TWO Chapter 143 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 17
TWO Chapter 143 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 17
ก่อนกลับ โอหยางโชวได้เรียบเรียงการสูญเสียโดยรวมของการรบครั้งนี้
ก่อนการรบที่หุบเขาซีอ๋องลี่ พันธมิตรซานไห่มีกองกำลัง 1,600 นาย, หากจากจบการรบ พวกเขาสูญเสียทหารโล่ดาบ 200 นาย และเหลือทหารทั้งสิ้น 1,400 นาย
ตั้งแต่ต้น เมืองซานไห่มีกองกำลัง 1,000 นาย ตอนนี้เหลือเพียง 700 นาย เท่านั้น
จาก 700 นาย ที่เหลือ เป็นทหหารม้า 100 นาย, ทหารราบเกราะหนัก 50 นาย, ทหารโล่ดาบ 100 นาย, ทหารธนู 150 นาย และทหารหน้าไม้ 300 นาย ที่สญเสียมากที่สุดคือ ทหารม้าและทหารโล่ดาบ สำหรับทหารธนู พวกเขาอยู่ด้านหลัง จึงสูญเสียเล็กน้อยเพียง 50 นาย เท่านั้น
สิ่งที่โอหยางโชวเจ็บปวดมากที่สุดคือ ม้าฉิงฟู่ 100 ตัว ที่หายไปพร้อมกับทหารม้าที่ตาย ในฐานะที่เป็นเจ้าของม้า หากพวกเขาตาย ม้าของพวกเขาก็จะไม่ได้กลับมาอีก และตายตามพวกเขาไปในสนามรบ
จากบรรดาสมาชิกในพันธมิตรซานไห่ มู่หลานเยว่เป็นคนที่โชคดีที่สุด เธอนำทหารธนูมา 100 นาย และไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายเลย ส่วนคนที่สูญเสียมากที่สุดคือ ไป๋ฮัว เธอนำทหารม้ามาด้วย 300 นาย และสูญเสียไปเกือบ 200 นาย ทหารม้าของเมืองสอดคล้องใช้ม้าศึกทั่วไป ซึ่งมันไม่สามารถเทียบกับม้าศึกฉิงฟู่ของเมืองซานไห่ได้
นอกเหนือจากนี้ ทหารโล่ดาบของกงเฉิงซีและเฟิงฉิวฮวงก็ยังสูญเสียมากกว่าครึ่ง ถ้าโอหยางโชวไม่นำทหารโล่ดาบของเมืองซานไห่ไว้ข้างหน้า พวกเขาอาจจะสูญเสียมากกว่านี้
ถึงอย่างนั้น พันธมิตรซานไห่ก็ถือว่าโชคดี ที่มีอัตราการสูญเสียไม่ถึง 1 ใน 3 สำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ พวกเขาสูญเสียมากกว่าครึ่ง โดยเฉพาะตี่เฉิน เขาสูญเสียเกือบ 80% ของทั้งหมด และอาจกล่าวได้ว่า เขาได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
จากผลดังกล่าว ทำให้ทุกคนเห็นถึงความยากลำบากและความรุนแรงของแผนที่สมรภูมิ
โชคดีที่พวกเขาได้รับรางวัลตอบแทน ในขณะที่พวกเขาเดินทางกลับไปยังเมืองจักรพรรดิเหลือง ก็มีเสียงแจ้งเตือนระบบดังขึ้นในหูของพวกเขา
“แจ้งเตือนสงคราม : สงครามโจวหลู่ได้จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว ตอนนี้จะเริ่มคำนวณผลงานโดยรวมของผู้เล่น และคะแนนคณูปการพิเศษที่ผู้เล่นจะได้รับ”
หลังจากที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น โอหยางโชวก็ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง
“แจ้งเตือนระบบ : ผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายจักรพรรดิเหลือง ได้ทำลายสมดุลในสงคราม โดยใช้กลยุทธ์การโจมตีด้วยทหารม้า, คุณประโยชน์ต่อฝ่ายจักรพรรดิเหลือง : ใช้รถชี้ทิศใต้ช่วยให้การรบคืบหน้า, ในการรบที่หุบเขาซีอ๋องลี่ เคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่สำคัญ ตัดสินจากผลการรบ ได้รับคะแนนคณูปการพิเศษ 30,000 แต้ม”
หลังจากคำนวณคะแนนสะสมอื่นๆของผู้เล่นแล้ว ลีดเดอร์บอร์ดก็แสดงคะแนนสรุป
อันดับ : ชื่อ - คะแนนคณูปการสงคราม, 1 : ฉีเยว่หวู่ยี่ - 80,000 แต้ม, 2 : ไป๋ฮัว - 25,000 แต้ม, 3 : เฟิงฉิวฮวง - 18,000 แต้ม, 4 : จานหลาง - 15,000 แต้ม, 5 : ชุนเซิ่นจุน - 12,000 แต้ม, 6 : ซุ่นหลงเตียนเซว่ - 10,000 แต้ม, 7 : ตี่เฉิน - 8,000 แต้ม, 8 : มู่หลานเยว่ - 7,500 แต้ม, 9 : กงเฉิงซี - 6,000 แต้ม, 10 : เฟิงฉิงหยาง - 5,500 แต้ม
คะแนนส่วนใหญ่ของเขามาจากการฆ่าชี่โหยว และคะแนนคณูปการพิเศษ 30,000 แต้ม ตามด้วยคะแนนการฆ่าของทหารม้า ทหารโล่ดาบและทหารธนู รวมถึงคะแนนจากเควสฝ่าย โดยเฉพาะเควสการรบครั้งสุดท้าย ทำให้โอหยางโชวมีคะแนนนำหน้าคนอื่นไปไกลถึง 80,000 คะแนน
ตามด้วยไป๋ฮัวที่ได้เข้าร่วมการโจมตีของทหารม้าทั้ง 2 รอบ โดยมีจางเลี้ยวเป็นผู้นำทหารม้าเมืองสอดคล้อง และพวกเขามีบทบาทอย่างมาก ดังนั้น ในการคำนวนผลงานของผู้เล่น เธอจึงได้รับคะแนนคณูปการพิเศษถึง 10,000 แต้ม และกลายเป็นอันดับ 2 รอง เป็นรองเพียงโอหยางโชวเท่านั้น
เมื่อเทียบกับไป๋ฮัวแล้ว รางวัลที่เฟิงฉิวฮวงได้รับนั้นน้อยกว่ามาก โชคดีที่ทหารธนู 200 นาย ของเธอทำคะแนนได้บ้าง ไม่เช่นนั้น คะแนนคณูปการสงครามของเธอคงจะน้อยกว่านี้
อันดับ 4-6 ถูกครอบครองโดยผู้เล่นฝ่ายชี่โหยว จานหลางได้รับรางวัลสำหรับความมุ่งมั่นของเขา และได้แซงหน้าชุนเซิ่นจุน กลายเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนคณูปการสงครามมากที่สุดในฝ่ายชี่โหยว สำหรับซุ่นหลงเตียนเซว่ เขาอาศัยเพียงคะแนนคณูปการจากเควสฝ่ายเพียงเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เขา คงไม่มีใครสามารถทำคะแนนจากเควสได้มากขนาดนี้
ตี่เฉินที่สูญเสียกองกำลังไปเกือบทั้งหมดไดเพียงอันดับ 7 เท่านั้น
อันดับที่ 8 และ9 เป็นของมู่หลานเยว่และกงเฉิงซี ถ้าโอหยางโชวไม่ได้ใส่ใจพวกเขามากนัก พวกเขาทั้ง 2 ก็อาจจะไม่ได้ติดอันดับในลีดเดอร์บอร์ด เหตุผลที่มู่หลานเยว่อยู่ในอันดับที่สูงกว่ากงเฉิงซี เพราะทหารธนูทั้ง 100 นาย ของเธอ ได้สังหารศัตรูมากกว่าทหารโล่ดาบของกงเฉิงซี
อันดับสุดท้ายคือ เฟิงฉิงหยางซึ่งไม่ได้เป็นที่สนใจมากนักในระหว่างสงคราม อย่างไรก็ตาม หลังจากสงครามจบ เขามีอันดับที่สูงกว่าซีอ๋องป้า, หวู่ฟู่, ซ่าโพจุ่น และเพียวหลิงฮวน
จากลีดเดอร์บอร์ด เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือ โอหยางโชว และพันธมิตรซานไห่ของเขา นั่นเพราะ ครึ่งหนึ่งและ 3 อันดับแรกของลีดเดอร์บอร์ด ต่างก็มาจากพันธมิตรซานไห่
หลังจากที่ลีดเดอร์บอร์ดสรุปผลงานหลังสงครามแล้ว ระบบก็เริ่มแจกรางวัล ความสุขที่โอหยางโชวรอคอยก็มาถึง
“แจ้งเตือนระบบ : ของแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ สำหรับการได้รับคะแนนคณูปการสงคราม 80,000 แต้ม ตามอัตราส่วน 10:1 จะได้รับคะแนนการกุศล 8,000 แต้ม”
“แจ้งเตือนระบบ : ของแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ที่ได้อันดับแรกในลีดเดอร์บอร์ด ได้รับคะแนนการกุศล 4,000 แต้ม”
โอหยางโชวได้รับคะแนนการกุศลเพิ่มขึ้นอีก 12,000 แต้ม รวมกับที่ได้รับจากเควสฝ่าย 1,400 แต้ม และเควสการรบครั้งสุดท้ายอีก 1,600 แต้ม ทำให้เขาได้รับคะแนนการกุศลรวมถึง 15,000 แต้ม จากสงครามโจวหลู่, สิ่งที่โชคร้ายคือ ในแผนที่สมรภูมิ จะไม่มีรางวัลประสบการณ์ใดๆ มอบให้กับผู้เล่นผู้เล่น หรือแม้แต่ NPC เองก็ไม่ได้
คะแนนการกุศลที่โอหยางโชวได้รับจากสงครามครั้งนี้ ก็เทียบเท่ากับที่เขาได้รับมาจากแผนที่หลักตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้
มันอาจถูกมองว่ากล่าวเกินจริง แต่ถ้าใครเข้าใจถึงความยากลำบากในการเพิ่มตำแหน่ง มันก็จะไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย
แม้ว่าจะได้รับคะแนนการกุศลจำนวนมากจากสงครามนี้ ตำแหน่งของโอหยางโชวก็เกือบจะไม่ถึงเอิร์ลขั้น1 ส่วนระยะห่างจากมาควิสขั้น 3 ยังขาดคะแนนการกุศลอยู่มากกว่า 20,000 แต้ม ซึ่งมันยังคงอีกยาวไกล
หลังจากเสร็จสิ้นการมีส่วนร่วมในสงคราม และได้รับรางวัลเป็นคะแนนการกุศลแล้ว ไป๋ฮัวและคนอื่นๆก็พากองกำลังของพวกเขาออกจากแผนที่สมรภูมิ เหลือเพียงโอหยางโชวเท่านั้น ที่ยังคงต้องไปรับรางวัลเพิ่มที่พระราชวัง
ก่อนออกเดินทาง ไป๋ฮัวได้กล่าวคำขอบคุณกับโอหยางโชวเป็นพิเศษ ที่ช่วยให้เธอได้อันดับ 2 ในลีดเดอร์บอร์ด และได้รับคะแนนการกุศลรวมกว่า 6,100 แต้ม จนได้เลื่อนเป็นเอิร์ลขั้น 3 และห่างจากเอิร์ลขั้น 2 ไม่ไกลนัก
คนอื่นๆก็ได้เลื่อนตำแหน่งเช่นกัน เฟิงฉิวฮวงเลื่อนจากเอิร์ลขั้น 3 เป็นเอิล์ลขั้น 2, มู่หลานเยว่และกงเฉิงซี เลื่อนจากวิสเคาท์ขั้น 3 เป็น วิสเคาท์ขั้น 1
ซุ่นหลงเตียนเซว่ก็คงจะเลื่อนขั้นเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกัน เขาจึงไม่ได้แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา อย่างไรก็ตาม จากรางวัลของเควสฝ่าย โอหยางโชวเชื่อว่าอย่างน้อยเขาต้องเลื่อนเป็นเอิร์ลขั้น 3
หลังจากกล่าวอำลาทุกคน โอหยางโชวก็มุ่งหน้าไปที่พระราชวังคนเดียว
ในเวลานั้น จักรพรรดิเหลืองได้ให้รางวัลแก่นายทหารและเจ้าหน้าที่ของเขา เมื่อเห็นโอหยางโชวเดินเข้ามา จักรพรรดิเหลืองก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับผู้ช่วยเหลืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา”
โอหยางโชวคำนับ แล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “ตัวข้าคงไม่มีความสามารถมากพอ ที่จะกล้ายอมรับการสรรเสริญจากฝ่าบาทได้”
จักรพรรดิเหลืองโบกมือ แล้วกล่าวว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องอ่อนน้อมมากเกินไป ข้ารู้ว่าเจ้าต้องกลับไปที่โลกของเจ้า ดังนั้น ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียเวลา”
จักรพรรดิเหลืองได้หยิบหนังสือออกมา 2 เล่ม แล้วมอบมันให้กับโอหยางโชว เขากล่าวว่า “นี่เป็นรางวัลสำหรับเจ้า รับไปเถอะ!”
โอหยางโชวไม่อาจต้านทานความตื่นเต้นของเขาได้ หลังจากที่เขารับหนังสือทั้ง 2 เล่มมา เขาก็กล่าวว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
“เจ้าไปได้แล้ว!”
โอหยางโชวยังไม่ได้ออกไป เขายังคงอยู่ที่เดิม ในห้องโถงใหญ่ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความลังเล
“ทำไมหรือ? หรือว่าเจ้ามีอะไรจะกล่าว” จักรพรรดิเหลืองถามเขา
โอหยางโชวกัดฟัน แล้วกล่าวว่า “เรียนฝ่าบาท ข้ามีคำขอ”
“อะไรหรือ?”
“ข้าอยากให้ฝ่าบาทมอบไอเท็มเฉพาะตัวของท่านให้ข้า” โอหยางโชวกล่าวอย่างกังวล
ถ้าไม่ใช่เพราะโอหยางโชวทำคณูปการไว้มหาศาล จักรพรรดิเหลืองก็คงปฏิเสธในทันที สำหรับพฤติกรรมที่หยาบคายเช่นนี้ จักรพรรดิเหลืองย่อมไม่พอใจ เพราะเขาเป็นถึงผู้นำของคนรุ่นนี้ และยังเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการควบคุมประเทศ
เขาถอนหายใจ ไอเท็มเฉพาะตัวนั้นมีจำกัด และเขามีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นไอเท็มเฉพาะตัว นั่นก็คือ สร้อยคอเขี้ยวหมาป่าของเขา เมื่อคิดถึงสิ่งที่จักรพรรดิไฟได้กล่าวไว้ว่า โอหยางโชวได้ช่วยนู่หวาไว้ เขาก็ลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะถอดสร้อยคอ แล้วมอบให้โอหยางโชว “นี่เป็นสิ่งที่ข้าเก็บไว้มานานแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเก็บรักษามันไว้เป็นอย่างดี”
โอหยางโชวตะลึง เขาไม่คิดว่าจักรพรรดิเหลืองจะมอบของขวัญที่มีค่าเช่นนี้จริงๆ เขารีบกล่าวตอบว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท สำหรับของขวัญของท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมมัน”
จักรพรรดิเหลืองโบกมือให้เขา แล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ ข้าได้มอบของขวัญให้เจ้าแล้ว เจ้าควรจะกลับไปได้แล้ว”
“พะยะค่ะ!” ครั้งนี้โอหยางโชวไม่ได้ลังเลอีก เขาออกไปในทันที
โอหยางโชวออกจากพระราชวัง เขายังคงไม่ได้ตรวจสอบหนังสือทั้ง 2 เล่ม เขารีบออกจากเมือง เพื่อไปรวมตัวกับกองกำลังของเขา และเตรียมออกจากแผนที่สมรภูมิ
การออกไปไม่ได้ยากเหมือนการเข้ามา แผนที่สมรภูมิไม่มีประตูเทเลพอร์ต เขาสามารถนำกองกำลังของเขากลับได้โดยตรง นอกจากนี้ มันยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆอีกด้วย
โอหยางโชวใช้ช่วงเวลาสุดท้ายนี้ในเขตทุรกันดาร เขากล่าวเบาๆว่า ‘กลับ’
แสงสีขาวก็เปล่งออกมา แล้วโอหยางโชวและกองกำลังของเขาก็หายไป เมื่อเปิดตา เขาก็กลับมายังประตูเทเลพอร์ตของเมืองซานไห่แล้ว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย