ตอนที่แล้วTWO Chapter 152 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 154 การยอมจำนน

TWO Chapter 153 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 3


TWO Chapter 153 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 3

ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหารได้ขนส่งอาหารแสนอร่อยมามอบให้กับพวกทหาร สำหรับการเสี่ยงชีวิตของพวกเขา

ในตอนนั้น ไม่มีใครออกไปจากกำแพงเมือง แม้แต่โอหยางโชวก็ยังไม่กล้าออกไป เขายังสั่งให้ภัตตาคารสานกู่เตรียมอาหารบางส่วน ส่งไปยังห้องพักที่อยู่ในหอคอยด้านทิศตะวันตก สำหรับไป๋ฮัวและคนอื่นๆ

ในเวลาพัก สมาชิกของพันธมิตรซานไห่ก็ได้นั่งทานอาหารพร้อมสนทนากัน หัวข้อหลักของการสนทนาก็คือ ครึ่งแรกของการโจมตีของผู้บุกรุก ที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงไป

“ข้าไม่คิดเลยว่า การโจมตีของผู้บุกรุกจะรุนแรงมากขนาดนี้” ซุ่นหลงเตียนเซว่กล่าวอย่างมีอารมณ์

“ใช่ มันทำให้ข้าสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดไปเลย” เฟิงฉิวฮวงเห็นด้วย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ

ไป๋ฮัวมองไปทางโอหยางโชว แล้วกล่าวด้วยความห่วงใยว่า “หวู่ยี่ ท่านมีความมั่นใจสำหรับการป้องกันการโจมตีในช่วงบ่ายหรือไม่?” คนอื่นๆก็มองมาทางเขาอย่างเป็นกังวล

โอหยางโชวยิ้ม “ทุกอย่างยังคงปกติดี เราสามารถป้องกันการโจมตีในช่วงเช้าได้ ทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาเริ่มลดลง ตราบที่พวกเราไม่ทำผิดพลาดใดๆ เราก็จะไม่มีปัญหาในการป้องกัีนการโจมตีของพวกเขา”

“แต่เมืองซานไห่เองก็สูญเสียเป็นอย่างมากในช่วงเช้า ศัตรูยังคงมีพวกชั้นสูง 1,000 คน และพลม้าอีก 1,000 คน ที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหว” ไป๋ฮัวไม่ได้มองโลกในแง่ดีเท่าไหร่

รายงานการสู้รบ จากผู้บุกรุก 6,700 นาย โจรสลัดตาย 200 คน, ถูกจับ 300 คน, ผู้บุกรุกทั่วไปตาย  1,200 คน และผู้บุกรุกชั้นสูงตาย 300 คน นี่แสดงให้เห็นว่า ศัตรูยังคงมีกำลังรบมากกว่าครึ่ง แต่แน่นอน การสูญเสียครั้งใหญ่ จะส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพวกเขา

ด้านเมืองซานไห่ กองทัพเรือเป่ยไห่ ตาย 50 นาย, ทหารป้องกันเมือง ทหารธนูตาย 50 นาย, ทหารโล่ดาบตาย 200 นาย และทีมพลเมืองตาย 80 คน ความสูญเสียของพวกเขาอยู่ในอัตราส่วน 1 : 5 เมื่อเทียบกับผู้บุกรุก ซึ่งเป็นผลที่ดีมาก

“ผู้บุกรุกตายมากกว่าเรามาก ดังนั้น เราจะมาดดูกันว่า พวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นไร” โอหยางโชวกล่าว

…………………………………………………………………………..

ในเวลาเดียวกัน ในเต็นท์หลักของผู้บุกรุก

“พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีนัก เราควรจะทำเช่นไรในช่วงบ่าย?” เฮยฉีถาม

ฮัวต้าเคร่งขรึมมาก “สำหรับช่วงบ่าย มันถึงเวลาแล้วที่น้องรองจะทำหน้าที่”

“ทำไรหรือ?” เฮยฉีรู้สึกสับสนเล็กน้อย

“ในตอนเช้า เราได้จัดคนให้สร้างสะพานลอยน้ำไว้แล้ว และเราได้เตรียม 2 สิ่ง พร้อมเรียบร้อยแล้ว จากการโจมตีเมื่อตอนเช้า ข้าได้รับรายงานจากคนของเราที่ล่าถอยกลับมาว่า ศัตรูได้ดึงกำลังเสริมจากประตูด้านทิศตะวันออกหรือไม่ก็จากประตูด้านทิศเหนือ มาช่วยประตูด้านทิศตะวันตก ดังนั้น การป้องกันจากด้านนั้นก็จะอ่อนแอลง ซึ่งเราจะใช้โอกาสนั้น น้องรอง เจ้านำกองกำลังของเจ้าอ้อมไปที่ด้านหลัง แล้วข้ามสะพานลอยน้ำ ไปรอบลอบโจมตีประตูด้านทิศเหนือของพวกเขา จำไว้ว่า เจ้าต้องรอให้การสู้รบทางประตูด้านทิศตะวันตกเริ่มขึ้นก่อน แล้วค่อยโจมตี เจ้าต้องไม่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะมีโอกาสได้เตรียมตัว เจ้าเข้าใจหรือไม่?” ฮัวต้าอธิบาย

“ข้าเข้าใจแล้ว!” เฮยฉีกล่าวอย่างตื่นเต้น

เมื่อเวลา 11.00 น. พวกผู้บุกรุกก็เริ่มโจมตีอีกครั้ง ครั้งนี้ ฮัวต้าไม่ได้เว้นกองกำลังสำรองใดๆไว้ เขาสั่งให้กองกำลังทั้งหมดของเขาโจมตี และมันทำให้พวกเขามีแรงกดดันมากพอ ที่จะทำให้เมืองซานไห่ไม่สามารถช่วยเหลือประตูด้านทิศเหนือได้

โอหยางโชวยืนอยู่บนหอคอย และเห็นว่าพลม้า 1,000 คน ที่อยู่ที่ของพวกเขาหายไป เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีในทันที

ตามที่คาดไว้ ท้องฟ้าเหนือทางประตูด้านทิศเหนือได้มีการยิงกระสุนสัญญาณ ซึ่งมีความหมายว่าถูกลอบโจมตี

“ถ่ายทอดคำสั่ง!”

“ขอรับ!”

“สั่งให้กองทัพเรือเป่ยไห่เดินทางเข้ามาในคูเมือง เพื่อช่วยป้องกันประตูด้านทิศเหนือ!”

“ขอรับนายท่าน!”

หลังจากที่ผู้ส่งสาส์นออกไป ไป๋ฮัวก็กล่าวว่า “เหล่าผู้บุกรุกฉลาดและเจ้าเล่ห์มาก เมื่อพวกเขาค้นพบจุดอ่อน พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวในทันที”

โอหยางโชวหัวเราะ “ตอนแรกข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะ 100% แต่ตอนนี้ข้าสามารถยืนยันได้อย่างแน่นอนแล้วว่า เมืองซานไห่จะชนะ”

“ทำไมหรือ?”

“ผู้บุกรุกทำเกินตัวของพวกเขา ใช้พลม้าเพื่อโจมตีประตูเมืองทางด้านทิศเหนือของเรา พวกเขาคงไม่คิดว่าจะมีทหารอีก 400 นาย อยู่ที่นั่น และยังไม่กองทัพเรือเป่ยไห่อีก ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาได้เคลื่อนพลม้าออกไปแล้ว มันได้เปิดทางให้ทหารม้า 600 นาย ที่เราได้ซุ่มไว้ใกล้ประตูด้านทิศตะวันตกนี้ ตอนแรกพวกเขามีพลม้า 1,000 คน เฝ้าอยู่ ทำให้ข้าไม่กล้าโจมตี แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เลือกที่จะตายเรียบร้อยแล้ว” โอหยางโชวอธิบาย

ดวงตาของไป๋ฮัวเปล่งประกาย เธอยิ้ม แล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่าศัตรูคงจะไม่คาดคิดว่า เมืองซานไห่ได้ซุ่มทหารม้าไว้จำนวนมาก โดยไม่ยอมเคลื่อนไหวใดๆ”

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วถ่ายทอดคำสั่งออกไป “ถ่ายทอดคำสั่ง ให้ขุนพลหลินยี่เตรียมพร้อมสำหรับการปะทะ แล้วรอสัญญาณจากข้า”

“ขอรับนายท่าน!”

“พี่หวู่ยี่ ทำไมไม่ปล่อยให้พวกเขาออกไปในตอนนี้ล่ะ?” มู่หลานเยว่ถาม เด็กน้อยคนนี้ยอมรับบรรยาการของการสู้รบได้ในที่สุด เธอได้ออกมาจากห้องพักแล้ว

โอหยางโชวหัวเราะ “ตอนนี้ผู้บุกรุกเพิ่งจะเริ่มการโจมตี ความแข็งแรงและขวัญกำลังใจของพวกเขายังคงอยู่ในสภาพที่ดี จึงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะโจมตี”

“โอ้”

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา การสู้รบทางประตูด้านทิศตะวันตกเข้าสู้ทางตัน ถึงแม้ว่าผู้บุกรุกได้เพิ่มพวกชั้นสูงมาอีก 1,000 คน แต่ทหารป้องกันเมืองก็ก็เพิ่มขึ้นอีก 300 นาย เช่นกัน และเมื่อรวมกับตู้น้ำมันติดไฟ ทั้ง 2 ฝ่าย จังยังคงคู่คี่สูสีกัน

การลอบโจมตีทางประตูด้านทิศเหนือไม่ได้ส่งผลใดๆ และการสู้รบทางประตูด้านทิศตะวันตกก็เข้าสู่ทางตัน ดังนั้น ฮัวต้าจึงไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ขวัญกำลังใจของพวกเขาเริ่ใเข้าสู้จุกวิกฤต ถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาก็จะเริ่มถอยหนี ฮัวต้าจึงคิดจะเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับพวกเขา

โอหยางโชวยืนอยู่บนหอคอย และเมื่อเขาได้เห็นผู้นำของผู้บุกรุกเข้าสู้สนามรบ เขาก็ถอนหายใจ และเรียกหวังหยวนเฟิงมาพบ เขาชี้ไปที่ผู้นำของผู้บุกรุก แล้วกล่าวว่า “ขุนพลหวัง เจ้าเห็นชายวัยกลางคนที่คอยบัญชาการผู้บุกรุกอยู่ในสนามรบหรือไม่?”

หวังหยวนเฟิงมีวิสัยทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน “ข้าเห็นเขา เขาเป็นผู้นำของผู้บุกรุกใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง เจ้ามั่นใจว่าจะยิงโดนเขาหรือไม่?”

หวังหยวนเฟิงหายใจลึกๆ แล้วกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “เขาอยู่ห่างจากกำแพงราว 1,300 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะยิงของเครื่องยิงหน้าไม้ ข้าจะพยายามทำมันให้ได้”

โอหยางโชวพยักหน้า “ขุนพลหวัง นี่ไม่ใช่การเสี่ยงโชค จะดีกว่าที่เจ้าจะใช้เครื่องยิงหน้าไม้ทั้ง 2 พร้อมกัน เพราะนี่คงจะเป็นโอกาสเดียวของพวกเรา”

“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ!”

หวังหยวนเฟิงกลับออกไป รวบรวมทหารของเขา และมุ่งหน้าไปที่เครื่องยิงหน้าไม้ เมื่อสังหารผู้นำของผู้บุกรุก พวกเขาต้องยิงลูกศรที่แข็งแกร่งที่สุดของเครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร ซึ่งก็คือ ‘1 หอก 3 ใบมีด’ มันมีระยะยิงไกลถึง 1,500 เมตร

หลังจากเล็งแล้ว พวกเขาก็ยิงเครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร ทั้ง 2 เครื่องพร้อมกัน ลูกศร ‘1 หอก 3 ใบมีด’ มีขนาดเท่ากับหอกขนาดใหญ่ มันลากเป็นสายของลูกศนที่สมบูรณ์ขึ้นในอากาศ และพุ่งตรงไปยังฮัวต้า

โอหยางโชวยืนอยู่บนหอคอย และมองไปยังวิถีของลูกศรอย่างกังวล ลูกศรที่หวังหยวนเฟิงยิงออกไป ไม่ได้พุ่งไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องทั้ง 2 ลูกศร โชคดีที่ลูกศรหนึ่งพุ่งตรงไปที่ฮัวต้าอย่างแม่นยำ

ในเวลานั้น ฮัวต้ายังคงพยายามที่จะเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับกองกำลังของเขา ในขณะที่ลูกศรพุ่งเข้ามา เขาไม่มีเวลาจะตอบโต้ใดๆ ก่อนที่ลุกศรจะแทงทะลุร่างของเขาและตายในทันที

โอหยางโชวแน่นอนว่าจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ เขาตะโกนออกไป “ถ่ายทอดคำสั่ง!”

“ขอรับ!”

“สั่งให้ทหารม้าออกไปจากเมือง และกวาดล้างศัตรูซะ”

“ขอรับนายท่าน!”

ด้านล่างกำแพงเมือง ทหารม้า 600 นาย กำลังรออย่างหงุดหงิด หลังจากที่ได้รับคำสั่งแล้ว หลินยี่ก็ตะโกนออกไปอย่างตื่นเต้นว่า “พี่น้อง ถึงคราวของเราแล้ว!”

“ฆ่า!!!” ทหารม้าทั้ง 600 นาย กรีดร้องออกมาพร้อมกัน

พวกเขารอมาทั้งวัน ขณะที่ทีมพลเมืองถูกส่งออกไป พวกเขาก็ทำได้แค่รอ จนถึงตอนนี้ ในที่สุด พวกเขาก็ได้รับโอกาสที่พวกเขารอคอย แล้วจะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร

ขณะที่ประตูเมืองเปิดออกช้าๆ ทหารม้า 600 นาย ก็ขี่ม้าพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ดังหัวลูกศรที่แหลมคม พวกเขาโจมตีกองกำลังของผู้บุกรุก ที่ด้านหลังของพวกเขา ประตูเมืองที่ถูกเปิด ได้ถูกปิดไว้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ข่าวการตายของฮัวต้าได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บุกรุก ในตอนแรก ขวัญกำลังใจของพวกเขาก็ต่ำอยู่แล้ว และตอนนี้ มันไม่มีเหลืออีกต่อไป การโจมตีของเมืองซานไห่ ได้ทำลายความหวังสุดท้ายของพวกเขา และบดขยี้จิตวิญญาณในการต่อสู้ของพวกเขา

หลินยี่เคยชินกับการต่อสู้แบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามโจวหลู่ ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินยี่ได้เห็นถึงควาวกล้าหาญของจางเลี้ยว และเข้าได้เรียนรู้เป็นอย่างมาก เขาเป็นคนที่ขยัน ในช่วงที่พักผ่อน เขาได้ถามคำถามจางเลี้ยวมากมายเพื่อขอคำแนะนำ และจางเลี้ยวก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว เขามีความประทับใจในตัวหลินยี่ ดังนั้น เขาจึงยินดีที่จะช่วยหลินยี่

ทหารม้า 600 นาย ที่อยู่ภายใต้การนำของหลินยี่ ได้วิ่งไปมาในหมู่ผู้บุกรุก ราวกับว่าไม่มีใครขวางทางพวกเขาได้ ผู้บุกรุกกำลังเตรียมจะโจมตีเมือง ดังนั้น รูปแบบของพวกเขาจึงเป็นรูปแบบโจมตี เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของทหารม้า แล้วพวกเขาจะสามารถสกัดกั้นทหารม้าได้อย่างไร

หลินยี่เป็นคนฉลาด เขาได้ให้ความสำคัญกับการทำลานบันได และอุปกรณ์ล้อมเมืองต่างๆ ซึ่งช่วยให้ฝ่ายของพวกเขากลับมาได้เปรียบอีกครั้ง และเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เหล่าผู้บุกรุกก็เริ่มล่าถอย

หลังจากโจมตีได้รอบๆอยู่ชั่วครู่ หลินยี่ไม่กล้าที่จะอยู่นาน จึงนำทหารกลับมา ผู้บุกรุกที่กำลังหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าขัดขวางการล่าถอยของพวกเขา

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด