บทที่ 27 ความรู้สึก (อ่านฟรี)
ในพริบตาเดียว ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และถึงช่วงเวลาสู่การสอบเข้ามัธยมปลายของมณฑลหลงเจียง
การสอบในยุคสมัยนี้ไม่ได้สอบกันอย่างบ้าคลั่งเหมือนการสอบในอนาคต ที่พ่อแม่จะรอคอยอยู่นอกห้องเรียน เพื่อส่งผ้าเช็ดตัวและน้ำดื่มให้เด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นสถานที่ที่อยู่แถวบ้านนอก ซึ่งไม่ได้มีคนสนใจต่อการสอบเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ผู้นำชุมชนและโรงเรียนรู้ถึงความสำคัญของการสอบครั้งนี้ หากมีนักเรียนคนสามารถสอบเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายหรือโรงเรียนอาชีวศึกษาได้มากขึ้น ผู้นำชุมชนและครูจะเป็นหน้าเป็นตายิ่งขึ้น
ประการแรก คือ อาหารในโรงอาหารของโรงเรียนมีหลากหลายมากขึ้นแถมราคายังถูกลง เพราะมอหนึ่งและมอสองเป็นวันหยุดเรียน ดังนั้นที่โรงเรียนจึงมีคนน้อย การลิ้มรสชาติของอาหารจึงอร่อยยิ่งขึ้น
การสอบครั้งนี้ทำให้เฝิงหยู่รู้สึกประทับใจมากที่สุด
สำหรับการสอบ ไม่มีการเปรียบเทียบกับอนาคต ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เฝิงหยู่ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาผ่านการทดสอบสอบจนได้ใบอนุญาตในการเป็นนายหน้าการลงทุน ทุกๆการทดสอบมีการแข่งขันที่ดุเดือด ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงไม่สะทกสะท้านกับบรรยากาศของการสอบในช่วงเวลานี้
การสอบดำเนินต่อไปเป็นเวลาสามวัน เฝิงหยู่รู้สึกว่าเขาทำข้อสอบได้ดีพอควร อาจารย์ที่โรงเรียนบอกให้พวกเขาระบุรายชื่อโรงเรียนทั้งสามแห่งที่พวกเขาต้องการจะเข้าเรียนต่อ เฝิงหยู่ระบุรายชื่อโรงเรียนมัธยมปลายที่ตั้งอยู่ในเมืองทั้งสามแห่ง อันดับหนึ่งที่เขาเลือก คือ โรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมือง
เพราะได้รับอิทธิพลจากเฝิงหยู่ นักเรียนคนอื่นๆในชั้นเรียนชั้นเรียนเดียวกันต่างก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในช่วงภาคเรียนนี้ จากชีวิตก่อนหน้านี้ เฝิงหยู่จึงรู้ว่ามีเพื่อนร่วมชั้นหลายคนที่เคยสมัครเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษา แต่พอมายุคนี้พวกเขากลับระบุโรงเรียนมัธยมปลาย และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปในโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองได้ แต่ก็ยังสามารถเข้าโรงเรียนมัธยมในเขตชนบท
"เฝิงหยู่ การสอบของนายเป็นยังไงบ้าง?" หลี่น่ามาเข้ามาถาม เธอติดกิ๊ฟผมสีแดงที่เฝิงหยู่ซื้อให้เธอ
"ฉันคิดว่ามันออกมาโอเค ไม่น่าจะมีปัญหาต่อการเข้าโรงเรียนมัธยมในเมือง แล้วเธอล่ะ? " เฝิงหยู่กล่าวขณะที่คว้าแอปเปิ้ลจากมือของหลี่น่า เฝิงหยู่ไม่สนใจว่าหลี่น่ากัดแอปเปิ้ลลูกนี้ไปแล้วหรือเปล่า เขากัดกินแอปเปิ้ลทันที หลี่น่าเคยชินแล้วจึงไม่ได้พูดอะไร
"ฉันก็คิดว่าฉันทำได้ดีเชียวละ ว่าแต่นายกรอกรายชื่อโรงเรียนมัธยมอะไรบ้าง? ให้ฉันดูหน่อยสิ " หลี่น่าพูดกระซิบ เธออยากจะไปเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเฝิงหยู่ และมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย แล้วก็ ......
หลี่น่าระบุรายชื่อโรงเรียนมัธยมสามแห่งเหมือนกันกับของเฝิงหยู่ พอเฝิงหยู่ชายตาหันไปมองแบบฟอร์มของหลี่น่า เธอก็รีบดึงแบบฟอร์มหลบทันที
เหวินตงจุนพุ่งพรวดเข้ามาพอดี: "หลี่น่า เธอกับเฝิงหยู่เลือกโรงเรียนมัธยมปลายที่เดียวกัน?"
"นายรู้ได้อย่างไร?" หลี่นาตื่นตระหนก เธอถูกจับได้?
"ฉันก็แค่เดา แต่ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้ว " เฝิงตงจุนมีเผยท่าทางประหนึ่งว่าแผนการชั่วร้ายของฉันประสบความสำเร็จ ในขณะที่มองหลี่น่าที่หน้าแดงขวยเขิน
เฝิงหยู่ใช้มือดันเหวินตงจุน แล้วพูดกับหลี่น่าว่า "ไม่ต้องสนใจเขา อีกสองวัน ฉันกับตงจุนจะไปในเมือง เธออยากจะมาด้วยกันกับพวกเราหรือเปล่า ? "
"ไปเทียวเล่นในเมืองเหรอ?" ดวงตาของหลี่น่าเป็นประกาย แต่เธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอคงไม่อนุญาต "ฉันไปไม่ได้หรอก พวกนายสองคนไปกันเลย ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ " หลี่น่ากล่าว
เฝิงหยู่มีอารมณ์ความผิดหวังในดวงตา ทั้งสองคนเล่าเรียนและเป็นเพื่อนเล่นด้วยกันตลอดทั้งเทอมนี้ เฝิงหยู่รู้สึกได้ว่าท่าทีของของหลี่นาที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก แล้วเฝิงหยู่ไม่เกิดความรู้สึกอะไรกับเธอได้ยังไง?
นอกจากนี้ หลี่นาเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก และก็เป็นที่รักของโรงเรียน ถ้าเธอลุกขึ้นมาแต่งตัวอีกสักสักหน่อย เธอจะสวยงดงามจนเฉิดฉายเชียวละ
ข่าวลือเรื่องเฝิงหยู่และหลี่น่าคบหาดูใจกันได้แพร่กระจายออกไปในชั้นเรียน แต่ทั้งคู่ไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธใดใดเลย แม้แต่ครูซุนเองก็รู้เรื่องข่าวลือนี้ แต่เขาก็ไม่คัดค้าน มันเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเรียนอายุเท่านี้ที่จะเริ่มเดทกัน เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของวัยแรกรุ่น เมื่อใดก็ตามเมื่อพวกเขาเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย พวกเขาก็อาจจะต้องลาจากกัน
หลังจากที่หลี่น่ากลับไปแล้ว เฝิงหยู่และเหวินตงจุนส่งแบบฟอร์มรายชื่อมหาลัยที่เลือกของพวกเขา แล้วเดินกลับไปที่หอพักเพื่อเก็บสัมภาระของพวกเขา
"นี่ ถ้านายกับหลี่น่าไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งเดียวกันละ? แล้วนายไม่กลัวว่าลุงเฝิงจะจับได้ว่านายและหลี่น่ากำลังคบอยู่? " เหวินตังจุนถามขณะที่กำลังจัดเตรียมสัมภาระ
เฝิงหยู่: "อ่าหะ"
เหวินตงจุนตอบอย่างกระฟัดกระเฟียด: "อ่าหะ อะไรของนายมิทราบ?
"ทั้งหลี่น่า ทั้งฉันก็จะได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุด รวมถึงนายด้วย " เฝิงหยู่กล่าว
"ฉันเนี่ยนะ? ได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมือง? เลิกล้อเล่นได้แล้ว อย่างดีสุดฉันคงได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายในเขตนี้ " เหวินตงจุนรู้ถึงความสามารถของตัวเอง แม้ว่าเขาจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหนักมาก แต่เมื่อเทียบเฝิงหยู่แล้ว ความแตกต่างก็มากจนเกินไป
"ไม่ต้องกังวลไป ฉันมีวิธีการของฉัน นายจัดกระเป๋าไปพลางๆก่อน ฉันจะออกไปวิ่งเรียกเหงื่อสักหน่อย " เฝิงหยู่กล่าว
หลี่น่ากำลังรออยู่ที่สนามกีฬาของโรงเรียน ทุกๆวันเฝิงหยู่จะมาที่สนามกีฬาเพื่อวิ่งออกกำลังกาย แต่หลังๆจะชวนหลี่น่ามาด้วย
แต่วันนี้ เฝิงหยู่ได้มาเพื่อวิ่งออกกำลังกาย เขาพาหลี่น่ามานั่งอยู่บนสนาม จากนั้น เขาก็หยิบกระจกเล็กๆออกมาจากกระเป๋า ส่งมอบให้กับหลี่น่า: "ของขวัญชิ้นนี้ ฉันให้เธอ"
มันเป็นกระจกที่เรียบง่ายธรรมดามาก แต่หลี่น่ากลับชอบมันมาก เธอมองกิ๊ฟติดผมสีแดงบนศีรษะจากในกระจก
"เธออยากได้อะไรจากเมืองปิงไหม? ฉันจะบอกให้ตงจุนนำมันกลับมาให้เธอ " เฝิงหยู่ถาม
"ให้เขานำมันกลับมา? เธอไม่ได้กลับมามาด้วยหรือไง " หลี่น่าถาม
" เดือนหน้า ฉันถึงจะกลับมาอีกที ฉันมีเรื่องที่ต้องทำในเมืองปิง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องโรงเรียนมัธยมปลาย เราจะยังอยู่ด้วยกันเสมอ " เฝิงหยู่กล่าว
"สมมุติว่าฉันทำข้อสอบได้ไม่ดีละ?" หลี่น่าถาม
"ไม่มีคำว่าสมมติ ฉันจัดทุกสิ่งทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว" เฝิงหยู่กล่าว
"นายจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว? นายจัดการยังไง? " หลี่น่าถามอย่างไม่เชื่อคำพูดของเฝิงหยู่
"ส่งของขวัญ อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเป็นพี่น้องกับพ่อของพี่เขย พี่เขยของฉันเคยช่วยเขาในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลจำนวนหนึ่ง พี่เขยยังมอบบุหรี่และเหล้ามาให้เขาอยู่มากโข ฉะนั้น เธอและฉันจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดเมืองเมือง " เฝิงหยู่กล่าว
"นายมอบของขวัญให้กับครูใหญ่? นายทำอย่างนั้นได้ยังไง? " หลี่นาตอบด้วยความโกรธ การเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายควรขึ้นอยู่กับผลคะแนนสอบของแต่ละคน การได้เข้าเรียนเพราะมอบของขวัญถือว่าไม่ยุติธรรมเลย!
เฝิงหยู่จ้องมองหลี่น่า วันนี้เธอสวมกระโปรงสีส้มอ่อนที่มีดอกบัวสีขาวปักตรงขอบของกระโปรง เมื่อสายลมพัดผ่าน กระโปรงพลิ้วจนกวัดแกว่งดอกบัวไปมา
เฝิงหยู่มองหลี่น่าอย่างพิจารณา หลี่หน้าสายตามองลงด้านล่างอย่างเอียงอาย เธอรู้สึกที่ซับซ้อนในจิตใจ เป็นความรู้สึกกังวล เขินอาย และมีความสุข ผสมปนเปเข้าด้วยกัน
เมื่อหลี่น่าจะกำลังจะเอ่ยปากบอกเฝิงหยู่อย่าได้จ้องนางนัก เฝิงหยู่ได้กล่าวทันทีว่า "ฉันล้อเธอเล่นนะ พี่สาวของฉันยังไม่แต่งงานเลย แล้วฉันจะมีพี่เขยได้ซะที่ไหนละ? อีกอย่าง คะแนนสอบของพวกเราแล้ว พวกเราต้องได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองอยู่แล้ว "
หลี่น่าจ้องเขม็งไปที่เฝิงหยู่อยางถมึงทึง แล้วต่อยหมัดใส่เฝิงหยู่อย่างหยอกล้อ หลี่น่ากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ดอกบัวที่ในบ่อใกล้โรงพยาบาลน่าจะบานแล้ว ทุกๆฤดูร้อนฉันจะไปที่นั่น มันสวยมากเลยนะ นายควรไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง เมื่อวานนี้ผีเสื้อตัวใหญ่บินมาหยุดที่หน้าต่างบ้านของฉันด้วยแหละ "
หลี่น่าพูดจาไปเรื่อยเปื่อย สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้เธอมีความสุข เฝิงหยู่เอื้อมมือออกไป ด้วยอยากจะจับมือของหลี่น่า เหวินตงจุนวิ่งพรวดเข้ามาขัดจังหวะพอดี "เสี่ยวหยู่ ลุงฝิงมารับพวกเราแล้ว ตอนนี้กำลังรอพวกเราอยู่นอกหอพัก "
หลี่นารีบลุกขึ้นยืน: "เฝิงหยู่ฉันจะกลับบ้านแล้ว เจอกันคราวหน้านะ."
มือของเฝิงหยู่ที่ยื่นออกไป หยุดอยู่กลางอากาศ แล้วเหลือบมองเหวินตงจุนด้วยสายตาเขม่น ทำไมนายไม่มาช้ากว่านี้อีกสักนาที?
หลี่น่ากลับมาที่ห้องเรียนเพื่อหยิบกระเป๋าของเธอ และวิ่งออกจากโรงเรียน เธอสามารถมองเห็นเฝิงหยู่กำลังยกสัมภาระของเขาใส่เข้าไปในรถเข็นรถแทรกเตอร์ เธอโบกมือให้เฝิงหยูแล้ววิ่งกลับบ้าน