ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 96: ระดับความแตกต่าง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 98: ระดับความแตกต่าง (3)

[KotB] บทที่ 97: ระดับความแตกต่าง (2)


บทที่ 97: ระดับความแตกต่าง (2)

ไม่มีร่องรอยของหญิงสาวที่มีปีก แต่กลับมีเงาเลือนลางของใครบางคนแทน

มีเพียงเค้าร่างเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

ภาพเงาของชายถือดาบคนหนึ่งกำลังมองมาทางมูยอง และช่วยไม่ได้ที่เขาจะถามออกไป

อย่างไรก็ตามชายผู้นั้นไม่ตอบ

เขากลับถือดาบใหญ่ขึ้นมาแทนที่คำพูด

ด้วยมือข้างหนึ่งเขาสามารถเหวี่ยงดาบใหญ่ และเริ่มโจมตีได้อย่างง่ายดาย

หวือ! เคล้ง!

ตรึมม!

เมื่อใดก็ตามที่ชายคนนั้นกระโจนขึ้น พื้นจะส่ายไปมา

ทุกสิ่งทุกอย่างมืดมิด แต่มูยองรู้สึกได้

มูยองรีบชักดาบของตัวเองทันที

อย่างไรก็ตามมันอยู่นอกเหนือความสามารถของเขาในการสกัดกั้นการโจมตีของชายผู้นี้ด้วยมือข้างเดียว

"เจ้าคิดว่าไม่สามารถกันการโจมตีของข้าได้เพราะมีมือข้างเดียว?"

ราวกับว่าเงาเลือนลางสามารถอ่านจิตใจของมูยองได้

เสียงพูดที่เต็มไปด้วยคลื่นรบกวน แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่มูยองไม่เข้าใจ

ฉัวะ!

ชายคนนี้สะบั้นแขนซ้ายของตัวเองออก

ดูเหมือนว่ามันเต็มใจที่จะเผชิญหน้าด้วยเงื่อนไขเดียวกัน

การสู้รบยังคงดำเนินต่อไป แต่ช่วยไม่ได้ที่มูยองเริ่มรู้สึกสั่นกลัว

'ช่ำชอง'

เป็นความต่อเนื่องของการโจมตีที่ซับซ้อนโดยไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

ชายผู้นั้นลดความแข็งแกร่งของตัวเองลงเพื่อเผชิญหน้ากับมูยองอย่างเท่าเทียมด้วยวิถีดาบ

แต่มูยองกลับยังไม่สามารถโจมตีชายผู้นี้ได้

เพราะความแตกต่างของทักษะพื้นฐานของพวกเขา

'มีความแตกต่างในทักษะ?

ฮ่า!

มันดูตลกสิ้นดี

แม้ว่าเขาจะเป็นนักฆ่ามานานกว่า 40 ปี ความรู้เกี่ยวกับวิถีดาบของมูยองนั่นเรียกได้ว่าเกินธรรมดา

โดยการเฝ้าดู เขาได้ทำความคุ้นเคยผ่านการต่อสู้กับนักดาบที่แข็งแกร่งหลายคน และทำให้พวกมันเป็นทักษะของตัวเอง

ทักษะที่สมบูรณ์ของมูยองได้มาจากการพัฒนาตัวเอง

แต่ ... บุคคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอยู่ในระดับอื่น

มันทำให้ดูเหมือนว่าวิถีดาบของมูยองห่วยแตก ท่วงท่าของชายผู้นี้มีหลักปฎิบัติที่ประณีตทุกการเคลื่อนไหว

เขาเพิ่งรู้ว่ามีหลักปฎิบัติแบบนี้อยู่

เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาตื่นขึ้นพร้อมกับพลังอันบริสุทธิ์

แต่มูยองก็หารู้ไม่ว่าหลักปฎิบัติอันประณีตนั้นทำอย่างไร

"เจ้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองมีอยู่"

ชายเจ้าของดาบใหญ่พุ่งดาบแทงไปที่สีข้างของมูยอง

เช่นเดียวกับภาพสโลโมชั่น การเคลื่อนไหวของมันดูเชื่องช้า

ท่ามกลางความไม่เชื่อในสายตา สีข้างของมูยองกำลังถูกแทง

'เมื่อไหร่กัน?'

มันช้ามาก  ช้าจนสามารถหาวได้

แต่ทันใดนั้นมันกลับแทงผ่านร่างกายของเขา

บางอย่างเช่นนี้ เป็นไปได้ยังไง?

มันเป็นดาบที่มีความเร็วไร้ที่สิ้นสุด แต่กลับดูเชื่องช้าอย่างต่อเนื่อง

เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะสกัดการโจมตีของชายคนนั้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้

เขาหันศีรษะและมองไปที่เงาเลือนลาง

กับการแสดงออกราวกับว่ากำลังหัวเราะ เงาเลือนลางพูด

"แม้แต่ดาบที่เชื่องช้ายังมีการหมุนเวียนที่แตกต่างนับร้อยพัน เจ้าเองก็สามารถฝึกวิถีดาบเช่นนี้ได้ "

มูยองขมวดคิ้วสูง

ดาบที่เชื่องช้า ไม่ว่าเขาจะมองกี่ครั้งก็ไม่อาจเข้าใจ แต่ชายคนนี้บอกว่าเขาสามารถทำแบบเดียวกันได้

อย่างไรก็ตาม มูยองไม่เคยไล่ตามการเคลื่อนไหวช้าๆ

แค่รวดเร็วเท่านั้น!

เขาเพียงบรรลุความสามารถนะดับสูงในวิธีการที่ซับซ้อนและรวดเร็ว

สำหรับการลอบสังหารไม่มีอะไรที่จำเป็นอื่นนอกจากความรวดเร็ว

ค่อก!

มูยองกระอักเลือด

"เพราะเจ้าเชื่อว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นความสามารถของเจ้าจึงหยุดนิ่ง ร่างกายของเจ้าอาจแข็งแกร่งขึ้น แต่พื้นฐานของเจ้าแย่มาก "

ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าทักษะของมูยองแย่มาก

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทักษะที่บริสุทธิ์ของมูยองล้วนดีกว่าใครอื่นไม่ใช่เหรอ?

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเชื่อว่าต้องฟื้นพลังการต่อสู้ทั้งหมดมาจากอดีตให้ได้

เขาเชื่อว่าวิธีเดียวที่จะสร้างความแข็งแกร่งขึ้นคือการเพิ่มสเตตัสอย่างรวดเร็ว

"คุณ...เป็นใคร?"

มูยองถามอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามคำตอบที่เขาได้ยินนั้นต่างจากที่คาดไว้

"จงพยายามคิดให้ออกด้วยดาบของเจ้าเอง"

หลังจากนั้นชายลึกลับก็เหวี่ยงดาบใหญ่อีกครั้ง

และดาบก็บินตรงไปหาเขา

มันดูผ่อนคลาย แต่มูยองกลับไม่สามารถทำอะไรได้

ตลอดชีวิตของเขาไม่เคยเห็นดาบเช่นนี้

หวัง ซุนหลิน เป็นที่รู้จักในนามของเครื่องจักรสังหาร และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ก็ไม่เก่งไปกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขา

มันเหมือนกับความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่

มันอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน

ความรู้สึกนั้นเหมือนกับท้องฟ้ากำลังร่วงหล่นลงมา

"เจ้าตายแล้ว"

ชายคนนั้นพูดในขณะที่คอของมูยองถูกหั่นออกเป็นชิ้น ๆ

เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด จิตใต้สำนึกของมูยองก็กลายเป็นยุ่งเหยิง

“เฮือกกกกก!”

มูยองกระดกตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภายในปราสาทที่ตกแต่งอย่างหรูหรา

ร่างของมูยองชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อในขณะที่นั้งอยู่บนเตียง

'ฉันจำได้อย่างชัดเจนว่ากำลังใช้พรสามประการ'

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถอธิษฐานขอความปรารถนาได้

เขากำลังพยายามเสริมสร้างร่างกายตัวเองเพื่อให้สามารถกลืนหัวใจมังกร แต่เนื่องจากการปรากฏอย่างกะทันหันของเงาลึกลับ ทุกอย่างจึงไม่ได้เกิดขึ้น

'เขาเป็นใคร?'

คำตอบที่เขาได้ยินจนกระทั่งตื่น

ชายผู้นั้นบอกว่าเขาจะทราบได้จากดาบเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มูยองไม่สามารถระบุตัวตนนั้นได้

เป็นเพราะมีความแตกต่างในทักษะของพวกเขามากเกินไป

กรอดดด!

มูยองขบฟันแน่น

ถ้าเป็นความแตกต่างด้านพลังในการสู้รบ มูยองคงไม่รู้สึกถึงความไร้ประโยชน์ของตัวเองขนาดนี้

อย่างไรก็ตามชายคนนั้นต่อสู้กับมูยองด้วยสเตตัสที่เท่าเทียมกัน

ความแข็งแกร่ง ความอึด ความคล่องตัว ฯลฯ ... พวกมันทั้งหมดล้วนเหมือนกัน

เมื่อมูยองเผชิญหน้ากับมัันจึงสามารถเข้าใจ

จะมีความอัปยศอดสูใดมากกว่านี้อีก?

เขามั่นใจในทักษะพื้นฐานของเขา แต่มันก็พังยับเยินโดยปราศจากความเมตตา

'ฉันภูมิใจในตัวเองมากเกินไป ?'

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกโกรธ หลังจากที่สิ้นสุดความอัปยศอดสู ความไร้ประโยชน์นั่นคือการสะท้อนเงาของตัวเอง

ชายคนนั้นยังบอกด้วยเช่นกัน

ว่าเขาหยุดพัฒนาเพราะเชื่อว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ

คำพูดนั้นอาจจะไม่ผิด

เขาไม่ได้วางแผนที่จะพัฒนาตัวเองด้วยความช่วยเหลือจากปัจจัยภายนอกหรือ?

ก็เพียงพอที่จะเรียกความคิดนั้นว่าประมาท

วูมมมม!!

มูยองถือดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว

แล้วแกว่งไปมาอย่างช้าๆ

'แม้แต่ดาบที่เชื่องช้า ยังมีการหมุนเวียนที่แตกต่างนับร้อยพัน '

เขาไม่เคยคิด ไม่เคยได้ยิน หรือเคยเห็นดาบแบบนั้นมาก่อน

มันเป็นส่วนผสมระหว่างความตกใจและความอยากรู้อยากเห็น

และสิ่งนั่นยังไม่ได้จบลง

เมื่อใดก็ตามที่มูยองหลับ การต่อสู้กับ "ชายผู้นั้น" จะดำเนินต่อไปอยู่เสมอ

หลังจากผ่านไปสองสามวัน บาร์ทัสก็มาพบเขา

บาร์ทัสมีท่าทีสงสัยหลังจากมองไปที่ใบหน้าของมูยอง

"ร่างกายของเจ้ายังดีอยู่ไหม? ด้วยเหตุผลบางอย่างสภาพของเจ้าดูไม่ค่อยดีนัก "

แม้ว่าจะไม่มีอาการบาดเจ็บที่มองเห็นได้ แต่ความหมองคล้ำนั้นดูล้ำลึกยิ่ง

"คุณมาช้ากว่าที่ผมคิดไว้"

"ขออภัยด้วย ข้ามาช้าเพราะมีเรื่องบางอย่างต้องคิด ยังไงก็ตาม ข้าขอขอบคุณที่เจ้าช่วยพวกเราให้สามารถชนะสงคราม "

ดูเหมือนว่าเขามีความรู้สึกดีต่อมูยอง

สายตา และวิธีการพูดของเขาเปลี่ยนไป

มูยองสามารถรู้สึกถึงความจริงใจได้จากการที่บาร์ทัสแสดงความซาบซึ้ง

"พูดมันออกมาเลย เจ้าต้องการสิ่งใดหรือไม่? ถ้าเป็นสิ่งที่ข้าสามารถทำได้ ข้ายินดีที่จะทำ ถึงแม้ว่าเจ้าจะได้รับเกราะอกไปแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ยังไม่เพียงพอ"

หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส อุปกรณ์ที่มันสร้างขึ้นมีมูลค่าเท่ากับทองนับพัน

มันมีทิฐิมานะในงานที่ตัวเองสร้างขึ้น

นั่นคือเหตุผลที่มันไม่ได้สร้างอุปกรณ์มากมายเท่ากับคำร้องขอ

อย่างไรก็ตาม บาร์ทัสบอกว่ามันไม่เพียงพอ

มูยองเริ่มพูดหลังจากที่ครุ่นคิดชั่วครู่หนึ่ง

"ผมสามารถยืมคนแคระ 500 คนได้หรือไม่?"

“คนแคระ?”

"ผมเป็นผู้ปกครองอาณาเขต ของโดเกบินับหมื่นและอีกหลายสายพันธุ์ที่แตกต่าง อย่างไรก็ตามโครงสร้างพื้นฐานของพวกมันยังขาดแคลน มีงานที่ต้องการฝีมือของคนแคระจำนวนมาก "

จริงๆแล้วเขาต้องการให้คนแคระย้ายถิ่นฐานไปยังอาณาเขตของเขา แต่ทว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน

บาร์ทัสเป็นลอร์ดของเหล่าพันธมิตร และราชาสองคนไม่ควรอยู่ในปราสาทเดียวกัน ดังนั้นดีที่สุดคือการยืมตัวคนแคระไปก่อนในเวลานี้

"ถ้าแบบนั้น ข้าก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ ข้าจะให้เจ้าหยิบยืมคนแคระจำนวน 1,000 คน"

บาร์ทัสพึมพำเงียบๆกับตัวเองว่า มันเป็นเรื่องดีที่สามารถกำจัดดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าได้ก่อนที่ราตรีอันยาวนานของปีศาจจะเริ่มขึ้น

ในช่วงเวลานั้น มอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะงดเว้นทุกกิจกรรม แต่ตัวตนเช่นมังกรยังคงเคลื่อนไหวเหมือนเดิม

“ขอบคุณ”

"เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นลอร์ด ถึงว่าล่ะเจ้าถึงควบคุมเหล่าคนแคระได้ดีขนาดนั้น"

" มันไม่ได้มากมายอะไร "

"สำหรับเจ้ามันอาจจะไม่มีอะไร แต่สำหรับข้า และสำหรับพวกเรามันเป็นสิ่งที่ดีมาก หากเราไม่ลุกขึ้นยืน เราก็คงจะไม่เป็นอิสระอย่างนี้ "

บาร์ทัสส่ายหัว

และกระแอมก่อนที่จะส่งบางอย่างให้กับมูยอง

"อะแฮ่ม โปรดรับสิ่งนี้"

มันเป็นแหวนที่มีตราประทับอันเป็นเอกลักษณ์

มังกรถูกสลักอยู่ในนั้น รายละเอียดของมันมากเสียจนเห็นได้ถึงความมีชีวิตชีวา และราวกับว่ากำลังเคลื่อนไหวอยู่

"นี่คือ ?"

"มันเป็นตราประทับที่บอกว่าเจ้าเป็นเพื่อนของคนแคระ เนื่องจากข้าได้รับประกันแล้ว ไม่มีคนแคระคนไหนจะสามารถเพิกเฉยต่อคำขอของเจ้าได้ "

ดูเหมือนว่าเขาจะมาสายเพราะมัวยุ่งกับการสร้างสิ่งนี้

มูยองยิ้มและยอมรับแหวน

<ผลความสำเร็จ 'เพื่อนร่วมสาบานของคนแคระ (A)' ถูกเพิ่มแล้ว>

< ของขวัญที่มอบให้กับผู้ที่ต่อสู้อย่างหนักร่วมกับคนแคระ ขณะที่หัตถ์เทพพระเจ้าบาร์ทัสเป็นลอร์ดของพันธมิตร ตราประทับที่เขาสร้างจะแสดงถึงความไว้วางใจที่เหนียวแน่น>

ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา แต่เป็นเพื่อนร่วมสาบาน

นั่นหมายความว่าบาร์ทัสเห็นถึงคุณค่าในตัวมูยองอย่างมากเวลานี้

"แล้วเจ้าจะออกไปทันทีเลยหรือ?"

"ยังหรอก ยังมีของบางอย่างที่ผมต้องตามหาก่อน"

"สิ่งของที่เจ้าต้องการหา?"

"ผมจะกลับมาภายใน 90 วัน มันจะดีถ้าตอนนั้นคุณสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของคนแคระได้ "

"ข้าเข้าใจ แล้วอย่าลืมไปซะละ ว่าคนแคระคือเพื่อนของเจ้า"

มูยองพยักหน้า

การเดินทางด้วยระยะทาง 1000 ไมล์ จบลงด้วยดี

ความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นกับคนแคระจะกลายเป็นความช่วยเหลือที่ดีในอนาคตของเขา

'สิ่งต่างๆจบลงเร็วกว่าที่เราคิด'

มีเวลากว่า 150 วันก่อนที่ราตรีอันยาวนานของปีศาจจะเริ่มต้นขึ้น

เขาไม่สามารถปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์

ทางด้านทิศเหนือมีบางอย่างที่เขาต้องการค้นหา

'บัลลังก์ของโอริส'

แหวนกษัตริย์คลั่ง, แหวนรูนฮาเมล และแหวนบัลลังก์ของโอริส

ไอเทมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการเป็นอิสระของ 'เดียโบล'

และท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น แหวนบัลลังก์โอริสอยู่ทางด้านทิศเหนือ

สำหรับการกลับมาของเขา มันเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการตามหามันในขณะที่อยู่ที่นี่

'นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการยกระดับทักษะพื้นฐาน'

มูยองบีบกำปั้นของตัวเอง

เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องยกระดับทักษะพื้นฐานของตัวเองก่อนที่จะกินหัวใจมังกร

"อ่า จงรับสิ่งนี้ไปด้วย"

"....แขน?"

"ข้าสร้างบางสิ่งสำหรับทดแทนแขนซ้ายของเจ้า อะแฮ่ม ก็แค่ในห้องเก็บของของข้าค่อนข้างเต็มไปด้วยสิ่งของที่มีประโยชน์ "

ของที่บาร์ทัสนำออกมาคือแขนซ้าย

แน่นอนมันครอบคลุมตั้งแต่ข้อศอกลงไป อย่างไรก็ตามมันยังคงงดงามมาก

บางทีอาจพูดได้ว่ามันดูดียิ่งกว่าแขนจริงซะอีก

มีความแตกต่างกันในบทบาทของเส้นเอ็นและกระดูก ขณะที่เขาสัมผัสมันเพียงครู่ ก็รู้สึกได้ว่าชีพจรกำลังเคลื่อนที่ไป

รู้สึกได้ถึงพลังเวทเกรี้ยวกราดที่สมบูรณ์แบบกำลังสัมผัสผิวของเขา

มันไม่สมเหตุสมผลที่ว่าของบางอย่างเช่นนี้กลาดเกลือนอยู่ในห้องเก็บของของบาร์ทัส

แน่นอนมันคือสิ่งที่บาร์ทัสทุ่มเทแรงกายทั้งหมดในการสร้างมันขึ้นมา

บาร์ทัสอาจรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับแขนซ้ายของเขาที่ขาดไประหว่างสู้กับมังกรดำบาร์ซ่า

'คนแคระเป็นคนที่เอาใจใส่เมื่อคุณสนิทสนมกับพวกเขา'

คนแคระชำระหนี้เสมอไม่ว่ากับศัตรูหรือเพื่อน

ถึงตอนแรกจะยากในการเป็นเพื่อนกับคนแคระ แต่เมื่อคุณได้เป็นแล้ว เขาจะช่วยเหลือคุณตลอดเวลา

มันดูเหมือนหัวใจของบาร์ทัสได้เปิดออกให้มูยอง

แต่เขาอายที่จะบอกว่าสร้างมันขึ้นมา

"ผมรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงตามปกติ"

"ข้าได้ใส่เส้นเอ็นของฟีนิกซ์ และหัวใจของไวเวิร์นคิง เพื่อให้ทราบว่ามันเหมาะกับร่างกายของเจ้ามากแค่ไหน เจ้าต้องลองสวมมัน และผลลัพธ์ที่เยี่ยมที่สุดของมันสามารถทำลายภูเขาเล็กๆได้เลย "

มูยองสามารถรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในน้ำเสียงของเขา

ดูเหมือนว่าเขาสร้างเกราะอกด้วยหัวใจของนกฟีนิกซ์ และใช้เส้นเอ็นที่เหลือเพื่อทำแขนซ้าย

นอกเหนือจากนั้นยังมีหัวใจของไวเวิร์นคิง

เขารู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น

มอนสเตอร์กลายพันธุ์หายากซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นจักรพรรดิแห่งท้องฟ้า

แม้ว่าจะไม่ดีเท่ามังกร แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่ามันเป็นมอนสเตอร์ที่เหนือกว่ามอนสเตอร์

ขนาดของมันใหญ่โต และสามารถปล่อยทักษะลมหายใจได้

เมื่อเขาจัดหมวดหมู่ไว้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะอยู่ในระดับท็อป

คงเป็นเรื่องยากที่จะหามันได้ แต่บาร์ทัสได้ใช้วัสดุอันมีค่านี้

ยิ่งกว่านั้นทักษะที่บาร์ทัสพูดถึง

มันอาจไม่ใช่เรื่องโกหกที่สามารถทำลายภูเขาได้

จากนั้น บาร์ทัสคะยั้นคะยอให้มูยองดู

ราวกับว่าเขากำลังสนับสนุนให้มูยองพยายามลองทำมัน

'ความรู้สึกในการสวมใส่มันนั้นเยี่ยมยอด'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด