฉันสามารถที่จะซื้อเสื้อชิ้นไหนก็ได้ที่เธอต้องการในร้านนี้ได้!”

เมื่อเธอฟังที่ชายผอมพึ่งจะพูดไป เด็กสาวที่อยู่ด้านหลังของเขาก็พูดอย่างไม่มีความสุข “ผู้อำนวยการหวัง คุณกล้าที่จะจีบสาวต่อหน้าฉันอย่างงั้นเหรอ!”

ชายผอมหัวเราะอย่างหยาบคาย “ไม่ต้องกังวล ฉันก็ยังคงรักเธอเหมือนเดิม ครั้งหน้าก็จะมีเราสามคน....”

“ไอเหี้…..!” เสียงทุ้มๆก็ดังขึ้นมาในหัวของชายผอม และปล่อยเขาออกมาจากจินตนาการอันหื่มกามของเขาสู่ความจริง

ชายผอมตกตะลึง เมื่อมองไปและก็ตระหนักได้ว่าคนที่ตะโกนคือหวังหยู่

“ทำไมละ ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ นายไม่สามารถเล่นตลกได้อย่างงั้นเรอะ?”ชายผอมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป

“ไอ้เหี้...! มึงอย่าคิดว่ากูไม่กล้าที่จะกระทืบมึง!”หวังหยู่จ้องไปที่ชายผอมอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อเขาพูด

หวังหยู่นั้นเกลียดสองสิ่ง สิ่งแรกคือผู้คนที่ด่าศิลปะการต่อสู้ อย่างที่สองก็คือผู้คนที่ดูถูกภรรยาของเขา ชายคนนี้พึ่งจะข้ามเส้นที่เขาเกลียดไปสองครั้ง ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นเป็นคนที่ธรรมชาติแล้วเป็นคนดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เขาโกรธ

หลังจากที่ถูกจ้องโดยหวังหยู่ ชายผอมก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ และเขาก็เว้นระยะห่างกับหวังหยู่กับตัวเขาเอง และเขาก็ก้าวถอยหลังหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

มู่จี่เซียนนั้นกลัวว่าสามีของเธอนั้นจะพบเจอกับปัญหา เธอก็จ้องมองไปอย่างเย็นชาที่ชายผอมก่อนที่จะพูด “สามีของฉันมีเงิน ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องการความปรารถนาดีของนาย!”

ชายผอมก็หัวเราะ “โอ้ เอาจริงดิ? ฉันกังวลว่าเขาไม่สามารถที่จะนำเงินร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าเงินเขาด้วยซ้ำ!” เขานั้นดูถูกอย่างมากกับเงินที่หวังหยู่มี

หวังหยู่หัวเราะ และหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเงินและชี้ไปที่เสื้อกันหนาวที่มู่จี่เซียนชอบและบอกไปที่พนักงานบริการ “ฉันต้องการเสื้อตัวนี้”

“เอาเสื้อตัวนั้นและตัวนั้นมาด้วย!”เมื่อเขาพูด หวังหยู่ก็ชี้ไปที่เสื้อหลายตัวที่เขาพูด เสื้อทั้งหมดนั้นคือเสื้อที่มู่จี่เซียนต้องการมันอย่างลับๆ

ชายผอมประหลายใจ

ถึงแม้ว่าเสื้อที่นี้นั้นไม่มีราคาที่แพง แต่ราคาของมันก็อยู่ที่1000ดอลลาร์ถึง 5000ดอลลาร์ คนทำงานธรรมดาทั่วไปนั้นจะประหยัดเงินและก็จะซื้อแค่เสื้อตัวเดียว! ทำไมชายคนนี้ดูท่าทางไม่มีเงินเมื่อวานนี้ ถึงมีปัญญาที่สามารถจ่ายเงินนับหมื่นเพื่อซื้อเสื้อในวันนี้! ชายผอมช็อคจนแทบล้มลงกับพื้น

ชายผอมนั้นเป็นผู้จัดการระดับกลางในบริษัท เงินเดินของเขานั้นอยู่ที่ประมาณ 20000ดอลลาร์ เขาก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการตัวเขาเองที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อที่จะซื้อเสื้อผ้ามากขนาดนี่กับเด็กสาวคนไหนก็ตามได้

“ที่รัก คุณบ้าไปแล้วหรอ?” เมื่อเห็นหวังหยู่นั้นใช้เงินหลายหมื่นเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้กับเธอ มู่จี่เซียนก็ดึงเสื้อของเขาและพูดอย่างเบาๆ

หวังหยู่พูดอย่างแตกต่างออกไป “ที่รัก อย่าลืมว่าอาชีพในปัจจุบันของฉันคืออะไร ถ้าพวกเรานั้นกำลังเปรียบเทียบเรื่องเงินกันอยู่ละก็ ฉันก็ไม่หวาดกลัวใครเลยแม้แต่น้อย!”

แค่เกราะชิ้นเดียวในเกมก็มีราคาหลายพันดอลลาร์แล้ว การใช้จ่ายเงินเช่นนี้ในโลกเป็นจริงเพื่อที่จะซื้อเสื้อบางตัวให้กับภรรยาของเขานั้นหวังหยู่พบว่ามันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมาก

หลังจากที่หวังหยู่พูด ร่องรอยของความกังวลก็สามารถที่จะเห็นได้ในใบหน้าของมู่จี่เซียน แต่เธอก็ไมได้พูดต่อ

หลังจากที่ฟังหวังหยู่พูด ชายผอมก็สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว “ไอ้บัดซบนี่ งานที่น่าจะเป็นไปได้.....อย่าบอกนะว่า…”

ในโลกนี้นั้นมีอาชีพบางอาชีพที่ทำให้ทุกคนนั้นได้รับเงินอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีอาชีพธรรมดาที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถจะทำได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ชายผอมหวาดกลัวมากขึ้น เขาในใช้ประโยชน์ในช่วงเวลานี้เมื่อหวังหยู่นั้นไม่สนใจกับเขา เขาก็รีบหนีไปอย่างเงียบๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด