บทที่ 28 เหวินตงจุนอึ้งกิมกี่ (อ่านฟรี)
ยามเย็น เหวินเต๋อกวางมาหาเฝิงหยู่ที่บ้านของเขา เขามาเพื่อยืนยันคำพูดที่ลูกชายของเขาได้กล่าวเอาไว้ เหวินตงจุนอันเป็นลูกชายของเขาบอกกล่าวกับเขาว่าพี่เขยของเฝิงหยู่สามารถช่วยให้เขาเข้าสู่โรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองได้ เฝิงซิ่งตกใจเป็นอย่างมาก เสี่ยวหยู่มีความสามารถขนาดนี้เชียว?
แต่เฝิงซิ่งไท่เห็นลูกชายส่งสายตาขยิบมาทางเขา เพื่อส่งซิกให้เออออห่อหมก เขาสัญญาไปแล้วว่าจะช่วยเหวินตงจุน พอเหวินเต๋อกวางเดินทางกลับ ใบหน้าของเฝิงซิ่งไท่เปลี่ยนไปทันที ยกไม้หยากไย่ขึ้นมาเค้นถามคำตอบจากเฝิงหยู่
"ก็ผมต้องหาเพื่อนมาอยู่ด้วย บางทีปีหน้าพี่สาวของผมอาจจะแต่งงานแล้วก็ย้ายออกไป ผมไม่ไม่ต้องอยู่เมืองปิงคนเดียวหรือ? หรือว่าพ่อไม่เป็นห่วงผมหรือครับ?" เฝิงหยู่ถาม
พอมองใบหน้าที่ยียวนกวนประสาทของลูกชายของเขา เฝิงซิ่งไท่ก็อยากจะตีเขาสักที แต่สิ่งที่ลูกชายของเขากล่าวออกมา ทำให้เขาตระหนักขึ้นมาได้ หากลูกสาวแต่งงานออกเรือนไป เฝิงหยู่ต้องอาศัยอยู่ตามลำพังในเมืองปิง คิดๆแล้วเขาก็รู้สึกตัวเองห่วงลูกชายของ
"เสี่ยวหยู่สามารถช่วยให้เหวินตงจุนเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดของเมืองได้จริงๆหรือ?" เฝิงซิ่งไท่ถาม อย่างหลี่ซื่อเฉียงไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนั้น
"เรียบร้อยแล้วครับพ่อ รองอาจารย์ใหญ่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการสอบเข้าเรียบร้อยแล้ว พ่ออย่ามองผมอย่างนั้นสิ ลูกของพ่อเคยโกหกหรือไงครับ?" เฝิงหยู่ถาม
"เมื่อตอนลูกอายุสี่ขวบ ลูกนอนฉี่รดที่นอน ลูกกลับโกหกว่าทำเครื่องดื่มหกใส่บนเตียง ตอนลูกอายุหกขวบ ลูกทำให้ต้นเชอร์รี่ของคุณหลี่หักงอ แต่ลูกโกหกว่าเป็นเพราะลมพัดโกรก ตอนลูกอายุแปดขวบ ลูกก็ ... " เฝิงซิ่งไท่กล่าว
"พ่อครับ พ่อเก็บผมมาเลี้ยงจากข้างถนนหรือครับ?" เฝิงหยู่อึ้งหมดคำพูด พ่อของเขากำลังรื้อฟื้นวีรกรรมอันดำมืดของเขา เขาจึงต้องรีบหยุด
เขาเป็นอัจฉริยะ และจะกลายเป็นตำนาน ทุกคนจะต้องแย่งชิงกันกันเพื่อให้ได้เรียนรู้จากเขา อาจจะมีบางคนที่เขียนชีวประวัติของเขา ฉะนั้น พ่อของเขาต้องลืมเหตุการณ์ที่น่าอับอายเหล่านี้ ถ้าเรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ในชีวประวัติของเขา เขาคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับทุกคนได้!
เช้าวันรุ่งขึ้น เฝิงหยู่ถือกระเป๋าเป้สะพายหลังไปพบกับเหวินตงจุน แล้วทั้งคู่ขึ้นรถไปเมืองปิง
" เสี่ยวหยู่ อยู่นี่!" หลี่ซื่อเฉียงยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคน ยืนโบกแขนไปมา
"พี่หลี่ครับ นี่คือเพื่อนในวัยเด็กของผม เหวินตงจุน ส่วนนี่คือพี่หลี่ แฟนพี่สาวของฉัน " เฝิงหยู่กล่าว
"สวัสดีครับ พี่หลี่ " เหวินตงจุนกล่าวทักทาย
"หวัดดี ไปกันเถอะ รถจอดอยู่ด้านหน้า" หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
เมื่อเข้ามานั่งในรถจี๊ป, เหวินตงจุนรีบถามทันที: "พี่หลี่หลับ พี่ซื้อรถจี๊ปได้ด้วยหรือครับ? คนที่อยู่ในเมืองต่างก็สามารถซื้อรถจี๊ปได้หรือเปล่า? "
หลี่ซื่อเฉียงตอบอย่างกระดากอาย: "ไม่ใช่หรอก คนในเมืองมีเพียงไม่กี่คนหรอกที่สามารถที่หาซื้อรถจิ๊ปได้ พี่ยืมรถจี๊ปคันนี้มาจากเพื่อนอีกที เขาทำงานอยู่ที่แผนกขนส่งของเมือง รถจี๊ปคันนี้ถูกคัดออก พวกเขาไม่ค่อยใช้รถจี๊ปคนนี้หรอก นอกเหนือจากการไปเที่ยวชนบท พี่ก็แค่ให้บุหรี่สองซองก็ยืมมาได้แล้ว พี่ได้ยินมาว่ารถรุ่นนี้คงจะถูกคัดออก พี่เคยอยากจะเก็บหอมรอมริบสักหน่อย ตั้งใจจะซื้อมาใช้สักคัน "
เฝิงหยู่ดวงตาเบิกกว้าง "พี่หลี่ครับ จะโละรถรุ่นนี้ขายหรือครับ? มีโวลก้ารุ่นอะไรบ้าง? "
Volga โวลก้า รถรัสเซีย |
รถจี๊ปรุ่นเก่านี้สร้างควันดำจำนวนมากในขณะขับขี่ พอถึงช่วงฤดูหนาว จะมีน้ำแข็งอยู่ในรถจี๊ป แต่โวลก้าแตกต่างกัน ด้วยเพราะมันเป็นรถซีดาน (ซีดานเป็นรถยนต์นั่งหรือรถเก๋งที่มี 4 ประตู จัดว่าเป็นรูปแบบพื้นฐานเป็นรูปแบบแรกๆ ของการผลิตรถยนต์)
Lada ลาดา รถสัญชาติรัสเซีย |
"ไม่มีโวลก้าหรอก มีแต่ลาดา แล้วก็ซาตาน่า ราคาไม่สูงจนเกินไป " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
(ผลิตโดยสหภาพโซเวียตและมาจากโรงงานเดียวกันกับ Volga ในช่วงทศวรรษที่ 80 รถ Ladaถูกใช้เป็นยานพาหนะจำนวนมาก Ladaยังถูกใช้เป็น Taxi ในเมืองหลวง)
Santana ซานตาน่า |
“ถ้าราคาไม่ถึง 20,000 หยวน ก็ใช้เงินของบริษัทซื้อลาด้ามา พี่จะได้เอาไปใช้งานได้ก่อน แต่ถ้าเป็นเรื่องข้อตกลงทางธุรกิจและจำเป็นต้องใช้รถ พี่ก็ช่วยขับรถไปรับไปส่งแขกให้หน่อย ส่วนซานตาน่าไม่ดีดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยชอบรถรุ่นนี้” เฝิงหยู่กล่าว
"เธอไม่ใช้เงินบริษัทซื้อข้าวของอื่นๆหรือ? จะเอามาซื้อรถจริงหรือ?" หลี่ซื่อเฉียงถาม
“จะกลัวอะไรกันครับ เดี่ยวก็ต้องมีคนเอาเงินมาประเคนให้เราอยู่ดี” เฝิงหยู่กล่าว
พอเหวินตงจุนได้ยินเรื่องที่เฝิงหยู่และหลี่วื่อเฉียงการซื้อรถ เขาจึงขบคิด "พระเจ้าถ้าราคาไม่เกิน 20,000ก็ซื้อมาสักคันอย่างนั้นหรือ? นั่นเงิน 20,000 หยวนเชียวนะ! ในชีวิตฉันยังไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่นะ? "
“พวกเรามาถึงกันแล้ว บรรพบุรุษเจ้าของของร้านนี้เป็นพ่อครัวในสมัยราชวงศ์ชิง เมนูอาหารจำพวกเนื้อของร้านนี้อร่อยล้ำมาก ทั้งสองเข้าไปสั่งอาหารกันก่อน พี่จะไปรับพี่สาวของเธอ” หลี่ซื่อเฉียงกล่าว .
ครั้งสุดท้ายที่เหวินตงจุนเข้ามาในเมืองก็คือหลายปีก่อน ในเมืองเปลี่ยนแปลงไปมากมาย คนที่นี่สวมเสื้อผ้าเนื้อดีมีราคา ร้านอาหารแห่งนี้ก็ใหญ่โตมาก มีขนาดใหญ่พอสำหรับโต๊ะอาหาร 10 โต๊ะ
"บ๋อย สั่งอาหาร อันนี้เอาเนื้อแกะมาหนึ่งชุด เกาเปาโร่วหนึ่งชุด เนื้อวัวชั้นดีมาหนึ่ง ไก่ทรงเครื่องมาหนึ่ง เนื้อกระรอกมาอีกหนึ่ง แล้วก็ เพิ่มหัวผักกาดด้วย อาหารมีแต่ไขมัน เจี้ยนลี่เป่าอีกสี่กระป๋อง" เฝิงหยู่กล่าว
(เกาเปาโร่ว เหมือนไก่ชุบแป้งมันๆแล้วทอด รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆ/ )
Eight Treasure Chicken ไก่ทรงเครื่อง |
เฝิงหยู่สั่งอาหารมามากมายภายในเวลาอึดใจเดียว ทั้งพนักงานเสิร์ฟ ทั้งเหวินตงจุนต่างตกตะลึง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะทานอาหารที่สั่งไปจนหมดได้หรือเปล่า แค่พูดถึงราคาก็แพงโข ทั้งหมดคงเป็นเงินอย่างน้อยๆ 30 หยวน
เฝิงหยู่เห็นพนักงานเสิร์ฟจ้องมองเขา จึงพูดว่า: "พี่เขยกำลังขับรถไปรับพี่สาวของผม รบกวนรีบเสิร์ฟอาหารไวไวด้วย เมื่อพวกเขามาถึงอาหารจะต้องถูกเสิร์ฟจนครบ "
พนักงานเสิร์ฟมองเฝิงหยู่แล้วพยักหน้า
"เสี่ยวหยู่ นายสั่งแต่อาหารแพงๆทั้งนั้น พี่เขยของนายจะไม่โกรธหรือ?" เหวินตงจุนกระซิบกระซาบ
"ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่เขยของฉันมีเงิน นายไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า พี่เขาคงโกรธมากกว่าถ้าฉันสั่งอาหารราคาถูก" เฝิงหยู่ตอบ
หลี่ซื่อเฉียงและเฝิงตันอิงมาถึงพอดีกับที่อาหารถูกเสิร์ฟแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการสั่งอาหารมากเกินไป
เฝิงหยู่และเหวินตงจุนเริ่มกินอย่างไม่มีความลังเล พวกเขาต่างก็อยู่ในช่วงวัยแรกรุ่น พวกเขาจึงเจริญอาหารกินอาหารได้จำนวน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่สามรถทานอาหารบนโต๊ะให้หมดได้
ขณะดื่มโซดา เฝิงหยู่พูดคุยกับหลี่ซื่อเฉียง: "พี่หลี่ครับ ช่วงหลายวันมานี้ พี่ยังเดินทางไปเมืองเสินอยู่อีกหรือเปล่า?"
"แน่นอนสิ นายปล่อยให้เด็กๆพวกนั้นหยุดพักผ่อน แต่เรายังต้องการให้เงินเดือนแก่พวกเขา เด็กพวกนั้นก็เอาแต่เล่นโป๊กเกอร์ทุกๆวัน " หลี่ซื่อเฉียงตอบ
แทบไม่มีพันธบัตรรัฐบาลให้พวกเขาหาซื้อได้เลย งานที่เหลือก็คือการค้าขายพันธบัตรรัฐบาลระหว่างสองฝ่าย เฝิงหยู่เลยให้พวกเด็ก ๆเหล่านั้นทำงานที่บริษัทไท่ฮวา แต่นอกเหนือจากการทำความสะอาดคลังสินค้า การปรับปรุงซึ่งเป็นงานง่ายแล้ว พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้ทำอีก
จำนวนเงินที่หลี่ซื่อเฉียงได้รับจากการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลระหว่างสองเมืองแทบจะไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ค่าอาหารและเงินเดือนของเด็กหนุ่มเหล่านั้น
"พี่หลี่ครับ พวกเขาเป็นผู้ติดตามเราในอนาคต ช่วงเวลานี้ผมว่าง แล้วผมจะฝึกพวกเขาสักหน่อย ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะช่วยให้เรามีรายได้มากขึ้นในอนาคต " เฝิงหยู่กล่าว
ตอนนี้ เฝิงหยู่ต้องการตัวแทนจำน่ายที่มีความสามารถพิเศษ ผู้ที่ทราบว่ามีสินค้าอะไรที่เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถขายสินค้าได้ในราคาสูง รู้ว่าว่าสินค้าชนิดใดขายดีที่สุดในแต่ละสถานที่ และสามารถจัดหาสินค้าที่ถูกที่สุดได้จากที่ใด
การฝึกอบรมหนึ่งเดือน น่าเพียงพอสำหรับตลาดในเมืองปิงเท่านั้น เมื่อเฝิงหยู่ต้องการฝึกฝนอย่างจริงจัง ก็จะได้รู้เสียทีว่าคนเหล่านี้เหมาะสมกับงานนี้หรือเปล่า
หลังจากได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน เหวินรู้สึกอึ้งกิมกี่ พี่หลี่ไปที่เมืองเสินบ่อยๆ? พี่หลี่ยังจ่ายเงินเดือนให้คนงานเล่นโป๊กเกอร์? แล้วเฝิงหยู่กำลังจะฝึกอบรมคนเหล่านั้น?
"ตกลง พี่เชื่อใจเธอ หลังจากกินกันเสร็จแล้ว เราจะไปที่เดอะมอลล์กัน ทั้งสองคนกำลังเริ่มเรียนมัธยมปลายและจำเป็นต้องมีเสื้อผ้าใหม่ ๆ: หลี่ซื่อเฉียงกล่าว เขารู้ดีว่าจีหลี่เหลียนเคอกำลังจะกลับมาในอีกสองสามวันข้างหน้า และพวกเขาจะสามารถหารายได้ได้อีก
ที่ห้างเดอะมอลล์ ดวงตาของเหวินดงจุนเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง ศูนย์การค้าแห่งนี้ใหญ่มาก เสื้อผ้าที่นี่สวยงามแปลกตา ที่นี่ยังมีแม้แต่ปืนของเล่นที่เหมือนจริงเป๊ะ
หลี่ซื่อเฉียงพาพวกเขาไปรอบเที่ยวรอบๆเมืองปิง เขาไม่ได้ไปเมืองเสินเป็นเวลาหลายวันเลย เหวินตงจุนรู้สึกประทับใจกับชีวิตในเมือง และเกิดความคิดที่ว่า เขาจะต้องเรียนโรงเรียนมัธยมในเมือง!