[KotB] บทที่ 93: ศึกชิงปราสาทคนแคระ (1)
บทที่ 93: ศึกชิงปราสาทคนแคระ (1)
วูฮีทำหน้ามุ่ย
เธอล่อมอนสเตอร์เพราะอยากเอาใจมูยอง แต่มันยากกว่าที่คาดไว้
"วูฮีไม่อยากทำแล้วววว.. "
ผู้ล้างแค้นเปลวเพลิง
วูฮีร้องไห้ขณะที่เธอนั่งอยู่บนไหล่ของอันเดธกลายพันธ์ุเพลิง
เดิมทีวูฮีถือว่าเป็นภูติที่ขี้เกียจเลยทีเดียว
ถ้าเธอขยันคงจะไม่ใช้เวลานานในการสร้างสมรภูมิไร้จุดจบอย่างที่ผ่านมา
ดังนั้นวูฮีจึงพยายามครุ่นคิด
ไม่มีอะไรแปลกๆใหม่ๆบ้างเหรอ?
อันเดธสามารถทำทุกอย่างตามคำสั่งได้ แต่เธอเริ่มเบื่อจากการล่อมอนสเตอร์แล้ว
"หืม? อะไรอะ?"
มันเป็นตอนที่เธอกำลังค้นหามอนสเตอร์ตัวต่อไปอยู่เหนือพื้นหิมะ
กล่องสีดำได้ขยับเข้ามาในระยะสายตาของเธอ
'มันคือ มิมิค!'
หลังจากที่รู้ว่ากล่องนั้นคืออะไรดวงตาของวูฮีก็ส่องประกาย
มิมิคเป็นมอนสเตอร์ประเภทกล่อง
โดยปกติแล้วมันก็เหมือนกับเวทมนตร์ที่ถูกร่ายลงบนกล่องสมบัติโดยนักเวทย์ระดับสูง
เป็นมอนสเตอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันผู้ที่จะสัมผัสกล่องโดยอัตโนมัติ
เธอไม่รู้ว่าทำไมมิมิคอยู่ในสถานที่เช่นนี้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่วูฮีสนใจ
วูฮีชี้นิ้วออกไปสั่งอันเดธกลายพันธุ์ทันที
"เดินไปตรงนั้น!"
อว๊าาา!
อันเดธกลายพันธุ์เคลื่อนที่ไปรอบๆมิมิคอย่างช้าๆ
ปกติมิมิคจะโผล่ขึ้นมาจากกล่องเมื่อมีคนพยายามจะเปิดมัน แต่เมื่ออันเดธกลายพันธุ์พังมันด้วยพลังมหาศาล ความสามารถในการตอบโต้แบบนั้นก็ไร้ประโยชน์
ในไม่ช้าเหรียญทองเหลืองอร่ามก็โผล่ออกมาให้เห็นจากกล่องที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง วูฮีบินไปอย่างรวดเร็วและคว้ามันไว้ด้วยมือของเธอ
“วู๊ฮีฮีฮีฮี่ฮิฮิ!”
แก้วแหวนเงินทอง และสมบัติอีกมากมายที่เธอไม่รู้จัก!
ยังไงซะวูฮีก็เป็นผู้หญิง เธอย่อมชอบสิ่งของเหล่านี้
กริ๊งง!
เธอเทสมบัติออกและพุ่งลงบนนั้น
"อ่าาความมั่งคั่ง ถ้าฉันมีบ้านมันจะต้องตกแต่งด้วยสิ่งนี้ "
สมบัติที่อยู่บนเตียงของเธอ วูฮีนอนกอดอกขณะแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเธอมี 'บ้าน' ความฝันเล็กๆน้อยๆของวูฮีมีคือการเติมเต็มด้วยสมบัติเหล่านี้
บ้านที่น่าอัศจรรย์และสง่างามยิ่งกว่าสถานที่ใด!
'สามีกับชีวิตที่สวยงาม วู ฮีฮี'
เธอไม่สามารถหยุดหัวเราะได้หลังจากจินตนาการถึงอนาคตที่เต็มไปด้วยทองของเธอ
ถ้าเธอมีบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยสมบัติและมูยองแล้วละก็ ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรให้เธอต้องอิจฉาอีกแล้ว
และในตอนนั้นเอง
ฟรึ่มมมมมมมม!
สิ่งมีชีวิตสีดำขนาดใหญ่บินผ่านไปเช่นเดียวกับลูกศรบนท้องฟ้า
รอบๆตัวของมันเต็มไปด้วยฝูงมอนสเตอร์ประเภทบินจำนวนมาก
เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน วูฮีจึงไม่สามารถตอบสนองได้ในทันที
อย่างไรก็ตามใบหน้าของวูฮีเปลี่ยนแข็งทื่อหลังจากที่เห็นวิถีบินของมัน
"ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า!"
ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่ามุ่งหน้าไปทางด้านเหนือ *
เป็นเวลา 68 วันแล้วนับตั้งแต่เขาเข้ามาในปราสาท
"สู้ให้เหมือนกับวันนี้เป็นวันสุดท้าย ผมจะทำให้คุณรู้ว่ามังกรไม่ใช่เรื่องใหญ่ "
มูยองยังคงฝึกโหดให้กับเหล่าคนแคระ
เขาจัดกลุ่ม กลุ่มละสิบคน และให้ทุกคนโจมตีมาที่ตัวเอง
ตึม! ตึม!
คนแคระกำลังตีโล่และดาบของพวกเขาเป็นจังหวะ
คนแคระเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในระดับปานกลาง แต่ถ้าหากพวกมันสวมใส่อุปกรณ์ที่ดีพวกมันก็จะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก
ถึงแม้จะแค่ 10 คนแต่มูยองก็ไม่อาจลดการป้องกันได้
'หากไม่มีเสื้อเกราะราชันอมตะก็คงเป็นเรื่องยาก'
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมูยองมาจากเหล่าภูติผีและอันเดธ
อย่างไรก็ตามตอนนี้มูยองต้องเผชิญหน้ากับคนแคระด้วยพละกำลังของตนเองเพียงอย่างเดียว
เกราะราชันอมตะที่เปล่งประกาย
เป็นครั้งแรกที่เขามีพลังป้องกันอย่างท้วมท้น
การโจมตีของคนแคระไม่สามารถทำให้เกิดแม้แต่รอยถลอกเล็กๆได้
ไม่ใช่แค่คนแคระ แต่มันก็แข็งแรงพอที่จะทำให้การโจมตีของนักล่าปีศาจวิญญาณทาร์แคนเป็นโมฆะได้
'แต่แค่นี้ฉันยังไม่อาจสามารถเอาชนะ'
มูยองที่เป็นผู้สวมมันเข้าใจเรื่องนี้ดี
ว่าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดของดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าได้
มันไม่สามารถทำลายได้จริงในแง่ของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติเท่านั้น
นั่นหมายความว่ามันไม่สามารถถูกทำลายได้หากความทนทานยังไม่หมด ถ้าเป็นเพียงผลกระทบจากภายนอกไม่มีเครื่องมือใดที่จะทำให้มันถูกทำลายลง
อย่างไรก็ตามความสามารถในฟื้นฟูตามธรรมชาติของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกลายเป็นโทรล
การเผาผลาญความอึดโดยปกติแล้วจะถูกฟื้นฟูกลับมาด้วยการพักผ่อนในระยะเวลาประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมง
และบาดแผลส่วนใหญ่จะหายภายในครึ่งวัน
'หากฉันสามารถสะสมอุปกรณ์ครบเซ็ตได้... '
แค่เขาสวมเกราะ ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นไม่สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของเขาได้ หากสามารถรวบรวมอุปกรณ์เพิ่มเติมได้อีก 4 ชิ้น ซึ่งระดับของพวกมันไม่ได้ทิ้งห่างจากความแข็งแกร่งของเกราะราชันอมตะเลย
อย่างไรก็ตามนี่เป็นส่วนที่มูยองไม่แน่ใจว่าจะไปหามันที่ไหน
มูยองส่ายหัวสะบัดความคิด
ทำไมมันถึงมีพลังของราชันอมตะ และทำไมมันถึงได้รับการพิจารณาให้เป็นไอเทมเซ็ต
ราชันอมตะ
เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้
ถ้าเป็นมูยองผู้ที่เคยประสบกับความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ในบางมุมอาจพิจารณาได้ว่าเขาเป็นอมตะ อย่างไรก็ตามเขาไม่เชื่อว่าความแข็งแกร่งของตัวเองจะแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่แตกต่างออกไป
หลังจากกลับมาคิดดู เขาก็พบว่ามันแปลกๆ
ถ้าบอกให้เขาทำเช่นเดิมอีกครั้ง ไม่แน่ว่าเขาจะทำได้อีก
เพื่อกำราบหัวใจของนกฟีนิกซ์และเติมเต็มด้วยความต้องการของตัวเอง
ความมุมานะที่ทำให้เขากล้าสวมเกราะนั้น ราวกับว่ากำลังถูกอาคมโดยใครบางคน
ตึม! ตึม! ตึม!
คนแคระตบโล่และอาวุธของพวกมันเสียงดัง
ก่อนการสู้รบ นี่เป็นวิธีแสดงความเคารพต่อมูยอง
เป็นประเพณีดั้งเดิมของคนแคระที่บอกว่าพวกเขายอมรับมูยองเป็นนักรบที่แท้จริง
จากนั้นคนแคระ 10 คนก็ยกเท้าก้าวเข้ามา
มูยองรีบขจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านของเขาออก และมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้
ถ้าไม่ใช่เพราะวูฮีที่จู่ๆปรากฏตัวขึ้น เขาคงกำลังจะสู้กันอย่างดุเดือด
"ที่รัก! ที่รัก! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! "
ด้วยแหวน สร้อย และทองคำรอบๆตัวเธอ วูฮีรีบบินไปหาเขา
“มีอะไรรึเปล่า?”
กรึบ
ขณะที่มูยองถาม วูฮีก็กลืนน้ำลายลงคอ
“มะ! มีปัญหาใหญ่แล้ว นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมัวมาทำอะไรแบบนี้!”
"นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะเป็นแบบนี้?"
"บาร์ซ่า, บาร์ซ่าปรากฏตัวแล้ว!"
คำพูดของวูฮีทำให้เกิดความระส่ำระส่ายต่อผู้คนในวงกว้าง
"ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า!"
"ในที่สุดมันก็ปรากฏตัวขึ้น"
รวมทั้งมูยอง คนแคระรอบๆทุกคนเริ่มส่งเสียงจอแจ
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีความกลัวเหมือนครั้งก่อน
"นี่เป็นผลของการล้างความคิด"
มูยองเปลี่ยนความคิดของพวกคนแคระอย่างลับๆด้วยคำว่า"มังกรไม่ใช่เรื่องใหญ่"
โดยการผลักดันให้เข้าสู่ขีดจำกัดและพูดคำเหล่านั้นให้พวกมันฟังทุกวัน
ถ้อยคำที่สลักไว้ในจิตใจจะควบคุมสัญชาตญาณก่อนที่พวกมันจะรู้ตัวเสียอีก
มูยองถามด้วยใบหน้าเฉยชา
"ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?"
"มันเกือบจะมาถึงที่นี่แล้ว วูฮีพยายามบินเข้าไปใกล้มันแล้วก็เห็น วูฮีเห็นมอนสเตอร์ตัวอื่นๆด้วย ไวเวิร์น วินด์ไรเดอร์ แล้งก็ค้างคาวสายฟ้า... "
ร่างกายของวูฮีกำลังสั่น
ไม่ใช่ว่าภูติทุกตัวจะสามารถหลบการโจมตีทั้งหมดจากมังกรได้
มอนสเตอร์ที่เกิดมาในฐานะสายพันธุ์กึ่งเหนือธรรมชาติเช่นมังกร สามารถสังหารเหล่าภูติหรือทำลายการทดสอบที่พวกภูติสร้างขึ้นได้อย่างง่ายดาย
เนื่องจากมีภูติจำนวนมากถูกโจมตีโดยมังกรในอดีตที่ผ่านมา มันจะเป็นเรื่องโกหกถ้าจะบอกว่าเธอไม่กลัว
อย่างไรก็ตามเธอยังกล้าหาญและได้ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง
"เธอทำได้ดีมาก"
มูยองวางมือลงบนศีรษะของวูฮี
จากนั้นความตื่นตระหนกของวูฮีก็หยุดลงทันที
และเขาก็หันกลับมาตะโกน
"เตรียมตัวเข้าสู่สงคราม!"
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นสงครามที่จะยุติความสัมพันธ์อันยาวนานและน่าเบื่อหน่ายระหว่างคนแคระกับมังกร
ตึงงงงงงง!
คนแคระกำลังกระแทกโล่ของตนลงบนพื้นด้วยใบหน้าที่หนักแน่น
มังกรไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามที่พวกเขาจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอีกต่อไป ขณะที่พวกเขาเกิดใหม่ในฐานะนักรบผ่านมูยอง
มันเป็นความยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญและต้องชนะ
ในตอนนั้นเอง
< 'ศึกชิงปราสาทคนแคระ' ได้เริ่มต้นแล้ว>
<พันธมิตรพลั่วสามกระสอบ การรวมตัวอันภาคภูมิใจที่ใหญ่ที่สุดในหมู่คนแคระ พวกเขายืนขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์กับมังกร>
<ช่วยพวกเขาและเผชิญหน้ากับบาร์ซ่า ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าจะบุกปราสาทพร้อมกับมอนสเตอร์ประเภทบินจำนวนมาก>
<ขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือของคุณ คุณจะได้รับรางวัลที่เหมาะสม>
<ระบุจำนวนพันธมิตร>
< คนแคระ 23,777 >
<ระบุจำนวนฝ่ายตรงข้าม>
<ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า, ไวเวิร์น 688 ตัว, วินด์ไรเดอร์ 1,224 ตัว และ 2,499 ค้างคาวสายฟ้า>
ศึกชิงปราสาทของคนแคระ!
มันโผล่ขึ้นมาเป็นภารกิจ
นั่นหมายความว่าถ้าเขาแก้ปัญหานี้ได้จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่าย
'ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่ามาพร้อมกับมอนสเตอร์มากมาย... '
ปกติมังกรเป็นมอนสเตอร์ที่เดินทางตามลำพัง
อย่างไรก็ตามมันสามารถควบคุมมอนสเตอร์จำนวนมากได้เพียงแค่จ้องมอง
การดำรงอยู่ของมังกรเป็นแบบนั้น
หนึ่งในมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหาร!
ถ้ามันมาพร้อมกับกองทัพเหล่านั้น ก็หมายความว่ามันมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างเหล่าคนแคระ
มันอาจจะโกรธเนื่องจากถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกโดยบาร์ทัส
"ขึ้นไปบนปราสาท!"
"เตรียมปืนใหญ่ให้พร้อม!"
คนแคระเริ่มเคลื่อนไหวตามลำดับขั้นตอน
ด้วยความช่วยเหลือของมูยอง ส่วนต่างๆของพวกเขาเปลี่ยนไปและทำให้การแจกจ่ายงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ว่าจะเป็นเพียง 68 วัน แต่พวกมันก็ฝึกฝนมาอย่างเต็มที่
จากนั้นกำแพงปราสาทขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 20 เมตรก็ส่องประกายแสง และบาร์เรียเวทย์ก็ถูกสร้างขึ้น
มันเป็นกำแพงที่สร้างขึ้นล้อมรอบเพื่อเพิ่มการป้องกันการโจมตีของมังกร
มันย่อมไม่พังทลายได้โดยง่าย
คนแคระปีนขึ้นกำแพงปราสาท และบรรจุกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยกระบอก
ส่วนที่เหลือคอยปกป้องปืนใหญ่ หรือไม่ก็ถือหน้าไม้
'เราต้องชนะ'
มูยองบีบกำปั้นอย่างรุนแรงราวกับว่าจะทำกระดูกของตัวเองแตกเป็นเสี่ยงๆ
แม้ว่าเขาจะแสดงความสามารถทั้งหมดออกมา แต่ก็ไม่อาจแน่ใจว่าเขาจะชนะหรือไม่
อย่างไรก็ตามเขายังคงต้องการทำมัน
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เขาก็จำเป็นต้องทำให้เป็นไปให้ได้
"มังกร! มันไม่ได้อ่อนแอเลยสำหรับคู่ต่อสู้ของข้าในฐานะราชาแห่งภูติผีและวิญญาณ ข้าชักจะตื่นเต้นซะแล้วสิ! "
ทาร์แคน นักล่าวิญญาณปีศาจผู้ที่จัดการกับเซอร์เบอรัสได้ย่อมแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามเขามีจุดอ่อนที่สำคัญ
เขาไม่เคยประเมินความสามารถของศัตรู และชอบโจมตีมั่ว
ถ้าบาร์ทัสพาพวกเข้าโจมตีในตอนนี้ มันอาจจะถูกลูกหลงจนตายเท่านั้น
"ผมต้องการให้คุณทำสิ่งอื่น"
มูยองพูดอย่างเฉยชา
จากนั้นทาร์แคนก็เอียงศีรษะของเขา
"หน้าที่ของข้าไม่ใช่จัดการกับมังกรหรอกเหรอ?"
"ไม่ใช่ตอนนี้"
"ถ้างั้น?"
"ผมต้องการสลายกำลังของศัตรู คุณพร้อมกับอันเดธกลายพันธุ์โจมตีทัพศัตรูจากด้านหลัง"
ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าย่อมไม่ทราบกลยุทธ์หรือยุทธวิธีใดๆ มันคงจะรีบเร่งสั่งให้ทุกตัวโจมตีไปด้านหน้าพร้อมๆกัน
อย่างไรก็ตามนั่นอาจเป็นอันตรายได้ จำนวนศัตรูสูงกว่าที่เขาคิด และมอนสเตอร์ประเภทบินเป็นศัตรูธรรมชาติของคนแคระ
เขาต้องการให้พวกมันกระจายกำลังไปบ้างเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ
ทาร์แคนยอมรับด้วยความไม่เต็มใจ
"ชิ...ไม่สมกับฐานะราชาอย่างข้าเลย แต่ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะทำมันก็ได้ ว่าแต่มูยอง เจ้าวางแผนที่จะอยู่ที่นี่เหรอ? "
"ผมจะสั่งการจากที่นี่"
เหตุผลที่คนแคระเปลี่ยนไปเป็นเพียงเพราะมูยอง
ถ้ามูยองไม่อยู่ในตำแหน่งนี้ จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาจะลดลงอย่างมาก
มันเป็นครั้งแรกของมูยองในการเป็นผู้นำและสู้พร้อมกำลังพลจำนวนมากเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอย่างชุ่ยๆได้เพียงเพราะเขาไม่เคยทำมันมาก่อน
วูมมมม!
มูยองชักดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว และดาบมารเทพออกมา
ในเวลาเดียวกันจุดสีดำเล็กๆ ก็เริ่มกระจายเต็มฟากฟ้า
ผู้นำฝูงบินเหล่านั้นคือดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า
'ฉันจะเอาชนะแก'
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยต่อสู้กับมังกรในอดีต
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับดราก้อนลอร์ด มังกรปีศาจคืออุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เกราะอันโดดเด่น และการดำรงอยู่ของมันก็มีพลังมากจนสามารถล่าสิ่งเหนือธรรมชาติทุกสายพันธุ์ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อตอนที่พลังของมังกรปีศาจยังไม่สมบูรณ์
ในตอนท้ายที่ดราก้อนลอร์ดถูกลอบสังหารโดยมูยอง หลังจากนั้นมังกรปีศาจก็ตายตามไปด้วย
หากพวกมันอยู่ด้วยกันย่อมไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับพวกมันทีละตัวนั่นก็ไม่ได้ยากเท่าที่เขาคาดไว้
การต่อสู้ครั้งนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเวลานั้นพอสมควร
อย่างน้อยก็มีตัวเลือกมากมายที่มูยองสามารถใช้ได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาจะลดลงจากอดีตเป็นอย่างมาก มันก็ยังง่ายกว่า
มูยองหันมาสนใจบาร์ซ่า
ฮูมมมมมมมมมมม!
ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าพ่นลมหายใจหยาบๆออกมา