ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 119: ดยุคบาสโต้ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 121: ดยุคบาสโต้ (3)

[KotB] บทที่ 120: ดยุคบาสโต้ (2)


บทที่ 120: ดยุคบาสโต้ (2)

-ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ตอนนี้อ่านฟรี 1 ตอน

-------------------------------------------------------------

แสงสีแดงส่องลงมารอบๆตัวมูยอง

ในขณะที่อาณาเขตของความสมบูรณ์แบบถูกเรียกใช้ มันก็เริ่มมีอิทธิพลต่อปีศาจ

ชิ-ชิ-ชวิ้ง!

อย่างไรก็ตาม คนแรกที่ออกมาไม่ใช่มูยอง

ดาบที่สองและดาบที่สามโผล่ออกมาจากทางด้านหลังของมูยองในทันที

“เคี๊ยกฮ่าาาาา! เยี่ยม! มาเริ่มสู้กันเถอะ!”

บารอนอัลลิแมนหัวเราะน่าเกลียดออกมา

มันกำลังชุ่มฉ่ำอยู่ในพลังแห่งดวงจันทร์สีเลือด

การเห็นเลือดเท่านั้นที่จะทำให้มันพึ่งพอใจ

ยิ่งกว่านั้นจิตวิญญาณการต่อสู้มากมายได้พรุ่งพรูออกมาจากมันราวกับคนวิกลจริต

เหตุผลที่เหล่ามนุษยเรียกปีศาจว่าเป็นเผ่าพันธุ์แห่งการต่อสู้ ตัวอย่างนั้นได้ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว

ไม่เพียงแต่บารอนอัลลิแมนเท่านั้น แต่ปีศาจทั้งสองพันตนที่อยู่รอบๆก็กำลังหื่นกระหายในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน

'ปีศาจในเวลานี้เหมือนกับอันเดธยิ่งกว่าอันเดธเองซะอีก'

พวกมันจะต่อสู้จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายจบลง

พวกมันไม่แม้แต่จะกระพริบตาแม้ว่าส่วนหนึ่งในร่างกายจะถูกตัดออก

ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่มักลืมเลือนความเจ็บปวด เมื่อพวกมันรู้สึกตื่นเต้น

นี่คือเหตุผลที่มนุษย์หลีกเลี่ยง 'ราตรีที่ยาวนานของปีศาจ' จนกระทั่งการต่อสู้กับปีศาจจะรุนแรงขึ้น

แม้ว่าจะมีจำนวนเพียงสองพัน แต่พวกมันก็ไม่สามารถละเลยได้

"นี่เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่โอมเข้าร่วม! สังหารผู้ที่เป็นศัตรูให้หมด! "

“โอม! ฮูม!”

“โอม! ฮูม!”

โคร่มมม!

เซฮุนฟาดทหารปีศาจโดยใช้กระบองขนาดใหญ่ของเขา

ราวกับนั่นเป็นจุดเริ่มต้น ในที่สุดการต่อสู้ที่รุนแรงก็ได้ปะทุขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปีศาจหนึ่งตนต้องใช้จำนวนถึงสี่หรือห้าคนในการเผชิญหน้า

โชคดีที่พลเมืองของมูยองสวมใส่อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ

อุปกรณ์ที่คนแคระได้เร่งสร้างขึ้นทั้งวันทั้งคืน

“เคี๊ยฮ่าๆๆๆ! โอ้กลิ่นเช่นนี้! กลิ่นเลือดที่รินไหลออกมาในการต่อสู้นี่มันทำให้ข้าคลั่งไคล้ซะจริงๆ!”

หนามบนร่างของบารอนอัลลิแมนทั้งหมดตั้งขึ้น

มันพุ่งแทงเดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาวอย่างอิสระ ทะลวงผ่านผู้ที่มันมองเห็นว่าเป็น 'ศัตรู'

อัลลิแมนตวัดหนามเส้นหนึ่งมาด้านหน้าก่อนจะใช้ลิ้นยาวเลียและดื่มเลือดที่ติดมากับมัน

และเมื่อมันได้สัมผัสรสชาดของเลือดมากขึ้นเรื่อยๆร่างกายก็เต้นขยับราวกับมีชีวิต

ร่างกายของมันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ

ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าหนามของมันยังเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีกด้วย

"ดาบสองและดาบสามมุ่งเป้าไปที่ 'อัศวิน' ฉันจะจัดการอัลลิแมนเอง "

หลังจากมองหนามสักพัก มูยองก็สั่งการพวกเขา

ท่ามกลางทหารปีศาจจะมีอัศวินปีศาจคอยปกป้องบารอนอัลลิแมนอยู่สองตัว

ตราบเท่าที่ทั้งสองยังเฝ้าอยู่ มันยากที่ยองจะเผชิญหน้ากับอัลลิแมนเพียงลำพัง

แต่ถ้าเป็นดาบที่สองและดาบที่สามพวกเขาควรสามารถต่อสู้กับปีศาจระดับสูงได้อย่างง่ายดาย

'ความจริงที่ว่าพวกมันมีตำแหน่งที่สูง ย่อมหมายถึงพวกมันเป็นปีศาจระดับสูง'

พลังอำนาจของบารอนอัลลิแมนคือหนามที่แม่นยำเหล่านั้น

หนามจำนวนมากทำหน้าที่เป็นหอกและโล่ที่ทั้งปกป้องร่างกายของมันและเจาะทะลวงฝ่ายตรงข้าม

ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของมันจะเติบโตขึ้นหากได้ดื่มเลือดจำนวนมากเข้าไป ถ้ามูยองไม่สามารถหยุดยั้งมันได้อย่างรวดเร็วก็อาจจะเกิดความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดาได้

'ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของขุนนางคือพลังอำนาจของพวกมัน ถ้าเขาสามารถมองเห็นพลังอำนาจและทำลายมันได้ แม้แต่ปีศาจระดับสูงก็ไม่นับว่าเป็นอะไรกับเขา

ไม่ว่าจะเป็น ขุนนางปีศาจ ราชาปีศาจ ก็เป็นเช่นเดียวกันมั้งหมด

แตสำหรับเทพปีศาจอาจจะทรงอำนาจเหนือกว่านั้น

"ทาร์แคน เคลียร์เส้นทาง"

“ไว้ใจได้ ข้าได้เผชิญหน้ากับปีศาจมานับพันครั้งแล้ว”

นักล่าวิญญาณปีศาจทาร์แคนเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ในเส้นทางแห่งอาชูร่า

มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับเขาที่จะได้เห็นปีศาจที่อยู่ในรูปแบบของวิญญาณชั่วร้ายอยู่บ่อยๆ

หวือออออ!

หลังจากนั้นทาร์แคนก็ขยับดาบในมืออย่างรวดเร็ว และสังหารปีศาจลง

วิถีดาบและการเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหลเป็นอย่างมาก

'ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็สามารถเอาทักษะพวกนั้นมาเป็นของตัวเอง'

ลักษณะเฉพาะของดาบที่สองและดาบที่สาม

เขาสามารถเลียนแบบวิถีดาบและการเคลื่อนไหวของพวกนั้นได้

คุณอาจพูดได้ว่ามันเป็นการขโมย แต่มูยองรู้ว่ามันบ้าแค่ไหนที่สามารถเรียนรู้ได้เพีงการเฝ้าดู แม้แต่มูยองก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับมัน

ตามเส้นทางที่ทาร์แคนสร้างขึ้น มูยองวิ่งตรงไป

และโดยการใช้ทักษะการ 'บิน' จากเข็มขัดของแอรีส เขาร่นระยะทางได้ในทันที

เคร้ง!

ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวสัมผัสเข้ากับผิวหนังของบารอนอัลลิแมน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำได้คือรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น

หนามปกคลุมร่างทั้งตัวของมันเหมือนดั่งชุดเกราะ

"แค่คันๆ"

อัลลิแมนหัวเราะหลังจากที่ยิ้มเย้ย

"มีเหยื่อมาให้ฆ่าถึงที่ ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงรนหาที่ตายอย่างนี้ แต่มันก็ดีที่เจ้าเข้ามา"

คนๆเดียวที่เข้ามาในการรับรู้ของบารอนอัลลิแมนคือมูยอง

ตั้งแต่ช่วงที่มูยองปรากฏตัวขึ้น มูยองก็เป็นคนที่แปลกประหลาดต่อการรับรู้ของเขา

มันคล้ายกับการต่อต้านโดยสัญชาตญาณ

อัลลิแมนได้วางแผนที่จะกวาดล้างทุกอย่างเบื้องหน้าก่อนจะเข้าไปหามูยอง แต่ตอนนี้มูยองกลับเป็นผู้เข้ามาหาเขาเอง

เขาจะไม่หัวเราะกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?

'องค์ประกอบของมันอ่านไม่ได้ง่ายๆเลยแฮะ'

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเจตจำนงของอัลลิแมน มูยองพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะอ่านองค์ประกอบของมัน

ทุกอย่างๆมีองค์ประกอบ

ถ้าเขาสามารถหาองค์ประกอบได้ เขาก็จะสามารถทำลายได้กระทั่งสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

แต่เนื่องจากมีหนามนับพันขวางกั้นอยู่ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถอ่านองค์ประกอบนั้นได้

หากเขาจะกำจัดพวกมันทิ้งไปทีละอัน คงใช้เวลานานเกินไป

ควรมีเพียงองค์ประกอบเดียวที่สามารถทะลวงผ่านเกราะทั้งหมดได้

เคร้ง!

ทันใดนั้น หนามทะยานขึ้นและกระจายตัวออกจากร่างของอัลลิแมน

เขาป้องกันพวกมันได้อย่างเฉียดฉิว แต่เมื่อหนามโค้งตัว มันก็ทำลายขอบเขตการเคลื่อนไหวของมูยองทั้งหมด

กรี๊ซซซซซ!

ในเวลาเดียวกันเขาเปิดใช้งานจิตวิญญาณมังกร

ร่างกายของมูยองลุกโชติช่วงด้วยเปลวเพลิงและเผาผลาญหนามไปในทันที

หลังจากที่ได้เห็นสิ่งนี้ อัลลิแมนก็เปล่งเสียงอุทานออกมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าตลก

"มังกรไฟ? ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็ไม่มีอะไรเมื่อเทียบกับเปลวไฟของฮาวเลส "

ฮาวเลส!

เทพปีศาจลำดับที่ 64

ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อของมันในสถานที่เช่นนี้

‘พวกมันเป็นปีศาจของฮาวเลส หนึ่งในเทพปีศาจที่อันตรายที่สุด '

มีภาพหนึ่งผ่านเข้ามาในหัวของมูยอง

ภาพของชายคนนั้น ทุกที่ที่ฮาวเลสเดินผ่านล้วนกลายเป็นดั่งขุมนรก

เปลวเพลิงของฮาวเลสเผาผลาญศัตรูทุกๆตน และถ้าหากฮาวเลสต้องการ มันสามารถหยุดเปลิวเพลิงไม่ให้สังหารศัตรูในทันทีได้อีกด้วย

พวกเขาจะถูกเปลวไฟเผาไหม้และรู้สึกถึงความเจ็บปวดตลอดไป

แถมมันยังเป็นหนึ่งในบรรดาเทพปีศาจที่ทำลายกำแพงของอารามสีคราม และสังหารเมอร์ลิน

หลังจากการถูกบุกทะลวง เกรทซิตี้ถูกกวาดล้างโดยเปลวเพลิงจากนรก พวกมันเผาผลาญชีวิตไปกว่าหลายพันคน

'ฉันจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง '

ริมฝีปากมูยองโค้งขึ้นเล็กน้อย

มูยองเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเพื่อการได้ยินชื่อของฮาวเลสที่เปล่งออกมา

เขารู้สึกมั่นใจว่าพลังของ 72 เทพปีศาจอยู่ไม่ไกลจากการเข้าถึงของเขา

บารอนอัลลิแมนจะเป็นเพียงแค่หินรองเท้าให้เขาเท่านั้น

เคร้ง! เคร้ง!

การโจมตีนับไม่ถ้วนซ้ำไปซ้ำมา

ทว่าเกราะหนามของอัลลิแมนยังมีสภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม

"เจ้ามีพลังโจมตีแค่นี้งั้นหรือ?! ฮ่าๆ”

มันหัวเราะใส่หน้าของมูยอง

จำนวนบาดแผลที่ตัวมูยองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ไฟของมังกรไม่สามารถเผาผลาญได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามดวงตาของมูยองกำลังตรวจสอบร่างของอัลลิแมนอย่างต่อเนื่อง

เพียงองค์ประกอบเดียว

เขาเพียงแค่ต้องการหาองค์ประกอบอันเดียวที่สามารถเจาะทะลวงหนามเหล่านั้นได้

ไม่มีอะไรอื่นที่สำคัญอีก

‘…ฉันเห็นมันแล้ว’

ดวงตาของมูยองส่องประกาย

มูยองพบองค์ประกอบแปลกๆอย่างชัดเจนในขณะที่หนามถูกปล่อย และกระจายออกไป

มันใกล้เคียงกับจุดเล็กๆมากกว่าองค์ประกอบ

จุดที่เชื่อมต่อหนามทั้งหมด!

นั่นคือจุดอ่อนของมัน มันเป็นข้อบกพร่องเดียวของพลังอำนาจแห่งอัลลิแมน

ในเวลาเดียวกัน เขาสองข้างก็ปรากฏขึ้นและเวลาของมูยองก็เชื่องช้าลง

แม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งนาทีในเวลาจริง แต่สำหรับมูยอง มันใกล้เคียงกับสี่นาที

ในโลกที่ช้าลง 4 เท่า การโจมตีของอัลลิแมนดูเชื่องช้ามากๆ

และด้วยการพุ่งเป้าไปที่จุดๆหนึ่ง มูยองพุ่งตัวออกไป

ตูมมมม!

ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวทะลวงผ่านไปที่จุดดังกล่าว

พลังการต้านทานที่แข็งแกร่งได้ออกมาต่อต้าน แต่เขาไม่ได้สนใจ

"เจ้าาาา สารเลววววว!"

ราวกับว่าอัลลิแมนรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกไปมันรีบหดหนามทั้งหมดกลับมา ก่อนจะรวบรวมหนามทุกเส้นพุ่งเข้าหามูยองเพื่อสังหาร

'เร่งความเร็ว'

เป็นทักษะจากบูทของเฮอมีส

โลกยิ่งรู้สึกช้าลงกว่าเดิม

แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 3 วินาทีก็ตาม โลกของมูยองได้แล่นช้าลงกว่า 5 เท่า

กล้ามเนื้อทั้งหมดบนแขนของเขากรีดร้องออกมาเสียงดัง หลอดเลือดดำพองขึ้นราวกับว่าพวกมันกำลังจะหลุดออกมาจากผิวของเขา

สวบบบบ!

ฉับพลัน จุดๆนั้นถูกทะลวง

"ได้อย่างไร ...เกราะของข้า?"

อัลลิแมนพูดราวกับว่ามันไม่สามารถเชื่อสายตาของตัวเอง

อย่างไรก็ตามร่างกายของอัลลิแมนได้กลายเป็นขี้เถ้าก่อนจะสลายหายไป

โดยปกติแล้ว ปีศาจจะไม่ทิ้งร่างไว้เมื่อพวกมันตาย

พวกมันจะกลายเป็นขี้เถ้าก่อนสลายไปกับสายลม

หนามที่บินมายังมูยองก็กลายเป็นขี้เถ้าและตกลงไปที่พื้น

"ปีศาจที่ไม่สมบูรณ์แบบ"

ขณะที่เขาเฝ้าดูสถานการณ์ มูยองก็เตือนตัวเองอีกครั้ง

เว้นเสียแต่ว่าพวกมันจะอยู่ในระดับของเทพปีศาจ นอกนั้นมีเพียงงราชาปีศาจเท่านั้นที่คู่ควรกับคำว่า 'ปีศาจ' จริงๆได้

และปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง

ปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่เดินสวนทางกับกฏเกณฑ์ของโลก

เช่นเดียวกับที่พวกมันไม่สามารถทิ้งร่างกายไว้ได้หลังจากที่พวกมันตาย

<คุณได้สังหาร 'บารอนอัลลิแมน'>

<คุณมีได้รับแต้มลอร์ด 300 หน่วย>

<คุณได้รับ 'ผลึกหนาม' >

<ผลความสำเร็จ 'นักล่าปีศาจ' ได้ถูกเพิ่มแล้ว>

<'ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว' ร่ำร้องด้วยความตื่นเต้น ในตอนนี้การโจมตีต่อปีศาจจะแข็งแกร่งมากขึ้น>

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดยังคงดังขึ้นรอบๆ

แม้ว่าอัลลิมานจะตายไปแล้ว แต่ปีศาจก็ยังคงสู้ต่อไป

พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าปีศาจทั้งหมดจะถูกทำลาย

'ขี้เถ้าคืนสู่ขี้เถ้า'

แต่ในสายตามูยอง พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากขี้เถ้า

****

เขาได้กำจัดอัลลิแมนและทหารปีศาจของมันอีกสองพันตน

บนพื้นดิน มีเพียงกองขี้เถ้าเท่านั้นที่เหลืออยู่

แน่นอนว่ามูยองก็ได้รับความเสียหาย

‘เกือบหกพันชีวิต’

ในขณะที่จัดการทหารปีศาจสองพันตน มีเกือบหกพันคนที่เสียชีวิต

แม้ว่าการต่อสู้จะไม่มีตอบแทน แต่มันก็เป็นผลดีอย่างยิ่งสำหรับการต่อสู้ครั้งแรกของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม มีเพียง 24,000 คนเท่านั้นที่เหลือรอด

ด้วยตัวเลขนี้ เขาไม่สามารถเข้าถึงดยุคบาสโต้ได้

มีปีศาจเหลืออยู่อีกมากกว่า 90,000 ตนทีมันพามา

หากพวกเขาต่อสู้ด้วยสภาพเช่นนี้ ผลลัพธ์นั่นชัดเจน

ความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบของมูยอง

'ฉันต้องรวมพลังกับไฟทาร์'

ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่จะตัดสินใจ

เช่นเดียวกับอัลลิแมน มันยังคงมีโอกาสสำหรับปีศาจตนอื่นๆที่จะพบสถานที่แห่งนี้

สุดท้ายเขารู้สึกว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าหากรวมกำลังกับไฟทาร์เพื่อต่อสู้กับปีศาจ

แน่นอนว่าไฟทาร์จะยอมรับข้อเสนอของมูยอง ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด

หลังจากนั้นมูยองก็เอาผลึกสีดำออกจากด้านข้าง

มันเป็นขนาดเพียงเล็บมือ แต่พลังภายในของมันกลับน่าทึ่งมาก

'เมื่อปีศาจระดับสูงตาย มีโอกาสเล็กน้อยที่การตกผลึกจะปรากฏขึ้น'

ผลึกที่จะจะมีลักษณะเป็นลูกแก้วซึงควบแน่นไปด้วยพลังของปีศาจ

ใครก็ตามที่กลืนมันลงไป สเตตัสของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น พวกมันยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอาวุธหรือชุดเกราะได้อีกด้วย

แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการกินมัน

อึก!

โดยไม่ลังเล เขาโยนผลึกหนามลงไปในปากทันที

ในขณะเดียวกัน กล้ามเนื้อของเขาทั้งหมดก็เริ่มกระตุก

<ค่าสถานะหลักของ Str Agi และ Sta เพิ่มขึ้นอย่างละ 5 หน่วย>

<ทักษะ 'หนามก่อกำเนิด' ถูกเพิ่มแล้ว>

<เนื่องจากได้รับพรจากผู้ใช้ 'มูยอง', ระดับของสกิลหนามก่อกำเนิดได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับ B>

ชื่อ: หนามก่อกำเนิด

ผล: ครอบคลุมทั้งร่างกายด้วยหนามที่แข็งแกร่ง

* ความต้านทานทางกายภาพเพิ่มขึ้น 200

* ความต้านทานเวทย์เพิ่มขึ้น 150

* เมื่อใช้งาน Agi จะลดลงเป็นอย่างมาก (-60%)

* มันจะดูดพลังชีวิตของผู้โจมตีเล็กน้อย

ได้รับทั้งสเตตัสหลักและทักษะสกิล

หนามก่อกำเนิด

แม้ว่ามันจะเป็นทักษะในการป้องกัน แต่มันก็เป็นทักษะที่ค่อนข้างดี

แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องที่ความว่องไวซึ่งลดลงเมื่อใช้งาน แต่ถ้ามีสถานการณ์สำหรับการใช้งานหนามก่อกำเนิด มันก็จะเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากอยู่แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด