บทที่ 32 การอนุมัติ (อ่านฟรี)
เช้าวันรุ่งขึ้น เฝิงหยู่จัดให้พนักงานของเขาบรรทุกสินค้าจากคลังสินค้าไปยังขบวนรถไฟ เขายังคงถกเถียงกับซัพพลายเออร์บางรายต่อหน้าจีหลี่เหลียนเคอ ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อขอลดราคา แต่ในความเป็นจริง เฝิงหยู่กำลังกำคุยกับพวกเขา หากเขาสามารถชำระเงินได้หลังจากที่สินค้าไปถึงเมืองมอสโกแล้ว
ในจำนวนนั้นมีไม่กี่รายที่เห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ แต่ส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับเฝิงหยู่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำงานร่วมกัน และในเมื่อเซ็นสัญญากันแล้ว ทุกอย่างก็ควรเป็นไปตามสัญญา
จีหลี่เหลียนเคอรับรู้ทุกสิ่งอย่างที่เฝิงหยู่ทำเพื่อเขา เฝิงหย่เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเต็มใจที่จะขุ่นข้องหมองใจกับเพื่อนร่วมชาติของเขาเพื่อจีหลี่เลียนเคอ จีหลี่เหลียนเคอจึงครุ่นคิดถึงของขวัญที่จะมอบให้เฝิงหยู่ในการเดินทางมาจีนครั้งหน้า จีหลี่เหลียนเคอไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขากำลังถูกเฝิงหยู่หลอก
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ซัพพลายเออร์ที่ตกลงยอมให้ชำระเงินในภายหลังก็จำจดเอาไว้ ส่วนผู้ที่ปฏิเสธเขา รอให้เขาหาแหล่งซื้อของจากที่อื่นๆได้ จะเฉดหัวทิ้งทันที!
วันที่สามหลังจากนั้น สินค้าทั้งหมดถูกโหลดใส่ขบวนรถไฟ จีหลี่เหลียนเคอนำเงินสดจำนวนมากให้แก่เฝิงหยู่
จีหลี่เหลียนเคอบอกเฝิงหยู่ว่ามันไม่สะดวกที่เขาจะพกเงินสดติดตัวมาจำนวนมาก และยังเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะถอนเงินจากบัญชีธนาคารระหว่างประเทศในประเทศจีน เฝิงหยู่จึงพูดขึ้นมาทันทีว่าเขาจะคิดหาทางแก้ไขปัญหานี้ โดยจีหลี่เหลียนเคอโอนเงินให้กับเขา แล้วเขาจะจัดซื้อสิ้นค้า พร้อมทั้งช่วยเขาในการจัดส่งสินค้าให้
จีหลี่เหลียนลังเลและบอกว่าเขาขอคิดดูก่อน พวกเขาจะพูดคุยกันอีกทีในภายหลัง เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก จีหลี่เหลียนเคอจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ครั้งต่อไป เขาจะมาพร้อมกับคนจำนวนหนึ่งซึ่งเข้าใจเรื่องการซื้อขาย ถ้าเป็นไปได้เขาก็จะลงนามทำสัญญากับเฝิงหยู่
ทันทีที่จีหลี่เหลียนเคอจากไป สำนักงานของเฝิงหยู่ก็เต็มไปด้วยผู้คน สินค้าขนส่งเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาที่จะเรียกเก็บเงินตามสัญญา
เฝิงหยู่โบกมือให้พวกเขา กล่าวว่า: "ตามกันไปที่ธนาคารด้วยกันสิ! “ นี่เป็นความร่วมมือครั้งแรก จึงไม่อยากชักช้าหรือเป็นหนี้ค้างชำระเงิน ข้อเสนอในอนาคตของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับความจริงใจที่อีกฝ่ายมี
การนำเงินจำนวน 450,000 รูเบิ้ลไปฝากที่ธนาคาร ทำให้ผู้จัดการธนาคารตกใจ นี่เป็นลูกค้ารายใหญ่เชียวนะ ถึงกับมีเงินสกุลต่างประเทศจำนวนมาก
ไม่มีการพูดมากความ เริ่มดำเนินการให้เป็นพิเศษ ถึงธนาคารมีเงินหยวนไม่เพียงพอก็ไม่มีปัญหา. ซัพพลายเออร์บางรายยินดีรับโอนเงินผ่านธนาคาร มีบางรายยังระบุว่าพวกเขายินดีรับเงินสกุลต่างประเทศ
ยอมรับเงินสกุลต่างประเทศ? ผู้จัดการธนาคารไม่เห็นด้วยหรอก ช่วงเวลานี้ การทำแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสร้างผลกำไรมาก ผู้จัดการสาขาจึงขอให้สาขาหลักส่งเงินหยวนมาแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลจำนวนนี้
หลังจากที่บรรดาซัพพลายเออร์จากไปแล้ว ผู้จัดการสาขาของธนาคารได้จับมือของเฝิงหยู่เอาไว้ เพื่อไต่ถามว่าเฝิงหยู่ได้รับเงินสกุลต่างประเทศเป็นจำนวนมากจากที่ใด
พอรู้ว่าเฝิงหยู่ช่วยชาวรัสเซียทำทำข้อตกลงทางธุรกิจในการจัดซื้อสินค้า ผู้จัดการธนาคารจึงรู้สึกผิดหวัง เพราะเขาคิดว่านี่เป็นเพียงข้อตกลงทางธุรกิจเพียงครั้งเดียว ผู้จัดการธนาคารกำลังมองหาแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพ และเขาคิดว่าเฝิงหยู่จะเป็นช่องทางที่มั่นคงนั้น
เฝิงหยู่เอนกายนั่งลงบนโซฟา ขาไขว่ห้าง “ผู้จัดการจู อันที่จริง ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีช่องทางหาเงินสกุลประเทศได้อย่างต่อเนื่อง แต่ผมมีปัญหาเรื่องใบอนุญาต”
ผู้จัดการจึงรีบเรียกคนมาเปลี่ยนถ้วยชาซึ่งเป็นชาที่ดีกว่า กล่าวว่า "คุณเฝิง เธอมีปัญหาอะไร? บางทีฉันอาจช่วยได้ "
"ผมเปิดบริษัท และต้องการทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ผมมีช่องทางการจำหน่ายและมีซัพพลายเออร์พร้อมแล้ว แต่ผมมีปัญหาเรื่องใบอนุญาต ตอนนี้ผมมีเพียงใบอนุญาตส่งออกสินค้าเท่านั้น ยังไม่มีใบอนุญาตในการนำเข้าสินค้า"
"ฉันรู้จักผู้จัดการหลี่ของกรมการค้าต่างประเทศ ฉันสามารถช่วยประสานงานให้เธอได้ แต่บริษัทของเธอต้องเปิดบัญชีที่ธนาคารสาขานี้เท่านั้น และเงินที่เข้าออกบัญชีต้องไม่น้อยกว่า 400,000 รูเบิลต่อเดือน " ผู้จัดการจูกล่าว
จากที่ผู้จัดการจูเดา คือเฝิงหยู่ทำธุรกิจแบบครั้งเดียวจบ พอมาตอนนี้เฝิงหยู่บอกว่าเปิดบริษทเป็นของตัวเอง เฝิงหยู่น่าจะมีลู่ทางของเขา แต่หนทางคงไม่ง่ายดายนักหรอก
หากผู้จัดการจูสามารถทำยอดในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้หลายล้านต่อปี เขาอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นผู้จัดการสาขาประจำมณฑล ถึงแม้ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ความดีความชอบก็ยังใหญ่หลวง
"ถ้าเช่นนั้น ผมคงต้องรบกวนผู้จัดการจูแล้วครับ แต่ยอดเงินต่างประเทศผ่านบัญชีถึง 400,000 รูเบิลต่อเดือน มันอาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ผมสามารถสัญญาว่า ไม่ว่าบัญชีของผมมีเงินสกุลต่างประเทศเท่าไหร่ ธนาคารสาขานี้จะเป็นผู้รับแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้ผมทั้งหมด " เฝิงหยู่กล่าว จีหลี่เหลียนเคอยังไม่ตกลงข้อเสนอของเฝิงหยู่เลย เฝิงหยู่จึงไม่กล้าตกปากรับคำ
"เอาอย่างนั้นก็ได้ พรุ่งนี้ฉันจะนัดผู้จัดการหลี่ไปทานอาหาร ส่วนสถานที่ก็ .... " ผู้จัดการจูกล่าว
"เอาเป็นอาหารตะวันตกร้านหวาเหม่ยซีดีไหมครับ? ผมจะได้จองไว้ให้" เฝิงหยู่กล่าว
ดวงตาของผู้จัดการจูเป็นประกาย อาหารที่ร้านอาหารหวาเหวยซีมีราคาแพงมาก เฝิงหยู่ผู้นี้ใจถึงจริงๆ
"เอาตามนั้นละกัน พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น " ผู้จัดการจูกล่าว
เมื่อถึงวันนัด เฝิงหยู่ขับรถลาดาไปรับผู้จัดการจูที่ธนาคาร ผู้จัดการจูรู้สึกประทับใจมาก เพราะคนที่สามารถขับรถนำเข้าในยุคสมัยนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถมาก
เมื่อถึงเวลา 5โมงเย็น ผู้จัดการหลี่ขับรถมาถึงร้านอาหารหวาเหม่ยซี ผู้จัดการจูจึงรีบเดินมาต้อนรับทันที แล้วยื่นมือทั้งสองข้างจับมือของผู้จัดการหลี่แล้วเขย่าเบาๆ
เฝิงหยู่ยื่นมือออกมาข้างเดียวและจับมือเชคแฮนกับหัวหน้าหลี่ หัวหน้าหลี่ขมวดคิ้ว แล้วคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างเย่อหยิ่ง
โชคดีที่หัวหน้าหลี่พึงพอใจกับร้านอาหารนี้ อาหารที่เฝิงหยู่สั่งล้วนเป็นอาหารจานเด็ด เป็นเมนูพิเศษของร้าน เขาสั่งปลาแซลมอน เนื้อแกะ กุ้งเผาและอื่น ๆ อีกมากมาย
หลังจากรับประทานอาหารสักพัก ผู้จัดการจูกล่าวว่า "หัวหน้าหลี่ บริษัทของผู้จัดการเฝิงต้องการใบอนุญาตนำเข้าสินค้า รบกวนคุณช่วยอนุมัติ"
ผู้จัดการหลี่วางแก้วไวน์ลง แล้วกล่าวว่า "การที่จะได้รับการอนุมัติให้นำเข้าสินค้าไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย ช่วงเวลานี้ รัฐบาลสนับสนุนแค่การส่งออก ถ้าเป็นการส่งออกละก็ คงอนุมัติให้ได้ทันที"
"ผู้จัดการหลี่ครับ ปัจจุบันจีนกำลังเปิดประเทศและสนับสนุนให้เราทำค้าขาย แม้ว่าผมจะนำเข้าสินค้า แต่ก็ยังเป็นการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ของประเทศของเรา ทั้งยังยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชาชนในประเทศอีกด้วย " เฝิงหยู่กล่าว
"เธอหมายความว่าเธอกำลังทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของทุกคนหรือไง?" ผู้จัดการหลี่ถาม
ผู้จัดการหลี่พูดอย่างไม่เกรงใจ เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูแคลน แต่เฝิงหยู่ไม่สนใจ ดูเหมือนผู้จัดการจูร้อนรนกว่าเขาอีก เฝิงหยู่ได้เคยลองสอบถามแล้ว เรื่องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศสำหรับผู้จัดการจูถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เฝิงหยู่จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเขาสามารถทำให้ผู้จัดการหลี่ตกลงได้
“ผู้จัดการหลี่ ดูบทความนี้”กิจวัตรประชาชน" สิครับ ประเทศของเรามีมิตรภาพอันดีกับสหภาพโซเวียต ผมก็คือเอเจนซี่ ทุกครั้งที่ลูกค้าของผมมา พวกเขาจะซื้อสินค้าและส่งสินค้าจากประเทศของเราผ่านทางรถไฟไปยังเมืองมอสโก นี่เป็นโอกาสดีในการพัฒนาประเทศของเรา สิ่งที่ผมต้องการนำเข้าคือสินค้าที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศจีน จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมซื้อเหล่านั้นจากสหภาพโซเวียต แล้วมาวิจัยศึกษาด้วยตัวเอง? หากผลิตเองได้ไม่เท่ากับว่าเราสร้างคุณงามความดีใหญ่หลวงแก่ประเทศของเราหรือ" เฝิงหยู่กล่าว
ผู้จัดการหลี่มองไปที่บทความ "กิจวัตรประชาชน" ซึ่งข้อความมีความชัดเจนมาก ประเทศจีนกำลังส่งเสริมการค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา แล้วประเทศจีนยังลงนามในข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่นๆอีกมากมาย
มณฑลที่ติดชายฝั่งทะเลเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีน มันมีข้อแตกต่างระหว่างมณฑลติดชายฝั่งทะเลกับมณฑลภายในประเทศที่ห่างไกลทะเล ส่วนมณฑลที่เฝิงหยู่อาศัยอยู่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย
ในการประชุมเมื่อวาน ระดับสูงได้ขอให้กรมการค้าต่างประเทศสนับสนุนและให้ความสำคัญกับการค้านำเข้าและส่งออกในพื้นที่ชายแดน เพื่อยกระดับการครองชีพของประชาชนให้สูงขึ้น ผู้นำยังต้องการให้กรมการค้าต่างประเทศรับปากว่าในปีนี้จะมีบริษัทหลายแห่งที่ทำการค้าทั้งนำเข้าและส่งออก มูลค่าการซื้อขายของบริษัทต้องเป็นไปตามเป้าที่ระบุ
อันที่จริง ตอนนี้ผู้จัดการหลี่กำลังเป็นกังวล มีเพียงไม่กี่คนที่ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออก ชาวจีนมีเป็นจำนวนมาก และสหภาพโซเวียตเป็นประเทศที่เข้มแข็ง ทำไมประเทศที่ทรงอานุภาพจะต้องการต่อสินค้าของประเทศที่ด้อยกว่า?
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ด้านอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตมีราคาแพงมาก ยังจะมีผู้ใดสามารถนำเข้าสินค้าเหล่านั้นได้กัน?
ผู้จัดการจูโน้มตัวกระซิบกระซาบกับผู้จัดการหลี่ว่า: "ผู้จัดการหลี่ ได้โปรดช่วยผมสักครั้ง ผมต้องทำยอดในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ "
ในความเป็นจริง ผู้จัดการหลี่เพียงเล่นตัวก็เท่านั้น ในใจลึกๆของเขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ได้ยินว่ามีคนอยากทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ตอนนี้เขาเขาสามารถบรรลุงานที่ระดับสูงกำชับมาแล้ว
"ถ้าเธอพูดมาอย่างนั้น ฉันจะรับพิจารณาเรื่องนี้ก็ได้ พรุ่งนี้เสี่ยวหยู่มาที่ออฟฟิศของฉัน ฉันจะกลับไปที่การประชุมหาข้อสรุปเรื่องนี้" ผู้จัดการหลี่กล่าว