ตอนที่ 168 พระเจ้าก็ช่วยนายไม่ได้
"หานเซิ่น มาช่วยเป็นคู่สาธิตมวยขาวและดำกับอวี้ซื่อหมิงหน่อย"
ศาสตราจารย์เหยียนไม่ต้องการเสียเวลา เขาเรียกหานเซิ่นออกมาทันที
หานเซิ่นไม่มีทางเลือก เขาลุกยืนและเดินขึ้นไปบนเวที
"ศาสตราจารย์ เนื่องจากอวี้เลือกคนเอง งั้นผมก็ขอเลือกเอง" ถังเตียงลิ่วพูด
เขาไม่ต้องการจับคู่กับหานเซิ่น และก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเหมือนกับอวี้ซื่อหมิง
ศาสตราจารย์เหยียนไม่ขัดข้องกับคำขอของถังเตียงลิ่ว
"มีใครต้องการจับคู่กับผมไหม?" ถังเตียงลิ่วรู้สึกโล่ง เขารีบถามพวกนักเรียนพร้อมกับยิ้ม
นักเรียนเกือบทั้งห้องยกมือขึ้น ถังเตียงลิ่วยิ้มและพูด "ผมขอเลือกตามใจตัวเอง โดยการเลือกสาวน่ารักคนนี้ คุณผู้หญิงช่วยมาจับคู่กับผมหน่อยได้ไหม?"
พวกนักเรียนหัวเราะ เด็กผู้หญิงที่ถูกถังเตียงลิ่วถามก็หน้าแดง และเดินขึ้นเวทีไป
เมื่อถังเตียงลิ่วถามชื่อเธอเสร็จ เขาก็หันไปถามศาสตราจารย์ "ศาสตราจารย์เหยียน ให้พวกเราเริ่มก่อนเลยได้ไหม?"
ศาสตราจารย์เหยียนพยักหน้า ถังเจียงลิ่วกับเด็กผู้หญิงเริ่มสาธิตมวยขาวและดำ ถังเจียงลิ่วไม่ได้ใช้ฝีมือเต็มที่ เขาเพียงแค่สาธิตการเคลื่อนไหวที่หลากหลายตามที่ศาสตราจารย์สอน และเอาชนะเด็กผู้หญิงไปได้แบบสบายๆ การสาธิตของเขาได้รับเสียงปรบมือจากนักเรียนทั้งห้อง
"หานเซิ่นตอนนี้ก็ถึงตาพวกเราบ้างแล้ว" อวี้ซื่อหมิงแทบจะอดรอไม่ไหวที่จะได้โชว์ฝีมือต่อหน้านักเรียน เขายิ้มให้หานเซิ่น
ถังเตียงลิ่วเดินไปนั่งด้วยรอยยิ้ม เขารอที่จะเห็นอวี้ซื่อหมิงต้องขายหน้า ถังเตียงลิ่วกับอวี้ซื่อหมิงไม่ได้สนิทกันมาก และถังเตียงลิ่วก็ไม่สนใจว่าอวี้ซื่อหมิงจะเป็นยังไง เพราะเขาอยากหาเรื่องใส่ตัวเอง
หานเซิ่นเดินไปยืนตรงข้ามกับอวี้ซื่อหมิง และตั้งท่าเตรียมพร้อมเหมือนกับที่อวี้ซื่อหมิงทำ
มวยขาวและดำ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการฝึกตามเเนวคิดหยินเเละหยาง ผู้เล่นทั้ง 2 คนต้องมายื่นตรงข้ามกัน และห่างกัน 1 ช่วงแขน โดยคนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก และอีกคนเป็นฝ่ายป้องกัน
ฝ่ายรุกสามารถโจมตีโดยใช้ทั้ง 2 หมัด หมัดที่ใส่นวมสีดำคือหยาง และนวมสีขาวคือหยิน นวมที่ใช้จะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยนวมสีดำจะมีพลังที่รุนแรง ขณะที่นวมสีขาวจะเบากว่า
ฝ่ายตั้งรับ ต้องสังเกตดูให้ดีว่าคู่ต่อสู้ออกหมัดสีอะไร ถ้าเป็นหมัดสีดำ พวกเขาต้องหลบหมัด ส่วนถ้าเป็นหมัดสีขาว พวกเขาต้องยกแขนขึ้นมาป้องกัน ซึ่งถ้าเป็นหมัดสีดำแล้วไม่หลบ แต่ยกแขนมาป้องกันแทน ฝ่ายรับจะต้องเจอกับแรงกระแทกที่รุนแรง
มวยขาวและดำเป็นการฝึกที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาสมาธิและการคาดเดา นักเรียนโรงเรียนทหารทุกคนต้องเรียนมันตั้งแต่ 3 เดือนแรกแล้ว ดังนั้นนักเรียนทุกคนต่างก็เคยเล่นมันมาก่อน
เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยืนใกล้กันมาก ถ้ามัวรอให้คู่ต่อสู้ออกหมัดแล้วค่อยตัดสินใจจะไม่ทันการ ฝ่ายรับจำเป็นต้องอ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายให้ออก และวิเคราะห์ดูว่าเขาจะออกหมัดไหนนี่ถือเป็นหัวใจ ส่วนปฏิกิริยาการตอบสนองจะสำคัญรองลงมา
ถ้าการคาดการไม่แม่นยำ ถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วขนาดไหนก็ไม่ช่วยอะไร
"หานเซิ่น ฉันให้นายเป็นฝ่ายรุกก่อน" อวี้ซือหมิงแสดงน้ำใจ เพราะฝ่ายรุกก่อนจะได้เปรียบกว่าฝ่ายรับแน่นอนอยู่แล้ว
อวี้ซือหมิงมั่นใจในความสามารถตัวเองมาก เขาเชื่อว่าแค่เห็นการเคลื่อนไหวของร่างกายหานเซิ่นเพียงเล็กน้อย เขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าหานเซิ่นจะออกหมัดไหน
"พวกเราจะเริ่มเลยไหม?" หานเซิ่นมองที่อวี้ซื่อหมิงและถาม
"แน่นอน...โอ้ย.." อวี้ซื้่อหมิงพึ่งจะตอบตกลง แต่หมัดของหานเซิ่นก็ลอยมาที่หน้าอกของเขาทันที ทำให้เขาไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ อวี้ซื่อหมิงเดินโซเซถอยหลังไป
ศาสตราจารย์เหยียนเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง "หานเซิ่นทำได้ดีมาก นี่เป็นเทคนิคพื้นฐานที่สำคัญ การใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในจิตใจของคู่ต่อสู้และโจมตีอย่างรุนแรง แต่กระนั้น หานเซิ่นสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยการโจมตีไปที่จุดสำคัญของคู่ต่อสู้ เช่นจมูกหรือตา"
นักเรียนพยัก ขณะที่หวี้ซื่อหมิงโกรธจัด แต่เขาเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ เนื่องจากศาสตราจารย์กำลังอธิบายอยู่
"หานเซิ่น หมัดเมื่อกี้ไม่เลวเลย ตอนนี้พวกเรามาต่อกันได้แล้ว"
อวี้ซื่อหมิงฝืนยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจ และเดินกลับไปประจำตำแหน่ง
ถังเตียงลิ่วหัวเราะหนักมาก แต่เขาต้องพยายามเก็บอาการ 'อวี้ซื่อหมิง นายหาเรื่องเองนะ มันเป็นแค่การสาธิต แทนที่จะเชิญพวกผู้หญิงขึ้นมาร่วมสนุก ทำไมนายต้องไปยั่วสัตว์ประหลาดแบบนั้นด้วย? แม้แต่พระเจ้าก็คงช่วยนายไม่ได้แล้ว'
อวี้ซื่อหมิงไม่ได้คิดเหมือนถังเตียงลิ่ว เขาคิดว่าตอนแรกเขาแค่ไม่ระวัง ถ้าเขาเอาจริงไม่มีทางที่หานเซิ่นจะทำอะไรได้
แค่นักเรียนโรงเรียนทหารจะมาเทียบกับผู้ถูกเลือกได้ยังไง?
ในความเป็นจริง นักเรียนเกือบทั้งหมดก็คิดแบบนั้น แม้พวกเขาจะรู้ว่าหานเซิ่นฝีมือดี แต่ถ้าต้องมาต่อสู้กับผู้ถูกเลือก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในก็อตแซงชั่วรี่เขต 1 หานเซิ่นไม่น่าจะมีโอกาสชนะ
อีกฝ่ายเป็นถึงผู้ถูกเลือกอันดับที่ 6 ของก็อตแซงชั่วรี่เขต 1 ส่วนหานเซิ่นเป็นแค่แชมป์วอเฟรมระดับโรงเรียน ดังนั้นพวกนักเรียนจึงเชื่อว่าอวี้ซื่อหมิงน่าจะเก่งกว่าหานเซิ่น
"หานเซิ่นบุกเข้ามาได้เลย" หลังจากที่อวี้ซื่อหมิงพูดจบประโยค เขาก็จ้องไปที่หานเซิ่นทันที
ครั้งนี้หานเซิ่นจะออกหมัดตรงมาที่ใบหน้าของเขา เนื่องจากศาสตราจารย์พึ่งจะแนะนำให้เขาโจมตีไปที่จุดสำคัญของคู่ต่อสู้
อวี้ซื่อหมิงจ้องมองที่หานเซิ่น เขาสังเกตท่ายืนและองศาการเคลื่อนไหวของร่างกายบริเวณหัวไหล่ ไม่นานอวี้ซื่อหมิงก็สามารถคาดการณ์การโจมตีของหานเซิ่นได้
'เป็นการตบตาที่ใช้ได้ แต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการโจมตีที่ไร้น้ำหนัก มันต้องเป็นหมัดหยินอย่างแน่นอน'
อวี้ซื่อหมิงยกแขนขึ้นมาเตรียมป้องกันหมัดสีขาวของหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่มั่นใจมาก