[KotB] บทที่ 84: พันธมิตรพลั่วสามกระสอบ (1)
บทที่ 84: พันธมิตรพลั่วสามกระสอบ (1)
เซอร์เบอรัสเป็นมอนสเตอร์ระดับสูงที่สามารถควบคุมธาตุน้ำ ไฟ และสายฟ้าได้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามของมันนั้นเลวร้ายกว่า
อัศวินแห่งความตายเป็นอันเดธมอนสเตอร์ที่ได้รับการยอมรับว่าไร้คู่ต่อกร มันเทียบเคียงได้กับลิช และอัศวินแห่งความตายที่ยอดเยี่ยมก็เป็นที่รู้กันว่าชอบการลายล้างเช่นเดียวกับมังกร
เป็นที่แน่นอนว่า นักล่าวิญญาณปีศาจยังไม่ได้อยู่ในระดับนั้น
อย่างไรก็ตาม มันสามารถที่จะพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและมีคุณสมบัติที่จะเป็นราชา
นั่นหมายความว่า บางทีนักล่าวิญญาณปีศาจนั้นอาจจะดีกว่า
แม้ในระหว่างการต่อสู้กับเซอร์เบอรัส นักล่าวิญญาณปีศาจก็ยังคงแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากการต่อสู้ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็สามารถที่จะกำราบมันและทำให้มันกลายเป็น'พาหนะ'ของตนเองได้
"เยี่ยม"
มูยองไม่คาดคิดว่ามันจะสามารถทำให้เซอร์เบอรัสเชื่องได้!
สิ่งที่เขาไม่แน่ใจกำลังจะกลายเป็นความจริง
เซอร์เบอรัสค่อนข้างบกพร่องเมื่อเทียบกับมังกรปีศาจแต่ก็ยังคงเป็นมอนสเตอร์ระดับท๊อป
เป็นที่รู้กันว่ามอนสเตอร์ระดับท๊อปที่มีจำนวนน้อยนิดสามารถเปลี่ยนกระแสของสงครามได้
อัศวินแห่งความตาย และเซอร์เบอรัส
'ระเบิดนิวเคลียร์เดินได้' ถูกสร้างขึ้น
<คุณได้ผ่านการทดสอบอันเกินขีดจำกัดของตนเอง! เจ้าแห่งความมืดยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลงานของคุณ>
<คุณประสบความสำเร็จในการปราบจักรพรรดิแห่งสังเวียน เซอร์เบอรัส>
<มันถูกตัดสินว่าเป็นไปไม่ได้>
<จ้าวแห่งความมืดกำลังตรวจสอบ>
<ราชินีแห่งจันทราและดาราได้มอบ 'แสงแห่งดวงดาว' ให้แก่คุณ>
แสงแห่งดวงดาว?
มูยองเอียงศีรษะของเขา
บนมือของเขามีกุญแจที่ปล่อยแสงสีเหลืองปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับของขวัญที่ได้รับมาก่อน
ขณะที่จดจ่ออยู่กับมัน ข้อมูลเกี่ยวกับกุญแจนั้นก็ปรากฏขึ้น
ชื่อ: แสงแห่งดวงดาว
ระดับ: ไม่มี
ประเภท: อุปกรณ์ใช้งาน
ความคงทน: ไม่มี
ผลกระทบ: กุญแจที่ช่วยให้คุณควบคุมแสงแห่งดวงดาวได้
* ขึ้นอยู่กับดวงดาวที่คุณครอบครอง ความสามารถที่แตกต่างกันจะถูกเปิดใช้งาน
(ดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ: เมื่อมันอยู่บนฟ้า คุณสามารถประกาศ 'อาณาเขตสมบูรณ์แบบ' ได้)
(อาณาเขตสมบูรณ์แบบ - ในขณะที่แสงส่องถึง ศัตรูที่อยู่ภายในจะอ่อนแอ ผลของสถานะหนังเหนียวจะลดลงอย่างมาก)
* ความสามารถจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนดวงดาวที่คุณครอบครอง
(ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ: สถานะทั้งหมด +10)
* ได้รับอำนาจ 'ผู้แย่งชิงดวงดาว'
- เมื่อคุณกำราบผู้ครอบครองดวงดาวคนอื่นได้ คุณสามารถใช้กำลังแย่งชิงดวงดาวของฝ่ายตรงข้ามได้
มูยองจ้องมองกุญแจตาไม่กระพริบ
แสงแห่งดวงดาว
เหมือนกับชื่อของมัน มันเป็นคำที่มีความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด
'ดวงดาวเป็นของขวัญที่มอบให้กับสิ่งมีชีวิตที่พิเศษเท่านั้น'
มีโอกาสอื่นๆที่เกิดขึ้น
วีรบุรุษคือผู้ที่รู้จักการตอบรับเสียงเรียกขานจากดวงดาว
ด้วยการปรากฏตัวของคนเหล่านี้ ดาวดวงที่พิเศษต่างๆกันจะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
จากการปรากฏตัวของดวงดาว ผู้คนจะรู้กันว่ามีการคงอยู่ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น
และมูยองกลายเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น
นอกจากนี้เขายังมีอำนาจที่จะขโมยดาวดวงอื่นๆได้
แน่นอนว่าดวงดาวที่เขาพูดถึงไม่ได้ถูกมอบให้กับวีรบุรุษเท่านั้น
ดวงดาวนี้เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่คนอื่นๆไม่สามารถเทียบเคียงได้
ถ้าเขาสามารถขโมยดวงดาวทั้งหมดได้ล่ะ?
ดวงดาวที่ถูกขโมยจะกลายเป็นพลังของเขาทันที ความสามารถที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับดวงดาว เพื่อให้แสงแห่งดวงดาวสามารถกลั่นกรองถึงศักยภาพของตัวเอง
'ราชินีแห่งจันทราและดารา... '
เธอแตกต่างจากจ้าวแห่งความมืดที่ได้ปรากฏตัวมาจนถึงบัดนี้
มันเป็นชื่อที่เขาได้เห็นเป็นครั้งแรก
นั่นหมายความว่าบุคคลนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการประเมินผลของมูยองอย่างจริงจัง และด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่รู้ จู่ๆการตัดสินก็เปลี่ยนความคิดทั้งหมดไปไป
เดธลอร์ด ชาโดวลอร์ด ผู้ปกครองชีวิตหลังความตาย ราชันย์วิญญาณ กลุ่มดาวสิบสองจักรราศี คิงสเลเยอร์ และราชินีแห่งจันทราและดารา
ด้วยเหตุนี้ มูยองจึงรู้จักจ้าวแห่งความมืดทั้งเจ็ด
อีก 4 คนยังอยู่ภายใต้เงามืด
"้เจ้าจะยืนไปจนถึงเมื่อไหร่"
นักล่าวิญญาณปีศาจผู้ซึ่งขี่เซอร์เบอรัสอยู่พูดขึ้น
มูยองพยักหน้าก่อนใส่กุญแจเข้าไป
'สิ่งที่โอโลเนสท้าทายซ้ำไปซ้ำมาและค้นหาอย่างต่อเนื่องอยู่ถัดไปจากประตูนั่น
ทั้งหมด 7 รอบ
มีบางอย่างที่มันต้องการจนต้องเข้ามาที่สังเวียนถึง 7 รอบ
และมูยองกำลังวางแผนที่จะค้นหาว่ามันคืออะไร
มูยองเดินผ่านประตูบานใหญ่เข้าไป
ข้างในมองไม่เห็นอะไรมากนัก
มีเพียงหนังสือสามเล่มอยู่เท่านั้น
<เทพธิดาแห่งการเสื่อมถอย>, <เสียงเพรียกของปีศาจ> และ <ประวัติศาสตร์แห่งแดนสนธยา> ถูกเขียนไว้ที่ปกแต่ละเล่ม
'ฉันสามารถเลือกได้หนึ่งเล่มจากทั้งหมดนี้'
มูยองลูบคางของเขา
โดยปกติแล้วคุณสามารถเลือกได้อย่างจำกัดเพียง 1 รางวัลเท่านั้น
อาจจะมีบางสิ่งที่แตกต่างกันไปเกิดขึ้นเมื่อเขาเลือกอย่างหนึ่ง
ไม่มีความสัมพันธ์กับลำดับของคนที่เข้ามา
แค่หนึ่งเล่ม
เขาต้องระมัดระวัง
'รางวัลที่ได้รับอยู่ในรูปแบบของหนังสือทั่วไป ทักษะ หรือแผนที่สมบัติ'
เขาคิดอย่างระมัดระวัง
เมื่อมองไปที่ชื่อเรื่อง พวกมันดูเหมือนจะไม่ได้เป็นทักษะ
หรือพวกมันจะเป็นแผนที่สมบัติ?
'อะไรคือสิ่งที่โอโลเนสต้องการ'
มีข้อจำกัดในการรู้เพียงแค่ชื่อเรื่องของพวกมัน
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเปลี่ยนความสนใจไปที่โอโลเนส
แม้ว่าเขาจะเป็นทาสปีศาจ แต่ก็ดูเหมือนว่าความรู้สึกของความจงรักภักดีต่อวาสซาโก้ยังคงเหมือนเดิม
ในทางตรงกันข้าม เพราะเขามีความยิ่งยโสของปีศาจ เขาเลยต้องรู้สึกแย่เมื่อกลายเป็นทาส
เขาจะได้พยายามที่จะเป็นอิสระจากสถานะทาสและในการทำเช่นนั้น เขาต้องทำบางสิ่งให้สำเร็จเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือโดยตรงกับเทพปีศาจวาสซาโก้
'เสียงเพรียกของปีศาจ'
มูยองเลือกหนังสือที่อยู่ตรงกลาง
เหตุผลของเขานั้นง่ายมาก
เทพธิดาแห่งการเสื่อมถอย ...
ไม่มีเทพธิดาอยู่ในอันเดอร์เวิล์ด
ประวัติแห่งแดนสนธยา?
มันน่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเอลฟ์รุ่นบุกเบิกยุคแห่งแดนสนธยา
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอันเดอร์เวิล์ดที่เขาพบเป็นครั้งคราวเมื่อศึกษาหนังสือเก่าๆ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่แตกต่างกันสำหรับมนุษย์และเทพปีศาจ
อย่างน้อยถ้ามีความเป็นไปได้บางอย่าง มันก็ควรจะเป็นเสียงเพรียกของปีศาจเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพยายามเปิดหนังสือเล่มนี้ มันกลับไม่ขยับเขยื้อน
<คุณไม่สามารถเปิดมันได้>
<คุณต้องมีพลังของปีศาจระดับสูง>
'คุณพูดว่าปีศาจระดับสูง'
จากข้อความเหล่านี้เขาสามารถบอกได้ว่าไอเทมนี้ไม่ธรรมดา
เขาอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาภายในจริงๆ แต่ตอนนี้เขาต้องเก็บมันไว้ก่อน
เนื่องจากเขาจะต้องได้พบกับปีศาจระดับสูงในวันหนึ่ง
มูยองได้กลายเป็นลอร์ดผู้ที่ครอบครองอาณาเขตในดินแดนเทพปีศาจ ในขณะที่เขายังคงเพิ่มอาณาเขตของตน และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมของเขา ปีศาจรอบๆจะต้องแสดงปฏิกิริยากับอาณาเขตของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ครืนนนนน!
ทันใดนั้นสังเวียนก็สั่นสะเทือน
หนังสือที่เหลือทั้งสองหายไปราวกับว่ามันระเหยไปในอากาศ
ขณะที่เขามองไปรอบๆรอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนก้อนหินขณะที่พวกมันร่วงหล่นและค่อยๆกลายเป็นฝุ่นละออง
<การเลือกของรางวัลเสร็จสิ้นแล้ว>
<สังเวียนจะพังทลายไปอย่างต่อเนื่อง>
<คุณจะถูกนำตัวออกไปจากการกล่องแห่งการทดสอบในทันที>
ในเวลาเดียวกันร่างกายของมูยองเริ่มเลือนหายไป
เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็อยู่ที่ด้านนอกห้องแห่งการทดสอบ
เขากลับไปยังสถานที่ที่เขาเข้ามาในครั้งแรก
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป
ก่อนที่ถ้ำจะยุบตัวลง ที่ตรงนี้มีกองหินมากมายอยู่
แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยการปรากฏตัวของเหล่าทาส
มีจำนวนกว่าสองหมื่นคนยืนอยู่ที่นั่นในขณะที่พวกเขามองไปที่มูยองด้วยท่าทางแปลกๆ
นักล่าวิญญาณปีศาจผู้ซึ่งกำลังขี่เซอร์เบอรัส มองไปที่ฉากนี้ด้วยความสนใจ
เขาเป็นคนที่พยายามจะเป็นราชา เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจในการกระทำของมูยอง
'ดาวดวง...มีดวงดาวจริงๆอยู่บนท้องฟ้าหนึ่งดวง'
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะจัดการกับพวกทาส เขาก็มองไปที่ท้องฟ้าก่อน
ดวงดาวสีแดงลอยเด่นท่ามกลางหมู่ดาราในท้องฟ้าสีดำยามราตรี
มูยองรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่านั่นคือดวงดาวของเขา
มูยองฆ่าคนที่มีดวงดาวของตัวเองไป2-3คน แต่เขาไม่เคยได้รับดวงดาวเองมาก่อน
อารมณ์ที่เขาไม่สามารถอธิบายเอ่อล้นไปหมด
มูยองไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกถึง 'การเปลี่ยนแปลง' หรือกำลังมี 'ความสุข'
ความรู้สึกที่เขาไม่ค่อยจะรู้สึกและเชื่อว่าได้ตายไปแล้วกำลังค่อยๆเกิดขึ้น
เขาส่ายหัวก่อนที่จะมองไปรอบๆอีกครั้ง
"ตามฉันมา พวกเราจะไปยังอาณาเขตของฉัน "
และเขาก็ค่อยๆเริ่มเคลื่อนที่ไป
ไม่มีที่อยู่อาศัยใดสำหรับมอนสเตอร์ต่างเผ่าพันธ์จะดีไปกว่าอาณาเขตของมูยอง
ในขณะที่มูยองยังไม่รู้ อาณาเขตของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
โดเกบิกว่า 20,000 ชีวิตได้บุกเบิกพื้นที่นี้ และมนุษย์กำลังแพร่กระจายเหล่าเมล็ดพันธุ์
ในอันเดอร์เวิล์ด พืชส่วนใหญ่จะไม่เติบโต อย่างไรก็ตามในดินแดนของมูยอง พวกมันจะโตขึ้นตราบเท่าที่พวกเขาให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีข้อความสั้นๆปรากฏขึ้น
<อาณาเขตของคุณได้ขยายตัว>
<กว่า 100 เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างได้เข้าร่วม>>
<คุณได้รับลอร์ดพ้อยต์ 300 คะแนน>
<ระดับของทักษะ "ลอร์ด" เพิ่มขึ้น จาก C เป็น B>
<คุณสามารถสร้าง 'ปราสาทของลอร์ด' ได้ คุณสมบัติของการไม่ถูกพังทลายจะถูกเพิ่มเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างที่ถูกกำหนดให้เป็นปราสาท ถ้าปราสาทของคุณถูกยึด คุณจะสูญเสียคุณสมบัติในฐานะลอร์ด>
ระดับที่สูงขึ้นและปราสาท
มันทำให้เขาดูสมกับฐานะลอร์ดมากขึ้น
เมื่อมูยองก้าวเข้าไปในดินแดนของเขา คนแรกที่เข้ามาทักทายคือบาลตัน และเซฮุน
ทั้งสองคุกเข่าลงข้างตรงหน้าเขาด้วยดวงตาที่หนักแน่น
"โอมที่เคารพ! โปรดยอมรับการต่อสู้ของเราด้วย "
"เคารพท่านลอร์ด"
อย่างไรก็ตามด๊อกซินีเซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงจังในขณะที่บาลตันพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ ตั้งแต่เริ่มต้นเนื่องจากบาลตันเป็นอันเดธ อารมณ์ของเขาก็ถูกครอบงำไว้
อย่างไรก็ตามเขามีความมุ่งมั่น
มันเป็นการต่อสู้กับความภาคภูมิใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของมนุษย์และโดเกบิ พวกเขาจะไม่ประมาทกับมัน
อย่างไรก็ตาม มูยองส่ายหัว
"ก่อนอื่น ทำพื้นที่รองรับพวกเขา การต่อสู้จะเริ่มขึ้นหลังจากนั้น "
ทาสทั้งสองพันยืนอยู่ข้างหลังมูยอง
เอลฟ์ สัตว์ป่า คนแคระ และอื่นๆ กว่า 100 เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างได้ถูกรวบรวมมา แต่สภาพของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ดีสักเท่าไหร่
พวกเขากำลังทุกข์ทรมานจากการขาดสารอาหาร ทุกคนได้รับบาดเจ็บและเต็มไปด้วยความกลัวจางๆ
พวกเขาต้องการสถานที่ที่ต้อนรับพวกเขา
"ข้าจะนำทางพวกเขาเอง ตามข้ามา "
ไอรีนเป็นผู้ที่เดินตรงไปหาพวกเขาซึ่งยืนอยู่ระหว่างบาลตันกับเซฮุน
ขณะที่บาลตันและเซฮุนมัวแต่จ้องหน้ากันด้วยความกระหายการต่อสู้ ไอรีนก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่ต้องกลายเป็นหน้าที่ของเธอ
ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ เธอยิ้มอย่างสดชื่นและนำพาพวกทาสไป
และการ์มูสก็พูดในขณะที่เขาเห็นโดเกบิจำนวนมากจากระยะไกล
“นี่เป็นอาณาเขตของนายท่านเหรอ?”
"ถูกต้อง"
"คงจะมีหลายสิ่งที่ข้าต้องทำ"
การ์มูสยิ้มเล็กน้อย
เขาพูดมันหลังจากมองดูสิ่งปลูกสร้าง
มีงานมากมายสำหรับคนแคระ
มูยองพยักหน้าขณะที่เดินไปข้างหน้า
'หลังจากจัดการเรื่องอาณาเขตแล้ว ฉันจะไปหาพันธมิตรพลั่วสามกระสอบ'
เขาจำเป็นต้องทำสิ่งต่างๆตามลำดับที่เหมาะสม
*
ในเวลาเดียวกัน
ผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ต่างแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
พวกเขาพุ่งเป้าไปที่ดวงดาวสีแดงที่พิเศษบนนั้น
การปรากฏตัวของดาวดวงใหม่ทำให้ทุกคนรู้สึกกังวล
ถ้าพวกเขาได้รับมัน ดวงดาวจะมอบความแข็งแกร่งแก่พวกเขาอย่างก้าวกระโดด และถ้าพวกเขาไม่ได้ มันจะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้พวกเขาต้องฝ่าฟัน ผู้นำขององค์กรขนาดใหญ่ทั้งหมดลุกขึ้นพร้อมๆกัน
"ดาวดวงนี้ชื่ออะไร?"
ในบรรดาผู้คัดเลือกมักจะมีคนที่ศึกษาเกี่ยวกับดวงดาว
องค์กรขนาดใหญ่จะมีห้องวิจัยอย่างน้อยหนึ่งห้อง และพวกเขาจะศึกษาดวงดาวที่มีอยู่เพื่อประมาณเวลาที่ประตูมิติจะเปิดขึ้นหรือเมื่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ
ผลจากการวิจัยบางสถานที่กล่าวว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้นในอีกสิบปีนี้ แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของดาวดวงใหม่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องศึกษาเช่นกัน
และชื่อของดวงดาวก็สามารถหาคำตอบได้ง่าย
"ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ ... นั่นคือชื่อเรียกของมัน"
"ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ?"
พวกเขาขมวดคิ้วขึ้นหลังจากได้ยินชื่อ
เป็นชื่อที่อวดดีอะไรอย่างนี้!
ไม่มีใครสามารถบอกว่าตัวเองสมบูรณ์แบบได้
เหมือนกันสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 10 คนที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์
ชื่อของความสมบูรณ์แบบนั้นมีน้ำหนักที่มากเกินไป
แต่ดวงดาวที่เกี่ยวข้องกับชื่อนั้นกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า
"หามัน ค้นหาว่าใครเป็นเจ้าของดาวดวงนี้! เจ้าต้องพบมันเร็วกว่าคนอื่นๆ"
องค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ทุกแห่งเริ่มเคลื่อนไหว
เป้าหมายของพวกเขาคือสิ่งเดียว
เพื่อค้นหาเจ้าของดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ!
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถหาผลลัพธ์ใดๆได้
มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน
สถานที่ที่พวกเขาอยู่คือดินแดนของมนุษยชาติ
แล้วพวกเขาจะค้นพบมูยองผู้ที่กำลังขยายอิทธิพลของตัวเองอยู่ในดินแดนของเทพปีศาจได้อย่างไร?