Chapter 166: มาถึงเขตแรกของเกาะเชนไฮ่
ขับรถจากเขตกลางเมืองไปยังเกาะเชนไฮ่ มันจะต้องใช้เวลาหลายชั่วมากก่อนวันโลกาวินาศ อย่างไรก็ตาม หลังจากวันโลกาวินาศแล้วพวกเขาจะต้องหยุดและพักเป็นเวลาหลายครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงถึงจุดหมายพวกเขาหลังจากกลางวันของวันต่อมา
หลังจากที่ถึงเขตแรกของเกาะเชนไฮ่แล้วพวกเขาก็พบว่ามันเป็นเมืองเล็กๆและตรงพื้นที่ศูนย์กลางนั้นมีสี่แยกอยู่
ตึกๆหนึ่งนั้นมีห้าชั้นและสามารถที่จะนับได้โดยใช้เพียงแค่มือเดียว ส่วนตึกอื่นนั้นพวกเขาก็พบกับสถาปัตยกรรมสไตล์จีนใต้พร้อมกับกระเบื้องสีเขียวบนดาดฟ้าและสีขาวสดบนกำแพง
จากมุมมองของเจียงลู่ฉี มันดูเหมือนกับเขตก่อสร้างหลายกิโลเมตร ล้อมรอบไปด้วยคอนกรีตที่ยาวไปนับสุดลูกหูลูกตา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกำแพงหนาถึงห้าเมตร ซึ่งเหมือนกับเป็นรากฐาน มันก็ยังเห็นแท่งเหล็กจำนวนมากที่เปิดเผยไว้อยู่
ก่อนการระบาดของไวรัส รัฐบาลนั้นออกคำสั่งให้รถไฟและถนนไว้ใช้เพื่อการขนส่งทรัพยากร นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเจียงจู้อิงถึงไม่มีทางกลับบ้าน
หลังจากวันโลกาวินาศ นักก่อสร้างที่มีความสามารถรวมกับคนธรรมดานั้นถูกเรียกว่านักออกแบบและก่อสร้างกำแพงล้อมรอบเมือง พวกเขายังคงทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อที่จะสร้างกำแพงเมืองซึ่งเป็นเส้นชีวิตสุดท้ายของเกาะเชนไฮ่
ในอนาคต มันสามารถที่จะถึงสิบห้าเมตรได้ เพื่อที่จะป้องกันการเผชิญหน้ากับสัตว์กลายพันธุ์และฝูงซอมบี้นับไม่ถ้วนและปกป้องคนนับแสนคนในเกาะ
หอคอยนที่สร้างบนกำแพงเมืองนั้นสูงสิบเมตร ถึงแม้ว่าทุกหอคอยนั้นยังไม่เสร็จดี อาวุธก็ถูกวางไว้บนพวกมันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็น 130มม.ปืนครก พร้อมกับปืนต่อต้านกองอากาศสามารถที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความปลอดภัย
ภายใต้กำแพง ทหารยามที่ทรงพลังที่มีปืนคุ้มกันอยู่ ทหารแต่ละคนนั้นสวมใส่ปืนไรเฟิลออโต้ ระเบิด และบางคนก็ยังมีrpgอีกด้วย มีทั้งหมดเก้าหน่วยอยู่บนถนนซึ่งก็มีกองทหารรักษาการณ์อยู่อีกด้วย การป้องกันของเมืองนั้นแข็งแกร่งเหมือนกับเหล็ก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครมั่นใจว่าอนาคตนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
ถึงแม้ว่ากำแพงเมืองนั้นจะยังไม่เสร็จดี ในทางข้าวของเมือง ประตูเหล็กหลายประตูก็ถูกติดตั้งแล้ว ประตูเหล็กพวกนี้นั้นถูกเชื่อมด้วยแผ่นเหล็ก ซึ่งสามารถที่จะป้องกันการยิงโดยตรงของปืนครกได้
ในแต่ละฝั่งของประตู มันมีทหารเกราะหนักนั้นซึ่งกำลังระบุว่าใครที่เข้ามาในเขตแรกของเกาะเชนไฮ่ พวกเขารอคอยอยู่ที่จะเข้าเมืองเป็นแถว หลายคนนั้นมีผิวที่หยาบและเหมือนกับเหยื่อที่อดอยาก พวกเขานั้นเป็นผู้รอดชีวิตธรรมดาที่รวมตัวกันจากที่อื่นและหาอาวุธที่พวกเขาสามารถหาได้ บางคนนั้นก็โชคดีที่อยู่ภายใต้การสั่งของพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ
ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนมากมายที่ตายระหว่างทาง การผลิตอาหารบนเกาะนั้นก็มีจำกัดมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงทุกคน ด้วยเหตุนี้ ผู้รอดชีวิตธรรมดาสามารถที่จะได้เสบียงที่จำกัดจากการทำงานอันหนักหน่วงในการก่อสร้างเมือง
ความหิวและความเมื่อยล้าควบคู่ไปกับการขาดยารักษานั้นทำให้หลายคนนั้นถึงแก่ความตาย ในความเป็นจริง ศพจำนวนมากนั้นถูกส่งออกจากเกาะทุกวัน เพื่อที่จะป้องกันเชื้อโรคจากซากศพและก็เผาและหลังจากนั้นมันก็ถูกฝังไว้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีหลุมศพเลย ขี้เถ้าพวกนั้นก็รวมกันและฝังไว้เฉยๆ
หลังจากวันโลกาวินาศ สิ่งนี้คือชะตากรรมอันเลวร้ายที่สุดรอคนธรรมดาอยู่
ทุกคนไม่ว่าจะมีสถานะแบบใดก็จะถูกส่งไปตรวจสอบบาดแผลและไวรัสก่อนที่จะเข้าเมือง!
แม้กระทั่งหลังจากการระบาดของไวรัสและทุกคนก็มีร่างกายที่พัฒนาการต่อต้านไวรัส คนธรรมดาทั่วไปก็ยังสามารถที่จะติดเชื้อไวรัสได้จากไวรัสในร่างกายของซอมบี้ได้กลายพันธุ์และวิวัฒนาการและทำให้การต่อต้านไวรัสพวกนั้นมันไร้ประโยชน์ เมื่อครั้งหนึ่งโดนกัดโดยซอมบี้ มันก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อมากกว่า 90เปอร์เซ็นต์
กฎของเกาะเชนไฮ่นั้นเริ่มต้นจากใครที่มีบาดแผลจะต้องถูกแยกออกไปเพื่อตรวจสอบและทุกคนจะต้องยอมรับการตรวจสอบนี้ ทุกคนที่ติดเชื้อไวรัส ที่อยู่ในกระบวนกลายพันธุ์เป็นซอมบี้สามารถที่จะเห็นได้ชัดเจนจากแววตาของพวกเขา
ในประตูของเมืองนั้นมีพื้นที่กักกัน8ที่ที่ถูกตั้งอยู่และพื้นที่กักกันแต่ละที่ก็มีทหารที่ติดอาชีพคอยเฝ้าอยู่ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า ถ้ามันเกิดขึ้นพวกเขาก็จะฆ่าในทันที ไม่มีไวรัสที่หลุดออกมาในเมืองได้
6ใน8ของพื้นที่กักกันนั้นเตรียมไว้สำหรับคนธรรมดา เนื่องจากการตรวจสอบที่เข้มงวด ทำให้มีคิวรอนานมากในแต่ละจุด การยืนภายใต้แดดจ้าโดยไม่มีที่กำบังสามหรือสี่ชั่วโมงนั้นเป็นงานที่ยากสำหรับพวกคนที่หิวโหย คนหลายคนนั้นเป็นลมเนื่องจากการขาดน้ำตาลในเลือด
ในการที่จะตรวจบาดแผล บางครั้งนั้นจะต้องแตะร่างกาย ดังนั้นผู้ที่รับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเขตกักกันก็คือผู้หญิงทั้งหมด ผู้คนส่วนมากนั้นใจร้อนเนื่องจากพวกเขานั้นทำกระบวนการแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก บางครั้งพวกเขาก็ผลักผู้รอดชีวิตแรงเกินไปและในบางกรณีผู้รอดชีวิตบางคนก็ถูกโยนกระแทกลงกับพื้น เมื่อพบเจอกับการกระทำแบบนี้ ผู้รอดชีวิตก็ด่าอย่างเงียบๆแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงให้เห็นถึงความไม่นับถือ พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนและไปตรวจสอบต่อ
อย่างไรก็ตาม อีกสองแห่งนั้นมีการดูแลที่แตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นถูกเตรียมไว้ให้กับพวกนักสู้ พวกที่เรียกว่านักสู้คือคนจำนวนมากในกองกำลังต่อสู้ ที่ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีปืนไรเฟิลหรือปืนพกและมีกระสุนมากกว่าร้อยนัด ส่วนจุดสุดท้ายนั้นเตรียมไว้สำหรับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องรอ
ผู้ตรวจสอบในจุดกักกันก็คือสาวสวยหกคนและทหารระดับสูงสองคน สาวสวยหกคนที่จริงแล้วเป็นทหารทางด้านวรรณกรรมและศิลปะ มีความสามารถในการร้องและเต้น ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอนั้นทั้งอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มหวาน พวกเธอถามคำถามทีละคำถามและหลังจากนั้นพวกเธอก็เขียนเอกสารขึ้นทะเบียนให้
เฉินเต๋าลงจากรถและมองไปที่ผู้ลี้ภัยและหลังจากนั้นก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ “คนธรรมดานั้นโชคร้ายมาก พวกเขาไม่ได้รับการอนุญาติให้ขับรถเข้าไปในเมือง ดังนั้นก็มีรถมากมายจอดด้านนอก ในขณะที่น้ำมันของพวกเขาก็ถูกใช้โดยกองทัพ แน่นอนว่ากองทัพก็จะให้อาหารตอบแทน ในเพียงเวลาไม่นานพวกเขาก็ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันเพื่อที่จะทำงานด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด แล้วก็ไม่พอใจกับความหิวโหย และก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นหรือบางทีก็บางเต้น ในหน้าหนาว มันก็หนาวเย็นมาก...”
“สำหรับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ พวกเขานั้นดีกว่ามาก....พวกเขาอนุญาตให้ขับรถของพวกเขาเข้าเมืองได้และพวกเขาก็ยังคงได้อพาร์ทเมนต์เล็กๆ ถ้าเขาหรือเธอนั้นมีความสามารถที่แข็งแกร่งซักเล็กน้อย พวกเขาก็สามารถที่จะอาศัยบนเกาะเชนไฮ๋ได้ด้วย แล้วก็มีอพาร์ทเมนต์ใหม่ระดับสูงและด้านอพาร์ทเมนต์นั้นก็มีคฤหาสน์อีกด้วย”เฉินเต๋าแนะนำให้กับพวกเขา
เจียงลู่ฉีพยัก ทันใดนั้นเขาก็จำได้กับอะไรบางอย่างและหลังจากนั้นก็ถามขึ้น “แล้วพวกชนชั้นยอดละ? พวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหนกัน?”เขานั้นต้องการที่จะรู้ว่าหลี่ยู่ซินนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน ตามความเป็นไปได้แล้วหลี่ยู่ซินน่าจะเป็นคนธรรมดา