[KotB] บทที่ 95: ศึกชิงปราสาทคนแคระ (จบ)
บทที่ 95: ศึกชิงปราสาทคนแคระ (จบ)
พลังเวทที่มังกรใช้นั้นเข้มข้นกว่าสิ่งอื่นใด
นั่นคือความแตกต่างที่เหนือกว่าท่ามกลางคุณสมบัติของพลังทั้งหลาย
มูยองขึ้นไปบนกำแพงปราสาทและสร้างภูติผีนับพันวนเวียนรอบๆตัวเขา
ในขณะที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ร่างกายของมูยองก็ดูมืดมิด
'ถ้าความต้านทานเวทไม่ถึง 200 ฉันคงไม่กล้าลอง แต่... '
ตอนนี้ มันเกิน 200 มาแล้วเขาอาจจัดการกับมันได้นิดหน่อย
มูยองประกาศ 'อาณาเขตแห่งความสมบรูณ์'
ความกดดันโดยรอบของพลังเวทถูกทำให้เปลี่ยนแปลง และโดยมีมูยองเป็นจุดศูนย์กลางการโจมตีของศัตรูทั้งหมดก็อ่อนกำลังลง
ขณะที่สายจ้องตรงไปยังบาร์ซ่า มูยองยังคงสร้างภูติผีขึ้นมาเรื่อยๆ
หนาแน่นขึ้น แข็งแกร่งขึ้น!
<ทักษะ 'กำแพงวิญาณ' (C) 'ถูกสร้าง>
<กำแพงที่สร้างขึ้นจากเหล่าภูติผีมีความทนทานสูงต่อการโจมตีทางกายภาพและเวทมนต์>
<จำนวนภูติผี ค่า INT และค่าความสามารถทางจิตวิญญาณ ถูกนำมาคำนวณ>
ทักษะถูกสร้างขึ้นมา!
เป็นเพราะเขาใช้พลังของพวกภูติผีมาเป็นเวลานานแล้วใช่ไหม?
หรือเป็นเพราะเขาไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง?
ไม่ว่าอย่างไรการสร้างทักษะขึ้นมาถือเป็นเรื่องยาก
ระดับของมันคือ C
'ผลกระทบของสัจธรรมแห่งจักวาล'
มูยองพยักหน้า
ความบริสุทธิ์ ในสัจธรรมแห่งจักวาลทักษะพื้นฐานของมูยองได้รับการยกระดับ C มาแล้วในอดีต
เหนือสิ่งอื่นใด โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลา 3 ปีสำหรับคนปกติในการเรียนรู้ทักษะ
ผู้คนเป็นต้องใช้และวิจัยซ้ำๆเพื่อที่จะได้รับทักษะเกี่ยวกับมัน
เมื่อเทียบกับเรื่องนี้ มูยองดีกว่ามาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่เขาก็ยอมรับมันอย่างชัดเจน
ในไม่ช้าหมอกที่สร้างขึ้นจากเหล่าภูติผีวิญญาณก็กลายเป็นกำแพงปิดกั้นด้านหน้าของเขา
"นะ นั้น นั้นมันอะไร?"
"น่าขนลุกชะมัด"
จากรูปแบบกำแพงคล้ายขี้เขม่าสีดำ ดูเหมือนว่าพวกมันเต็มไปด้วยใบหน้าของวิญญาณที่ขยับไปมา รูปลักษณ์ของมันช่างน่าขนลุก
ร่างของคนแคระสั่นกลัวโดยอัตโนมัติเมื่อมองเข้าไป
แน่นอนว่ามันเป็นทักษะที่สะดุดตา
[ส่งตัวบาร์ทัสมา แล้วข้าจะละเว้นชีวิตของเจ้า]
ทันใดนั้น มูยองก็ได้ยินเสียงในหัวของเขา
'บาร์ซ่า'
มูยองรู้ทันทีว่าเสียงภายในหัวของเขาคือบาร์ซ่า
เนื่องจากกำแพงเวทย์มากมายถูกทำลายลงจึงอาจเป็นไปได้ที่มันจะส่งข้อความมา
[เจ้าไม่มีโอกาสชนะหรอก เพียงแค่เปิดประตูและยอมรับข้า ด้วยชีวิตของบาร์ทัส เจ้าก็จะกลายเป็นผู้เหลือรอด]
"อย่าหลงกลถ้อยคำล่อลวงของมัน!"
มูยองตะโกนออกไปทันที
ข้อความของบาร์ซ่าสะท้อนอยู่ในใจของทุกคน
คำพูดของมังกร
คำพูดของมังกรย่อมมีน้ำหนัก
ความเชื่อเหล่านั้นถูกปลูกฝังไว้ในใจของผู้คน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่มันพูดเป็นความจริง
แม้ว่าพวกเขาจะมอบบาร์ทัสให้บาร์ซ่า แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้คนที่เหลือรอดตายได้
และถึงพวกเขาจะถูกปล่อยให้มีชีวิตอยู่แน่นอนว่าจะต้องถูกใช้งานในฐานะทาสไปจนตาย
"อย่าฟังคำพูดของมังกร "
มูยองพูดอีกครั้งกับคนแคระที่กำลังสับสนวุ่นวาย
"ทำไมบาร์ซ่าถึงต้องเจรจาตอนนี้?! เป็นเพราะมันไม่มีพลังมากพอ เป็นเพราะความแข็งแกร่งของพวกเจ้านั้นมากกว่าที่คิด! ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการล่อลวง เจ้าเคยเห็นมังกรเจรจาก่อนโจมตีหรือ? พวกเรากำลังบีบให้มันทำอย่างนั้น! "
บาร์ซากำลังประลาดใจ มูยองสามารถสังเกตุได้
ในขณะที่เขากล่าวว่าถ้ามันมีกำลังพอเพียงก็คงไม่พยายามที่จะเจรจาเช่นนี้
มันจะทำลายล้างพวกเขาทันทีโดยไร้ซึ่งคำถามใดๆ
มันเป็นเพียงละครตบตา
สำหรับบาร์ซ่ามันเป็นสิ่งที่ทำร้ายความภาคภูมิใจของมันได้จริงๆ
อย่างไรก็ตามมูยองยังไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรต่อไป
[เจ้าโง่มาก ที่กำลังนำความตายไปสู่ตนเอง]
ฟืดดดดดดดดดดดดดด!
บาร์ซ่าเปิดปากกว้าง มันรวบรวมความพลังจากแผ่นดินและท้องฟ้า
มูยองยกกำแพงวิญญาณสูงขึ้น
การตัดสินในรอบเดียว
เขาต้องการแค่สกัดกั้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
แม้ว่าจะสามารถดูดซับได้ แต่ก็มีข้อจำกัด
มันไม่ได้ไร้ที่สิ้นสุด
มันเหมือนกับมังกรปีศาจอารูคิช พลังความมืดของปีศาจถูกนำมาใช้จนถึงจุดๆหนึ่งและมันสามารถหนีไปได้
สวูมมมมมมม-!
ฉึกกก!
ดาบยาวบินออกจากที่ไหนไม่ทราบ มันเจาะผ่านเนื้อใกล้คอบาร์ซ่า และติดอยู่ตรงนั้น
ผู้ที่สามารถทำให้ผิวของมังกรเสียหายจากการขว้างอาวุธได้มีไม่มากนัก
มูยองมองไปที่ทาร์แคนเจ้าของดาบยาวที่กำลังกระพือปีกสีดำเหมือนปีศาจจากระยะไกล
'ทำได้ดี'
มูยองพูดอย่างเงียบๆ และมุ่งสมาธิไปที่การรวบรวมพลังของตัวเอง
ใช้เวลาไม่นาน ลมหายใจมังกรก็มาถึงกำแพงเวท และปะทะเข้ากับกำแพงวิญญาณ
บรึมมมมมมมมมม!
แกร๊ก! แคล๊กกก….!
กำแพงเวททุกชั้นถูกทำลาย
กำแพงวิญญาณสั่นสะท้าน
มูยองกัดฟันทนเอาไว้
ริมฝีปากและผิวหนังตรงกำปั้นของเขาแตกปริออก
มือทั้งสองไปจนถึงหัวไหล่ที่ใช้ในการยกกำแพงวิญญาณกลายเป็นสีแดงก่ำ
อย่างไรก็ตามมันก็ทนทานกว่าที่คาดคิด
เนื่องจากทาร์แคนดึงความสนใจของบาร์ซ่าไว้ได้จึงทำให้พลังโจมตีของมันลดลง
บาร์ซาคิดว่ามันเป็นการยากที่จะทำลายกำแพงวิญญาณลงได้จึงหยุดปล่อยลมหายใจ
ก๊าซซซซซซซ!
ในขณะเดียวกันมันก็ตวาดเสียงร้อง
มันระเบิดความโมโหเนื่องจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้
[ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!]
มูยองยิ้มอ่อน
เขาหยุดการโจมตีตรงๆของบาร์ซ่าได้ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม แต่ความจริงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
"ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย"
"ข้า ... ข้าไม่ได้เห็นสิ่งนี้คนเดียวใช่มั้ย?"
"ให้ตายเถอะ เขาหยุดลมหายใจของมังกรด้วยตัวคนเดียว?"
มีการพูดเกินจริงไปบ้าง แต่มูยองก็ไม่ได้พยายามชี้แจง
แทนคำอธิบาย เขาตะโกนก้องทั่วปราสาท
"ยกอาวุธของเจ้าขึ้น! พลังของมันหมดลงแล้ว! "
เมื่อกำแพงเวททั้งหมดถูกทำลาย
หากพวกเขาเพียงแค่ยืนดูนั่นจะต่างอะไรกับการพ่ายแพ้
แม้ว่ามันจะใช้พลังไปหมดแล้ว แต่ยังไงมังกรก็คือมังกร
อย่างไรก็ตาม มูยองผู้ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถชนะได้ทำให้คนแคระรู้สึกมีหวัง
เชว้ง! เชร้ง!
คนแคระทั้งหมดถืออาวุธและโล่ขึ้นมา
"ถูกต้อง เรามีมูยองแล้วจะต้องกลัวอะไร "
"เราทำได้ เราทำมันได้แน่ๆ! "
มันเป็นช่วงเวลาที่การปรากฏตัวของมูยองทำให้ทุกคนลุกขึ้นสู้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาพร้อมที่จะวิ่งออกไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกเด็ดเดี่ยว
จากนั้นมูยองก็พูดต่อ
"เริ่มยุทธวิธีโต้กลับได้!"
ปูววววววววววว-!
เสียงแตรถูกเป่า
สงครามปราสาทที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว
*
<แสดงจำนวนพันธมิตรที่เหลือ>
<คนแคระ 15,648 >
<แสดงจำนวนศัตรูที่เหลือ>
<ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า, ไวเวิร์น 217, วินด์ไรเดอร์ 357 และ 554 ค้างคาวสายฟ้า >
จำนวนผู้เสียชีวิตเกือบ 10,000 ราย
จำนวนศัตรูก็ลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง
และ มูยองกำลังควบคุมกระแสของสงคราม
เขาใช้ยันต์ทุกใบเพื่อหยุดยั้งบาร์ซ่า
ผู้กลายพันธุ์เปลวเพลิง, นัรบสุริยันอันธการ, ไฮเดกเกอร์, ทาร์แคนและเซอร์เบอรัส และแม้กระทั่ง อาชานรก!
'ศัตรูที่น่ากลัวของมันคืออันเดธ "
ความสามารถที่ยอดเยี่ยมของดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าคือการดูดซับ มันดูดกลืนพลังชีวิตของผู้อื่นเพื่อฟื้นความแข็งแกร่งของตัวเอง นอกจากนั้นยังสามารถใช้ความทักษะของผู้ที่มันดูดกลืนมาได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามอันเดธคือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว
บาร์ซ่าจะสามารถดูดซับพลังชีวิตจากฝ่ายตรงข้ามที่ตายแล้วได้ยังไง?
ศัตรูตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของบาร์ซ่าคือ อันเดธ และ มูยอง
เฟี้ยวววววว!
บาร์ซ่าใช้ปีกขนาดใหญ่โจมตีรอบตัว
เมื่อใดก็ตามที่เป็นเช่นนั้นทุกชนิดของเหล่าภูติผีและวิญญาณชั่วร้าย รวมถึงอันเดธจะเข้าไปยึดเกาะมันไว้เพื่อจำกัดการเคลื่อนที่
บาร์ซ่ารู้สึกหมดหวังเข้าไปอีกเมื่อมันพยายามกลืนอันเดธที่ใช้การไม่ได้
มันค่อยๆบาดเจ็บจากสมรภูมิรบจากการต่อสู้กับมูยอง
กล่าวได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตรอบๆตัวให้มันดูดกลืน
ความอึดพื้นฐานของดาร์คดราก้อนไม่ได้สูงมาก
มังกรเป็นสายพันธุ์ระดับท็อป และมีทักษะโกงๆเช่น 'การดูดซับ' ดังนั้นพวกมันไม่จำเป็นต้องพัฒนาสเตตัสพื้นฐานของตัวเอง
ดาร์คดราก้อนสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้ามได้โดยการดูดซับ
และความเย่อหยิ่งในปัจจุบันของมันกำลังทำร้ายตัวเอง
ก๊าซซซซซซซซซ!
บาร์ซ่ากระพือปีกปีกอย่างรุนแรง
มันตระหนักได้ถึงอันตราย
อย่างไรก็ตาม มูยองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก
ตอนนี้อันเดธหลายร้อนตนถูกทำลายลง
"ไป”
เมื่อมูยองสั่งการ นักรบสุริยันอันธการก็เริ่มเคลื่อนไหว
ตอนนี้อันเดธทุกตนไต่ขึ้นไปด้านหลังของบาร์ซ่า
เช่นกันสำหรับมูยอง
'ฉันต้องถ่วงเวลาไว้'
จนถึงขณะนี้เขาทำตามแผนที่วางไว้
ปัญหาก็คือเขาต้องทนให้ได้ 30 วินาที
นี่คือแผนสำหรับการยิงปืนพิฆาตมังกร
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องแน่ใจว่าบาร์ซ่าจะไม่ออกจากพื้นที่นี้และมีเวลาหลบหนีรัศมีของปืนใหญ่
ฮูมมมมมมมมมมม!
บาร์ซ่าพ่นลมหายใจครั้งสุดท้ายของมันกระจายกว้างไปทั่วบริเวณ
เมื่อใดก็ตามที่มันพยายามขยับปีกเพื่อบิน อันเดธนับโหลจะกลุ่มรุมทำให้มันตกลงสู่พื้น แต่ทุกอย่างที่ถูกสัมผัสโดนลมหายใจของมันก็ถูกทำลาย
มูยองกัดฟันและใช้ดาบของเขา
'ฉันต้องทนให้ได้'
เขาทุ่มทุกอย่างในเกมนี้
ถ้าเขาล้มเหลวจะไม่ได้อะไรเลย
คนแคระที่เหลือจะสูญเสียพลังในการต่อสู้ และทำได้เพียงนั้งรอความตายจากบาร์ซ่าเท่านั้น
มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความกระหายอย่างมากในการแก้แค้น
มันไม่ปล่อยให้มูยองจากไปง่ายๆแน่
เปรี้ยงงงง!
ทุกครั้งที่อาชานรกโจมตีจะมีสายฟ้าผ่าลงมา
ถึงแม้ว่าบาร์ซ่าต้องการจะกลืนกินอาชานรก แต่มันเป็นไปไม่ได้เนื่องจากการเคลื่อนไหวของมันถูกจำกัด
อาชานรกทำงานของมันได้เป็นอย่างดี
คุ้มค่าสำหรับการใช้คำขอครั้งที่สองของเขา
25 วินาที, 26 วินาที, 27 วินาที ...
‘ตอนนี้แหละ!’
มูยองผู้ที่จับเวลาครบ 30 วินาที ได้สลัดตัวออกมาจากบาร์ซ่า ในขณะที่เขาเห็นแสงกำลังปรากฏมาจากระยะไกล
แม้กระทั่งอันเดธก็หนีไปทันทีที่ได้รับข้อความของมูยอง
อย่างไรก็ตามบางตนก็ไม่สามารถหนีพ้น
ประมาณครึ่งหนึ่งของอันเดธพร้อมกับบาร์ซ่าถูกลำแสงระเบิดเข้าปกคลุม
เปรี้ยงงงงงงงง!
ลำแสงที่ทรงพลังได้ปกคลุมอาณาเขตทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
เมื่อสิ้นสุดการโจมตี ลำแสงเริ่มจางหายไป ท้องฟ้ากลายเป็นหลุมลึก และทุกอย่างในเส้นทางของมันล้วนถูกทำลายจนสิ้น
แม้แต่ดาร์คดราก้อนที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถทนต่อสิ่งนี้ได้
ไม่มีอะไรที่ยังคงอยู่ในสถานที่ที่มีแสงวาดผ่าน
เกล็ดของมังกร กระดูกของมัน และแม้แต่อันเดธจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งหมดหายไปราวกับว่าระเหยไปในอากาศ
ทุกอย่างเหลือเพียงแต่ความเงียบสงบ
*
มูยองที่หล่นลงบนพื้นมองที่มือซ้ายของเขา
'มันถูกเผา'
ตั้งแต่แขนจนถึงข้อศอกข้างซ้ายของเขาหายไป
เหลือเพียงกลิ่นที่ไหม้เกรียมคละคลุ้ง
ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถหนีออกจากพื้นที่โจมตีของปืนพิฆาตมังกรได้อย่างสมบรูณ์
เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆเส้นประสาทของเขาคงจะได้รับเสียหาย
มูยองขมวดคิ้ว
ตุบ!
มีอะไรบางอย่างตกลงด้านหน้าสายตาของเขา
ตึก! ตึก!
วัตถุที่ร่วงหล่นลงมากำลังแสดงพลังชีวิตของมัน
มูยองผู้ซึ่งเห็นสิ่งนี้ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้าน
ในฐานะคนที่ได้รับการปลุกพลังความบริสุทธิ์ มูยองสามารถบอกได้ทันทีว่าวัตถุที่อยู่ตรงหน้าเขามีอำนาจอันสูงส่งและบริสุทธิ์มาก
เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่หลังจากที่ทุกอย่างของมังกรถูกทำลาย
'หัวใจมังกร!'
มันเป็นหัวใจของมังกร
อารมณ์ของมูยองรู้สึกเดือดพล่าน
มันเป็นวัตถุที่ถูกกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับ
นี้เป็นหัวใจดวงที่สองที่เขาได้รับถัดจากหัวใจของฟีนิกซ์ และบางทีมันอาจจะมีอำนาจมากกว่านั้น
มังกรจะทำลายหัวใจของตัวเองก่อนที่มันจะตาย
เป็นเพราะพวกมันเกลียดชังต่อผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากตัวมัน และเพราะพวกมันรู้คุณค่าของหัวใจตัวเองดีกว่าผู้ใด
อย่างไรก็ตามบาร์ซ่าไม่มีเวลาเตรียมตัว
ขณะที่มันสังเกตเห็นลำแสงก็สายเกินไป
ถ้ามูยองหลบช้าอีกเพียงนิดร่างกายทั้งหมดของเขาก็คงจะถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน
โชคดีที่สูญเสียแค่มือซ้ายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าปืนพิฆาตมังกรไม่สามารถขจัดความสูงศักดิ์และบริสุทธิ์นี้ได้
ฮ่า!
มูยองยิ้มแย้มแจ่มใส
พวกเขากล่าวว่าถ้าคุณสูญเสียบางสิ่ง คุณจะได้รับบางอย่าง
มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวีรบุรุษที่แข็งแกร่งขึ้นโดยการได้รับหัวใจมังกร
สิ่งที่ทำให้คนปกติได้รับพลังของผู้คนนับร้อยแน่นอนว่าเป็นเพราะหัวใจมังกร
ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างโหยหา และบ่อยครั้งที่เกิดสงครามแย่งชิงหัวใจมังกรขึ้น
ทั้งหมดที่กล่าวถึงกำลังอยู่เบื้องหน้ามูยอง
ดวงตาของมูยองจ้องไปที่หัวใจมังกรด้วยความเจิดจ้า