ตอนที่ 82 คำแนะนำของลุงเจ้าของร้าน
เมืองไร้กังวลเป็นเมืองเล็กๆที่สงบสุข ถนนเต็มไปด้วยฝูงคน และร้านอาหารจำนวนมากที่เปิดไฟในยามค่ำคืน เมื่อเวลาผ่านไป มันก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก มันเป็นตอนเย็นเมื่อหลิน ฮวงและเล้ง เยวี่ยซินมาถึงเมืองไร้กังวล ร้านอาหารทุกร้านต่างเปิดให้บริการ โต๊ะและเก้าอี้จำนวนมากถูกจดไว้ในพื้นที่กลางแจ้ง
เมื่อมองไปที่ฝูงชนในภัตตาคารทั้งสองด้านและกลิ่นของอาหารในอากาศ หลิน ฮวงเริ่มหิว เขาพึ่งจะรู้ว่าเขาเพียงทานอาหารเช้าก่อนภารกิจเขาเท่านั้น เล้ง เยวี่ยซิน ตื่นตระหนกกับฝูงชนเล็กน้อยเมื่อเธอแทบจะไม่เคยเดินบนสถานที่แออัด
“ผมพนันเลยว่าคุณหิว”หลิน ฮวง เสนอ มันเป็นตัวเขาที่หิวแต่เขาไม่ต้องการให้เล้ง เยวี่ยซินรู้สึกผิดหวังเขาจึงเสนอการทานอาหารร่วมกัน
“หือ?”เล้ง เยวี่ยซินลังเลเพราะเธอไม่เคยกินอาหารในสถานที่เช่นนี้มาก่อน
“คุณอยากกินอะไร?”หลิน ฮวงถาม
“ทุกสิ่ง......ฉันกินอะไรก็ได้...”เล้ง เยวี่ยซินไม่ต้องการที่จะปฏิเสธหลินฮวงเพราะเขาช่วยชีวิตเธอ แม้ว่าอาหารจะน่ากลัว เธอก็ต้องบังคับให้ตัวเองกิน
“งั้นผมจะเลือกนะ คุณกินอาหารรสเผ็ดไหม?”หลิน ฮวงถาม
“ได้สิ”เล้ง เยวี่ยซินพยักหน้า
หลิน ฮวงไม่คุ้นเคยกับอาหารในโลกนี้เนื่องจากมันมีหลากหลายสายพันธ์อย่างมากในโลกนี้ เขามักจะกินบางสิ่งที่เขาคุ้นเคยแต่ก็มีอาหารมากมายที่เขาไม่เคยลองมาก่อนในที่นี้ อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงมีประสบการณ์ในการเลือกอาหารที่ดี เขาเดินทางมามาก และอ่านดูคำแนะนำอาหารบนอินเทอร์เน็ต เขาเลือกอ่านอาหารที่มีประโยชน์ จำนวนของผู้คนที่กินในร้านอาหาร สถานที่ที่รสชาติอาหารดีและดังนั้น เขาจึงมีประสบการณ์ในการเลือกอาหารที่อร่อยที่สุดจากการเป็นผู้อ่าน
แม้ว่าอาหารส่วนใหญ่จะไม่คุ้นเคยกับเขา มันก็ไม่ยากที่จะบอกว่าร้านอาหารใดมีธุรกิจที่ดีตามคำแนะนำของเขา
“ไปร้านนั้นกัน!”
หลิน ฮวงเดินไปรอบๆและพบร้านอาหารที่มีคิวยาวเหยียด จากนั้นเขาก็ดึงเล้ง เยวี่ยซินไปต่อคิว ความงดงามของเธอได้ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งตัวง่ายๆและไม่ได้แต่งหน้า แต่ความงามของเธอก็มิอาจปิดซ่อนได้
10นาทีต่อมา ในที่สุดมันก็ถึงคิวของหลิน ฮวง และเล้ง เยวี่ยซิน เจ้าของร้านคือชายวัยกลางคน เขายืนด้านหลังเคาน์เตอร์และมองมาที่ทั้งสอง เขายิ้มให้หลิน ฮวงและแสดงความเห็น “พ่อหนุ่ม แฟนของเธอสวยมาก!”
เล้ง เยวี่ยซินหน้าแดงขณะที่หลิน ฮวงโบกมือเขา“ลุงเข้าใจผิดแล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน”หลิน ฮวงอธิบาย
เจ้าของร้านยิ้มและไม่พูดต่อ“พวกเธอทั้งคู่อยากจะสั่งอะไร?”เขาถาม
“มีอะไรแนะนำบ้างครับ”หลิน ฮวงถามอย่างสุภาพ เขารู้ว่าเจ้าของร้านมักจะแนะนำพวกเขาเป็นพิษเพื่อชักจูงลูกค้าให้เป็นลูกค้าประจำ
“อาหารของเรามีขนาดใหญ่มาก สองจานและซุบก็จะพอสำหรับพวกเธอทั้งคู่ หากเธอสั่งมากกว่า มันจะเสียของ”เจ้าของร้านพูดด้วยเสียงหัวเราะ “เรามีเมนูพิเศษอยู่สองอย่าง หนึ่งคือเนื้อสันในหมูภูเขาน้ำแข็งย่าง และอีกจานก็คือสเต็คซี่โครงปีศาจวัว สำหรับซุป ฉันแนะนำให้พวกเธอกินซุปดอกไม้องุ่นแฝด มันเบาและมีประโยชน์”เขากล่าว
“นั่นแหละ เราจะเอาทุกสิ่งที่คุณแนะนำ”หลิน ฮวงพยักหน้าด้วยความพอใจ
“ทั้งคู่สามารถทานอาหารรสเผ็ดได้หรือไม่?”เจ้าของร้านถาม
“พอได้ครับ”หลิน ฮวงตอบ
“ดี เชิญหาที่นั่งได้เลย อาหารของเธอจะมาในไม่ช้า”เจ้าของบอก
เมื่อเห็นว่ามีโต๊ะว่างบริเวณกลางแจ้ง หลิน ฮวงจึงนำเล้ง เยวี่ยซินไปนั่ง เมื่อเขาอยู่ในมหาวิทยาลัย หลิน ฮวงมักจะไปชายหาดกับเพื่อนร่วมชั้นเขาเพื่อทำบาร์บีคิวและดื่มเบียร์สักสองสามกระป๋องในฤดูร้อน ต่อมา แม้ว่าเขาจะได้กินอาหารกับลูกค้ามากมาย เขาก็แทบจะไม่ได้กินอาหารริมถนนอีกต่อไป
ร้านอาหารริมถนนคือสถานที่ที่ทำให้เขาระลึกถึงชีวิตที่เรียบง่ายของเขาบนโลก
เล้ง เยวี่ยซินนั่งตรงข้ามหลิน ฮวง เมื่อเห็นเขาจ้องมองไปในอากาศ มันก็ค่อนข้างเป็นที่อึดอัดสำหรับเธอ เธอทำลายความเงียบโดยการถาม“นายมักจะมาสสถานที่เช่นนี้?”
“ไม่ นี่คือครั้งแรกของผม”หลิน ฮวงตกใจ เขาส่ายหัวและกล่าว“มันมีอาหารริมถนนเช่นนี้ในเมืองเกิดผม แต่มันเป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้กินมัน”
“โอ้...”เล้ง เยวี่ยซินพยักหน้าและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
“คุณไม่เคยมายังสถานที่เช่นนี้?”หลิน ฮวงถามเมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทางของเธอ
“ไม่”เล้ง เยวี่ยซินส่ายหัวเธอและบอก“ตระกูลฉันไม่ยอมให้ฉันมากินสถานที่เช่นนี้”
และหลิน ฮวงก็นึกขึ้นได้ว่าเธอคือราชวงศ์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เกี่ยวกับราชวงศ์ในที่นี่มากนัก เขาก็สรุปได้ว่ามันควรจะคล้ายกับอัศวินในสมัยก่อนที่อาศัยตามกฏระเบียบและกิริยาอันดีเลิศ มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาติให้กินตามท้องถนน เนื่องจากหัวข้อนั้นเกี่ยวข้องกับตระกูลของเล้ง เยวี่ยซิน หลิน ฮวงจึงไม่อยากจะแซะถามอีกต่อไป เขาจึงเปลี่ยนเรื่องและถาม“มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินนั่นคืออะไร?”เขาถาม
“นั่นคือกล้วยไม้ลอย สายพันธ์อันเดทจากขุมนรก ผู้หลุดพ้นจากตระกูลเราได้ผนึกมันไว้ในป่าลืมเลือนนานกว่าร้อยปีก่อน ดังนั้น คนมากมายจึงสามารถมาเพื่อฆ่ามันเพื่อเลื่อนขั้นเป็นระดับหลุดพ้นได้ ฉันไม่รู้ว่ามันกลายพันธ์ถึงสองครั้ง และนั่นทำให้ความสามารถของมันมากกว่า100ปีก่อนถึงสิบเท่า หากนายไม่อยู่ที่นั่น ฉันจะตายแน่ๆ”เล้ง เยวี่ยซินบอกหลิน ฮวงถึงเรื่องราวของมอนสเตอร์ในป่าลืมเลือน
“คุณได้จ้างหลี่ เอี้ยนซิงเป็นผู้ช่วย?”หลิน ฮซงถาม
“ไม่ ฉันอยู่ลำพังเมื่อฉันออกเดินทางแต่ฉันชนกับพวกเขา ตระกูลเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและเขารู้ว่าฉันจะมาที่นี่เพื่อ่ามอนสเตอร์ ดังนั้นเขาจึงอาสาที่จะช่วย ฉันรู้ว่าเขาต้องการบางสิ่งแต่ฉันไม่ต้องการจะปฏิเสธเขา ดังนั้นเราจึงตัดสินใจทำภารกิจร่วมกัน ไม่สำคัญว่าคนร่วมเดินทางด้วยจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเราก็ต้องระมัดระวัง ขอบคุณที่นายอยู่ที่นั่น นั่นทำให้เขาไม่อาจบรรลุแผนการอันชั่วร้ายของเขาได้ ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้พบกับนาย”ท้ายที่สุด เล้ง เยวี่ยซินก็บอกเขาเกี่ยวกับเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมพวกเขาจึงอยู่ด้วยกัน
หลังจากฟังเล้ง เยวี่ยซินอธิบาย หลิน ฮวงก็คิดว่าการที่หลี่ เอี้ยนซิงชนเธอค่อนข้างแปลก ขณะที่พวกเขากำลังพูดกัน พนักงานเสิร์ฟก็มาพร้อมกับอาหารของพวกเขา ดังนั้น การสนทนาของพวกเขาจึงถูกขัด หลิน ฮวงเคยลองกินอาหารที่อร่อยมากมาก แต่เมนูพิเศษที่เจ้าของร้านแนะนำมันอร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อ!เครื่องเทศและการปรุงรสเพียงอย่างเดียวมันมากพอจะให้เขาตายตาหลับ เจ้าของร้านคือพ่อครัวอัจฉริยะ ไม่เพียงแค่หลิน ฮวงจะรู้สึกเช่นนั้น เล้ง เยวี่ยซินก็ไม่อาจหยุดกินได้เช่นกัน เธอไม่ชอบอาหารริมถนน แต่อาหารที่พวกเขากำลังกินมันมิอาจต้านทานได้
ทั้งคู่กวาดอาหารจนเกลี้ยง เล้ง เยวี่ยซินเช็ดปากและกล่าว“ฉันไม่เคยกินอาหารริมถนนมาก่อน ฉันไม่รู้ว่ามันจะรสเลิศเช่นนี้!ขอบคุณนะ!”
“หากเราได้พบกันอีก ผมจะพาคุณไปร้านอื่น”หลิน ฮวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันต้องไปแล้ว ตระกูลฉันได้ส่งคนมารับฉัน นายเองก็จะไปในไม่ช้า ใช่ไหม?”เล้ง เยวี่ยซินถาม
“ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า หากผมพักที่นี่นานกว่านี้ น้องสาวผมจะเป็นกังวล”หลิน ฮวงบอกกับเธอและยิ้มอย่างเขินอาย
“โอ้....”หลิน ฮวงเงียบไปสักพักและถาม“ฉนต้องการจะถามนายเรื่องหนึ่งแต่ฉันไม่รู้ว่ามันเหมาะหรือไม่”
“โปรดอย่ากังวล ผมจะตอบคำถามคุณตามที่ผมรู้”หลิน ฮวงบอกขณะที่เขาพยักหน้า เขาจะตอบคำถามทั้งหมดหากมันเป็นไปได้
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมนายจึงช่วยฉัน?”เล้ง เยวี่ยซินถาม คำตอบทั้งหมดที่เขาเตรียมไว้หลุดหายไป นี่คือคำถามที่หลิน ฮวงไม่คาดฝัน เธอมีคำถามให้ถามมากมาย เช่น เขาลงไปใต้ดินทำไม?เวทย์รักษาชนิดใดที่ช่วยชีวิตเธอถึงสองครั้ง? เธอสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าคนในถ้ำไม่ใช่ร่างแยกเขา แล้วเขาออกมาจากถ้ำได้ยังไง?อย่างไรก็ตาม เธอกลับเลือดถามว่าทำไมเขาจึงช่วยชีวิตเธอ
“บางที...ผมอาจจะชอบคุณ”หลิน ฮวงตอบ มันเป็นสิ่งแรกที่ลอยเข้ามาในหัวเขา เขาไม่อาจบอกเธอได้ว่ามันคือภารกิจเขา
“แค่นั้น?”เล้ง เยวี่ยซินถาม เธอดูเหมือนจะไม่ยอมรับในคำตอบเขา
“แค่นั้นแหละ ผมชอบคุณ ดังนั้นผมจึงช่วยคุณ”หลิน ฮวงพยักหน้าและตอบอย่างจริงจัง
“เอาละ ฉันจะยอมรับคำตอบของนาย”เล้ง เยวี่ยซินรู้ว่าหลิน ฮวงจะไม่บอกความจริงแต่เธอก็ไม่ต้องการซักถาม จากนั้นเธอก็มองดูเวลาบนแหวนเธอและยืนขึ้น “มันเกือบจะถึงเวลาแล้ว ฉันต้องไปแล้ว”เธอบอก
“เอาละ เราจะมากินอาหารด้วยกันอีกหากเรามีโอกาสได้พบกันในอนาคต”หลิน ฮวงยืนขึ้นเช่นกัน
“ฉันจะส่งสิ่งของที่ฉันได้สัญญาเอาไว้มาให้ ลาก่อน!”เล้ง เยวี่ยซินกล่าวอย่างสุภาพ จากนั้นเธอก็หมุนตัวและจากไป
เมื่อเห็นเธอจากไป หลิน ฮวงก็โบกมือให้เจ้าของร้าน“เจ้าของร้าน!เก็บตังด้วย!”
เจ้าของร้านเดินมาทางเขาด้วยรอยยิ้ม“มีอะไรผิดงั้นรึ มันไม่เป็นไปตามที่นายคาด?ฉันไม่ได้เยาะเย้ย แต่ผู้ชายควรจะยึดติดกับผู้หญิงที่ชอบ นายเข้าใจมันเมื่อนายมีอายุเท่าฉัน สาวงามนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเกี้ยวให้ติดแม้ว่านายจะใช้ชีวิตทั้งชีวิต นายจะยอมแพ้ไปเพียงแค่นั้น?ไล่ตามเธอไปสิ บางทีมันอาจจะยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนนะ นายควรจะรักษาเธอไว้ให้ดี ....”เขาแนะนำหลิน ฮวงด้วยแววตาที่จริงจัง
“ลุง พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ...”หลิน ฮวงตอบ เขาจ่ายเงินทันทีและรีบออกมา เจ้าของสับสนเพราะชายหนุ่มดูเหมือนว่าเขากำลังวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด
“เห้อ...ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ ทำไมพวกเขาจึงเลิกกันเช่นนั้นนะ?หนุ่มสาวสมัยนี้...ช่างแปลกเสียจริง...”ชายวัยกลางคนถอนหายใจขณะที่เฝ้ามองหลิน ฮวงจากไป