บทที่ 30 ซื้อรถยนต์ (อ่านฟรี)
หลังจากนั้น มีตัวแทนฝ่ายขายจำนวนมากจากโรงงานเพื่อเข้าพบเฝิงหยู่ พวกเขามาเพื่อเจรจาธุรกิจกับเฝิงหยู่ มีบางคนซึ่งบันทึกช่องทางติดต่อเฝิงหยู่จากการซื้อขายสินค้าครั้งก่อนที่สหกรณ์ และบางส่วนที่เฝิงหยู่ให้หลี่ซื่อเฉียงไปหาช่องทางติดต่อคู่แข่งของโรงงานอีกฝ่าย
พอได้ยินว่ามีบริษัทที่ต้องการค้าส่งสินค้าของตนเองในปริมาณมาก คนเหล่านี้ต่างกรูกันมาเหมือนฝูงแมลงวันที่ได้กลิ่นกลิ่นหอมหวาน
เฝิงหยู่มีวาจาคมคายและเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เขาสามารถตบตาตัวแทนขายเหล่านี้ได้ ไม่เพียงแค่เขาจะได้รับสินค้าในราคาที่ต่ำกว่ามาก โรงงานส่วนใหญ่ยังตกลงที่จะเรียกเก็บเงินสองวันหลังจากที่ทำการส่งสินค้าแล้ว
มีโรงงานเพียงสามแห่งที่ต้องการให้ชำระเงินล่วงหน้าบางส่วน โรงงานทั้งสามแห่งนี้เป็นโรงงานรัฐวิสาหกิจ จึงจำเป็นต้องจ่ายเงินล่วงหน้าส่วนหนึ่ง
ชำระเงินล่วงหน้า? เฝิงหยู่ยิ้มเยาะ เขาเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเงินวางมัดจำ!
ในประเทศจีน เงินชำระล่วงหน้าและเงินวางมัดจำมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เงินมัดจำ หมายถึง ถ้าหากฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา เงินมัดจำจะกลายเป็นของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทันที และไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ส่วนการจ่ายเงินล่วงหน้าหมายความว่า ข้อตกลงนี้ได้รับการสรุปแล้ว ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา จะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง เฝิงหยู่ไม่โง่ที่จะหลงกลหรอก!
ตอนนี้ เฝิงหยู่รู้เฉพาะสินค้าส่วนใหญ่ที่จีหลี่เหลียนเคออาจต้องการ แต่ปริมาณยังไม่ได้รับการยืนยัน หากมีความแตกต่างของปริมาณสินค้าที่ต้องการไม่มากเท่าไหร่ เฝิงหยู่มั่นใจว่าโรงงานเหล่านี้จะไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆจากเขา เนื่องจากเฝิงหยู่ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ ทางโรงงานจึงน่าจะยอมรับได้ แต่แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าชดเชยบ้าง เฝิงหยู่ก็จ่ายไหว
ถ้าเป็นการจ่ายก่อนล่วงหน้า เฝิงหยู่ยังต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนของสินค้าที่สั่งเอาไว้ และหากจีหลี่เหลียนเคอไม่ต้องการ เขาก็ต้องซื้อสินค้านี้ไว้มาเก็บไว้ในคลัง ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องจ่ายค่าชดเชยสองเท่า เฝิงหยู่คงหมดตัว
พนักงานขายเหล่านี้ประหลาดใจอย่างมากต่อความสามารถของเฝิงหยู่ในการเลือกใช้คำพูดอย่างวิถีพิถัน เพราะอายุยังน้อยนิด พวกเขาจึงคาดไม่ถึงว่าเฝิงหยู่จะแก่ประสบการณ์ ไม่หลงกลได้ง่าย แต่พวกเขายังตกลงที่จะลงนามในสัญญาปรับปรุงใหม่ ที่ระบุเงื่อนไขไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะขอบเขตความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย พร้อมระบุวันที่ชำระเงินด้วย
อย่าได้คิดนะว่าพนักงานขายตัวแทนจากรัฐวิสาหกิจจะมีความซื่อสัตย์สุตจริต พวกเขาจะมองหาช่องทางที่จะได้ชดเชย และตามมาทวงหน้าถึงหน้าประตู แน่นอนว่าในยุคสมัยนี้ การไปชดเชยค่าเสียหายที่ศาลยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หากพวกเขายังไม่ได้รับเงิน พวกเขาจะไม่ทำการส่งมอบสินค้า
เหตุผลที่เฝิงหยู่ต้องการชำระเงินในวันถัดไปหลังจากการขนส่งสินค้า ก็เพื่อสร้างความประทับใจของความน่าเชื่อถือ รอให้ทำการค้าร่วมกันสักสองสามครั้ง แล้วค่อยเลื่อนเวลาจ่ายเงินให้ยาวนานขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ จีหลี่เหลียนเคอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาด้วยตัวเองเลย เพียงแค่โทรศัพท์มากริ๊งเดียว จีหลี่เหลียนเคอก็สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ อยากได้สินค้าประเภทไหนและปริมาณของสินค้าเท่าไหร่ เฝิงหยู่จะป็นผู้ดำเนินการการส่งข้อมูลไปให้ จีหลี่เหลียนเคอยังสามารถชำระเงินหลังจากที่เขาได้รับสินค้า เพียงแต่ต้องจ่ายเงินค่ามัดจำจำนวนหนึ่งให้กับเฝิงหยู่
พอถึงช่วงเวลานั้น การค้าระหว่างประเทศของเฝิงหยู่ก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ เขาใช้เงินจำนวนน้อยนิดในการทำธุรกิจใหญ่
สามวันถัดไป สินค้าเหล่านั้นทั้งหมดได้ถูกส่งมาถึงเมืองปิง คลังสินค้าของโรงงานบางแห่งไม่ใหญ่มากพอที่จะจัดเก็บสินค้าที่เฝิงหยู่สั่ง จึงส่งตรงไปยังคลังสินค้าของบริษัทไท่หัวทันที คลังสินค้าของเฝิงหยู่จึงเต็มไปด้วยสินค้า (ขอเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ไท่หัว ตามการออกเสียงของต้นฉบับจีน)
ช่วงเวลานี้ หลี่ซื่อเฉียงยังคงซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล แม้ว่าราคาพันธบัตรรัฐบาลในเมืองปิงจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ในเมืองเสินกลับมีราคาที่สูงกว่า หลี่ซื่อเฉียงจึงยังทำกำไรได้บ้างจากความแตกต่างของราคา
เฝิงหยู่ปล่อยให้หลี่ซื่อเฉียงดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป เขารู้ว่าในตอนสิ้นปีจะมีอีกหลายเมืองเปิดให้ซื้อขายพันธบัตรพันธบัตรรัฐบาล จึงส่งผลให้การซื้อขายพุ่งจะเข้าสู่จุดสูงสุดในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่การเดินทางไปมาระหว่างเมืองทุกๆวันทำให้เหนื่อยล้าจนเกินไป เฝิงหย่จึงหยุดทำมาสักพักแล้ว การเดินทางไปเมืองเสินครั้งสุดท้ายเกือบจะทำให้เขาเหนื่อยจนตาย และกลิ่นบนรถไฟก็สุดจะทน
เฝิงตันอิงก็บ่นๆเกี่ยวกับหลี่ซื่อเฉียงอยู่หลายครั้ง เป็นเพราะเขาเดินทางบ่อยๆ ทำให้พวกเขามีเวลาพบเจอกันน้อยมาก แต่หลี่ซื่อเฉียงได้แต่ยิ้มแหยๆ เฝิงหยู่บอกกับเขาว่าการซื้อขายพันธบัตรนี้ยังสามารถทำได้จนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้าเท่านั้น เมื่อเมืองส่วนใหญ่เปิดการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล ราคาพันธบัตรในแต่ละเมืองจะตายตัว ไม่เพิ่มไม่ลด
ในขณะที่ราคาระหว่างเมืองหลายๆเมืองยังมีความแตกต่างกัน พวกเขาต้องคว้าโอกาสนี้เพื่อหารายได้ พอถึงปีหน้า คงไม่มีแหล่งรายได้ที่ทำเงินได้อย่างนี้แล้ว
หลี่ซื่อเฉียงยังมีข่าวดีมาบอกเฝิงหยู่ เพื่อนของเขาได้กล่าวไว้ว่า เมืองใหญ่ได้ซื้อรถใหม่มาแทนที่รถคันเก่าแล้ว และคงปล่อยขายรถเก่าๆเหล่านั้น แต่มีการกำจัดรถไว้ว่าจะต้องจัดการขายอย่างน้อยสามคัน และไม่ได้ขายให้กับนิติบุคคล
เฝิงหยู่เลิกคิ้วขึ้น และกล่าวว่า "ไม่มีปัญหาครับ อย่างน้อยสุดก็แค่สามคันไม่ใช่หรือ? เราจะซื้อรถสามคันเลยครับ รถจี๊ปคันหนึ่ง รถลาดาสองคัน เราจะขายลาดาสักคันเมื่อไหร่ก็ได้ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าจะมีใครไม่อยากซื้อรถที่ดีเช่นนี้!”
ไม่มีปัญหาสำหรับข้อเสนอในการจำหน่ายรถยนต์ของเมืองใหญ่ ก็ในเมื่อรถเหล่านี้ได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องเป็นอย่างดี ด้านในสะอาดเอี่ยมอ่อง เอาไปตรวจเช็คสภาพสักหน่อย ก็ใหม่เอี่ยมเหมือนซื้อใหม่แล้ว คงขายได้อย่างไม่มีปัญหา
"เสี่ยวหยู่ ซื้อรถสามคันราคาคงแพงเกินไป แค่รถจี๊ปยังพอไหว ตอนนี้เหลือเงินเพียง 10,000 หยวนเท่านั้น ราคาของรถลาดาอย่างน้อยๆก็ 40,000 ถึง 50,000 หยวน บริษัทของเรายังมีเงินทุนเหลือเพียงพออีกหรือ? " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
เฝิงหยู่คิดว่า ในยุคสมัยสินนี้ค้าสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่มีราคาถูก ทุกอย่างก็น่าจะมีราคาถูกไปด้วย เขาลืมไปเลยว่ารถมีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับยุคสมัยในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือรถยนต์นำเข้าซึ่งมีราคาเรียกได้ว่าแพงมหาโหด
แต่บริษัทมีเงินทุนเพียงพอ ข้อตกลงทางธุรกิจของพวกเขามีมูลค่านับล้าน เฝิงหยู่ใช้เงิน60,000หยวนเป็นค่ามัดจำ และเขาต้องชำระเงินเต็มจำนวนหลังจากสินค้าถูกส่งเข้ามาเก็บในโกดัง บัญชีของบริษัทจึงยังเหลือเงินหยวนประมาณหนึ่งแสน
"ถึงแพงก็จะซื้อ เราไม่ได้ขาดแคลนเงิน! ต่อไปภายหน้า พี่จะได้ขับรถจี๊ปในช่วงฤดูร้อนและขับลาดาในช่วงฤดูหนาว นี่คือผลประโยชน์แก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เอิ่ม พี่หลี่ครับ ช่วยให้ผมมีใบขับขี่หน่อยสิครับ " เฝิงหยู่กล่าว
"เธอสามารถขับรถได้หรือ?" หลี่ซื่อเฉยงมองเฝิงหยู่ด้วยความตกตะลึง
"โอ้ย พี่ ~ ~ ~ มันก็แค่การขับรถ ตอนผมอยู่บ้านนอก ครอบครัวไหนที่เป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์จะรู้วิธีขับรถกันทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าวันไหนเราว่าง ผมจะแสดงให้พี่เห็นถึงทักษะในการขับขี่ของผม " เฝิงหยู่กล่าว
“ถ้าพวกเราซื้อรถ ลุงเฝิงจะไม่โกรธพวกเราหรือ” หลี่ซื่อเฉียงลังเล
"ถ้าพี่ไม่พูดแล้วผมไม่พูด พ่อจะรู้ได้อย่างไรครับ? เราเก็บเงินเพื่อนำมาใช้ หรือพี่ไม่อยากขับรถลาด้า?" เฝิงหยู่ตอบ
เฝิงหยู่เป็นคนที่ชื่นชอบรื่นเริงหรรษา ถ้าเขามีรถดีๆ เขาจะได้ขับรถดีๆ หากตอนนี้เขามีเงินมากพอ เขาคงซื้อรถยนต์นำเข้าเช่น รถเบนซ์เมอเซเดส หรือบีเอ็มดับเบิ้ลยูไปแล้ว!
"ดี พี่จะลองไปพูดคุยกับเพื่อนของพี่ และดูว่าราคาซื้อของทั้งสามคันเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เขายังทำงานอยู่ที่นั่น และฉันจะขอให้เขาเลือกสามคนที่ดีที่สุดใว้ให้" หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
“พี่หลี่ครับ พาเขาไปเลี้ยงสักมื้อ ให้อั่งเปาเขาด้วย อย่าตระหนี่สิครับ ให้เขาสัก 100 หยวน” เฝิงหยู่กล่าว
100 หยวน นั่นคือจำนวนเงินที่มากกว่าเงินเดือนหนึ่งเดือนเชียวนะ แต่หลี่ซื่อเฉียงก็พยักหน้าตอบรับ เงินจำนวนนี้ไม่ควรขี้ตืด
หลี่ซื่อเฉียงดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทไท่หัวเป็นบริษัทแรกที่ต้องการซื้อรถยนต์ รัฐบาลเมืองจึงให้ราคาดี ถึงขนาดให้หลี่ซื่อเฉียงเลือกรถได้เอง
ส่วนใหญ่ รถยนต์เหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้งานมากนัก ถูกจอดเอาไว้อย่างเสียเปล่า แทบจะไม่ได้ใช้เลย ในเมืองใหญ่ไม่คิดจะมอบรถให้กับในชุมชน แม้ว่าเมืองใหญ่จะได้รับรถยนต์คันใหม่มา ต่อให้ในชุมชนเมืองเล็กๆขาดแคลนรถยนต์ เมืองใหญ่ก็ยังเลือกที่จะขายรถยนต์เหล่านี้
เพื่อนสนิทมิตรสหายที่หลี่ซื่อเฉียงได้กำชับไว้ล่วงหน้า ก็แอบทำสัญลักษณ์รถ Lada สองคันที่ใหม่ถึง 70% และรถจี๊ปใหม่ 80% ไว้ให้ แต่เพราะไม่ค่อยถูกนำมาใช้ มันจึงสกปรกเกินไป ถึงได้ขายรถชุดนี้
หลี่ซื่อเฉียงแกล้งทำเป็นเช็ครถทุกคันโดยการเปิดฝาครอบ แต่ในความเป็นจริงเขากำลังมองหาเครื่องหมายที่เพื่อนของเขาทิ้งไว้ให้เขา
"ผมต้องการคันนี้ คันนี้ แล้วก็คันโน้นด้วย ผมจะชำระเงินได้ที่ไหน? " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
เฝิงหยู่ที่กำลังงีบหลับต้องตหใจตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังของแตรรถ พอเขามองไปที่ชั้นล่าง ก็มองเห็นรถสามคัน
ในที่สุด เขาก็ได้นั่งรถซีดานเสียที เขาใช้รถจี๊ปเก่าๆมานานเกินพอแล้ว!
ในยุคสมัยนี้ การขับรถลาดาเปรียบเสมือนการขับรถสปอร์ตที่นำเข้าจากต่างประเทศในชีวิตก่อนหน้านี้
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้ลองรถไหม่!