Chapter 88 - ข้ายังต้องการทำสิ่งดีๆกับเจ้า
Chapter 88 - ข้ายังต้องการทำสิ่งดีๆกับเจ้า
“ไง นั่นไม่ใช่เศษขยะที่ถูกล้มโดยขอทานงั้นหรอ? มันเป็นอะไรบางอย่างกับคำว่า หมา หรือ แมว?”
ซูซางเฟยพูดออกมาแต่ไกลด้วยใบหน้าที่เยาะเย้ย.ตาของเฉินซ่งจ้องไปที่หลี่ซูเอ๋อร์ ยิ่งดูก็ยิ่งสวยมาขึ้น ความสวยของเธอมากขึ้น ความคิดที่ชั่วร้ายของเขาก็มาถึงจุดสุดยอด เขาเริ่มที่จะน้ำลายไหลโดยไม่ตั้งใจ.
ชุนชุนที่นำหน้าตาโกรธได้พูดขึ้น: “พี่ใหญ่ ชุนชุนไม่ชอบพวกเขา หึ!”
หลี่ซูเอ๋อร์ก็มีท่าทีไม่พอใจบนใบหน้าของเธอ “นี่คือสาวกนิกายเมฆคราม?”
ลั่วเทียนยิ้มอ่อนและพูดเสียงดัง: “ไง นั่นไม่ใช่หัวหมูฟางที่หายตัวไป 4-5 ปี? อาวุโสซูต้องมองอย่าใกล้ชิดมากและชั่งใจว่าใช่ลูกชายของท่านหรือไม่ เจ้าสารเลวคนนี้อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าอาจจะเป็นพวกลูกเมียน้อยหรือว่าอะไร หลังจากที่ปรากฏตัวออกมาก็เริ่มที่จะมองหาพ่อแบบสุ่มๆ เจ้าต้องระวังให้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้.”
ซูซางเฟยโกรธและสถบออกมา: “ไอ้เศษขยะ เจ้ากล้าว่าใครเป็นพวกสารเลว?”
ลั่วเทียนหัวเราะและพูด: “ข้ากำพูดกับเจ้า เกี่ยวกับมัน? เจ้าไม่ใช่ลูกเมียน้อยใช่ไหม?”
“บัดซบ!”
“ไร้สาระ เจ้าเป็นคนที่ถูกเรียกว่าพวกลูกครึ่งในตำนาน? สุนัขมักจะผสมพันธุ์กันเอง หรือไม่ก็ ข้ามสายพันธุ์ไปยังพวกที่ต่ำกว่าใช่ไหม? เมื่อเห็นเจ้ามีความสุขจากการนั่งอยู่บนสิ่งนั้น เจ้าไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกิดมาจากสัตว์อย่าแท้จริง? 5555+…”
ในเวลาเดียวกันสัตว์ขนาดใหญ่ที่ด้านล่างซูซางเฟยก็หันไปมองเจ้าของ ดวงตาของมันมองมาด้วยท่าทางที่ไม่อาจอธิบายได้.
มองดูสายตาของสัตว์ขนาดใหญ่ที่เข้ากับคำพูดของลั่วเทียนได้ง่ายมาก...
“555…”
“55…”
บางคนที่อดไม่ได้ก็หัวเราะออกมาดังๆ ขณะที่บางคนกำลังยับยั้งตัวเองจนเกือยกัดลิ้นของพวกเขาอย่างวุ่นวาย ถ้าไม่ใช่เพราะความกลัวในความแข็งแกร่งของซูซางเฟยพวกเขาคงจะกลิ้งตัวเองไม่หยุดและส่งเสียงหัวเราะ.
ใบหน้าของสมาชิกตระกูลซูซีดลงและผู้นำตระกูลก็จ้องมองไปยังลั่วเทียนด้วยสายตาราวกับจะพ่นเปลวเพิลงออกมาจากปาก.
การดูถูกของลั่วเทียนเป็นเรื่องโหดร้ายอย่างยิ่ง.
เจ้าต้องการท้าทายกับบิดาด้วยการดูถูก? เจ้ายังอ่อนหัดนัก!
เราควรจะรู้ว่าความสามารถในการดูถูกของลั่วเทียนอาจจะมีค่ามากกว่าการบ่อเพาะในปัจจุบันของเขานับพันเท่า มีครั้งนึกที่เขาไปด่ากิลใหญ่ๆที่มีคนมากกว่าพันคนและผู้คนเหล่านั้นก็ถูกำด่าแบบสาดเสียเทเสียจนเกือบเป็นความกลัวและเกือบที่จะทำให้กิลด์ล่มกันเลยทีเดียว!
ใหหน้าของซูซางเฟยกลายเป็นน่าเกลียดและเปลวเพลิงแห่งความโกรธในหัวใจกำลังประทุออกจากร่างกายของเขา เขาจ้องมองไปที่ลั่วเทียนอย่างเย็นชาและมีความตั้งใจที่จะฆ่า.
หลังจากนั้นสักพัก...
ซูซางเฟยยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็มองไปที่หลี่ซูเอ๋อร์และพยายามแสดงใบหน้าสูงศักดิ์: “แม่หญิง ท่านสวยงามมากพอที่จะทำให้อาณาจักรล่มได้เลย ทำไมถึงอยู่กับเศษขยะได้? ตราบเท่าที่ท่านเห็นด้วยข้าจะพาท่านกลับไปที่นิกายเมฆครามในวันพรุ่งนี้และรับประกันชีวิตที่ไร้ความกังวล.”
เฉินซ่งก็พูดตาม: “ไม่ต้องห่วงแม่หญิง ถ้าชายคนนั้นกล้าที่จะหยุดท่าน ข้าจะทุบตีให้มันเป็นซาก.”
“มารดาเถอะ!”
“เจ้ากล้าที่จะแย่งเนื้อไปจากปากข้า?! ไอ้พวกนรก!” ลั่วเทียนกรีดร้องในใจของเขาและกลัวอย่างแท้จริง.
ในเวลานั้น...
รอยยิ้มของหลี่ซูเอ๋อร์ที่เหมือนกับดอกไม้แรกแย้มและพูดเสียงดังขึ้น: “มีคนบอกว่าจะข้าไปนิกายเมฆคราม ที่ปกครองกว่า 100,000 กิโลเมตร พวกเขารับประกันว่าจะทำให้ชีวิตของข้าไร้ความกังวล พี่ใหญ่ให้ข้าได้หรือไม่?”
หลี่ซูเอ๋อร์มองไปที่ลั่วเทียนด้วยใบหน้าที่จริงใจขณะที่หัวใจของเธอหัวเราะอย่างกับคนบ้า.
ขณะที่ลั่วเทียนจะพูเอะไรบางอย่าง ซูซางเฟยก็ขัดจังหวะเขาขึ้น. “ในอีกหนึ่งชั่วโมงเขาก็จะกลายเป็นศพที่เย็นชืด ดังนั้นคนตายมันจะไปให้อะไรได้?”
เฉินซ่งพูดเพิ่ม: “น้องสาวเจ้าไม่คิดว่าไอ้ขยะนี่จะให้ท่านได้.”
เขาจะให้อะไรได้?
ลั่วเทียนไม่อาจคิดอะไรออกและท่าทีของของก็ดูน่ากลัวขึ้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับ่าเขาคิดอะไรได้และพูด: “สาวน้อย ข้าจะให้ความสุขสมแก่เจ้า.”
“ความสุข?”
“555…”
“ลั่วเทียน เจ้ากล้าที่จะพูดคำว่าความสุขจริงๆ? เจ้าจะให้ความสุขกับนางได้อย่างไร? คนใกล้ตายอย่างเจ้า กล้าที่จะบอกให้ความสุข? เจ้าไม่กล้วหรอกหรือว่าผู้คนจะหัวเราะออกมา?” ซูซางเฟยเริ่มหัวเราะ.
หลี่ซูเอ๋อร์สัมผัสได้กับเรื่องนี้จริงๆ เมื่อเธอได้ยินคำว่าความสุขจากปากของลั่วเทียน หัวใจของเธอเกือบละลาย.
ลั่วเทียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกน: “หูของพวกเจ้าทั้งสองมีอึอยู่? ข้าพูดว่าข้าจะให้เธอมีความสุข ความสุขสุดยอด เจ้าไม่ได้ยิน?”
ทุกคนยินอย่างชัดเจนในตอนนี้.
ทุกคนตะลึงและป้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดลั่วเทียน.
ใรที่สุดหลี่ซูเอ๋อร์ก็ตอบสนองได้ทันเธอทุบไปที่หน้าอกของลั่วเทียน “ท่านมันจอมวายร้าย ไอ้ไข่สารเลว มีใครต้องการความสุขสมจากท่าน?”
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่แก้มของเธอก็ได้แดงผ่าวออกมาและการแสดงออกอย่างกับเด็กสาวขี้อาย.
ที่ด้านข้าง ชุนชุนเกาศรีษะและถามฟางเล่ย: “พี่อ้วน ความสุขสมคืออะไร?”
ฟางเล่ยเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาและไม่เข้าใจความสุขสมคืออะไร เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด: “ความสุขสมคือเมื่อเจ้าทำบางอย่างที่น่ากลัว.”
“แต่มันน่ากลัวอย่างไร?” ชุนชุนถาม จากนั้นเธอก็หันไปหาลั่วเทียนและหัวเราะคิกคัก “พี่ใหญ่ ท่านทำให้ข้าสุขสมได้หรือไม่? ข้ายังต้องการทำสิ่งที่น่ากลัวกับท่าน.”
หลี่ซูเอ๋อร์จ้องไปที่ลั่วเทียนก่อนที่จะนั่งลงและพูดกับชุนชุน: “ชุนชุนอย่าไปอยู่รอบอขงพี่ไข่เลว เขารู้เพียงแค่ทำตัวเหมือนกับโจร.”
ดวงตาของหลี่ซูเอ๋อร์กระพริบไปมาสองครั้งก่อนที่จะพึมพำ: “เจี่ยซูเอ๋อร์ เมื่อพี่ใหญ่ลั่วเทียนกล่าวว่าจำทำให้ท่านมีความสุขสม เท่าดูมีความสุขมาก มากจนมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ตอนนี้ท่านกำลังจะบอกว่าเขาเป็นไข่สารเลวและเป็นโจรที่ขลาดเขลา? ตอนนี้พวกท่านทั้งสองทำให้ข้าสับสน
.”
เป็นโลลิที่บริสุทธิ์อะไรขนาดนี้.ภาพที่ซูซางเฟยพ่ายแพ้ในการตำหนิและตอนนี้เมื่อเขากำลังจะขโมยหญิงสาวเขาก็ยังพ่ายแพ้ สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธมาก.
แต่...
ซูซางเฟยไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อมันว่าตราบเท่าที่มันเป็นหญิงสาวจากเมืองภูเขาหยก ไม่มีใครที่จะสามารถต่อต้านเขา เมื่อเขาบอกว่าพวกเขามาจากนิกายเมฆคราม.
ใครจะไม่อยากเข้านิกายเมฆครามซึ่งปกครองกว่า 100,000กิโลเมตร?
ใครจะสามารถต้านทานสิ่งล่อใจอย่างนิกายเมฆคราม?
ไม่มีใครต้านทานได้!
ทันใดนั้น...
ซูซางเฟยพูดอีกครั้ง: “แม่หญิง มันจะจบโดยการไม่ได้อะไรเมื่อตามเขา เกี่ยวกับ…”
หลี่ซูเอ๋อร์ลุกขึ้นยืน บัดนั้นการแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไป ตอนนี้บรรยากาศหนาวเหน็บอย่างมากในสายตาของเธอ จากนั้นเธอก็สถบออกมาอย่างรุนแรง
: “นิกาบเมฆครามมีอะไรที่ยอดเยี่ยมงั้นรึ? ในสายตาของข้าพวกเขาไม่อาจเทียบได้กับมด เจ้าพูดพ่นเศษขยะออกมาอย่างนั้นอย่างนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้ามีคุณสมบัติอะไรบ้างในการที่จะเรียกพี่ใหญ่ของข้าอย่างนั้น? ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเพียงขฯะที่มัวแต่ข่มขู่คนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น?!”
“หืม!”เขาไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นแม้กระทั่งขยะ เขาเป็นเพียงเจ้าหมาน้อยเท่านั้น.” ชุนชุนเท้ามือบนสะโพกของเธอ เสียงน้อยๆที่เห็นด้วยกับซูเอ๋อร์เต็มไปด้วยพลัง ในขณะที่คำพูดว่าหมาน้อยเป็นคำด่าที่ร้ายแรงที่สุดในโลกตามที่เธอเข้าใจ.
“555…” ลั่วเทียนเริ่มหัวเราะเสียงดังเพราะท่าทางของเขาดูหยิ่งเกินกว่าจะพูด.
ไม่อาจเทียบได้กับมด!
พลังที่อยู่เบื้องหลังของเธอมีมากจนนิกายเมฆครามไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอ เธอคิดว่านิกายไม่อาจเทียบได้กับมด!
ขณะที่เธอพูดอย่างนั้นกลิ่นอายของเธอก็ถูกปล่อยออกมา.
คนรอบข้างรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่สูงส่งและผิดปกติทำให้หัวใจรอบๆข้างเธอสั่นสะเทือน.
แม้แต่ลั่วเทียนก็สั่นสะท้าน.
กลิ่นอายที่ไม่ปกติ!
มันเป็นความพ่ายแพ้อีกครั้ง.
สีหน้าของซูซางเฟยกลายเป็นตับหมูอย่างน่าเกลียดอย่างมาก จากนั้นเขาก็ดึงดาบออกจากเอวและชี้ไปที่ลั่วเทียนและคำรามออกมาด้วยความโกรธ: “เจ้าสุนัขสารเลว ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด!”
ฟางเล่ยรีบวิ่งออกไป ร่างใหญ่และหัวล้านของเขาทำให้ดูเหมือนพระพุทธรูปที่กำลังโกรธ ใบดาบของเขากวาดออกมาดัง"ชวิ้ง"และมีแสงวาบจากนั้นเขาก็ตะโกน: “ไอ้ชั่ว เข้ามาถ้าเจ้ากล้า!”
มันเป็นความสูงศักดิ์และเย่อหยิ่งอย่างสมบูรณ์!
-------------