[KotB] บทที่ 88: หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส (1)
บทที่ 88: หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส (1)
มูยองย่นหน้าผากของเขา และยืนยันถึงทิศทางที่บาร์ซ่าได้บินไป
'มีช่วงเวลาที่พันธมิตรพลั่วสามกระสอบตกต่ำลงอย่างมากในอดีต'
'หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส' ลอร์ดของที่นั่นเป็นคนแคระที่มีบทบาทอย่างมากจนกระทั่ง 5 ปีนับจากนี้
เมื่อกิลด์สุริยันของ อเล็กซานโดร ควินทาร์ด ได้เดินทางไปทั่วดินแดนเทพปีศาจ พวกมันจะพบร่องรอยของเขา
หลังจากนั้นอุปกรณ์ต่างๆที่เปิดโลกทัศน์ก็ถูกปลดปล่อยออกมา พร้อมกับการคงอยู่ของบาร์ทัสที่ปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้แต่กิลด์สุริยันและอเล็กซานโดรก็ไม่สามารถรักษาชีวิตบาร์ทัสไว้ได้
'พวกเขากล่าวว่ามีการโจมตีของมังกร เห็นได้ชัดว่าเป็นดาร์คดราก้อน'
แม้จะสามารถเข้าถึงตัวตนของบาร์ทัสได้ แต่พวกเขากลับถูกโจมตีโดยมังกรที่ไม่รู้จัก
ในท้ายที่สุด บาร์ทัสก็จากพวกเขาไป และกิลด์สุริยันก็ทำได้เพียงถอยกลับมาอย่างเร่งรีบเท่านั้น
ดูเหมือนว่ามังกรตัวนั้นคือบาร์ซ่า
อย่างไรก็ตามบาร์ทัสได้อยู่ใต้คำสั่งของกิลด์สุริยันชั่วระยะเวลาหนึ่ง และมีเรื่องราวเพียงไม่กี่เรื่องที่มูยองเคยได้ยิน
ในบรรดาเรื่องราวเหล่านี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธมิตรพลั่วสามกระสอบ
มันเป็นการตำหนิว่าพวกเขาคงไม่ต้องหนีอย่างหัวซุกหัวซุน หากละทิ้งทิฐิที่มีและเตรียมการปกป้องอย่างเหมาะสมก่อนที่มังกรจะเริ่มโจมตีอย่างจริงจัง
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน
และในช่วงเวลานั้น ช่างตีเหล็กในกิลด์สุริยันมีฝีมือเพียงน้อยนิด แต่ความสามารถของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆที่บาร์ทัสอยู่ที่นั่น
มีการทบทวนความเห็นกันว่า หากบาร์ทัสยังคงอยู่กับกิลด์สุริยัน เขาจะสามารถพลิกเกมได้
หลังจากห้าปีนั้น เมื่ออิทธิพลและอำนาจเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่พวกเขาเริ่มบุกเบิกดินแดนเทพปีศาจ องค์กรทั้งหมดเริ่มขัดแย้งกันเองจนกระทั่งเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย อุปกรณ์ที่หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสทิ้งไว้เบื้องหลังได้เปล่งประกายยิ่งกว่าคนอื่นๆ แม้แต่ช่างตีเหล็กที่อยู่ภายใต้การสั่งสอนของบาร์ทัสในช่วงเวลาสั้นๆก็กลายเป็นคนสำคัญ
ถ้าตอนนี้เป็นเวลาก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตีโดยมังกร และเหล่าพันธมิตรยังไม่ตกต่ำ...
'มีโอกาสสำหรับเราที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องราวเหล่านั้น'
มูยองลูบคางของเขา
เขารู้ว่าดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าจะยังคงหมกมุ่นกับบาร์ทัสแม้แต่ใน 5 ปีต่อมา
ถ้าเขาสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากบาร์ทัสอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเผชิญหน้ากับดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าในสงครามเต็มกำลัง
มันคงจะเหมือนเดิม แม้ว่าเซอร์เบอรัส นักล่าวิญญาณปีศาจ และอาชานรกจะเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตามหากบาร์ทัสตัดสินใจช่วยเขา ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนไป
'บาร์ทัสหยิ่งผยองเกินไป ฉันต้องทำลายความภาคภูมิใจนั่น และหยุดบาร์ทัสในเวลาเดียวกัน'
บาร์ทัสเรียกตัวเองว่าหัตถ์เทพเจ้า แค่นั้นก็บอกได้ถึงความหยิ่งผยองของมัน
นั่นคือเหตุผลที่มันพ่ายแพ้ และเป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่สามารถกู้คืนมาได้
มูยองยืนนิ่งขณะที่ขบคิดก่อนที่จะหันศีรษะไป
"การ์มูส คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบาร์ทัสบ้าง?"
"ท่านหมายถึงหัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสเหรอ? อืม คนแคระทุกคนรู้จักเขา "
ด้วยรูปลักษณ์ที่งงงวย การ์มูสพยักหน้า
“บอกเรื่องทุกอย่างที่คุณรู้มา”
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรีบ แต่การเคลื่อนไหวก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง
เนื่องจากเขามีความเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาจำเป็นต้องวางแผน
มีคำหนึ่งกล่าวไว้ว่า 'ยิ่งรีบยิ่งช้า'
มูยองนั้นรอบคอบเสมอ
ถ้าเขาแทรกแซงมั่วซั่ว เขาอาจจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ฝ่ายตรงข้ามเป็นดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า
เนื่องจากบาร์ซ่าทำให้มูยองไม่สามารถเคลื่อนไหวแบบหุนหันได้
ไม่นานหลังจากที่บาร์ซ่าจากไป มูยองก็เจอสัญญาณบางอย่าง
มันเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับเข็มทิศและเมื่อเขาส่ายมันเล็กน้อย มันก็ตอบสนอง
ดูเหมือนว่ามันถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองต่อพลังเวทย์ของมังกร
มูยองจับเข็มทิศด้วยมือ
ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ผลเนื่องจากไม่มีมังกรอยู่ใกล้ๆ
จากลักษณะที่มันมีปฏิกิริยารุนแรงเมื่อบาร์ซ่าอยู่ใกล้ๆ
"มันสั่นเป็นพักๆเมื่ออยู่ในช่วงเวลาปกติ"
เข็มทิศชี้ไปทางทิศตะวันออก
ยังไงก็ตาม เขาไม่สามารถมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นเพียงแค่เห็นสัญญาณดังกล่าว
การขยับแบบนี้ต้องเป็นรูปแบบของรหัส
มูยองพยายามตีความการสั่นสะเทือนเบาๆในรูปแบบต่างๆ
เขาบิดร่างกายของเขาหลังจากที่ทราบว่าสัญญาณเปลี่ยนไปในขณะที่เขาเปลี่ยนอริยาบท
จากนั้นเขาก็ปีนขึ้นไปบนเซอร์เบอรัสและบอกทิศทาง
"พวกเราจะไปทางเหนือ"
"อะไรนะ? แต่บาร์ซ่ากำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออก ... "
"มันเป็นกับดัก พันธมิตรอยู่ทางเหนือ "
มูยองมีความมั่นใจมากกว่าครึ่ง
มีทิศทางมากกว่าหนึ่ง
มันเป็นประเภทของกับดักเพื่อล่อลวงบาร์ซา การสั่นสะเทือนชี้ไปทางทิศเหนือ
เนื่องจากมันไม่ได้ทำปฏิกิริยากับพลังวิเศษของมังกร มันดูเหมือนว่าบาร์ซ่าจะเคลื่อนไหวโดยเพียงแค่มองไปที่ลูกศร
"เขาช่างทำตัวหยิ่งยะโสจริงๆ"
หลังจากแก้รหัสของเข็มทิศแล้ว มูยองก็หัวเราะเบา ๆ
บาร์ทัสคิดว่าตนเป็นลอร์ดของทั้งสวรรค์และโลก และมันก็เป็นไปตามที่การ์มูสกล่าวไว้
เขาไม่ได้กลัวมังกร แต่ชอบที่จะเล่นกับมัน
ถ้ามังกรสังเกตว่าพลังเวทมนตร์ของเข็มทิศกำลังทำปฏิกิริยาแปลกๆ มันจะสามารถหาที่ตั้งของพันธมิตรได้โดยไม่ต้องสงสัย
"มองอย่างระมัดระวัง มีกลุ่มของมอนสเตอร์บนเส้นทางของเรา"
ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าคิดผิด
นั่นหมายความว่า เขาได้ประหยัดเวลาไปมาก
ถึงจะเร่งรีบ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้โดยปราศจากความระมัดระวังได้
เนื่องจากเขาหาที่ตั้งของพันธมิตรเจอแล้ว ในตอนนี้เขาต้องวางเหยื่อเอาไว้
เพื่อที่จะทำให้บาร์ทัสปรารถนาความช่วยเหลือจากเขา ดูเหมือนว่าความยากลำบากเล็กน้อยเป็นสิ่งที่จำเป็น
ด้านทิศเหนือเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยหิมะ
มันเป็นสถานที่ที่ลมพัดรุนแรงและพายุหิมะโหมกระหน่ำ
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่มีมอนสเตอร์มากมายที่นั่นสามารถทนทานต่ออากาศหนาวเย็นได้
มูยองลงจอดที่กลางถนนน้ำแข็งและมองไปรอบๆเพื่อหาร่องรอย
"มันเป็นดินแดนของโทรลน้ำแข็งและมนุษย์หิมะ"
รอยเท้าที่เหลืออยู่และรอยฟันบนซากศพช่วยให้มูยองสามารถระบุชนิดของสิ่งมีชีวิตในบริเวณโดยรอบได้ทันที
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถเข้าใจได้ว่าทั้งสองสิ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
‘อาหารที่นี่ขาดแคลน โดยเฉพาะปลาที่พวกมันได้รับจากสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารหลัก'
เจาะรูน้ำแข็งและจับปลา นี่เป็นวิธีของพวกมันในการหาอาหาร
อย่างไรก็ตามทะเลสาบไม่ได้กว้างใหญ่ แน่นอนว่าพวกมันสามารถวิ่งไปยังอีกฝั่งได้
"การ์มูส ผมต้องการให้คุณเป็นเหยื่อล่อ"
"เหยื่อล่อ?"
การ์มูสเอียงศีรษะไปด้านข้างหลังจากได้ยินเรื่องไร้สาระของมูยอง
ราวกับคาดไว้แล้วว่าการ์มูสต้องง เขาจึงอธิบายให้การ์มูสฟังอย่างช้าๆ
"ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณในการล่อโทรลน้ำแข็งและมนุษย์หิมะ"
"ท่านกำลังพูดว่าความช่วยเหลือจากข้า?"
"ใช่"
เพียงเพื่อให้มั่นใจ การ์มูสต้องการยืนยันกับมูยอง
การ์มูสหลับตาลงและลูบเคราของเขา
"ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือจากข้า แน่นอนว่าข้าช่วยท่านได้ แต่ข้าสามารถถามเหตุผลได้หรือไม่?"
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้แค้นของลูกชาย การ์มูสก็ตัดสินใจที่จะเป็นทาสของมูยองด้วยตัวเอง
เขาสามารถตายได้หากมูยองขอ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถห้ามความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้
ถ้าพันธมิตรพลั่วสามกระสอบอยู่แถวนี้ แทนที่จะให้เขาเป็นเหยือล่อทำไมถึงไม่พยายามค้นหาตรงๆไปลย?
มูยองจ้องมองไปทางด้านทิศเหนืออย่างเงียบๆ
"ผมจะโจมตีบาร์ทัส"
"นี่ข้าได้ยินอะไรผิดหรือเปล่า?"
ดวงตาของการ์มูสเบิกกว้างขึ้นอย่างมาก
โจมตีหัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส!
ไม่ใช่มูยองต้องการขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรพลั่วสามกระสอบหรือ?
ไม่มีความย้อนแย้งใดมากกว่านี้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของมูยองไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว
"บาร์ทัสเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งทะนงตน เขาประมาทต่อความดุร้ายของมังกรและมัวแต่หยอกล้อกับมัน ถ้าดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าหาพันธมิตรเจอ ทุกอย่างย่อมสายเกินไป ก่อนที่เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นพวกเราจำเป็นต้องปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริง "
มันเป็นความจริง
การตื่นตัว!
หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสจำเป็นต้องตระหนักว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบ
มีเพียงแต่ทำให้เขาต้องการความช่วยเหลือจากมูยองเท่านั้น
ถ้าตอนนี้มูยองไปหามัน มันก็คงจะไม่ทำในสิ่งที่มูยองต้องการ
เนื่องจากเขาได้ปลดปล่อยการ์มูส เขาอาจได้รับความประทับใจจากบาร์ทัสอยู่พอสมควร
มากที่สุด บาร์ทัสจะทำอุปกรณ์เท่าที่เขานำวัตถุดิบมาให้
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลเหล่านี้ มันไม่เพียงพอ
มูยองต้องการความช่วยเหลือของบาร์ทัส เพื่อเตรียมตัวสำหรับ 'ราตรีที่ยาวนานของปีศาจ'
สำหรับสิ่งนั้น มันจะที่ดีที่สุดถ้ามูยองสามารถช่วยมันได้ก่อน
อย่างไรก็ตามจากการแสดงออกของการ์มูสดูเหมือนว่าเขายังไม่เข้าใจ
"เราไม่สามารถเข้าหาบาร์ทัสและบอกความจริงกับเขาได้หรือ?"
"นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น ถ้าเขาปฏิเสธนั่นจะเป็นจุดจบ เราจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ "
“อาาา…”
การ์มูสเข้าใจแล้ว
การ์มูสตระหนักได้ถึงความหยิ่งผยองของหัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสแล้ว
เขามีชื่อเสียงในเรื่องของการไม่เปลี่ยนใจเมื่อตัดสินใจอะไรไป
แม้ว่ามูยองจะบอกเล่าเรื่องราวของเขา แล้วมันจะยอมเชื่อและทำตามงั้นหรือ?
เนื่องจากการ์มูสได้เป็นทาสมาเป็นเวลานาน เขาจึงไม่เหมาะที่จะไปเจรจา
ถ้ามีอะไรจะโชคดี สิ่งนั้นคงเป็นการที่บาร์ทัสไม่คิดสงสัยเกี่ยวกับเขา
"ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะกลายเป็นเหยื่อล่อ ยังไงก็ตาม เราอาจจำเป็นต้องหาสถานที่ตั้งของพวกเขาก่อน "
"ผมมีสถานที่ในใจแล้ว"
"มีแล้ว?"
"ถ้าคุณเดาจากบุคลิกของบาร์ทัส มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย"
มูยองพูดอย่างใจเย็น
แต่ดวงตาของการ์มูสยังคงมีคำถามอยู่
'เขาเป็นคนลึกลับมาก'
เขาเป็นเหมือนกับพืชเช่นหัวหอม
ไม่ว่ากี่ครั้งที่ถูกปอกเปลือกออกก็จะมีส่วนใหม่ปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อมูยองมั่นใจต่อสิ่งใด สิ่งนั้นยังไม่เคยผิดพลาด
การเคลื่อนไหวทุกๆครั้งของเขาล้วนมีเหตุผล
แน่นอนว่ามีบางครั้งที่เขาตกอยู่ในขั้นวิกฤต แต่เขามักจะสร้างผลลัพธ์ได้ดีเกินคาดอยู่เสมอ
ใครในโลกที่จะคิดจะโจมตี เมื่อพวกเขากำลังจะขอความช่วยเหลือ?
การ์มูสส่ายหัวของเขาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะเริ่มพูด
"แล้วทำไมพวกเราจึงตัดสินใจให้ข้าเป็นเหยื่อล่ะ?"
"ผมมีแผนบางอย่างในใจแล้ว"
"... แน่นอนหากท่านสั่งมา ข้าก็แค่ทำตาม"
อย่างไรก็ตามการ์มูสไม่ได้สงสัยเขาเลยแม้แต่น้อย และพยักหน้าอย่างง่ายดายเท่านั้น
เขาเป็นทาสและติดตามมูยองมา
และมูยองเป็นเจ้าของที่ชาญฉลาด
*
หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัส
ลอร์ดแห่งพันธมิตรพลั่วสามกระสอบ และผู้ปกครองของคนแคระมากกว่า 30,000 คน
คนแคระทุกๆคนไว้ใจและติดตามมัน
เนื่องจากนั่นคือวิธีเดียวที่พวกเขาสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของตัวเอง
ปราสาทของบาร์ทัสไม่เคยอนุญาตให้ใครบุกรุก
แม้ว่าจะมันถูกค้นพบ มันก็จะหายตัวไปอย่างเงียบๆ
บาร์ทัสมีความสามารถพิเศษเมื่อรู้ว่ามังกรจะเข้ามาใกล้และหลีกเลี่ยงมันก่อนอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าบาร์ทัสจะปกครองแบบเผด็จการ แต่เหตุผลที่ทุกคนยังยอมทำตามมันก็เพราะเหตุผลที่ให้ไว้ด้านบน
ถ้าใครไม่พอใจก็จะถูกขับไล่ออกจากปราสาท
คนแคระที่ถูกไล่ออกจากปราสาทจะได้รับอันตรายและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นพวกเขาทำได้แค่ปฏิบัติตามบาร์ทัสเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวสามารถแสดงออกได้เมื่อ 'ปราสาทบาร์ทัสไม่เคยถูกบุกรุก'
"มีคนสัมผัสกับบาเรียเวทมนตร์ของกำแพงปราสาท"
"กำแพงถูกเปิดเผยแล้ว! ฐานทัพของเราถูกค้นพบแล้ว! "
"... โทรลน้ำแข็งและมนุษย์หิมะ 2,000 ตัวกำลังโจมตีประตู"
คนแคระที่ออกไปสอดแนมส่งเสียงเอะอะเมื่อพวกมันเดินเข้ามาหาบาร์ทัส
บาร์ทัสนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกภายในปราสาท
มงกุฎหนาที่วางไว้บนศีรษะและเครื่องประดับทุกประเภทถูกห้อยลงจากร่างกายของมัน
"อะไรนะ? กำแพงถูกเค้นพบ? เป็นไปไม่ได้!”
เวทย์ล่องหนระดับสูงได้ถูกร่ายใส่กำแพง
กำแพงไม่เคยถูกเปิดเผยมาจนกระทั่งตอนนี้นับตั้งแต่ที่มันถูกร่ายเวทย์มนต์เอาไว้ ซึงบาร์ทัสได้คิดค้นและบรรจุสัญญาณการป้องกันโดยใช้ 'จุดอ่อน' ของสิ่งมีชีวิตทุกตัว
นั่นคือเหตุผลที่มังกรไม่สามารถหาตำแหน่งที่เจาะจงและทำลายมันได้
"มันเป็นความจริง โปรดออกมาและตรวจสอบดู "
บาร์ทัสยกขาสั้นๆของมันเดินออกไปนอกปราสาท
และหลังจากที่เห็นว่าการล่องหนบนกำแพงปราสาทถูกทำลาย มันก็ต้องตกตะลึง
ตึง! ตึง! ตึง!
ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากมอนสเตอร์จำนวนมากกำลังเคาะอยู่ที่กำแพงปราสาท และความสับสนก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
"ไอ้นรกตัวไหนเป็นคนทำมัน... ?"