[KotB] บทที่ 120: ดยุคบาสโต้ (2)
บทที่ 120: ดยุคบาสโต้ (2)
-ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ตอนนี้อ่านฟรี 1 ตอน
-------------------------------------------------------------
แสงสีแดงส่องลงมารอบๆตัวมูยอง
ในขณะที่อาณาเขตของความสมบูรณ์แบบถูกเรียกใช้ มันก็เริ่มมีอิทธิพลต่อปีศาจ
ชิ-ชิ-ชวิ้ง!
อย่างไรก็ตาม คนแรกที่ออกมาไม่ใช่มูยอง
ดาบที่สองและดาบที่สามโผล่ออกมาจากทางด้านหลังของมูยองในทันที
“เคี๊ยกฮ่าาาาา! เยี่ยม! มาเริ่มสู้กันเถอะ!”
บารอนอัลลิแมนหัวเราะน่าเกลียดออกมา
มันกำลังชุ่มฉ่ำอยู่ในพลังแห่งดวงจันทร์สีเลือด
การเห็นเลือดเท่านั้นที่จะทำให้มันพึ่งพอใจ
ยิ่งกว่านั้นจิตวิญญาณการต่อสู้มากมายได้พรุ่งพรูออกมาจากมันราวกับคนวิกลจริต
เหตุผลที่เหล่ามนุษยเรียกปีศาจว่าเป็นเผ่าพันธุ์แห่งการต่อสู้ ตัวอย่างนั้นได้ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ไม่เพียงแต่บารอนอัลลิแมนเท่านั้น แต่ปีศาจทั้งสองพันตนที่อยู่รอบๆก็กำลังหื่นกระหายในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน
'ปีศาจในเวลานี้เหมือนกับอันเดธยิ่งกว่าอันเดธเองซะอีก'
พวกมันจะต่อสู้จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายจบลง
พวกมันไม่แม้แต่จะกระพริบตาแม้ว่าส่วนหนึ่งในร่างกายจะถูกตัดออก
ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่มักลืมเลือนความเจ็บปวด เมื่อพวกมันรู้สึกตื่นเต้น
นี่คือเหตุผลที่มนุษย์หลีกเลี่ยง 'ราตรีที่ยาวนานของปีศาจ' จนกระทั่งการต่อสู้กับปีศาจจะรุนแรงขึ้น
แม้ว่าจะมีจำนวนเพียงสองพัน แต่พวกมันก็ไม่สามารถละเลยได้
"นี่เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่โอมเข้าร่วม! สังหารผู้ที่เป็นศัตรูให้หมด! "
“โอม! ฮูม!”
“โอม! ฮูม!”
โคร่มมม!
เซฮุนฟาดทหารปีศาจโดยใช้กระบองขนาดใหญ่ของเขา
ราวกับนั่นเป็นจุดเริ่มต้น ในที่สุดการต่อสู้ที่รุนแรงก็ได้ปะทุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปีศาจหนึ่งตนต้องใช้จำนวนถึงสี่หรือห้าคนในการเผชิญหน้า
โชคดีที่พลเมืองของมูยองสวมใส่อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
อุปกรณ์ที่คนแคระได้เร่งสร้างขึ้นทั้งวันทั้งคืน
“เคี๊ยฮ่าๆๆๆ! โอ้กลิ่นเช่นนี้! กลิ่นเลือดที่รินไหลออกมาในการต่อสู้นี่มันทำให้ข้าคลั่งไคล้ซะจริงๆ!”
หนามบนร่างของบารอนอัลลิแมนทั้งหมดตั้งขึ้น
มันพุ่งแทงเดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาวอย่างอิสระ ทะลวงผ่านผู้ที่มันมองเห็นว่าเป็น 'ศัตรู'
อัลลิแมนตวัดหนามเส้นหนึ่งมาด้านหน้าก่อนจะใช้ลิ้นยาวเลียและดื่มเลือดที่ติดมากับมัน
และเมื่อมันได้สัมผัสรสชาดของเลือดมากขึ้นเรื่อยๆร่างกายก็เต้นขยับราวกับมีชีวิต
ร่างกายของมันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าหนามของมันยังเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีกด้วย
"ดาบสองและดาบสามมุ่งเป้าไปที่ 'อัศวิน' ฉันจะจัดการอัลลิแมนเอง "
หลังจากมองหนามสักพัก มูยองก็สั่งการพวกเขา
ท่ามกลางทหารปีศาจจะมีอัศวินปีศาจคอยปกป้องบารอนอัลลิแมนอยู่สองตัว
ตราบเท่าที่ทั้งสองยังเฝ้าอยู่ มันยากที่ยองจะเผชิญหน้ากับอัลลิแมนเพียงลำพัง
แต่ถ้าเป็นดาบที่สองและดาบที่สามพวกเขาควรสามารถต่อสู้กับปีศาจระดับสูงได้อย่างง่ายดาย
'ความจริงที่ว่าพวกมันมีตำแหน่งที่สูง ย่อมหมายถึงพวกมันเป็นปีศาจระดับสูง'
พลังอำนาจของบารอนอัลลิแมนคือหนามที่แม่นยำเหล่านั้น
หนามจำนวนมากทำหน้าที่เป็นหอกและโล่ที่ทั้งปกป้องร่างกายของมันและเจาะทะลวงฝ่ายตรงข้าม
ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของมันจะเติบโตขึ้นหากได้ดื่มเลือดจำนวนมากเข้าไป ถ้ามูยองไม่สามารถหยุดยั้งมันได้อย่างรวดเร็วก็อาจจะเกิดความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดาได้
'ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของขุนนางคือพลังอำนาจของพวกมัน ถ้าเขาสามารถมองเห็นพลังอำนาจและทำลายมันได้ แม้แต่ปีศาจระดับสูงก็ไม่นับว่าเป็นอะไรกับเขา
ไม่ว่าจะเป็น ขุนนางปีศาจ ราชาปีศาจ ก็เป็นเช่นเดียวกันมั้งหมด
แตสำหรับเทพปีศาจอาจจะทรงอำนาจเหนือกว่านั้น
"ทาร์แคน เคลียร์เส้นทาง"
“ไว้ใจได้ ข้าได้เผชิญหน้ากับปีศาจมานับพันครั้งแล้ว”
นักล่าวิญญาณปีศาจทาร์แคนเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ในเส้นทางแห่งอาชูร่า
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับเขาที่จะได้เห็นปีศาจที่อยู่ในรูปแบบของวิญญาณชั่วร้ายอยู่บ่อยๆ
หวือออออ!
หลังจากนั้นทาร์แคนก็ขยับดาบในมืออย่างรวดเร็ว และสังหารปีศาจลง
วิถีดาบและการเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหลเป็นอย่างมาก
'ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็สามารถเอาทักษะพวกนั้นมาเป็นของตัวเอง'
ลักษณะเฉพาะของดาบที่สองและดาบที่สาม
เขาสามารถเลียนแบบวิถีดาบและการเคลื่อนไหวของพวกนั้นได้
คุณอาจพูดได้ว่ามันเป็นการขโมย แต่มูยองรู้ว่ามันบ้าแค่ไหนที่สามารถเรียนรู้ได้เพีงการเฝ้าดู แม้แต่มูยองก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับมัน
ตามเส้นทางที่ทาร์แคนสร้างขึ้น มูยองวิ่งตรงไป
และโดยการใช้ทักษะการ 'บิน' จากเข็มขัดของแอรีส เขาร่นระยะทางได้ในทันที
เคร้ง!
ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวสัมผัสเข้ากับผิวหนังของบารอนอัลลิแมน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำได้คือรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น
หนามปกคลุมร่างทั้งตัวของมันเหมือนดั่งชุดเกราะ
"แค่คันๆ"
อัลลิแมนหัวเราะหลังจากที่ยิ้มเย้ย
"มีเหยื่อมาให้ฆ่าถึงที่ ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงรนหาที่ตายอย่างนี้ แต่มันก็ดีที่เจ้าเข้ามา"
คนๆเดียวที่เข้ามาในการรับรู้ของบารอนอัลลิแมนคือมูยอง
ตั้งแต่ช่วงที่มูยองปรากฏตัวขึ้น มูยองก็เป็นคนที่แปลกประหลาดต่อการรับรู้ของเขา
มันคล้ายกับการต่อต้านโดยสัญชาตญาณ
อัลลิแมนได้วางแผนที่จะกวาดล้างทุกอย่างเบื้องหน้าก่อนจะเข้าไปหามูยอง แต่ตอนนี้มูยองกลับเป็นผู้เข้ามาหาเขาเอง
เขาจะไม่หัวเราะกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?
'องค์ประกอบของมันอ่านไม่ได้ง่ายๆเลยแฮะ'
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเจตจำนงของอัลลิแมน มูยองพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะอ่านองค์ประกอบของมัน
ทุกอย่างๆมีองค์ประกอบ
ถ้าเขาสามารถหาองค์ประกอบได้ เขาก็จะสามารถทำลายได้กระทั่งสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
แต่เนื่องจากมีหนามนับพันขวางกั้นอยู่ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถอ่านองค์ประกอบนั้นได้
หากเขาจะกำจัดพวกมันทิ้งไปทีละอัน คงใช้เวลานานเกินไป
ควรมีเพียงองค์ประกอบเดียวที่สามารถทะลวงผ่านเกราะทั้งหมดได้
เคร้ง!
ทันใดนั้น หนามทะยานขึ้นและกระจายตัวออกจากร่างของอัลลิแมน
เขาป้องกันพวกมันได้อย่างเฉียดฉิว แต่เมื่อหนามโค้งตัว มันก็ทำลายขอบเขตการเคลื่อนไหวของมูยองทั้งหมด
กรี๊ซซซซซ!
ในเวลาเดียวกันเขาเปิดใช้งานจิตวิญญาณมังกร
ร่างกายของมูยองลุกโชติช่วงด้วยเปลวเพลิงและเผาผลาญหนามไปในทันที
หลังจากที่ได้เห็นสิ่งนี้ อัลลิแมนก็เปล่งเสียงอุทานออกมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าตลก
"มังกรไฟ? ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็ไม่มีอะไรเมื่อเทียบกับเปลวไฟของฮาวเลส "
ฮาวเลส!
เทพปีศาจลำดับที่ 64
ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อของมันในสถานที่เช่นนี้
‘พวกมันเป็นปีศาจของฮาวเลส หนึ่งในเทพปีศาจที่อันตรายที่สุด '
มีภาพหนึ่งผ่านเข้ามาในหัวของมูยอง
ภาพของชายคนนั้น ทุกที่ที่ฮาวเลสเดินผ่านล้วนกลายเป็นดั่งขุมนรก
เปลวเพลิงของฮาวเลสเผาผลาญศัตรูทุกๆตน และถ้าหากฮาวเลสต้องการ มันสามารถหยุดเปลิวเพลิงไม่ให้สังหารศัตรูในทันทีได้อีกด้วย
พวกเขาจะถูกเปลวไฟเผาไหม้และรู้สึกถึงความเจ็บปวดตลอดไป
แถมมันยังเป็นหนึ่งในบรรดาเทพปีศาจที่ทำลายกำแพงของอารามสีคราม และสังหารเมอร์ลิน
หลังจากการถูกบุกทะลวง เกรทซิตี้ถูกกวาดล้างโดยเปลวเพลิงจากนรก พวกมันเผาผลาญชีวิตไปกว่าหลายพันคน
'ฉันจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง '
ริมฝีปากมูยองโค้งขึ้นเล็กน้อย
มูยองเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเพื่อการได้ยินชื่อของฮาวเลสที่เปล่งออกมา
เขารู้สึกมั่นใจว่าพลังของ 72 เทพปีศาจอยู่ไม่ไกลจากการเข้าถึงของเขา
บารอนอัลลิแมนจะเป็นเพียงแค่หินรองเท้าให้เขาเท่านั้น
เคร้ง! เคร้ง!
การโจมตีนับไม่ถ้วนซ้ำไปซ้ำมา
ทว่าเกราะหนามของอัลลิแมนยังมีสภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม
"เจ้ามีพลังโจมตีแค่นี้งั้นหรือ?! ฮ่าๆ”
มันหัวเราะใส่หน้าของมูยอง
จำนวนบาดแผลที่ตัวมูยองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ไฟของมังกรไม่สามารถเผาผลาญได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามดวงตาของมูยองกำลังตรวจสอบร่างของอัลลิแมนอย่างต่อเนื่อง
เพียงองค์ประกอบเดียว
เขาเพียงแค่ต้องการหาองค์ประกอบอันเดียวที่สามารถเจาะทะลวงหนามเหล่านั้นได้
ไม่มีอะไรอื่นที่สำคัญอีก
‘…ฉันเห็นมันแล้ว’
ดวงตาของมูยองส่องประกาย
มูยองพบองค์ประกอบแปลกๆอย่างชัดเจนในขณะที่หนามถูกปล่อย และกระจายออกไป
มันใกล้เคียงกับจุดเล็กๆมากกว่าองค์ประกอบ
จุดที่เชื่อมต่อหนามทั้งหมด!
นั่นคือจุดอ่อนของมัน มันเป็นข้อบกพร่องเดียวของพลังอำนาจแห่งอัลลิแมน
ในเวลาเดียวกัน เขาสองข้างก็ปรากฏขึ้นและเวลาของมูยองก็เชื่องช้าลง
แม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งนาทีในเวลาจริง แต่สำหรับมูยอง มันใกล้เคียงกับสี่นาที
ในโลกที่ช้าลง 4 เท่า การโจมตีของอัลลิแมนดูเชื่องช้ามากๆ
และด้วยการพุ่งเป้าไปที่จุดๆหนึ่ง มูยองพุ่งตัวออกไป
ตูมมมม!
ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวทะลวงผ่านไปที่จุดดังกล่าว
พลังการต้านทานที่แข็งแกร่งได้ออกมาต่อต้าน แต่เขาไม่ได้สนใจ
"เจ้าาาา สารเลววววว!"
ราวกับว่าอัลลิแมนรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกไปมันรีบหดหนามทั้งหมดกลับมา ก่อนจะรวบรวมหนามทุกเส้นพุ่งเข้าหามูยองเพื่อสังหาร
'เร่งความเร็ว'
เป็นทักษะจากบูทของเฮอมีส
โลกยิ่งรู้สึกช้าลงกว่าเดิม
แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 3 วินาทีก็ตาม โลกของมูยองได้แล่นช้าลงกว่า 5 เท่า
กล้ามเนื้อทั้งหมดบนแขนของเขากรีดร้องออกมาเสียงดัง หลอดเลือดดำพองขึ้นราวกับว่าพวกมันกำลังจะหลุดออกมาจากผิวของเขา
สวบบบบ!
ฉับพลัน จุดๆนั้นถูกทะลวง
"ได้อย่างไร ...เกราะของข้า?"
อัลลิแมนพูดราวกับว่ามันไม่สามารถเชื่อสายตาของตัวเอง
อย่างไรก็ตามร่างกายของอัลลิแมนได้กลายเป็นขี้เถ้าก่อนจะสลายหายไป
โดยปกติแล้ว ปีศาจจะไม่ทิ้งร่างไว้เมื่อพวกมันตาย
พวกมันจะกลายเป็นขี้เถ้าก่อนสลายไปกับสายลม
หนามที่บินมายังมูยองก็กลายเป็นขี้เถ้าและตกลงไปที่พื้น
"ปีศาจที่ไม่สมบูรณ์แบบ"
ขณะที่เขาเฝ้าดูสถานการณ์ มูยองก็เตือนตัวเองอีกครั้ง
เว้นเสียแต่ว่าพวกมันจะอยู่ในระดับของเทพปีศาจ นอกนั้นมีเพียงงราชาปีศาจเท่านั้นที่คู่ควรกับคำว่า 'ปีศาจ' จริงๆได้
และปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง
ปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่เดินสวนทางกับกฏเกณฑ์ของโลก
เช่นเดียวกับที่พวกมันไม่สามารถทิ้งร่างกายไว้ได้หลังจากที่พวกมันตาย
<คุณได้สังหาร 'บารอนอัลลิแมน'>
<คุณมีได้รับแต้มลอร์ด 300 หน่วย>
<คุณได้รับ 'ผลึกหนาม' >
<ผลความสำเร็จ 'นักล่าปีศาจ' ได้ถูกเพิ่มแล้ว>
<'ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว' ร่ำร้องด้วยความตื่นเต้น ในตอนนี้การโจมตีต่อปีศาจจะแข็งแกร่งมากขึ้น>
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดยังคงดังขึ้นรอบๆ
แม้ว่าอัลลิมานจะตายไปแล้ว แต่ปีศาจก็ยังคงสู้ต่อไป
พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าปีศาจทั้งหมดจะถูกทำลาย
'ขี้เถ้าคืนสู่ขี้เถ้า'
แต่ในสายตามูยอง พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากขี้เถ้า
****
เขาได้กำจัดอัลลิแมนและทหารปีศาจของมันอีกสองพันตน
บนพื้นดิน มีเพียงกองขี้เถ้าเท่านั้นที่เหลืออยู่
แน่นอนว่ามูยองก็ได้รับความเสียหาย
‘เกือบหกพันชีวิต’
ในขณะที่จัดการทหารปีศาจสองพันตน มีเกือบหกพันคนที่เสียชีวิต
แม้ว่าการต่อสู้จะไม่มีตอบแทน แต่มันก็เป็นผลดีอย่างยิ่งสำหรับการต่อสู้ครั้งแรกของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม มีเพียง 24,000 คนเท่านั้นที่เหลือรอด
ด้วยตัวเลขนี้ เขาไม่สามารถเข้าถึงดยุคบาสโต้ได้
มีปีศาจเหลืออยู่อีกมากกว่า 90,000 ตนทีมันพามา
หากพวกเขาต่อสู้ด้วยสภาพเช่นนี้ ผลลัพธ์นั่นชัดเจน
ความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบของมูยอง
'ฉันต้องรวมพลังกับไฟทาร์'
ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่จะตัดสินใจ
เช่นเดียวกับอัลลิแมน มันยังคงมีโอกาสสำหรับปีศาจตนอื่นๆที่จะพบสถานที่แห่งนี้
สุดท้ายเขารู้สึกว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าหากรวมกำลังกับไฟทาร์เพื่อต่อสู้กับปีศาจ
แน่นอนว่าไฟทาร์จะยอมรับข้อเสนอของมูยอง ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
หลังจากนั้นมูยองก็เอาผลึกสีดำออกจากด้านข้าง
มันเป็นขนาดเพียงเล็บมือ แต่พลังภายในของมันกลับน่าทึ่งมาก
'เมื่อปีศาจระดับสูงตาย มีโอกาสเล็กน้อยที่การตกผลึกจะปรากฏขึ้น'
ผลึกที่จะจะมีลักษณะเป็นลูกแก้วซึงควบแน่นไปด้วยพลังของปีศาจ
ใครก็ตามที่กลืนมันลงไป สเตตัสของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น พวกมันยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอาวุธหรือชุดเกราะได้อีกด้วย
แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการกินมัน
อึก!
โดยไม่ลังเล เขาโยนผลึกหนามลงไปในปากทันที
ในขณะเดียวกัน กล้ามเนื้อของเขาทั้งหมดก็เริ่มกระตุก
<ค่าสถานะหลักของ Str Agi และ Sta เพิ่มขึ้นอย่างละ 5 หน่วย>
<ทักษะ 'หนามก่อกำเนิด' ถูกเพิ่มแล้ว>
<เนื่องจากได้รับพรจากผู้ใช้ 'มูยอง', ระดับของสกิลหนามก่อกำเนิดได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับ B>
ชื่อ: หนามก่อกำเนิด
ผล: ครอบคลุมทั้งร่างกายด้วยหนามที่แข็งแกร่ง
* ความต้านทานทางกายภาพเพิ่มขึ้น 200
* ความต้านทานเวทย์เพิ่มขึ้น 150
* เมื่อใช้งาน Agi จะลดลงเป็นอย่างมาก (-60%)
* มันจะดูดพลังชีวิตของผู้โจมตีเล็กน้อย
ได้รับทั้งสเตตัสหลักและทักษะสกิล
หนามก่อกำเนิด
แม้ว่ามันจะเป็นทักษะในการป้องกัน แต่มันก็เป็นทักษะที่ค่อนข้างดี
แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องที่ความว่องไวซึ่งลดลงเมื่อใช้งาน แต่ถ้ามีสถานการณ์สำหรับการใช้งานหนามก่อกำเนิด มันก็จะเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากอยู่แล้ว