[KotB] บทที่ 77: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (2)
บทที่ 77: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (2)
มูยองขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่ใช่ที่นี่งั้นเหรอ ? แล้วพวกเขาสมควรไปสู้กันที่ไหน?
จากปฏิกิริยาของผู้คนโดยรอบ ดูเหมือนว่านี่เป็นการย้อมแพ้อันเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
โอโลเนส ถูกคิดว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แข็งแกร่งเสียจนฝ่ายตรงข้ามของเขาจะต้องพากันยอมแพ้
และในจิตใจของพวกเขาไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ฝ่ายตรงข้ามของโอโลเนสจะต้องตกตายไม่ก็พบชะตากรรมที่ไม่ต่างจากนั้น
แล้วทำไม?
‘ชายผู้ที่ไม่มีใครรู้จัก’
มูยองมั่นใจอย่างหนึ่ง
โอโลเนสเป็นปีศาจ หนึ่งในบริวารของลำดับ 3 วาสซาโก
อย่างไรก็ตามไม่มีใครในอันเดอร์เวิล์ดที่รู้จักตัวตนของมูยอง
เนื่องจากมันไม่น่าเป็นไปได้ สำหรับเทพปีศาจ หรือราชันย์ปีศาจ รวมทั้งสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ต่างๆจะมาสนใจเรื่องราวปัจจุบันของเขา
เหนือสิ่งอื่นใด มูยองสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างความจริงและการโกหกได้ชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากได้รับความบริสุทธิ์จากการปลุกพลัง
นั่นหมายความว่า เขาสามารถตรวจจับอารมณ์ของคนอื่นได้ไม่ว่าจะแผ่วเบาแค่ไหน
อารมณ์ที่มีอยู่ในคำพูดของโอโลเนสใกล้เคียงกับ 'ความกระหายใคร่รู้'
ความอยากรู้อยากเห็น ความปรารถนาที่จะศึกษาคนอื่น!
'มันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉันเหรอ?'
มูยองก้ามผ่านขีดจำกัดของเขาเมื่อปลุกพลังสำเร็จ
ไม่เพียงแต่ทะลุผ่าน แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ควรจะเป็นไปไม่ได้ในขั้นตอนนี้
อย่างไรก็ตามไม่มีมอนสเตอร์ใดในสังเวียนเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา
ดูเหมือนโอโลเนสเท่านั้นที่สังเกตเห็นว่า มูยองแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากที่ได้รับการปลุกพลัง มีบางครั้งที่มันจ้องมาที่มูยอง
แม้ว่าจะเป็นเพียงประโยคเดียว แต่ก็รู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่จะชนะ และความอยากรู้
'ดูเหมือนมันต้องการเวทีที่ใหญ่กว่านี้'
มูยองพยักหน้า
ดูเหมือนว่ามันจะพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับเขาเช่นกัน
ถ้าโอโลเนสต้องการต่อสู้อย่างงดงามบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ มูยองก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ข่าวลือเกี่ยวกับ มูยองแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ชนะติดต่อกัน 10 ครั้ง ตอนนี้เขามีสิทธิที่จะย้ายไปยังชั้นถัดไป
อย่างไรก็ตามเขาได้รับความสนใจมากขึ้น จากการเป็นโดเกบิผู้ซึ่งโอโลเนสขอยอมแพ้
และดูเหมือนว่าคนแคระเฒ่าก็ได้ยินข่าวลือนี้เช่นกัน
"จริงเหรอที่โอโลเนส ยอมแพ้?"
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ขณะมองไปที่มูยองราวกับไม่สามารถเชื่อมันได้
เหตุผลที่ทำให้เขาตกใจนั้นเป็นที่เข้าใจได้ง่าย
ในบรรดามอนสเตอร์ สถานะของโดเกบิเป็นที่รู้กันว่าต่ำต้อย
แม้ว่าจะมีด็อคซินี แต่ก็แค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น เหล่าโดเกบิถือเป็นมอนสเตอร์ที่ทำได้แค่ร่อนเร่พเนจรไปรอบๆขอบชายแดน
ดังนั้นพวกเขาจึงรอการปรากฏตัวของตัวตนที่แข็งแกร่งอย่าง 'โอม'
ถึงจะน่าแปลกใจที่มูยองชนะการต่อสู้ทั้งหมดของเขา แต่ไม่มีใครคาดคิดว่โอโลเนสจะยอมแพ้ไปด้วยตนเอง
ในทางตรงกันข้ามพวกเขาคิดว่าโอโลเนสจะต้องทำลายมูยองจนสิ้นซากด้วยซ้ำ
“ถูกต้อง”
แคร๊ง!
เมื่อมูยองยืนยัน คนแคระเฒ่าผลักตัวไปชิดกับผนัง
"โอโลเนสไม่เคยยอมแพ้จากการต่อสู้ มันคงกลัวจนวิ่งหนีไปแล้วสินะ! "
คนแคระเฒ่ารู้สึกหดหู่
เพราะโอโลเนสเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ฆ่าลูกชายของเขา
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่มูยองปฏิเสธมัน
"มันไม่ได้หนีไป ยังไงก็ตามโอโลเนสหลีกเลี่ยงฉัน ดังนั้นฉันไม่มีทางเลือก "
วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้พันธมิตรสามพลั่วกระสอบสร้างอุปกรณ์ให้เขา คือการช่วยเหลือคนแคระเฒ่า
ถ้าคนแคระเฒ่าให้ความร่วมมือ สิ่งต่างๆย่อมสามารถแก้ไขโดยง่าย
ถ้าเป็นไปได้ มูยองวางแผนที่จะขอให้ผู้ก่อตั้งพันธมิตรพลั่วสามกระสอบ"บาร์ทาสต์ ค้อนเทพเจ้า"สร้างไอเทมให้
อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้เขาต้องการความตายของโอโลเนสมาแลกเปลี่ยน
ถ้าโอโลเนสต้องการหลีกเลี่ยง เขาก็ไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้น
คนแคระเฒ่าส่ายหัว
"ไม่ ตั้งแต่จากชั้น 2 นายสามารถบังคับเลือกคู่ต่อสู้ได้ และถ้าใครปฏิเสธจะต้องกลายเป็นทาส ด้วยนิสัยของมันคงยอมตายมากกว่าที่ต้องตกอยู่ใต้อาณัติผู้อื่น "
"ถ้าอย่างนั้นก็ดี คุณแค่รอ"
มูยองหันร่างของเขากลับไป
เขามาที่ร้านค้าทาสเพื่อฟังความคิดเห็นของแคระเฒ่าเท่านั้น
เพื่อดูว่าทัศนคติในปัจจุบันของเขาเป็นเช่นเดียวกับครั้งเมื่อพวกเขาได้พบกันหรือไม่
โชคดีที่ดูเหมือนหัวใจของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป
"พาฉันไป พาฉันออกไป! ถ้านายต้องการที่จะฆ่ามันจริงๆ นายต้องการความช่วยเหลือจากฉัน "
ขณะที่เขากำลังจะออกไป คนแคระเฒ่าก็ตะโกนขึ้นมา
เมื่อเขามองไปกลับไป คนแคระเฒ่าก็เปิดปากพูดอีกครั้ง
“ตอนแรกฉันไม่แน่ใจ คิดว่านายกำลังล้อเล่นกับฉัน แต่ฉันเดาผิด นายเป็นของจริง นายคือความหวังสุดท้ายของฉัน!”
ความบ้าของเขาหายไป
และส่งคำพูดออกไปเพื่อชักจูงมูยอง
"ถ้านายต้องการสู้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีคนดูแลอุปกรณ์ต่างๆ และถ้าพูดถึงเรื่องการซ่อมอุปกรณ์ มีคนจำนวนน้อยนิดที่สามารถทัดเทียมฉันได้ โปรดให้ฉันช่วยนาย ใช้อุปกรณ์ที่ฉันเป็นคนดูแลตัดหัวมัน! "
ตึง! ตึง!
คนแคระเฒ่าโขกศีรษะของเขาไปสู่กรง
เขาเห็นแสงแห่งความหวังผ่านตัวมูยอง
จนถึงตอนนี้เพื่อเอาใจเขา หลายคนพูดจาดีแต่มันทุกคนต่างโกหก
ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับโอโลเนสได้ กระทั่งยังวิ่งหนีจากไปด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามโดเกบิที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างออกไป
ถ้าโอโลเนสตั้งใจหลีกเลี่ยงมูยองจริง นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการช่วยบรรเทาความหวังในหัวใจและจิตวิญญาณของเขา
หากอาวุธที่เขาใช้ในการแทงทะลุคอของโอโลเนสไม่เพียงพอต่อการการแก้แค้นจะทำอย่างไร
มูยองยืนอยู่ที่นั่นและมองไปที่คนแคระเฒ่า
จริงๆแล้วอุปกรณ์จำนวนมากจะค่อยๆสูญเสียความทนทานของพวกมัน
ไม่มีเผ่าพันธ์ใดสามารถเทียบฝีมือช่างของคนแคระได้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบำรุงรักษา ดูเหมือนจะเหมาะที่ให้เขาได้ทำงานนั้น
มูยองยังต้องต่อสู้อีกอย่างน้อย 12 ครั้ง ดังนั้นก็ไม่เลวที่จะได้รับความช่วยเหลือบ้าง
เขาค่อยๆเดินไปที่กรงขัง
<ต้องการ 50,000 ออนเพื่อซื้อคนแคระ>
<คุณต้องการซื้อหรือไม่?>
ขณะที่มูยองพยักหน้า กับเสียงกังวาลของกรงเหล็ก ลูกกรงก็เริ่มลดลง
หลังจากนั้นหน้าผากของชายชราคนนี้ก็ถูกตีตราด้วยคำว่า มูยอง
มันเป็นตราสัญลักษณ์ของทาส
ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นคนแคระฆ่าตัวตายหลังจากที่ได้รับการตีตรา เนื่องจากพวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีความหยิ่งทระนงในตนเองสูง
ยังไงก็ตามไม่มีการฆ่าตัวตาย คนแคระเฒ่าคุกเข่าลงตรงหน้ามูยอง
"ข้าชื่อ การ์มูส ช่างตีเหล็กชั้นสูงของเผ่า 'ค้อนทองคำ'
วิธีการพูดของเขาเปลี่ยนไป
เพียงเพราะทาสถูกตีตรา ไม่ได้หมายความว่าคุณได้รับความเคารพ
ทั้งหมดเป็นเพราะอำนาจที่เพิ่มขึ้นของเจ้าของ เพื่อให้พวกเขาจะไม่สามารถทำอันตรายต่อเจ้านายตัวเองได้
ถึงไม่ใช่ความจงรักภัคดี แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะปฏิบัติตาม
หลังจากนั้นดวงตาของการ์มูสก็ประกาย
"ถ้าท่านฆ่าโอโลเนสได้ ชีวิตของข้าจะเป็น... "
"ผมม่ต้องการมัน"
เป็นการตอบกลับในทันที
การ์มูสมีทีท่าแสดงออกแปลก ๆ
อย่างไรก็ตาม มูยองระบุว่าการ์มูสจำเป็นต้องทำอย่างไรบ้าง
"คุณซ่อม และผมสู้ นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องให้ความสำคัญ "
เขาจะอุทิศชีวิตของเขาหรือไม่นั่นเป็นเรื่องในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม การ์มูสยิ้มให้กับการตอบสนองที่เย็นชาของมูยอง
ราวกับว่าเขาเลือกตามคนที่เหมาะสมแล้ว
"ไว้ใจข้าได้เลย"
ด้วยออนซ์ที่เหลืออยู่ เขาซื้ออุปกรณ์ที่การ์มูสจำเป็นต้องใช้
ไม่ใช่การลงทุนที่แย่ หากมันเป็นสิ่งที่การ์มูสจะต้องใช้มันเป็นประจำ
นอกจากนี้ ยิ่งช่างตีเหล็กทุ่มเทจิตใจให้กับการซ่อมอุปกรณ์เท่าไหร่ โอกาสที่ความสามารถของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นก็มากขึ้นเท่านั้น
"ฉันต้องการเห็นทักษะของการ์มูส"
ปัญหาคือกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยากมาก
มันสร้างบางอย่างขึ้นมาจากความว่างเปล่า เป็นความสามารถที่เกิดขึ้นสำหรับคนแคระที่มีฝีมือเท่านั้น
การ์มูสกล่าวด้วยตัวเองว่าเขาเป็นช่างตีเหล็กชั้นสูง
ดูเหมือนเขาจะคาดหวังอยู่ไม่น้อย
นอกจากดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้แล้ว มูยองยังส่งมอบอุปกรณ์ทั้งหมดไปให้เขาเพื่อรับการบำรุงรักษา
"ชุดเกราะของท่านชำรุด มันอาจกินเวลามากหน่อย เพราะทักษะของคนที่สร้างอุปกรณ์นี้เชี่ยวชาญพิเศษ "
เกือบทุกอุปกรณ์ที่สวม มูยองได้รับจากการทดสอบ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกมันที่จะทรุดโทรม
เขาไม่เคยไว้ใจมอบมันให้ผู้ใด ความทนทานของชุดเซ็ทกษัตริย์คลั่งลดลงไปไม่น้อยทีเดียว
"คุณสามารถซ่อมแซมมันได้หรือไม่?"
"ไว้ใจข้าได้เลย" ข้าจะแสดงทักษะให้ท่านชม "
การ์มูสยกค้อนขึ้นอย่างมั่นใจ
แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!
การ์มูสขยับมือด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ
การซ่อมแซมถูกทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงในการซ่อม 1 ชิ้น
การ์มูสยังไม่ได้พัก อย่างหนักแน่นเและมีสมาธิสูงเขาก็ทุบตีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากผ่านไป 5 วัน การ์มูสกับใบหน้าซีดเซียวได้แสดงอุปกรณ์ที่ซ่อมแล้วให้มูยอง
"... พวกมันถูกซ่อมแล้ว"
“มหัศจรรย์มาก”
ด้วยความซื่อสัตย์หลังจากมองไปที่อุปกรณ์ที่เสร็จสิ้นแล้ว มูยองก็ต้องแปลกใจ
มูยองไม่ได้เห็นคนแคระมากมาย แต่ในหมู่พวกเขาทักษะของ การ์มูสดีพอที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นชั้นยอด
อุปกรณ์ที่เขาทิ้งไว้กับเขา พวกมันดูเหมือนกับของใหม่
ความทนทานของอุปกรณ์บางส่วนได้เพิ่มขึ้นจริงๆ
'สเตตัสของเกราะเงาเปลี่ยนไป'
น่าแปลกใจสุดๆเมื่อเกราะเงาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ชื่อ: เกราะเงา
อันดับ: B+
ประเภท: อุปกรณ์สวมใส่
ความทนทาน 22,000
ผลกระทบ: อุปกรณ์ได้รับการปรับปรุง โดยช่างตีเหล็กการ์มูส
* Agi +5
* ช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายไปยังเงาภายในวิสัยทัศน์ของคุณได้ 3 ครั้งต่อวัน
Agi +5 เป็นสเตตัสที่ไม่มีอยู่ก่อนหน้านี้
เขาสร้างบางอย่างขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้จริงๆ
นี่เป็นสิ่งที่มีแค่เฉพาะผู้เชี่ยวชาญจริงๆเท่านั้นที่ทำได้
"ข้าหวังว่าจะทำงานร่วมกับท่านได้เป็นอย่างดี"
การ์มูสยิ้มขณะที่มองไปที่การแสดงออกของมูยอง
*
มูยองออกจากชั้น 5 และมุ่งหน้าลงไปที่ 4
ขณะที่เขาเดินไปตามทางของลีฟวิงอาร์มเมอร์และเข้าสู่สังเวียนรบ มีมอนสเตอร์ประมาณ 10 ตัวกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
"มีการต่อสู้แบบ 5 vs 5 ที่ชั้น 4 ด้วย แน่นอนว่าคุณสามารถต่อสู้ได้ตามลำพัง แต่ปกติแล้วมันย่อมดีกว่าที่จะหาเพื่อนต่อสู้ ยังไงก็ตามยังคงต้องระวังหลังของตัวเองไว้ แม้ว่าจะอยู่ทีมเดียวกัน แต่พวกเขาก็สามารถทรยศต่อคุณได้เสมอ "
การ์มูสให้คำแนะนำแก่มูยอง
เขาเป็นทาสที่ต้องติดตาม แม้ว่ามูยองจะปฏิบัติกับเขาเป็นเหมือนวัตถุ
ตาของมูยองหันไปมองที่เวทีอีกครั้ง
"จงปรากฎ สิ่งกีดขวาง จงแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งขึ้นอีก! "
เป็นใครบางคนที่เขาจับตาดูอยู่
บัค
ในช่วง 5 วัน ที่มูยองกำลังซ่อมอุปกรณ์ของเขา บัคดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในการชนะ 10 ครั้ง และมุ่งหน้ามายังที่ชั้น 4
มี 3 คนที่อยู่ทีมเขา
ดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกันในตอนแรก
พวกเขามีการประสานงานกันเป็นอย่างดี ทำให้สามารถเอาชนะการต่อสู้ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย
การประสานงานของพวกเขาดีมาก
หลังจากแสดงความเห็นสั้นๆ เขาก็กำลังจะจากไป
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องหยุดอย่างกระทันหัน เมื่อเห็นว่าใครที่ปรากฏตัวเป็นคนต่อไป
"โอ, โอโลเนส!"
กรอดดด!
การ์มูส กัดฟันแน่น
เป็นเพราะโอโลเนสปรากฏตัวขึ้นในสังเวียนเพียงลำพัง
โดยที่ฝ่ายตรงข้ามของมันคือชายจากเผ่าดาร์คเอลฟ์ 5 คน
"แม้ว่าแกจะถูกเรียกว่าผู้สังหาร แต่แกเอาชนะพวกเราทั้งห้าคนไม่ได้หรอก"
"พวกอ่อนแอมักจะพูดคำเหล่านั้นเมื่อพวกมันอยู่กันเป็นฝูง"
เป็นที่รู้ดีกันว่าดาร๋คเอลฟ์เป็นสายพันธุ์ที่มีความคล่องตัวสูง
พวกเขาล้อมรอบโอโลเนสทันทีเมื่อเริ่มการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม มันไร้ความหมาย
ขณะที่โอโลเนสแยกเขี้ยว บริเวณพื้นที่รอบๆก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกมืด
หลังจากนั้นมือลึกลับก็ยื่นออกมาจากพื้น และคว้าข้อเท้าของดาร์คเอลฟ์เอาไว้
ดาร์คเอลฟ์ถูกดึงเข้าไปใต้พื้น
"ลูกชายของข้า ลูกของข้าก็ถูกดูดเข้าไปในนั่นด้วย!"
มูยองจับไหล่ของการ์มูสเอาไว้ขณะเขาพยายามวิ่งเข้าไปในสังเวียนแข่งขัน
"อดทนไว้"
"ตะ-แต่"
"คุณเป็นคนซ่อม ส่วนคนที่ต้องสู้คือผม"
“…ข้าเข้าใจแล้ว”
ในขณะที่มูยองเน้นย้ำบทบาทของพวกเขาอีกครั้ง การ์มูสก็ข่มใจและก้าวถอยไปด้านหลัง
"มันรู้วิธีใช้ทักษะประเภทวิญญาณ"
เป็นทักษะที่คล้ายคลึงกับเขา
ต่างจากชั้น 5 เขารู้สึกเหมือนว่าสามารถเฝ้าดูโอโลเนสต่อสู้ในชั้น 4 ได้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าเขารวบรวมข้อมูลและเตรียมพร้อม โอกาสที่ได้รับชัยชนะจะเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่การต่อสู้ถูกชะลอไว้ ก็ไม่มีอะไรสายเกินไปที่จะสู้เมื่อเขามั่นใจมากขึ้นว่าจะชนะ
หลังจากที่ได้เห็นด้านใหม่ของโอโลเนสแล้ว มูยองเดินจากไปอีกครั้ง
มีคนมาหาพวกเขาในเวลาไล่เลี่ยกับที่เขามาถึงห้องที่ถูกจัดไว้ให้
ทันทีที่การ์มูสเปิดประตูหลังจากได้ยินเสียงเคาะ ชายที่มีท่าทางอึดอัดก็เข้ามาและเปิดปากของเขา
"อืมมม เราสามารถคุยกันสักหน่อยได้มั้ย?"
ท่าทางของเขาดูกังวลใจมาก
มูยองมองไปที่ผู้มาเยี่ยม ราวกับว่าไม่ได้คาดคิดไว้
ชายผู้ที่ถือไม้เท้าเดินมาหาเขาถึงห้อง ในขณะที่มีเหงื่อไหลซึมผู้นี้ก็คือ บัค