[KotB] บทที่ 87: พันธมิตรพลั่วสามกระสอบ (จบ)
บทที่ 87: พันธมิตรพลั่วสามกระสอบ (จบ)
นี่เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขาหลังจากสร้างอาณาเขต
คงจะเป็นเรื่องโกหกหากบอกว่าพวกเขาไม่ได้รับความเสียหาย
โดเกบิประมาณ 4,000 ตนเสียชีวิต และประมาณสองเท่าของจำนวนนั้นบาดเจ็บสาหัส
พวกเขาได้รับพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่กลับไม่มีจำนวนประชากรเพียงพอที่จะครอบครอง
พวกเขาไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
เขาจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากองกำลังป้องกันจะเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าจะมีการสกัดกั้นผู้บุกรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีขีดจำกัดเกี่ยวกับจำนวนปัจจุบัน
ระหว่างมูยองกำลังคิดวางแผนว่าจะดำเนินการอย่างไร โอการ์ก็เดิมาหาเขาพอดี
"ฮ่า ๆ ! จนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังสบายดี? "
"ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ"
"นี่ไม่ได้มากมายอะไรเลย ยังไงเจ้าก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของเราอย่างแท้จริง "
ด้วยการหรี่ตากึ่งหนึ่ง เขาพิจารณามูยองก่อนจะเอียงศีรษะ
"เจ้ายังตัดสินใจไม่ได้เหรอ"
“คุณกำลังพูดถึงอะไร ?
"รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้า"
อา !
มูยองพยักศีรษะ
เมื่อครั้งสุดท้ายที่เขาแยกทางกับโอการ์ โอการ์กล่าวไว้ว่า "ถ้าเราเจอกันอีกครั้งให้แน่ใจว่าเจ้าต้องการเป็นอะไร"
น่าจะเป็นเพราะมันรู้ว่ามูยองเป็นมนุษย์
มันคงอยากถามตั้งแต่เห็นมูยองมีลักษณะเป็นโดเกบิแล้ว
มันหมายถึงว่ามูยองจะเลือกเป็นอะไรระหว่างมนุษย์กับโดเกบิกันแน่ แต่มูยองไม่สนใจ
ดวงดาวแห่งความสมบรูณ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าแสดงให้เห็นถึงการโกหกที่บริสุทธิ์ของมูยอง
"ตัวตนจริงๆของผมสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?"
มูยองไม่ตอบคำถาม
เมื่อมองไปที่ท่าทีของมูยอง ดวงตาของโอการ์ก็ส่องประกายแปลกๆ
โอการ์คิดว่ามูยองจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มูยองกลับหลีกเลี่ยงคำตอบแทน
ยังไงก็ตามโอการ์ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร
"เจ้าพูดถูกตัวตนนั้นไม่ได้สำคัญอะไร ฮ่า ๆ ! ว่าแต่เจ้ารู้แจ้งถึงจุดนั้นแล้ว? ช่างเป็นการพัฒนาที่เร็วจนน่ากลัวจริงๆ "
โอการ์หัวเราะทันที
มันยอมรับมูยองในฐานะสหาย
นอกจากความคิดที่ว่ามูยองเป็นผู้กอบกู้แล้ว มันยังรู้สึกถึงความสนิทสนมกับมูยองผู้ที่กำลังเดินไปตามเส้นทางของนักรบที่โดดเดี่ยว
แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่เดือน มูยองก็ได้บุกเบิกเส้นทางของตนเอง
แม้ว่าโอการ์จะเป็นผู้กระตุ้นการปลุกพลังของเขา แต่นั่นก็เป็นการเปิดโอกาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
'มันเป็นเรื่องดีที่ฉันจบงานอย่างเงียบๆ '
มูยองแอบเก็บศพของไฟทาร์ไว้ และทำให้พวกมันกลายเป็นอันเดธ
หลังจากนั้นเขารีบทำให้พวกมันกลายเป็นยันต์เพื่อซ่อนการปรากฏตัวเอาไว้
ถ้าโอการ์เห็นเรื่องนี้ก็ยากที่จะคาดหวังเกี่ยวกับทัศนคติที่เป็นมิตรของมันในปัจจุบัน
"โอการ์คุณช่วยปกป้องอาณาเขตของผมได้ไหม?"
ยิ่งไปกว่านั้น มูยองยังได้รับความช่วยเหลืออีกด้วย
สถานการณ์ปัจจุบันของอาณาเขตอยู่ในช่วงที่แย่ที่สุด
ครึ่งหนึ่งของโดเกบิจะต้องทำงานหนักและไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เห็นช่องโหว่ต่างๆได้อย่างชัดเจน
อาณาเขตเพิ่งเริ่มสร้าง โครงสร้างต่างๆก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
และมูยองเองก็ไม่สามารถหยุดอยู่กับอาณาเขตของตนเองได้
อย่างน้อยเขาต้องการบางอย่างที่สามารถปกป้องอาณาเขตของเขาได้ก่อนที่ตัวเองจะจากไป ซึ่งการมีเพียงบาลตันและอันเดธไม่กี่ตัวย่อมไม่เพียงพอ
ดังนั้นเขาจึงสรุปว่าต้องการความช่วยเหลือจากโอการ์
"อาณาเขต? เจ้าวางแผนที่จะไปที่ไหน? "
"ถูกต้อง แต่ผมไปไม่นานหรอก "
นี่ไม่ใช่แค่เพียงการประกันความปลอดภัยปกติเท่านั้น
เนื่องจากเหล่าไฟทาร์ในบริเวณนี้ได้หายไป มอนสเตอร์จำนวนมากอาจเข้ามาโจมตีที่แห่งนี้เพื่อขยายอาณาเขตของพวกมัน
โอการ์เกาคางขณะพูด
"นี่เป็นสถานที่ที่น่าสนใจทีเดียว แม้ว่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นชนิดของเผ่าพันธุ์ต่างๆที่อาศัยอยู่ด้วยกันในที่เดียว "
"โอการ์ ถ้านี่ไม่ใช่คุณ ผมคงจะไม่ขออะไรเช่นนี้กับใคร"
มูยองแน่ใจ
เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีทัศนคติเชิงลบเกี่ยวกับการอยู่รวมกันของเผ่าพันธ์ที่หลากหลาย
อย่างน้อยกับมูยองที่ไม่มีอคติกับพวกมันบางอย่างเช่นนี้จึงเป็นไปได้
มันเป็นไปไม่ได้เลยหากพวกมันไม่ได้อยู่ร่วมกันภายใต้ชื่อของมูยอง
รอยยิ้ม!
โอการ์โชว์ฟันของเขา
"มูยองข้าชอบวิธีที่เจ้าทำสิ่งต่างๆ มันเป็นอะไรที่ข้าไม่เคยพบเห็นและไม่เคยคิดมาก่อนแต่เจ้ากลับทำมันขึ้นมาได้ ข้าสนใจในสิ่งที่เจ้ากำลังจะทำและสิ่งที่เจ้ากำลังจะประสบความสำเร็จ "
เมื่อมูยองนึกถึงโอการ์อีกครั้ง เขาดูเป็นไฟทาร์ที่มีนิสัยแปลกๆตั้งแต่แรก
เป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดสามารถเข้าหาได้ง่าย ไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมพวกมันจึงห่วงความปลอดภัยของตนเองกว่าเผ่าพันธ์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนโอการ์ชอบที่จะสำรวจสิ่งใหม่ ๆ
และ มูยองได้รับเลือกให้อยู่หัวข้อที่น่าสนใจนั้น
ตึง!
โอการ์กระแทกหอกลงที่พื้น และพูดต่อ
"ข้าจะปกป้องสถานที่ของเจ้าจนกว่าจะถึงราตรีที่ 180 อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถรับรองอะไรได้หลังจากนั้น ข้าต้องกลับไปที่เผ่าเมื่อ 'ราตรีอันเนิ่นนานของปีศาจ' เริ่มต้น. "
ราตรีอันยาวนานของปีศาจ
นั่นหมายถึงช่วงเวลานั้นปีศาจจะเริ่มเคลื่อนไหวในดินแดนเทพปีศาจ
เป็นเวลาสองสามเดือนในราตรีที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหล่าปีศาจจะสามารถเดินเพ่นพ่านได้อย่างอิสระ
โดยปกติพวกมันจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอโดยไม่สามารถต้านทานสัญชาตญาณของตัวเองได้ แต่สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนของเทพปีศาจจะค่อนลำบาก และต้องเตรียมตัวสำหรับคืนที่จะเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าโอการ์จะต้องกลับไปที่เผ่าของเขา
มูยองพยักหน้าศีรษะ
"แค่นั้นก็พอแล้ว"
นั้นมันเกินมากกว่าที่เขาคาดไว้เสียอีก
เขาต้องกลับมาปกป้องอาณาเขตของตัวเองในช่วงเวลานั้นอยู่แล้ว
นอกจากนั้นเขายังต้องพยายามหาหนทางที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอาณาเขตของตน
'พันธมิตรสามพลั่วกระสอบจะเป็นคำตอบของเรา'
เขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ตราบเท่าที่ค้นพบเหล่าคนแคระ
ทุกคนต่างยอมรับทักษะทางเทคนิคของคนแคระ
ยิ่งไปกว่านั้นพันธมิตรของคนแคระ พันธมิตรพลั่วสามกระสอบยังอยู่ในอันดับสูงสุด
ลอร์ดของพวกนั้นคือ 'ค้อนเทพเจ้าบาร์ทัส' เขาเป็นคนแคระที่มีความรู้ความเข้าใจในการเล่นแร่แปรธาตุมากที่สุด
ถ้ามูยองได้รับความช่วยเหลือก็เหมือนกับอาณาเขตของเขามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
"แต่มูยอง ดูเหมือนเจ้าจะไม่มีที่พักขนาดใหญ่โตพอสำหรับข้านะ ฮ่าๆ! "
โอการ์ผู้ที่ร่างกายลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง กำลังตบไปที่ลำของต้นโพธิ์ซึ่งผูกติดอยู่กับเอวของเขาในขณะที่ล้อเล่น
ใช่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่จะไม่มีบ้านสำหรับขนาดของมัน
"ผมจะพยายามสร้างบ้านของคุณเป็นหลังแรก"
ขณะที่มูยองตอบอย่างจริงจัง โอการ์ก็ลูบไปที่คอของเขา
"อะแฮ่ม มันเป็นแค่เรื่องตลก อย่าได้คิดจริงจังนัก จริงๆใต้ท้องฟ้านี่ข้าสามารถนอนหลับที่ไหนก็ได้ "
เขาพูดว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลก
สีหน้าของมูยองดูสงบนิ่ง
โอการ์คิดว่าสนิทกับมูยองมากพอที่จะโยนเรื่องตลกให้ได้
มูยองรู้สึกยังงั้นก็จริง แต่พูดกันตามตรงเขากลับไม่รู้สึกอะไรมากมายเกี่ยวกับมัน
-สหาย-
เป็นเพราะความคิดเกี่ยวกับเพื่อนของเขาค่อนข้างดูเลือนลาง
เป็นเวลากว่า 40 ปี ที่มูยองไม่เคยมีเพื่อน
คนทั้งหมดที่เข้ามาใกล้เขาล้วนต้องตาย. ใช่แล้วถูกเขาฆ่าตาย
แม้ว่าเขาจะเคยดูแล คิม แทฮวาน และ เบ ซูจี อยู่ชั่วขณะหนึ่งตอนอยู่ที่อารามสีคราม แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะบอกได้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน
อย่างไรก็ตาม โอการ์เป็นคนเดียวที่เขามองในฐานะ 'เพื่อน'
"กรุณาปกป้องมันให้ดี"
ขณะที่มูยองพูด โอการ์ก็ทำหน้าบึ้งตึง
"ข้าชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเจ้า แต่เจ้านี่มันน่าเบื่อยิ่งกว่าพวกไฟทาร์ซะอีก "
****
ตั้งแต่โอการ์รับปาก มูยองก็มีอิสระในการเคลื่อนไหว
เขามุ่งหน้าเดินทางทันที
เขาค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องของเวลา
"การ์มูสคุณรู้หรือเปล่าว่าสถานที่ตั้งของพันธมิตรสามพลั่วกระสอบอยู่ที่ไหน?"
เพื่อความแน่ใจมูยองจึงสอบถามการ์มูสอีกครั้ง
คนแคระเฒ่ามีสีหน้าเศร้าขณะที่ส่ายหัว
"พันธมิตรสามพลั่วกระสอบจะเปลี่ยนสถานที่ของพวกเขาเรื่อยๆเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของมังกร"
คนแคระมีความสามารถในการค้นหาและสร้างสมบัติที่ดีเยี่ยม
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเป้าหมายของมังกรซึ่งชอบสมบัติต่างๆที่ส่องประกายระยิบระยับ
ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม 'มังกร' เป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังอำนาจสูง อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในระดับที่ 2 ของระดับท็อป
นอกเหนือจากราชาปีศาจและเทพปีศาจ จำนวนมากที่สุดในเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในระดับเหนือธรรมชาติก็คือพวกเหล่ามังกร
ในอันเดอร์เวิลด์มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่กลัวตายได้คลุกคลีกับเหล่ามังกร และแน่นอนว่าคงเป็นเรื่องของผลประโยชน์อันชั่วร้าย
สำหรับการเอาตัวรอดของ พันธมิตรสามพลั่วกระสอบ พวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนฐานทั่มั่นอยู่เป็นประจำ
"มีทั้งฐานขนาดใหญ่และเล็กที่พวกเขาใช้อย่างต่อเนื่อง"
"ทั้งหมดมีอยู่ 5 แห่ง แต่ก็นานมาแล้ว ข้าไม่แน่ใจว่าความจำของข้ายังถูกต้องอยู่รึเปล่า "
"ไม่เป็นไร ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดจากที่นี่อยู่ที่ไหน? "
การ์มูสถูกขังอยู่ในสังเวียนใต้ดินเป็นเวลานาน
มันคงไม่แปลกถ้าพวกเขาจะเปลี่ยนฐานที่มั่นในช่วงเวลานั้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาจะทิ้งเครื่องหมายไว้
เพื่อให้คนในกลุ่มสามารถค้นหาและติดตามสถานที่ใหม่ได้
และมูยองเองก็มีทักษะในการอ่านสัญลักษณ์เหล่านั้น เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานของการเป็นนักฆ่า
"เป็นหน้าผาที่ชื่อว่า 'อันนอลเบรน' "
มูยองเดาะลิ้นเบา ๆ
เป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีเวลาที่จะเสียมากไปกว่านี้
เมื่อต้องการหาที่ตั้ง เขาจำเป็นต้องเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้นแม้จะสักเสี้ยววินาที
เป็นความโชคดีที่เขามีเซอร์เบอรัส
ตั้งแต่มันสามารถบินได้ เขาก็สามารถเคลื่อนเร็วมากยิ่งขึ้น
"ข้าจำเป็นต้องขี่มันด้วยหรือไม่"
การ์มูสกลืนน้ำลายลงคอ
เป็นเพราะการขึ้นไปยังหลังของเซอร์เบอรัส ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปอยู่ในปากของมังกร
"ไปกันได้แล้ว"
อย่างไรก็ตาม มูยองไม่สนใจท่าทีของเขา
ถ้าไม่รีบขึ้นมา คุณจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง หลังจากที่ตระหนักถึงความหมายของมูยอง การ์มูสร้องตะโกนอย่างเร่งด่วน
"รอด้วย รอข้าด้วย!"
ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจ เขาคว้าขนของมันและกระโดดขึ้นที่ด้านหลังของเซอร์เบอรัส
แท๊บ!
หลังจากตรวจสอบผู้โดยสารคนสุดท้าย นักล่าวิญญาณปีศาจก็กระแทกขาเข้าที่สีข้างของเซอร์เบอรัส
จากนั้นปีกที่ทำจากวิญญาณชั่วร้ายก็ปรากฏอยู่ทั้งสองด้านของเซอร์เบอรัสในขณะที่มันเริ่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
อันนอลเบรน
แม้ว่าการ์มูสกล่าวว่ามันเป็นหน้าผา แต่เท่าที่เห็นกลับไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าผาที่นี่
ทุกอย่างถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองเศษซากต่างๆกลิ้งไปมาบนพื้น
มีรูที่ว่างเปล่าถูกเจาะเข้าไปในภูเขา
ราวกับว่ามีบางอย่างที่มีกำลังมหาศาลมหาศาลเจาะเข้าไป
ไม่มีสัญญาณของการอยู่อาศัย
"มันดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของมังกร"
"ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน"
มูยองจ้องภูเขาที่สูญหายไปกว่าครึ่งในขณะที่ยืนกอดอก
ร่องรอยที่เหลือหลังจากการถูกมังกรกวาดล้างดูเป็นภัยพิบัติที่น่าเศร้า
"มันทำลายที่นี่ทิ้งเป็นเพราะไม่สามารถหาตำแหน่งที่ตั้งของเหล่าคนแคระได้หรือไม่?"
"บางที บาร์ทัสรู้วิธีสร้างกำแพงที่ยากต่อการตรวจจับจากมังกร เนื่องจากมันไม่สามารถหาสิ่งที่ต้องการเจอ มันจึงทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง "
"ดูเหมือนว่ามันเกิดขึ้นเพียงไม่นาน"
มูยองรู้สึกแบบนั้น
เมื่อมองไปที่ต้นไม้โดยรอบมันดูเหมือนพึ่งถูกโค่นลงหลังจากภูเขาถูกทำลาย
มากที่สุดก็แค่เดือนที่ผ่านมา
'พวกเขาคงหนีไปหลังจากที่ถูกค้นพบหรือถูกทำลายด้วยความโกรธของมังกร '
ดูเหมือนว่ามูยองต้องการสำรวจไปรอบๆอีกสักหน่อย
"เงียบก่อน"
ณ ช่วงเวลานั้น
นักล่าวิญญาณปีศาจพูดด้วยโทนเสียงต่ำ
ก๊าซซซซซซซซ!
ในเวลาเดียวกันเสียงร้องรุนแรงก็ได้สั่นสะเทือนเทือกเขาในบริเวณนั้นทั้งหมด
ร่างกายของการ์มูสสั่นสะท้าน
มูยองขมวดคิ้ว
เสียงดังกึกก้องที่สามารถกระตุ้นสัญชาตญาณความกลัวของผู้คน
มันเป็นเสียงคำรามของมังกร
ในไม่ช้าการมีอยู่ขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นเหนือท้องฟ้า
ร่างสีดำสนิท และปีกขนาดใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ
ดาร์คดราก้อน!
มันแตกต่างจากเมจิคดราก้อน
แม้ว่าดาร์คดราก้อนจะคล้ายกับเมจิคดราก้อน แต่มันเป็นมังกรที่รู้จักกันดีโดยเฉพาะด้านความอดทนที่อันมีน้อยนิด
หากคุณถูกจับ กระดูกทุกส่วนในร่างกายของคุณจะต้องถูกทำลายจนป่นบี้
และคงไม่ต่างจากเดิม แม้เขาจะมีเซอร์เบอรัสและนักล่าวิญญาณปีศาจอยู่ข้างกาย
ยิ่งคุณได้อยู่อันดับท็อปแล้วความแตกต่างก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น
สำหรับตอนนี้ไม่มีทางใดที่มูยองสามารถเอาชนะดาร์คดราก้อนได้เลย
โชคดีที่ดาร์คดราก้อนไม่ได้หยุดและบินต่อไปบนท้องฟ้า มันรีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่บางแห่ง
"เห้อ! ซู๊ดดด'
หลังจากที่มันหายไปอย่างสมบูรณ์จากสายตา การ์มูสก็ปล่อยลมหายใจออกมา
และเขารีบพูดกับมูยอง
"อ่ามันคือดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า! "
"ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่า?"
"มังกรดุร้ายที่คอยตามบาร์ทัส ทำไมมันอยู่ในสถานที่แบบนี้ ... "
การ์มูสกัดฟันของเขาแน่น
ดาร์คดราก้อนบาร์ซ่าพยายามตามล่าเหล่าพันธมิตรพลั่วสามกระสอบ
ดูเหมือนว่ามันเป็นผู้ร้ายที่ทำลายภูเขา
ดูเหมือนภูเขาแห่งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ และด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขาได้จากไปแล้ว
มังกรเป็นที่รู้จักกันว่ามีความหลงไหลต่ออัญมณีและสมบัติ
และดาร์คดราก้อนก็มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการไล่ล่าเหยื่อของพวกมันให้ถึงที่สุด
ถ้าบาร์ซ่าอยู่มานานกว่าหนึ่งเดือน และตัดสินใจที่จะจากไปเหตุผลก็เห็นได้อย่างชัดเจน
"ฉันต้องรีบแล้ว"
มันอาจกำลังไปยังตำแหน่งที่พันธมิตรพลั่วสามกระสอบอยู่