ตอนที่แล้วบทที่ 32 การอนุมัติ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 พัดลม (อ่านฟรี)

บทที่ 33 ไม่ใช่หรือ? (อ่านฟรี)


 

 

เลี้ยงอาหารหนึ่งมื้อ ก็สามารถคลี่คลายปัญหาเรื่องใบอนุญาต พอทานอาหารเสร็จ เฝิงหยู่เพิ่งจะคิดออกว่านี่เป็นปีที่การค้าระหว่างประเทศจีนกับสหภาพโซเวียตมาถึงจุดสูงสุด ระดับสูงของประเทศเคยพูดเปรยๆไปแล้ว ฉะนั้น ต่อให้เฝิงหยู่ขอใบอนุญาตตามปกติ เขาก็น่าจะได้รับการอนุมัติ

 

ในความเป็นเป็นจริงคือ การค้าระหว่างเมืองหลงเจียงและสหภาพโซเวียตไม่เคยหยุดชะงัก แม้ในช่วงเวลานี้ความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไม่กระเตื้อง แต่ก็มีการไปมาหาสู่กันเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว

 

ในช่วงฤดูหนาวที่แม่น้ำถูกแช่แข็ง ผู้คนจะขับรถบรรทุกเข้าสู่สหภาพโซเวียตได้  เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศดีขึ้น ต่อให้มีการตรวจสอบที่ชายแดนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงพิธีการบังหน้าเท่านั้น

 

แค่มองจากจำนวนรถลาดาและวอลก้า ที่เมืองหลงเจียงถือเป็นเมืองที่มีจำนวนรถยี่ห้อลาดาและโวลก้ามากที่สุดในประเทศ หรืออาจจะมีมากว่ารถที่นำเข้ามาจีนด้วยซ้ำ

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เฝิงหยู่ขับรถไปที่สำนักงานของกรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานของกรมการค้าต่างประเทศตั้งอยู่ในอาคารที่มีหน่วยงานอื่นๆอีกมากมาย มีผู้คนเข้าคิวที่แผนกอื่นๆมากมาย แต่แผนกกรมการค้าต่างประเทศกลับว่างเปล่า พอเห็นเช่นนี้ ก็รู้ได้เลยว่าวันคืนของผู้จัดการหลี่คงไม่ดีนักหรอก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น คนๆหนึ่งท่าทางน่าจะเป็นเลขาเดินเข้ามา เฝิงหยู่พูดความต้องการของเขา จึงได้รับเชิญเข้าไปในห้อง

 

ผู้จัดการหลี่กำลังก้มหน้าอ่านเอกสารรายงานด้วยท่าทางเหมือนไม่สนใจเฝิงหยู่ นี่คือวิธีการปกติสำหรับคนที่มีตำแหน่งสูงเพื่อแสดงถึงความเหนือกว่าของพวกเขา  แม้นสิ่งนี้อาจใช้ได้ผลกับคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่กับเฝิงหยู่

 

ผู้จัดการหลี่เงยหน้าเล็กน้อยชายตามองเฝิงหยู่ เฝิงหยู่นั่งสบายๆบนโซฟาขาไขว่ห้าง ท่าทางสุขุมเยือกเย้น ผู้จัดการหลี่จึงคิดกับตัวเองว่า "เด็กคนนี้ ไม่ร้อนรนอะไรเลยหรือไง"

 

"แคก ~ ~ เฝิงหยู่ มาแล้วหรือ" ผู้จัดการหลี่ถาม

 

"เพิ่งมาถึงครับ ต้องขอโทษด้วยที่รบกวน" เฝิงหยู่กล่าวอย่างสุภาพ และคิดว่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเลขานุการของคุณจะไม่ได้บอกคุณว่าจะฉันจะเข้ามา

 

"เอาเถอะ เมื่อวานเธอบอกว่าเธอมีบริษัทที่ต้องการยื่นขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าใช่ไหม?" ผู้จัดการหลี่ถาม

 

"ครับ" เฝิงหยู่ตอบ

 

"เมื่อวานนี้เราได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในที่ประชุม ทางเราสามารถอนุมัติใบอนุญาตนำเข้าสินค้าให้เธอได้ แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง" ผู้จัดการหลี่กล่าว

 

"สินค้าที่เบื้องบนไม่อนุญาตให้นำเข้า ผมคงไม่นำเข้าสินค้าเหล่านั้น" เฝิงหยู่ตอบ แต่ในใจคิด: ข้อจำกัดกับผีสิ ฉันสามารถทำกำไรกับสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปได้ตั้งมากตั้งมาย แล้วทำไมฉันต้องไปข้องเกี่ยวกับสินค้าผิดกฎหมายกัน? "

 

ความหมายของเฝิงหยู่ชัดเจนมาก เขาจะนำเข้าสินค้าที่เขาได้รับอนุญาตให้นำเข้าเท่านั้น

 

"ในปีๆหนึ่ง เธอนำเข้าและส่งออกมากแค่ไหน? ฉันหมายถึงมูลค่าของสินค้าเป็นจำนวนเท่าไหร่? " ผู้จัดการหลี่ถาม

 

เฝิงหยู่ครุ่นคิดสักพัก แล้วกล่าวว่า "ปีนี้น่าจะประมาณ 5 ล้าน"

 

ครึ่งปีได้ 5 ล้าน ถ้าอย่างนั้นหนึ่งปีก็จะเป็น 10 ล้าน? ถึงจะกล่าวเกินจริงไปบ้าง แต่สัก7-8 ล้านก็อาจจะถึง ธุรกิจของชายหนุ่มคนนี้ใหญ่มาก

 

เฝิงหยู่ตอบเสริมขึ้นมาว่า: "เงินรูเบิ้ล"

 

ผู้จัดการหลี่หายใจลึกๆ เงินรูเบิล? แปลงเป็นเงินหยวน ปีๆหนึ่งก็น่าจะได้ถึง 30-40 ล้าน? นี่ไม่ใช่ธุรกิจการค้าขนาดเล็กแล้ว แม้แต่โรงงานของรัฐบางแห่ง ปีๆนึงยังทำการค้าได้ไม่มากขนาดนี้  หน้าที่ของพวกเขาคือการทำให้การนำเข้าของกรมการค้าต่างประเทศทำเป้าถึง 100 ล้านรูเบิล แต่เด็กคนนี้สามารถบรรลุหนึ่งในสิบของเป้าหมายได้แล้วอย่างนั้นหรือ?

 

ถึงแม้ประหลาดใจใจ แต่ผู้จัดการหลี่ก็ยังแสดงสีหน้าสุขุมนุ่มลึก พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจว่า เพื่อสื่อว่าเขารับรู้แล้ว

 

เฝิงหยู่แอบตรวจสอบแล้ว ในหนึ่งปีการนำเข้าส่งออกเกิน10 ล้านรูเบิลยังไม่ถือว่าเป็นยอดสูงที่สุดในเมืองหลงเจียง แต่สำหรับองค์กรเอกชน นั่นถือเป็นยอดที่สูงที่สุดแล้ว ตอนนี้ผู้จัดการหลี่รู้ถึงความสามารถของเฝิงหยู่ ต่อจากนี้ เฝิงหยู่จะครองความได้เปรียบเพื่อรับสิทธิพิเศษบางอย่าง

 

"ผู้จัดการหลี่ เมืองของพวกเราขาดแคลนอะไรบ้างครับ? ตราบใดที่สหภาพโซเวียตอนุญาตให้มีการส่งออกได้ ผมจะสรรหาและนำเข้าสินค้าที่คุณต้องการ เมืองของพวกเราทำการค้ากับสหภาพโซเวียตมาน่าจะสองปีแล้ว จนกลายเป็นเมืองที่ทำการค้ากับโซเวียตมากที่สุด หากมีบริษัทที่นำเข้าส่งออกสินค้ามากขึ้น ภาษีก็จะเพิ่มขึ้น แน่นอน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ดุลพินิจของผู้จัดการหลี่" เฝิงหยู่กล่าว

 

"อา ~ ~ มันเป็นความดีความชอบของระดับสูง" ผู้จัดการหลี่มีสีหน้าปลื้มปิติ แต่แกล้งทำเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

 

หากกรมการค้าต่างประเทศสามารถทำให้บริษัทเหล่านี้หารายได้จากต่างประเทศได้ แล้วภาษีเพิ่มขึ้น นี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา บางทีเขาอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งก่อนเกษียณ แต่ประการแรก บริษัทนี้จะต้องดีอย่างที่เฝิงหยู่ได้กล่าวมา

 

ผู้จัดการหลี่สั่งให้คนของเขาตรวจสอบบริษัทเฝิงหยู่ ทุนจดทะเบียนมีเพียง 200,000 หยวนเท่านั้น แต่เฝิงหยู่อ้างว่าสามารถทำธุรกิจการค้าได้ถึง 10 ล้านรูเบิ้ลต่อปี เด็กคนนี้ต้องใช้ช่องโหว่อะไรบางอย่าง!

 

ในยุคสมัยนี้ กฎหมายยังไม่สมบูรณ์แบบ มีช่องโหว่มากมายที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่หลี่ซื่อเฉียงทำการซื้อขายพันธบัตร หากเป็นสมัยที่เฝิงหยู่ยังไม่ย้อนวัยกลับมา ซึ่งเป็นยุคที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก ราคาพันธบัตรคงไม่มีความต่าง จึงไม่สามารถทำธุรกิจเช่นนี้ได้

 

แต่ยุคสมัยนี้สามารถทำธุรกิจนี้ได้ ทั้งยังทำได้กำไรมากและถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

 

ผู้จัดการหลี่ไม่สนใจว่าเฝิงหยู่อาศับช่องโหว่อย่างไร เขาเพียงต้องการจะทำเป้าในการนำเข้าส่งออกสินค้าให้ถึง 100 ล้านหยวนเท่านั้น ถ้าเฝิงหยู่ถูกจับได้ว่าทำอะไรผิดกฎหมายก็ดีไป เพราะทรัพย์สินของเขาจะถูกยึด แล้วบริษัทการค้าไท่หัวจะกลายเป็นของกรมการค้าต่างประเทศทันที

 

ที่สำคัญคือ นี่เป็นบริษัทเอกชนรายแรก เขาจึงสามารถรายงานผู้นำของเขาเพื่อเอาความดีความชอบได้ และจะทำให้บรรดาผู้นำเล็งเห็นความสำคัญในตัวเขามากขึ้น

 

"อืม นำเอกสารนี้ไปให้รองผู้จัดการจาง แล้วเขาจะบอกเธอเองว่าต้องทำอย่างไร " ผู้จัดการหลี่กล่าว

 

เฝิงหยู่มองเอกสารใบอนุญาตซึ่งไม่เขียนอะไรไว้มากมาย แต่เฝิงหยู่เคยได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีรหัสลับอยู่ในเอกสารของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ลายเซ็น เครื่องหมายวรรคตอน แต่ไม่ว่ายังไง เฝิงหยู่ก็มองไม่ออกอยู่ดี

 

"ขอบคุณครับ ผู้จัดการหลี่ รอให้เอกสารการอนุมัติเสร็จสิ้นแล้ว อยากให้ผู้จัดการหลี่แนะนำร้านอาหารดีๆให้ผมสักร้าน แล้วพวกเราไปลองชิมกันสักมื้อ ผมยังอยากได้คำแนะนำจากผู้จัดการหลี่นะครับ" เฝิงหยู่กล่าว

 

ผู้จัดการหลี่รู้สึกพอใจกับท่าทีของเฝิงหยู่มาก แค่ทานอาหารสักมื้อคงไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เขาเป็นกังวลว่าเฝิงหยู่จะใช้ช่องโหว่กฎหมายทำอะไรไม่ดีจนถูกจับ แล้วเขาจะพลอยติดร่างแหไปด้วย

 

พอรับเอกสารจากผู้จัดการหลี่ เฝิงหยู่ก็ไปหารองผู้จัดการจางที่สำนักงาน

 

ในตอนที่เข้ามาในห้องทำงานของผู้จัดการจาง เฝิงหยู่รู้สึกคุ้นเคยรองผู้จัดการจางคนนี้มาก พอเฝิงหยู่เห็นเอกสารบางที่วางกองอยู่ ซึ่งเซ็นลงนามว่า จางรุ่ยเฉียง เฝิงหยู่จึงจำได้ทันที

 

รองผู้จัดการจางคนนี้ คือนายกเทศมนตรีในอนาคตของเมืองปิงไม่ใช่หรือ? ในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจปี 2540 ช่วงเวลานั้น จางรุ่ยเฉียงถูกตำหนิจากประชาชนในเมืองปิง แต่ต่อมา หลายคนพูดกันว่าเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะจางรุ่ยเฉียงมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ หลายคนยังไม่ถูกเลิกจ้างและพึ่งพารายได้อันน้อยนิดผ่านคืนวันขมขื่น แต่ชีวิตของคนเหล่านี้ดีขึ้นหลังจากการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ

 

ในอนาคต เขาจะเป็นหนึ่งในผู้นำกระทรวงและกรรมาธิการ ถ้าเฝิงหยู่ยึดเป็นที่มั่นได้ ในอนาคตเฝิงหยู่จะได้รับประโยชน์มากมาย เฝิงหยุ่คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอกับจางรุ่ยเฉียงที่กรมการค้าระหว่างประเทศ เฝิงหยู่คิดในใจว่า: "ฉันจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาได้อย่างไร? ดูเหมือนว่ามันจะเป็นงานที่ยากเลยทีเดียว"

 

เฝิงหยุ่ไม่ได้คาดหวังว่าในอนาคตจางรุ่ยเฉียงจะมาช่วยเหลือเขา เฝิงหยุ่เพียงต้องการให้จางรุ่ยเฉียงให้ความเป็นธรรมกับเขา และไม่ให้คนอื่นสร้างปัญหาให้ก็เท่านั้น เพราะอีกไม่กี่ปี ธุรกิจของเฝิงหยู่จะขยายตัวใหญ่ขึ้น

“ผู้จัดการจางครับ ผมมาจัดทำเอกสารเพื่อให้ได้ใบขออนุญาตการนำเข้าสินค้าครับ” เฝิงหยู่ ตัดคำว่า รอง ออก จึงเป็นการเรียกที่รื่นหูขึ้นมาหน่อย

 

รองผู้จัดการจางเงยหน้าขึ้นมอง “เตรียมเอกสารมาแล้วใช่ไหม เอามาให้ฉันดูสิ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด