TXV – 131 การเย้ายวนที่ปฎิเสธไม่ได้ !
TXV – 131 การเย้ายวนที่ปฎิเสธไม่ได้ !
ที่หน้าบ้านของอเลน่าเซี่ยเหล่ยยืนอยู่ตรงประตูเปิดเข้าไป แล้วเขาก็ค้นพบว่าอเลน่าได้เตรียมห้องไว้ให้เขา ที่เตียงมีชุดนอนวางอยู่ ข้างเตียงมีรองเท้าสลิปเปอร์ ในห้องเต็มไปด้วย โคมไฟแขวนสีชมพู, ตุ๊กตาหมีมันดูเหมือนห้องของเด็กหญิงอายุ 17 หรือ 18 ปี มันดูไม่ใช่ห้องของสาววัยทำงานเลย
เซี่ยเหล่ยยืนอยู่ตรงหน้าห้องเขายิ้มแล้วพูดคนเดียวว่า "ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นผู้หญิงที่มีด้านอบอุ่นน่ารักๆ ...... แต่ถึงอย่างนั้นเราจะนอนบนเตียงเดียวกันได้ยังไง มันไม่เหมาะสม ผมจะไปหาห้องใหม่"
เซี่ยเหล่ยออกจากห้องของอเลน่า เขาเจออีกห้องหนึ่ง เขาได้อาบน้ำในห้องนั้นและกำลังจะเข้านอน แต่จู่เขาก็พบว่าข้างเตียงของเขามีผู้หญิงนั่งอยู่
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่อเลน่าที่กลับมาจากสอบปากคำกับตำรวจ แต่เป็นหลงบิง !
เมื่อมองไปที่เธอจู่ๆเซี่ยเหล่ยก็ทำท่าตกใจและยกมือขึ้นมาปิดส่วนสำคัญของร่างกาย จากนั้นรีบวิ่งไปหยิบกางเกงมาใส่
จากเหตุการณ์ทั้งหมด หลงบิงที่เยือกเย็น มองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไร้อารมณ์ ในตอนที่เซี่ยเหล่ยยกมือออกมาเพื่อปกปิดสิ่งนั้น ดวงตาของเธอไม่ได้กระพริบเลยและมองเห็นอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายแตงกวา……
"คุณ ... " เซี่ยเหล่ยลุกขึ้นมานั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมหยิบกางเกงในที่วางอยู่ใกล้ๆไปซ้อนอยู่ด้านหลัง "คุณไม่รู้จักวิธีเคาะประตูอย่างนั้นเหรอ...?"
"ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังอาบน้ำอยู่" หลงบิงพูดอย่างไม่แยแส
เซี่ยเหล่ยรู้สึกหดหู่และไม่รู้ว่าจะพูดยังต่อกับเธอดี
หลงบิงพูดว่า "ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้จะได้ไม่พลาดการยิงกัน"
เซี่ยเหล่ยได้ยินและไม่พอใจท่าทีที่เธอพูดและแสดงออกมา เซี่ยเหล่ยหันหน้าไปแล้วพูดว่า "ผมจัดการได้...มันจะไม่มีเป็นครั้งที่สอง"
"คุณจำคำพูดที่ฉันเคยบอกไปได้ไหม? คุณต้องจำมันและรู้ว่าเรากำลังทำงานของเรา ไม่ไช่มาเจ้าชู้กับสาวๆ "
เซี่ยเหล่ยพูดอะไรออกมาไม่ออก
"ฉันคอยเตือนเพื่อให้คุณตระหนัก แต่คุณดันไปช่วยสาวเยอรมันจากแก๊งอาชญากรซะงั้น มันจะไม่เป็นผลดีกับงานที่เราทำอยู่ตอนนี้ เราอาจจะถูกจับตามองโดยพวกเยอรมนีหรือสหรัฐอเมริกา คุณอยากจะถูกจับไปขังงั้นหรอ?” หลงบิงยังคงสั่งสอนออกมาเรื่อยๆ
เซี่ยเหล่ยพยายามยิ้มแล้วตอบว่า "ผมรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องเตือนผมบ่อยๆ ผมรู้ว่ามันเสี่ยง แต่คุณจะให้ผมอยู่เฉยๆแล้วกลายเป็นคนเลือดเย็นอย่างนั้นเหรอ? หากคนที่ผมรู้จัก คนสนิทหรือครอบครัวของผมได้รับความเดือดร้อนคุณจะไม่ให้ผมยื่นมือเข้าไปช่วยพวกเขาเลยอย่างนั้นเหรอ?
หลงบิงถลึงตามองไปที่เซี่ยเหล่ยและทำท่าทางเหมือนจะเตะเขา
เซี่ยเหล่ยยักไหล่แล้วพูดว่า "คุณมองผมว่าทำไม่ถูกต้อง แต่ผมมีวิธีการของผม ผมรู้ว่าอเลน่าจะมีส่วนให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ"
หลงบิงพูดว่า "คุณได้อะไรมาบ้างหล่ะ?"
"อเลน่ามีเพื่อนชื่อโจเซฟ เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญมาก เขากำลังศึกษาเครื่องจักรอัจฉริยะ ผมเคยตรวจสอบเครื่องจักรอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วมั่นใจว่าตอนนี้มันเป็นเครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดในโลก "เซี่ยเหล่ยอธิบายรวมถึงเรื่องที่ช่วยชีวิตของโจเซฟ
"คุณเอากระสุนออกจากร่างของเขาด้วยคีมงั้นเหรอ...?" ฟังเซี่ยเหล่ยพูดถึงตรงนี้ทำให้หลงบิงแทบจะลืมเรื่องเครื่องจักรประสิทธิภาพสูงไปทันที
แต่ไม่ทันไรเซี่ยเหล่ยก็พูดขยายความเรื่องของเครื่องจักรต่อว่า "ที่ผมพูดหมายความว่าเครื่องจักรนี้มันยังไม่สมบูรณ์ โปรแกรมการควบคุมเชิงตัวเลขยังใช้การได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าโจเซฟตายในตอนนี้ใครจะทำให้มันสมบูรณ์หล่ะ? "
หลงบิงไม่ได้พูดตอบแต่อย่างไร แต่เธอกลับจี้คำถามต่อไป "คุณหาพิมพ์เขียวเจอไหม?"
เซี่ยเหล่ยตอบว่า "ผมเจอพิมพ์เขียวของเครื่องจักรอยู่ในโกดังที่บ้านเขารวมทั้งวงจรไฟฟ้าของพิมพ์เขียว ผมใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปมาแล้ว ผมจะให้การ์ดหน่วยความจำกับคุณ แต่สิ่งที่ผมได้ทำไปมันไม่เพียงพอที่จะเรียกว่าสำเร็จ" เขาเอาโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วนำการ์ดหน่วยความจำให้กับหลงบิง จากนั้นเขาไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสบู่ให้อีกครั้งหนึ่ง
เซี่ยเหล่ยพูดว่า "ในสบู่นี้มีกุญแจอยู่ ตอนนี้คุณเอามันกลับไปก่อนเราจะใช้มันในภายหลังเพื่อเปิดประตูโกดังของโจเซฟ"
ในที่สุดหลงบิงก็มีท่าทีกลับเป็นปกติ เธอเก็บการ์ดหน่วยความจำและกล่องสบู่แล้วมองไปที่เซี่ยเหล่ย "คืนนี้คุณจะไม่กลับไปกับฉันเหรอ?"
เซี่ยเหล่ยตอบว่า "อเลน่าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ผมจะรอเธอ ผมต้องรู้สถานการณ์ของเธอและโจเซฟก่อน ดังนั้นผมจะยังไม่กลับตอนนี้"
หลงบิงแสดงออกท่าทางที่แปลกใจ "คุณไม่ควรจะมีสถานะพิเศษกับสาวเยอรมันคนนั้น !"
"คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ผมทำแบบนี้ก็เพื่องาน "เซี่ยเหล่ยพูดด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นิดหน่อย " ผมได้ข้อมูลและรู้สถานการณ์ของโจเซฟได้ก็เพราะอเลน่า ครั้นเมื่อโจเซฟทำเครื่องจักรประสิทธิภาพสูงให้สมบูรณ์ได้แล้วผมก็จะรู้ ผมจะขโมยมันทันที และเราก็จะกลับไปรายงานว่างานสำเร็จลุล่วง แผนนี้มีอะไรผิดพลาดงั้นเหรอ? เครื่องจักรประสิทธิภาพสูงแทบจะบอกได้เลยว่ามันเป็น ‘เครื่องจักรอัจฉริยะ’เป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกในตอนนี้ถ้าเราเป็นคนผลิตและขายมันเป็นเจ้าแรกได้มันจะเป็นยังไงหล่ะคุณไม่รู้หรอ?"
หลงบิงรู้สึกผิดนิดหน่อยแต่ก็พูดไปด้วยท่าท่างเย็นชาว่า "ดี...ฉันจะส่งพิมพ์เขียวไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าดูจากที่คุณพูดว่าความได้เปรียบของเราที่เรามาเยอรมนีในครั้งนี้คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ในอนาคตฉันจะไม่ลืมบุญคุณ "
"ผมไม่ต้องการให้ใครต้องติดบุญคุณผม ! " เซี่ยเหล่ยพูด
"ดี...ก็ดี ฉันจะกลับแล้วไม่งั้นคงได้เจอแฟนสาวชาวเยอรมันของคุณ”
"คุณ ...... หมายความว่ายังไง?" เซี่ยเหล่ยพูดด้วยท่าทางซังกะตาย
หลงบิงพูดอย่างเรียงง่ายว่า "ฉันเป็นภรรยาของคุณ แต่หลายๆคนเห็นคุณอยู่กับเธอตลอด มันจะไม่เป็นการดีสำหรับเราหรอกมั้ง?
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไร
"คุณคิดจะหลับนอนกับเธองั้นเหรอ?" จู่ๆหลงบิงก็โผล่งขึ้นมา
เซี่ยเหล่ยไม่พอใจนิดๆแล้วพูดไปว่า "คุณยังไม่รู้จักผมงั้นเหรอว่าผมเป็นคนยังไง? ตอนที่ผมนอนกับคุณ...ผมได้ทำอะไรคุณมั้ย? "
"เธอไม่เหมาะกับคุณหรอก...เชื่อฉันสิ" หลงบิงทิ้งท้ายคำพูดไว้แล้วก็กลับไป
หลังจากที่หลงบิงเดินออกไป เซี่ยเหล่ยจึงไปล็อกประตูให้สนิท แล้วกลับมาคิดถึงคำพูดของหลงบิงที่ว่า ‘อเลน่าไม่ได้เหมาะกับเรา? เธอรู้ได้ยังไงว่าอเลน่าไม่เหมาะกับเรา ? งั้นใครกันหล่ะที่เหมาะสม’
หลังจากให้ของไปกับหลงบิง เซี่ยเหล่ยรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขานอนลงไปบนเตียงด้วยความเหนื่อยเพราะต้องใช้พลังในการรักษาไปก่อนหน้านี้ ในหัวของเขาตอนนี้เริ่มจะว่างเปล่าและไม่ได้คิดอะไรและสุดท้ายเขาก็หลับลงเพียงเวลาแค่ไม่กี่นาที
เขาไม่รู้เลยว่าหลับไปนานแค่ไหน เขาค่อยๆลืมตาและใช้มือควานหาอะไรบางอย่างโดยอัตโนมัติ แต่เขาบังเอิญคว้าไปโดนอะไรบางอย่างที่แปลกๆ ไม่รอช้าเขาลืมตาขึ้น จากนั้นเขาก็ต้องตกใจตาค้างและอ้าปากค้างกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า เพราะสิ่งที่เขาจับไปโดนคือใบหน้าของอเลน่านั่นเอง !
อเลน่าพบว่าเซี่ยเหล่ยได้ตื่นขึ้นแล้ว เธอจึงชิงจูบเซี่ยเหล่ย พร้อมยิ้มและพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า "คุณไม่รู้หรอกว่าตอนคุณหลับคุณเหมือนลูกหมูมากแค่ไหน......"
เซี่ยเหล่ยต้องการที่จะลุกขึ้น แต่อเลน่ากดเขาไว้ไม่ให้ไปไหน
อเลน่ายังพูดต่ออีกว่า "ฉันรู้ว่าคุณต้องการถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่ตำรวจสอบปากคำ เห็นได้ชัดเจนว่าตำรวจหลายคนสมควรที่จะถูกตำหนิ พวกเขาได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องสำหรับอาชีพตำรวจเลย ใช่...คุณอาจไม่รู้ว่าทำไม แต่คุณจะรู้เองในภายหลัง"
เซี่ยเหล่ยประหลาดใจแล้วพูดว่า "มันเป็นไปได้เหรอ?"
อเลน่าพูดว่า "ทำไมจะเป็นไปไม่ได้หล่ะ? ตำรวจที่ตรวจข้อมูลของฮันส์ในโทรศัพท์ของนาเวส ได้เก็บบันทึกประวัติสนทนาของเขาไปแล้วจึงรู้ความจริง !"
"นี่มันอะไรกัน..? เขาต้องการให้เราตาย เขาเป็นคนชั่วและโหดร้ายมาก"เซี่ยเหล่ยได้แต่ถอนหายใจ ถ้าไม่ได้อเลน่าบอกเขาในเรื่องนี้ เขาจะไม่รู้เลยมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นคนดีเหมือนคุณ" อเลน่าพูดด้วยรอยยิ้ม "นอกจากนี้ฉันไปโรงพยาบาลเพื่อจะดูอาการของโจเซฟ เขาได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ฉันบอกเขาว่าคุณช่วยชีวิตเขาไว้ เขารู้สึกละอายมาก เขาจึงฝากฉันมาบอกกับคุณว่าขอบคุณและขอโทษ "
เซี่ยเหล่ยพูดว่า "ก็ดีแล้วแหละ..."
"ฉันจะบอกทุกอย่างกับคุณ คุณต้องรู้ว่าเรา.... " อเลน่าพูดขึ้นมาแต่จู่ๆก็หยุดไปและเธอมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร พวกเขาหันหน้าเข้าหากัน เซี่ยเหล่ยต้องการรักษาความเป็นเพื่อนนี้เอาไว้เพราะมันยั่งยืน แต่หากว่ามันกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง หากตอนนั้นเขาต้องออกจากประเทศเยอรมนี แล้วทิ้งเธอไว้ เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้อย่างแน่นอน
"คุณชอบฉันแล้วใช่ไหม?" อเลน่ามองไปที่เซี่ยเหล่ยแต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ "ฉันสามารถ ...... " แล้วเธอก็เอามือเลื่อนไปจับหน้าอกของเซี่ยเหล่ย
ความรู้สึกของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้เขาต้องการที่จะเอามือของเธอออกไปแล้วจากตัวแล้วพูดขึ้นว่า "อเลน่า ผม..ผมขอโทษ ผมมีภรรยาแล้ว "
"หา...?" อเลน่าตะลึง
เซี่ยเหล่ยยังพูดต่อว่า "เธอชื่อลอร่า เธอยังอยู่ในเยอรมนี เราพักอยู่ที่บ้านเช่าด้วยกัน"
ดวงตาของอเลน่าเต็มไปด้วยความผิดหวังและเศร้าใจก่อนจะถามว่า "เธอมีเสน่ห์มากงั้นเหรอ...?"
"เธอเป็นคนที่น่าสนใจมาก" เซี่ยเหล่ยตอบ
"แต่ ...... " อเลน่าหันไปหาเซี่ยเหล่ยแล้วจู่ๆเธอก็จูบแก้มและริมฝีปากของเซี่ยเหล่ยอย่างเมามัน เธอหยุดและพูดอีกว่า "ฉันจะต้องทำให้คุณเป็นของฉันแทนที่จะเป็นของเธอ!"
เซี่ยเหล่ยพยายามตั้งสติ แต่ในเวลานี้มันไม่เหลือแล้ว
“ปัง...!!” จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก
ทั้งสองคนตกใจ
"เกิดอะไรกันขึ้นกันเนี่ย?" อเลน่าถามด้วยความกังวลว่าแล้วต่อว่า "คนร้ายกำลังจะมาที่นี่งั้นหรอ?"
"ผมจะออกไปดู !" เซี่ยเหล่ยใส่เสื้อผ้าแล้วเดินไปดู ที่จริงแล้วมันดีสำหรับเขามาก เขาต้องการที่จะสงบสติอารมณ์ แต่เขามองว่าเวลาอเลน่าอยู่บนเตียงแล้วเธอเซ็กซี่เหลือเกิน ‘ออกห่างจากเธอคงจะดีที่สุด’ เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ในหัว
เซี่ยเหล่ยออกไปจากห้อง และมองขึ้นไปบนหลังคา ดวงตาข้างซ้ายของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังคา
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใคร เธอคือหลงบิง เธอยังไม่ได้กลับไป
หลงบิงหยิบหินขึ้นมาและเตรียมพร้อมที่จะขว้างเป็นครั้งที่สองอยู่ตลอดเวลา
"ลูคัส...คุณเห็นอะไรหรือป่าว?" อเลน่าเอ่ยถาม
จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็กลายเป็นคนบ้าๆบอๆ
"ผม... " ปฏิกิริยาการตอบสนองของเขาเริ่มช้าลงแล้วพูดว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย คงจะเป็นแมวหละมั้ง"
อเลน่าได้ยิ้มแล้วพูดว่า "แน่นอน มันคงเป็นแมวที่ซนมาก กลับเข้ามาในห้องเร็ว"
เซี่ยเหล่ยยังคงไม่ขยับไปไหน
ในเวลานั้นอเลน่าชะโงกหน้าออกมาจากประตูอย่างช้าๆ เธอชูกางเกงในลายลูกไม้สีดำขึ้นมา นิ้วของเธอควงกางเกงในของเธอไปมา แล้วจู่ๆมันก็ได้ปลิวไปตกอยู่ที่เท้าของเซี่ยเหล่ย
"ลูคัส...คุณยืนรออะไรหล่ะ" อเลน่าถามด้วยท่าทีที่กำลังยั่วยวน เธอยังขยับตัวออกมาอีกอย่างช้าๆ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยให้เห็นส่วนสำคัญที่ลึกลับ
การยั่วยวนดังกล่าวมันร้อนแรงจนสามารถทำให้เหล็กที่ตรงแข็งงอเป็นเส้นโค้ง ไปจนถึงสามารถทำให้พุทธศาสนิกชนที่กำลังเดินทางธรรมอยู่ตบะแตกได้เลยทีเดียว
เซี่ยเหล่ยเห็นภาพที่เธอกำลังยั่วยวนจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้...
ติดตามตอนต่อไป..............