ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 153 มนุษย์ป้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 155 กู้ยืม

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 154 กระอักเลือดด้วยความโกรธ


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 154 กระอักเลือดด้วยความโกรธ

หัวใจของโม่เฉินกลายเป็นหนักอึ้ง

เดิมทีเขาตั้งใจรับฟางหยวนเข้าร่วมกองกำลัง แต่ด้วยทั้งหมดทำให้เขาไม่สามารถดึงตัวฟางหยวน

มาถึงตอนนี้มันชัดเจนว่าคู่แข่งคนสำคัญของเขาซื่อเหลียงให้การสนับสนุนฟางหยวนมานานกว่าหนึ่งปีจนได้รับรางวัลชิ้นใหญ่ เมื่อฝ่ายสกุลซื่อมีผู้อาวุโสคนใหม่เพิ่มขึ้น แล้วจะไม่ให้โม่เฉินรู้สึกหนักใจได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามโม่เฉินยังรู้สึกสับสนเล็กน้อย

ซื่อเหลียงเป็นคู่แข่งของเขามาตั้งแต่เด็ก เขามีความเข้าใจคู่แข่งคนนี้เป็นอย่างดี เขารู้กระทั่งสีของชุดชั้นในที่ซื่อเหลียงชอบใส่

กล่าวไปแล้วเวลานี้ซื่อเหลียงควรจะส่งสายตาเย้ยหยันมาที่เขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น ตรงข้ามใบหน้าของซื่อเหลียงดูน่ากลัวราวกับเขาได้รับความอยุติธรรมบางอย่าง

นี่มันแปลกเกินไป

มีบางสิ่งเกิดขึ้นระหว่างซื่อเหลียงกับฟางหยวนงั้นหรือ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขามีข้อตกลงบางอย่าง?

อย่างไรก็ตามโม่เฉินไม่สามารถหาคำตอบเรื่องนี้ได้

'ฟางหยวนผู้นี้กล้าหาญเกินไปจริงๆ เขากระทั่งกล้าข่มขู่ข้า!' หัวใจของซื่อเหลียงเต็มไปด้วยความโกรธและความสงสัย

คืนที่ผ่านมา ฟางหยวนลอบไปพบเขาและใช้เรื่องการปลอมแปลงพรสวรรค์ของซื่อเฉินข่มขู่เขา

สวรรค์!

นี่เป็นความลับที่มีเพียงตัวเขาและซื่อเฉินเท่านั้นที่ล่วงรู้ แล้วคนนอกเช่นฟางหยวนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

ซื่อเฉินมีพรสวรรค์นภาที่สาม แต่เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายสกุลซื่อ ซื่อเหลียงจึงต้องเสี่ยงปลอมแปลงพรสวรรค์ของหลานชายให้เป็นนภาที่สอง

หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป มันจะส่งผลกระทบต่อสกุลซื่อเป็นอย่างมาก ความซื่อสัตย์ของหัวหน้าสกุลซื่อเช่นเขาจะถูกสงสัย มันจะทำลายชื่อเสียงของสกุลซื่อไปอย่างไม่อาจหวนกลับ ที่สำคัญเมื่อผู้สืบทอดของสุกลซื่อมีพรสวรรค์เพียงนภาที่สาม แล้วผู้ใดจะกล้าฝากชีวิตไว้กับกองกำลังเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาจะสูญเสียอำนาจทางการเมืองไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อฟางหยวนรู้ความลับเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าฝ่ายสกุลซื่ออยู่ในกำมือของเขา

หลังจากได้ยินคำขู่ของฟางหยวน ซื่อเหลียงแทบจะไม่สามารถควบคุมตนเองและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันที แต่เขาก็ต้องหยุดตัวเองเอาไว้เพราะไม่รู้ว่าฟางหยวนบอกผู้ใดหรือทิ้งหลักฐานบางอย่างเอาไว้หรือไม่?

'ปล่อยเขาไปก่อน ตรวจสอบสถานการณ์แล้วค่อยกำจัดเขาทีหลัง' นั่นคือความคิดของซื่อเหลียงในเวลานั้น

แต่หลังจากฟางหยวนเปิดเผยการบ่มเพาะระดับสามออกมา ซื่อเหลียงกลับต้องเบิกตาโตและเปลี่ยนแผนการเป็นความร่วมมือในทันที

ผู้อาวุโสผู้ใช้วิญญาณระดับสามคนใหม่ของตระกูล หากเขาสังหาร เขาจะมีความผิดร้ายแรงไม่ต่างจากการทรยศ

นอกจากนั้นการต่อสู้กับผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ซื่อเหลียงจำเป็นต้องใช้เวลาชั่วครู่ หากความวุ่นวายเกินขึ้น มันจะกลายเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก

การกำจัดฟางหยวนไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายสกุลซื่อ ตรงข้ามมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลง

'แม้ฟางหยวนจะล่วงรู้ความลับของข้า แต่มันสามารถเปลี่ยนเป็นความร่วมมือ' สุดท้ายซื่อเหลียงจึงทำได้เพียงโน้มน้าวจิตใจของตนเองเพื่อความสบายใจเท่านั้น การคุกคามของฟางหยวนเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป นี่ทำให้เขาไม่สามารถคาดคำนวณภัยพิบัติที่อาจเกิดจากฟางหยวน

แต่เมื่อฟางหยวนดึงเขาเข้าไปเกี่ยวข้องในสถานการณ์ปัจจุบัน มันจึงไม่ต่างจากการผลักเขาเข้าไปใต้รถบรรทุก

อย่างไรก็ตามแม้ซื่อเหลียงจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาจะทำสิ่งใดได้?

ในจังหวะนี้ฟางหยวนจึงเริ่มกล่าวออกมาอย่างช้าๆอีกครั้ง "เหยาจี้ ข้ารู้ว่าตอนนี้หัวใจของเจ้ากำลังปั่นป่วนเพราะหลานสาวผู้มีพรสวรรค์นภาที่สองของเจ้ากลับตกตายโดยไม่พบแม้แต่ซากศพ ห้องโถงพยาบาลของเจ้ากำลังขาดผู้สืบทอด ขณะที่ผู้มีพรสวรรค์เพียงนภาที่สามเช่นข้ากลับสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับสาม ดังนั้นเจ้าจึงรู้สีกกังวลและปลดปล่อยความไม่พอใจทั้งหมดมาที่ข้า ข้าเข้าใจเรื่องนี้"

"เจ้าพ่นสิ่งใดออกมา?" เหยาจี้ขึ้นเสียงและจ้องมองฟางหยวนด้วยความโกรธเกรี้ยว "เจ้าเด็กเลว ข้าจะบอกเจ้า เหยาลี่ยังไม่ตาย!"

ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังด้วยความยโส "ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือตกตาย แล้วมันเกี่ยวอันใดกับข้า? เหยาจี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกให้ข้ารู้"

"แต่!" เขาเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างกะทันหัน "เพื่อค้นหาหลานสาวของเจ้า เจ้ารวบรวมผู้คนและใช้ทรัพยากรไปอย่างเปล่าประโยชน์ นั่นทำให้ข้าและผู้อาวุโสทุกคนที่นี่ ไม่เว้นกระทั่งท่านผู้นำรู้สึกกังวล เหยาจี้ เจ้าสามารถเป็นผู้นำห้องโถงพยาบาลได้เพราะความเชื่อมั่นของพวกเรา แต่ดูสิ่งที่เจ้าทำว่าเป็นเช่นไร? เจ้าส่งผู้ใช้วิญญาณสายรักษาของห้องโถงพยาบาลออกไปค้นหาหลานสาวของเจ้าเพียงผู้เดียวและทิ้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้เบื้องหลังโดยไม่เหลียวแล เจ้าเห็นแก่ตัวเกินไปจริงๆ การเสียสละของเหยาลี่ มันกลับเป็นการทำให้ตระกูลต้องสูญเสีย เจ้าเป็นความอัปยศของตระกูลอย่างแท้จริง เจ้าไม่เหมาะที่จะเป็นผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลของตระกูล!!"

คำพูดของฟางหยวนราวกับการจิกศีรษะของเหยาจี้ด้วยกรงเล็บที่แหลมคม มันทิ่มแทงไปยังจุดอ่อนของเธออย่างแม่นยำและทั้งหมดล้วนเป็นความจริง

เมื่อได้ยินถ้อยคำของฟางหยวน ผู้อาวุโสหลายคนเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองเช่นกัน

มีฝ่ายใดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ? แต่เหยาจี้กลับส่งผู้ใช้วิญญาณสายรักษาออกไปโดยไม่แยแสต่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่เร่งด่วน นี่มันมากเกินไปจริงๆ

"เจ้า...เจ้า..." เหยาจี้โกรธจัดจนร่างกายสั่นสะท้านอย่างไม่หยุดหย่อนขณะที่ชี้นิ้วไปยังฟางหยวน แต่เธอก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้มากกว่านี้

สายตาที่เย็นชาของฟางหยวนจ้องมองกลับไปที่เธออย่างไม่แยแสและปราศจากความเกรงกลัว

เขาตอบโต้กลับอย่างสาสม คำพูดไม่กี่คำของเหยาจี้อาจกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเหล่าผู้อาวุโสเกี่ยวกับฟางหยวน แต่คำพูดของฟางหยวนกลับส่งเสริมตัวเขาและด้วยการอาศัยกฎระเบียบของตระกูล มันยังทำให้ผู้อาวุโสทั้งหมดต้องหันมาปกป้องเขาโดยไม่รู้ตัว

สำหรับผู้อาวุโส การปกป้องกฎระเบียบของตระกูลก็เหมือนกับการปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาเอง

การกระทำของเหยาจี้ในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดกฎระเบียบของตระกูลหรือผลประโยชน์ของพวกเขาอย่างชัดเจน

"ฟางหยวนผู้นี้...สารเลว! เจ้าบัดซบ!" เหยาจี้เต็มไปด้วยความกระวนกระวายและไม่รู้เลยว่าแม้แต่ซื่อเหลียงยังโกรธจัด

ฟางหยวนทำให้อารมณ์ของเหยาจี้ปะทุจนถึงขีดสุด การแสดงออกและความเกลียดชังของเธอที่พุ่งตรงมายังฟางหยวนก็ไม่ต่างจากการต่อต้านฝ่ายสกุลซื่อ ทั้งหมดก็คือฟางหยวนถือเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา

แต่ในความเป็นจริง ฝ่ายสกุลซื่อไม่รู้เรื่องสิ่งใดด้วย

แต่สำหรับเขา ซื่อเหลียงไม่ใช่คนโง่ แล้วเหตุใดซื่อเหลียงจะต้องสนับสนุนเหยาจี้ผู้อาวุโสระดับสูงที่ครอบครองอำนาจและเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูล?

เดิมทีซื่อเหลียงอธิษฐานอยู่ในใจว่าอย่าได้มีผู้อาวุโสคนใดให้ความสนใจฟางหยวนมากนัก แต่เมื่อฟางหยวนก่อเหตุการณ์นี้ขึ้นโดยความตั้งใจของตนเอง แล้วฝ่ายสกุลซื่อจะทำได้สิ่งใดได้

อย่างไรก็ตามคำพูดต่อมาของฟางหยวนกลับทำให้ทุกคนยิ่งตกตะลึง

เขาหันหน้าไปทางอวี๋โป้ก่อนกล่าว "ท่านผู้นำ ข้าสงสัยถึงความสามารถในการเป็นผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลของเหยาจี้ ข้าขอเสนอให้พวกเราเพิกถอนตำแหน่งของเธอเป็นการชั่วคราวและประเมินเธออย่างละเอียด ผู้ใช้วิญญาณสายรักษาแต่ละคนของตระกูลล้วนเป็นบุคคลสำคัญ พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เธอใช้งานพวกเขาเยี่ยงนี้ มิฉะนั้นผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือผู้กล้าที่เสียสละตนเองเพื่อตระกูลของเรา"

เขาหยุดชั่วขณะก่อนกล่าวต่อ "ข้อเสนอนี้ของข้า ผู้อาวุโสซื่อเหลียงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่"

"อันใด!?" รูม่านตาของเหยาจี้หดเล็กลงพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซีดเผือด

"กระไรนะ!?" เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลต่างพากันกระวนกระวาย ได้ยินว่าซื่อเหลียงสนับสนุนความข้อเสนอนี้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความสุขกับเหยาจี้มานานแล้วและต้องการฉกชิงผลประโยชน์ของเหยาจี้้งั้นหรือ?

'อันใด!?' ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึง ซื่อเหลียงแทบจะกระโดดขึ้นจากเก้าอี้

เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?

ตอนนี้เขากำลังจะบ้าเพราะการเล่นตลกของฟางหยวน

ฟางหยวนไม่เพียงต่อสู้กับเหยาจี้ แต่ยังดึงสกุลซื่อให้เข้าร่วมด้วย

เจตนารมณ์เดิมของซื่อเหลียงคือสร้างความสนิทสนมและความร่วมมือกับเหยาจี้ แต่เวลานี้ฟางหยวนกลับทำลายมันลงอย่างสิ้นเชิงด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเขา

ฟางหยวนกำลังทำร้ายเขาโดยการเผยแพร่ข่าวเท็จ แต่เวลานี้ซื่อเหลียงก็เป็นเพียงหัวหน้าฝ่ายสกุลซื่อที่ถูกควบคุมโดยฟางหยวนและไม่สามารถขัดขืน

"โอ้ ผู้อาวุโสซื่อเหลียงสนับสนุนข้อเสนอนี้เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของอวี๋โป้ส่องประกายขณะที่เปิดปากถาม

ซื่อเหลียงกัดฟันและพยายามสะกดข่มความโกรธก่อนลุกขึ้นยืน

มาถึงจุดนี้เขาไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากร่วมแสดงละครฉากนี้ต่อไปเท่านั้น

"การเพิกถอนตำแหน่งของเหยาจี้เป็นความคิดของฟางหยวน ด้วยภัยพิบัติคลื่นหมาป่า การเปลี่ยนแปลงในเวลานี้อาจไม่เหมาะสมนัก แต่ข้าเห็นด้วยว่าเหยาจี้ผู้นี้ใช้อำนาจไปในทางมิชอบตามอารมณ์ส่วนตัวของเธอ หากปัญหานี้ถูกจัดการอย่างเหมาะสม มันจะลดการสูญเสียของตระกูลไปได้อย่างมาก"

ซื่อเหลียงพยายามอย่างมากในการเลือกใช้คำพูดที่จะไม่ผิดต่อทั้งฟางหยวนและเหยาจี้มากนัก

แต่ถึงกระนั้นเพียงเมื่อเขากล่าวจบคำ เสียงสายหนึ่งกลับดังขึ้นอย่างกะทันหัน

เขาหันหน้าไปรอบๆก่อนจะพบว่าเหยาจี้กระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธก่อนจะล้มลงโดยไม่คาดคิด

มันจบแล้ว!

'ข้าทำผิดต่อเหยาจี้อย่างสมบูรณ์' ขณะนี้ซื่อเหลียงรู้สึกราวกับตกลงไปในหุบเหวที่หนาวเหน็บ

"ท่านเหยาจี้!"

"ผู้ใดก็ได้ช่วยเธอเร็วเข้า!"

"เธอเพียงหมดสติ มิใช่เหตุร้ายแรง เหยาจี้ไม่ได้พักผ่อนมาสามวันสามคืน ร่างกายของเธอจึงไม่สามารถทนได้อีก เธอเพียงต้องการพักผ่อนเท่านั้น"

ภายในห้องโถงค่อยๆเงียบเสียงลง

เหยาจี้ถูกนำตัวออกไปโดยเปล

เธอแก่แล้วและไม่ได้พักผ่อนมาตลอดหลายวัน เมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับฟางหยวนและซื่อเหลียง เธอจึงไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป

"เหยาจี้ดูแลห้องโถงพยาบาลมานานหลายปีแล้ว เธอทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยมามาก พวกเราควรให้เธอได้พักผ่อนเป็นการตอบแทนความดีของเธอ แต่ตำแหน่งผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลไม่สามารถเว้นว่าง ท่านผู้นำ ข้าขอเสนอให้ฟางหยวนเข้ารับตำแหน่งนี้แทนเธอ" ซื่อเหลียงเร่งกล่าว

ตั้งแต่ซื่อเหลียงเริ่มต้นรุกรานเธอ แล้วเขาจะหยุดอยู่กลางทางได้อย่างไร? เพื่อป้องกันไม่ใช่เธอหวนกลับมาแก้แค้น เขาจะต้องตัดรากถอนโคนเธอให้สิ้นไปในคราวนี้ นี่คือวิธีแก้ปัญหาและสติปัญญาของผู้เชี่ยวชาญทางการเมือง

ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบงันไปชั่วขณะ

ความตายของเหยาลี่ การพ่ายแพ้ของเหยาจี้ ทำให้ฝ่ายห้องโถงพยาบาลอ่อนแอลง ความโหดร้ายทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไร้ปรานียิ่งกว่าภัยพิบัติคลื่นหมาป่า

ฟางหยวนปิดปากเงียบเช่นกัน

ให้เขาเป็นผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลงั้นหรือ? หึ ซื่อเหลียงเพียงกล่าวออกมาอย่างไม่จริงจังเท่านั้น

ให้ผู้อาวุโสคนใหม่ที่ยังเยาว์วัยเป็นผู้นำห้องโถงพยาบาล มันอาจเป็นไปได้หากเหล่าผู้อาวุโสรวมถึงตัวผู้นำปัญญาอ่อนทั้งหมด

แท้จริงแล้วคำพูดของซื่อเหลียงมีความหมายซ่อนเร้น

และในที่สุดมันก็เป็นไปตามความต้องการของเขาเมื่ออวี๋โป้ประกาศออกมา "ผู้อาวุโสซื่อซ่งจะดำรงตำแหน่งผู้นำห้องโถงพยาบาลเป็นการชั่วคราว การบ่มเพาะของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับสาม ตามกฎของตระกูล เขาจะได้รับบทบาทของผู้อาวุโสคนหนึ่ง ส่งข่าวออกไปเพื่อให้ทุกคนร่วมแสดงความยินดี"

อวี๋โป้ยืนขึ้นและเดินออกไปจากห้องประชุมทันที

"ขอแสดงความยินดีด้วย ขอแสดงความยินดีด้วย..." หลังจากนั้นผู้อาวุโสกลุ่มใหญ่จึงเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับฟางหยวนด้วยการปั้นรอยยิ้มไว้บนใบหน้า

ฟางหยวนป้องมือขึ้นและเผยรอยยิ้มที่อบอุ่นตอบกลับไป