เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 156 ความลึกลับของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 156 ความลึกลับของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้
"ท่านฟางหยวน เส้นทางสายนี้จะนำไปสู่หอตำราของตระกูล เชิญ" ในเส้นทางที่มืดมิด ชายชราผู้ใช้วิญญาณระดับสองเดินนำฟางหยวนเข้าไป
หอตำราของตระกูลคือห้องลับที่เก็บรวบรวมเคล็ดลับการหลอมรวมของตระกูลแสงจันทร์เอาไว้
ฟางหยวนกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ดังนั้นสถานะของเขาจึงแตกต่างออกไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เคล็ดลับการหลอมรวมของตระกูล ตราบเท่าที่ไม่ใช่การหลอมรวมวิญญาณระดับสี่หรือห้า ฟางหยวนสามารถเรียนรู้มันได้ทั้งหมด
หากเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งหรือสอง พวกเขาต้องจ่ายหินวิญญาณหรือคะแนนผลงานเพื่อแลกเปลี่ยนกับบางสิ่ง
หอตำราถูกสร้างไว้ในถ้ำใต้ดินของหมู่บ้าน กระทั่งหมู่บ้านถูกทำลาย ห้องลับแห่งนี้ก็จะยังคงอยู่
ทั้งหมดก็คือผู้นำรุ่นแรกของตระกูลแสงจันทร์ค้นพบกล้วยไม้จันทราที่เติบโตอยู่ในถ้ำใต้ดินแห่งนี้ เขาจึงตัดสินใจก่อตั้งหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลขึ้นที่นี่
จากรุ่นสู่รุ่น หอตำราใต้พิภพยังถูกเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด
ปกติแล้วผู้ใช้วิญญาณทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปในถ้ำใต้พิภพ มีเพียงตัวตนเช่นผู้นำตระกูล ผู้อาวุโส และผู้ดูแลเท่านั้นที่มีอำนาจชนิดนี้
ผู้ใช้วิญญาณมากมายเคยลงไปในถ้ำแห่งนี้เพียงครั้งเดียวในชีวิต นั่นก็คือช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าร่วมพิธีเผยลิขิตสวรรค์เพื่อปลุกทะเลวิญญาณ
นอกเหนือจากนั้นหากไม่มีเหตุผลพิเศษที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้อาวุโสอย่างรอบคอบ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปในถ้ำใต้พิภพ
เหตุผลก็คือกล้วยไม้จันทราเป็นรากฐานของหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล เนื่องจากมันสามารถผลิตหินวิญญาณจำนวนมากขึ้นมาหล่อเลี้ยงผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดของตระกูลนั่นเอง
โดยการผ่านเส้นทางใต้ดิน ชายชราผู้ใช้วิญญาณระดับสองนำฟางหยวนมาหยุดอยู่หน้าประตูหินบานหนึ่ง
ด้วยการตบหน้าท้องของตน ผู้ใช้วิญญาณระดับสองส่งวิญญาณบางดวงพุ่งเข้าชนประตูหินเป็นเหตุให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นบนบานประตูหินราวกับโยนหินลงไปในน้ำ ไม่นานหลังจากนั้นประตูหินจึงได้เลือนหายไปและเผยห้องลับที่ซ่อนไว้ด้านหลัง
ห้องลับมีขนาดประมาณหกร้อยหกสิบหกตารางเมตร ปรากฏโต๊ะหินที่สูงประมาณเอวมนุษย์วางเรียงราวกันเป็นทิวแถวโดยมีแผ่นหยกขาวตั้งไว้ด้านบนพร้อมกับวิญญาณบางอย่างที่นอนพักผ่อนอยู่ด้านหน้า
มีวิญญาณหลากหลายสีสันและหลากหลากขนาด
"ท่านฟางหยวน นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านมายังหอตำรา ดังนั้นโปรดให้ข้าอธิบาย พวกมันคือวิญญาณสมุดบันทึก วิญญาณสมุดบันทึกสีเขียวจะบันทึกเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับหนึ่ง วิญญาณสมุดบันทึกสีแดงบันทึกเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสอง วิญญาณสมุดบันทึกสีขาวมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสามเก็บเอาไว้ สำหรับวิญญาณสมุดบันทึกสีส้มเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสี่ สุดท้ายเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับห้าจะอยู่กับวิญญาณสมุดบันทึกสีม่วง"
ชายชราผู้ใช้วิญญาณระดับสองอธิบาย
วิญญาณสมุดบันทึกเป็นวิญญาณที่สามารถบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ภายใน วิญญาณประเภทเดียวกันระดับสูงกว่านี้ มันกระทั่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์หรือแม้แต่เสียง
วิญญาณความทรงจำในถ้ำลับที่นักบวชปีศาจสุราดอกไม้ใช้เก็บภาพเหตุการณ์ในอดีตก็คือวิญญาณประเภทดังกล่าว แต่มันเป็นวิญญาณระดับสาม
อย่างไรก็ตามการบันทึกด้วยเสียงไม่มีความจำเป็น ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกใช้วิญญาณสมุดบันทึกที่เป็นวิญญาณระดับต่ำกว่า
เคล็ดลับการหลอมรวมเป็นสิ่งล้ำค่า การใช้กระดาษเยื้อไผ่บันทึก มันง่ายที่จะเกิดความเสียหายและถูกขโมย แต่หากเป็นวิญญาณสมุดบันทึกที่ถูกขโมย โจรชั่วเหล่านั้นยังต้องมีพลังวิญญาณของตระกูลแสงจันทร์เพื่อใช้ในการปรับแต่งมันอีกด้วย
ความเข้าใจศัตรูจะนำไปสู่ชัยชนะ ผู้ใช้วิญญาณจึงมักจะเรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งของวิญญาณต่างๆผ่านเคล็ดลับการหลอมรวม
ดังนั้นหากเคล็ดลับเหล่านี้รั่วไหลออกไป มันจะถือเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงของตระกูล ในอนาคตหากพวกเขาต้องทำสงครามระหว่างตระกูล พวกเขาจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ด้วยเหตุนี้มันจึงมีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด
"ท่านฟางหยวน วิญญาณสมุดบันทึกเหล่านี้เป็นของผู้อาวุโสหอตำรา แต่ท่านสามารถใช้พลังวิญญาณของท่านเพื่อกระตุ้นการทำงานของมัน อย่างไรก็ตามด้วยสถานะของท่าน ท่านยังไม่สามารถเรียนรู้เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสี่หรือห้า นอกจากนั้นยังมีอีกสองเรื่องที่สำคัญ หนึ่ง หอตำราเป็นพื้นที่ต้องห้ามของตระกูล ทุกการเคลื่อนไหวของท่านที่นี่จะถูกเฝ้ามองตลอดเวลา สอง ในแต่ละวันที่ท่านมาที่นี่ ท่านสามารถอยู่ในห้องลับแห่งนี้ได้เพียงสิบห้านาทีเท่านั้น" ชายชรากล่าว
"อืม ข้าเข้าใจแล้ว" ฟางหยวนพยักหน้า
"ท่านฟางหยวน ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้ไม่สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นข้าจะรอท่านอยู่ที่หน้าประตู เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ข้าจะนำทางท่านออกไป" ชายชราคำนับ
เพียงเมื่อฟางหยวนเดินเข้าไปในห้องลับ ประตูหินพลันปรากฏขึ้นและปิดทางเข้าออกห้องลับเอาไว้อีกครั้ง
เดินเข้าไปในห้องลับที่เงียบสงบ เสียงฝีเท้าของฟางหยวนดังสะท้อนไปรอบๆห้องที่มีวิญญาณโคมไฟวารีส่องประกายให้ความสว่าง
ฟางหยวนหยุดยืนอยู่ด้านหน้าวิญญาณสมุดบันทึกสีแดงก่อนจะส่งพลังวิญญาณเข้าไป ชั่วครู่ต่อมาแสงสองสายจึงถูกยิงออกมาจากดวงตาของวิญญาณสมุดบันทึกตรงไปยังแผ่นหยกขาวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
ฟางหยวนเงยหน้ามองไปยังแผ่นหยกขาวที่ปรากฏข้อความบางอย่างอยู่บนพื้นผิว
นี่คือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณสะเก็ดจันทรา
มันเริ่มต้นด้วยการบ่งบอกความสามารถของวิญญาณสะเก็ดจันทราที่จะเพิ่มระยะการโจมตีของดาบแสงจันทร์เป็นสองเท่า แต่มันมีจุดอ่อนที่พลังโจมตี
ต่อไปคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณสะเก็ดจันทราที่ต้องใช้วิญญาณแสงจันทร์ผสานกับวิญญาณหินผา
ลำดับถัดมา จุดสำคัญของการหลอมรวมมันก็คือหากเพิ่มหินหยกเข้าไปและหลอมรวมมันในเวลากลางคืน มันจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น
สุดท้ายมันยังบันทึกประสบการณ์ของผู้ใช้วิญญาณที่หลอมรวมวิญญาณชนิดนี้ไว้อีกมากมาย
ฟางหยวนกวาดตามองและจดจำบางสิ่งเอาไว้ในใจ
เมื่อมันเป็นการรวบรวมความพยายามในการลองผิดลองถูกของผู้ใช้วิญญาณจำนนนนับไม่ถ้วนผ่านระยะเวลาที่ยาวนาน มันจึงมีบางสิ่งที่แม้แต่ฟางหยวนก็ยังไม่รู้
หลังจากทั้งหมด วิญญาณแสงจันทร์เป็นวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลแสงจันทร์โดยเฉพาะ นอกจากนั้นในชีวิตก่อนหน้าเขาก็ไม่เคยเข้ามาในห้องลับแห่งนี้ มันจึงมีความรู้มากมายที่เขาไม่เคยพบเห็น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ฟางหยวนจึงต้องเร่งตรวจสอบและหันไปทางวิญญาณสมุดบันทึกสีขาวต่อไป
วิญญาณสมุดบันทึกสีขาวเก็บเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสาม
แต่ส่วนใหญ่พวกมันกลับไม่เหมาะสมกับเขา ดังนั้นเขาจึงมองผ่านพวกมันไปเพื่อประหยัดเวลา
เดิมทีฟางหยวนใช้วิญญาณแสงจันทร์ผสานกับวิญญาณแสงดาวเพื่อยกระดับเป็นวิญญาณจันทร์กระจ่าง ด้วยพื้นฐานดังกล่าว มันจึงมีเพียงสามวิธีที่เขาสามารถใช้งานได้
หนึ่ง วิญญาณจันทร์สีทอง มันยังมีระยะการโจมตีเพียงสิบก้าว แต่พลังการโจมตีของมันจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว มันเป็นจันทร์เสี้ยวสีทองที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของร่างกายมนุษย์
สอง วิญญาณจันทราเยือกแข็ง มันเป็นดาบแสงจันทร์ที่มีคุณสมบัติของน้ำแข็ง ผู้ใดที่ถูกโจมตีด้วยดาบแสงจันทร์ชนิดนี้ พวกเขาจะถูกแช่แข็งและทำให้การเคลื่อนไหวช้าลง
สาม วิญญาณภาพลวงจันทรา มันเป็นวิญญาณที่แตกต่าง มันไม่ได้มีไว้สำหรับการโจมตี แต่เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน มันจะสร้างภาพลวงตาของผู้ใช้วิญญาณขึ้นมาทำให้ศัตรูเกิดความสับสน และมันยังสามารถต่อยอดไปเป็นวิญญาณระดับสี่ วิญญาณเงาจันทร์ ได้อีกด้วย
"วิญญาณเงาจันทร์จะถูกส่งเข้าไปในทะเลวิญญาณของศัตรูและดูดกลืนพลังวิญญาณของพวกเขาโดยตรง" ข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณภาพลวงจันทราอ้างอิงถึงวิญญาณเงาจันทร์เพียงเล็กน้อย
"วิญญาณเงาจันทร์...ไม่ใช่ว่ามันคือวิญญาณที่ผู้นำรุ่นที่สี่ใช้ลอบโจมตีนักบวชปีศาจสุราดอกไม้หรอกหรือ?" ฟางหยวนขมวดคิ้ว
ในโลกใบนี้มีวิญญาณนับล้านๆชนิด กระทั่งประสบการณ์ห้าร้อยปีของฟางหยวนก็ยังมีความรู้เกี่ยวกับพวกมันเพียงหนึ่งในแสนเท่านั้น
เดิมทีวิญญาณเงาจันทร์ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา แต่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกสนใจวิญญาณดวงนี้ขึ้นมาทันที
วิญญาณเงาจันทร์มีวิธีใช้งานที่ค่อนข้างพิเศษ มันสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณของผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ได้ถึงสามสิบส่วน สิบห้าส่วนหากเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า และหกสิบส่วนเมื่อเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม นั่นหมายความว่า ด้วยพรสวรรค์นภาที่สามของฟางหยวนที่มีทะเลวิญญาณเพียงสี่สิบสี่ส่วน หากเขาถูกโจมตีด้วยวิญญาณเงาจันทร์ พลังวิญญาณของเขาจะถูกดูดกลืนไปจนสิ้นและทำให้เขากลายเป็นง่อยไปในพริบตา
อย่างไรก็ตามหากเป็นฟางหยวนที่ถูกลอบโจมตีด้วยวิญญาณชนิดนี้ มันจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเพียงเมื่อมันเข้าไปในทะเลวิญญาณของเขา วิญญาณกาลเวลาจะสะกดข่มมันและทำให้ฟางหยวนสามารถปรับแต่งมันให้กลายเป็นวิญญาณของตนเองในทันที
แต่สิ่งที่ฟางหยวนยังงุนงนไม่ใช่ผลกระทบของวิญญาณชนิดนี้แต่เป็นนักบวชปีศาจสุราดอกไม้
"ข้าจำได้ว่าในภาพเหตุการณ์บนผนังถ้ำ ร่างของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้เต็มไปด้วยบาดแผลและอาบย้อมไปด้วยเลือด การต่อสู้กับกลุ่มผู้นำรุ่นที่สี่ทำให้นักบวชปีศาจสุราดอกไม้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาเกิดขึ้นเพราะวิญญาณเงาจันทร์ แต่วิธีใช้งานวิญญาณเงาจันทร์คือการดูดกลืนพลังวิญญาณ แล้วมันทำให้นักบวชปีศาจสุราดอกไม้ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร?" ยิ่งคิด ฟางหยวนก็ยิ่งสงสัย หลังจากนักบวชปีศาจสุราดอกไม่หลบหนีไปจากลุ่มผู้นำรุ่นที่สี่ มันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่
หากวิญญาณเงาจันทร์ไม่ใช่สาเหตุการตายของเขา แล้วมันคือสิ่งใด?
นี่ทำให้การรับสืบทอดมรดกของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้กลายเป็นสิ่งลึกลับสำหรับฟางหยวนอีกครั้ง
"ท่านฟางหยวน ครบเวลาสิบห้านาทีแล้ว หากท่านยังต้องการเรียนรู้สิ่งใด โปรดกลับมาในวันพรุ่งนี้" เป็นเพียงเวลานี้ที่ประตูหินเปิดออกพร้อมกับเสียงของชายชราที่ดังเข้ามา
"ตกลง" ฟางหยวนวางวิญญาณสมุดบันทึกลงก่อนจะเดินออกจากห้องลับ
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณจันทร์สีทอง วิญญาณจันทราเยือกแข็ง หรือวิญญาณภาพลวงจันทรา มันไม่ใช่สิ่งที่ฟางหยวนต้องการ นั่นเป็นเพราะพวกมันต้องกินกลีบดอกกล้วยไม้จันทราจำนวนมากเป็นอาหาร
กลีบดอกกล้วยไม้จันทราเป็นสิ่งที่ยากในการเก็บรักษา มันสามารถอยู่ได้เพียงไม่กี่วัน แต่แผนการของฟางหยวนคือการออกไปจากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลและผจญภัยในโลกกว้าง หากเขาปรับแต่งวิญญาณเหล่านี้ มันจะตายภายในครึ่งปีหลังจากอดอาหาร ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ต้องการปรับแต่งพวกมัน
อย่างไรก็ตามยังมีเคล็ดลับอีกมากมายที่เขายังไม่ได้ตรวจสอบ
'ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้' ความคิดดังกล่าวดังขึ้นในใจของฟางหยวน