ตอนที่แล้วบทที่ 23 ข่าวจากพี่จี (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 จีหลี่เหลียนเคอผู้แสนดี (อ่านฟรี)

บทที่ 24 ปฏิเสธไม่ได้ (อ่านฟรี)


 

จีหลี่เหลียนเคอดื่มอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายแก้ว เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามว่า "เรื่องอะไรล่ะ?"

 

"พี่จีหลี่เหลียนเคอ ผมรู้สึกผิดที่ผมคดโกงคุณ" เฝิงหยู่กล่าว

 

"เธอหลอกฉัน? เธอหมายความว่าอะไร? " จีหลี่เหลียนส่ายหัวอย่างรู้สึกงงงวย

 

"จำครั้งสุดท้ายที่ผมพาคุณไปซื้อสินค้ากลับประเทศได้หรือแปล่าครับ? อันที่จริงมูลค่าของสินค้าเหล่านั้นน้อยกว่า 70,000 หยวน แต่ผมกลับบอกคุณว่า 80,000 หยวน เพราะผมคิดว่าคุณคงไม่มาที่นี่อีก ผมถึงได้หักค่าคิวไว้จำนวนหนึ่ง นี่เองจึงทำให้ผมรู้สึกผิดอย่างมาก พรุ่งนี้ผมจะคืนเงินให้คุณ และคราวนี้ผมขอสัญญาว่าจะไม่โกงราคาซื้อขายของคุณอีก" เฝิงหยู่กล่าว

 

หลี่ซื่อเฉียงกินถั่วลิสงด้วยท่าทางสบาย ๆ ทันใดนั้นเอง เขารู้สึกหนาวยะเยือกเข้ากระดูกสันหลังของเขา นี่พึ่งจะเป็นเดือนมิถุนายนเอง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกหนาวสั่นอย่างนี้ได้?

 

เขาเงยหน้าขึ้นมอง และพบว่าการสนทนาไม่เป็นที่รื่นเริงนัก ชายหนุ่มจากสหภาพโซเวียตนี้ดูราวกับเกรี้ยวโกรธ และตอนนี้เขากำลังจ้องเขม็งเสี่ยวหยู่

 

"ฉันไว้ใจเธอ และเธอกลับคดโกงฉัน หรือมิตรภาพระหว่างพวกเราไม่ได้สวยงามหอมหวานเหมือนประเทศของพวกเราหรือ? " จีหลี่เหลียนเคอถามอย่างโกรธเคือง

 

"ตอนนั้นพวกเราไม่ได้เป็นมิตรสหายกัน แต่ตอนนี้พวกเราเป็นสหายกันแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องบอกความจริงกับคุณ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับผมอีกต่อไป ก็ไม่เป็นไรครับ " เฝิงหยู่กล่าว แสร้งตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ

 

จีหลี่เหลียนเคอนึกถึงการเดินทางครั้งล่าสุดของเขา สินค้าที่เขาซื้อมาครั้งล่าสุดบันทึกเฉพาะจำนวนที่ซื้อ แต่ไม่มีราคาในใบเสร็จ ดังนั้น เขาจึงอ้างว่าเขาใช้เงิน 80,000 สกุลรูเบิ้ลในการจ่ายซื้อสินค้าเหล่านั้น ไม่ใช่ซื้อด้วยเงินหยวน

 

ถึงแม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่เขามอบให้คนอื่นๆเป็นของฝาก แต่เขาก็ยังทำเงินได้เป็นจำนวนมากจากการขายสินค้าที่เหลืออยู่ เวลานี้ จีหลี่เหลียนเคอเดินทางมาที่ประเทศจีนคนเดียว ด้วยเพราะอยากปกปิดไม่ให้ผู้อื่นรู้ราคาที่แน่นอนของสินค้าเหล่านี้ เขาอยากที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อที่เขาจะสามารถซื้อวอดก้าดื่มได้ทุกวัน

 

ถ้าเฝิงหยู่ไม่ได้อยู่ช่วยเขาในตอนนั้น สินค้าที่เขาหาซื้อได้ในประเทศจีนคงไม่ราคาถูกได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งทำกำไรให้เขาอยู่มากโขในตอนที่เขากลับรัสเซีย  ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงอยากจะกลับมาร่วมธุรกิจระยะยาวด้วยกันต่อ พร้อมกันนี้เขาได้จัดเตรียมเรื่องการขนส่งผ่านทางขบวนรถไฟแล้ว

 

เฝิงหยู่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้  เขาคดโกงไปเพียง 10,000 หยวนเท่านั้น  เมื่อเทียบกับสิ่งที่ตัวเขาเองได้รับ มันไม่ถึง 10%เลยด้วยซ้ำ ก็ถือเสียว่าเป็นค่าทิปในการทำงานอย่างหนักของเฝิงหยู่ก็แล้วกัน แต่คราวหน้า เขาอาจจะต้องพิจารณาใหม่ว่าจะร่วมธุรกิจกับเฝิงหยู่ด้วยหรือไม่

 

จีหลี่เหลียนเคอยิ้มหน้าแป้น เผยให้เห็นรอยยิ้ม "เธอกำลังพูดถึงอะไร? แน่นอน เธอยังเป็นเพื่อนของฉันเสมอ เธอสมควรได้รับ 10,000หยวนนั้นเป็นค่าตอบแทน ยังไงเสียก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วจึงอย่าได้พูดถึงเรื่องนี้อีก เรามาหารือเกี่ยวกับสินค้าที่ฉันอยากจะซื้อในครั้งนี้กันดีกว่า "

 

เมื่อชายหนุ่มชาวโซเวียตยิ้มแย้ม  หลี่ซื่อเฉียงจึงรู้สึกโล่งใจ ตอนนี้ เขากังวลเพียงแค่ว่า ถ้าฝรั่งล่ำสันผู้นี้คิดอยากจะต่อยพวกเขา อย่างพวกเขาจะสู้ได้เชียวหรือ? มันไม่เกี่ยวกับว่าจะเอาชนะการต่อสู้ได้หรือเปล่า แต่จีหลี่เหลียนเคอเป็นชาวต่างชาติ และไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ แต่หลี่ซื่อเฉียงมั่นใจได้เลยว่าฝ่ายตัวเองมีแต่จะเสียกับเสีย

 

เฝิงหยู่เองก็ยิ้มแย้มด้วยว่า "เยี่ยม นับตั้งแต่ที่คุณถือว่าเราเป็นสหายซึ่งกันและกัน คราวนี้ ไม่ว่าคุณต้องการซื้ออะไร หรือต้องการซื้อมากมายแค่ไหน ผมนี่แหละจะช่วยให้คุณซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกที่สุด นอกจากนี้ คุณจะจ้างล่ามให้มาร่วมเดินทางติดต่อทำการค้าร่วมกันกับพวกเราด้วยก็ได้ "

 

จีหลี่เหลียนเคอโบกมือบอกปัด: "ไม่จำเป็น ฉันเชื่อเธอ!"

 

หลังจากรับประทานอาหารค่ำ จีหลี่เหลียนเคอขอให้เฝิงหยู่พักอยู่ที่โรงแรมนานาชาติต่อ เพราะจีหลี่เหลียนเคอต้องการปรึกษาหารือกับเฝิงหยู่ในยามเย็น เฝิงหยู่จึงบอกให้นายลี่ซื่อเฉียงมารับพวกเขาตอนแปดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ และไม่ลืมที่จะบอกให้เขาไปประสานงานกับเพื่อนที่อยู่ฝ่ายขายหรือการตลาด เพื่อลองสืบดูเผื่อพวกเขาเหล่านั้นมีสินค้าเหลือสต็อก

"เจ้าหนูเฝิงหยู่ อยากจะลองซิก้าหน่อยไหม?"  จีหลี่เหลียนเคอถาม

 

เฝิงหยู่ยิ้มและโบกมือให้ "ไม่ครับ ผมไม่สูบ"

 

"เธอกล้าบ้าบิ่นดี ฉันชอบคนแบบเธอ ตอนนี้ฉันนำเงิน 300,000 รูเบิ้ลติดตัวมาด้วย และฉันจะใช้เงินทั้งหมดในการซื้อสินค้าต่างๆ อย่าง แฮม ผลไม้กระป๋อง ลูกอม ฯลฯ สินค้าเหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบกันมาก ส่วนผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ก็กลายเป็นที่นิยมอย่างสูง " จีหลี่เหลียนเคอกล่าว

 

ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้? นั่นคือปลอกหมอน! แต่ช่างมันเถอะ ในเมื่อคุณคิดว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้าไปแล้ว ก็ให้มันเป็นผ้าเช็ดหน้าไปละกัน เพราะอย่างไรเสีย คุณก็เป็นคนจ่ายเงิน คุณจึงสามารถเรียกมันว่าอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ

 

"ไม่มีปัญหาครับ วันพรุ่งนี้คุณก็แค่มาพร้อมกันกับผม และหาซื้อสิ่งที่คุณต้องการ  ส่วนผมจะช่วยคุณต่อรองราคา และผมรับประกันได้ว่าคุณจะได้ราคาที่คุณพึงพอใจ แต่คราวนี้คุณต้องการซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก คุณจะนำสินค้าเหล่านั้นกลับประเทศอย่างไร? " เฝิงหยู่ถาม

 

เฝิงหยู่รู้สึกอยากรู้อยากเห็น เพราะการจัดส่งสินค้าทางอากาศมีราคาแพงอย่างยิ่ง

 

"ส่งทางรถไฟ. ฉันมีเพื่อนที่ช่วยฉันเรื่องรถพ่วงขนส่งทางรถไฟ ดังนั้นเรื่องการขนส่งจึงไม่เป็นปัญหา และฉันต้องเดินทางกลับด้วยรถไฟด้วยเช่นกัน " จีหลี่เหลียนเคอตอบ

 

เฝิงหยู่ได้แต่อิจฉา การมีสายสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นๆก็หมายถึงการมีทางเลือกและหนทางต่างๆในการต่อยอด จีหลี่เหลียนเคอจัดหารถพ่วงรถไฟที่ใช้ลำเลียงสินค้ากลับประเทศได้ง่ายดายราวกับการซื้อกะหล่ำปลีจากตลาด

 

ทั้งสองคุยกันสักครู่หนึ่ง และเข้านอน ทั้งคืนมีเสียงกรนของจีหลี่เหลียนเคอดังสนั่น เฝิงหยู่จึงรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ค้างคืนต่อที่โรงแรมนานาชาติ เขาควรจะปฏิเสธที่จะนอนค้างแรมที่ห้องของจีหลี่เหลียนเคอ เพราะกรนนี้ดังสนั่นปานเลื่อยไฟฟ้า

 

เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ซื่อเฉียงขับรถพาพวกเขาไปที่ฝ่ายขายและการตลาดของสหกรณ์หนึ่ง ผู้จัดการซูผู้ซึ่งได้รับข่าวการมาเยือนของพวกเขา จึงได้ออกมารอที่ประตู

 

"ผู้จัดการซู เราได้ร่วมงานกันอีกครั้ง ครั้งนี้คุณมีอะไรดีๆที่จะแนะนำหรือเปล่า?  " เฝิงหยู่ถาม

 

" แน่นอน พ่อหนุ่ม ก็มีจำพวกอาหารกระป๋อง บิสกิต นมผง ถ้าพวกเธอซื้อสินค้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ฉันจะเสนอราคาพิเศษให้" ผู้จัดการซูเอ่ยถึงผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่เป็นที่นิยมนัก

 

ใช่ นั่นคือสิ่งที่หลี่ซื่อเฉียงบอกให้พวกเขาทำตามนี้ เพราะบัดนี้เฝิงหยู่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีหลี่เหลียนเคอ ดังนั้น เขาจึงแปลทุกสิ่งทุกอย่างออกไปตามตรง และพูดความจริงกับจีหลี่เหลียนเคออย่างไม่บิดเบือน

 

จีหลี่เหลียนเคอมองเฝิงหยู่อย่างรู้สึกประหลาดใจมาก เขาจึงคิดกับตัวเองว่า "เฝิงหยู่กำลังบอกฉันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สินค้าขายดี จึงต้องขายในราคาที่ถูกขึ้น เขาไม่คิดอยากจะได้เงินจากการแบ่งส่วนต่างหรือ? เพื่อน! คนแบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนกัน! "

 

"ใช่ ฉันต้องการสินค้าเหล่านี้ทั้งหมด และนั่นก็ด้วย นอกจากนี้ ฉันยังอยากซื้อสินค้าที่ฉันซื้อไปครั้งก่อน เธอลองคิดคำนวณปริมาณที่จะซื้อให้สอดคล้องกับงบที่ฉันมี " จีหลี่เหลียนเคอกล่าว

 

"ผู้จัดการซูครับ ผมสามารถช่วยให้คุณขายสินค้าจำพวกบิสกิต นมผงอะไรเหล่านี้ได้ทั้งหมด ขอถามหน่อยครับ ว่าคราวนี้คุณให้ของแถมอะไรแก่พวกเรา?"  เฝิงหยู่ถาม

 

"พวกเธอต้องการเท่าไหร่ละ?" ผู้จัดการซูรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เด็กคนนี้เก่งกาจด้านการเจรจาต่อรองเสียจริง

 

เฝิงหยู่มองราคาของสินค้าทั้งหมด และหักจากราคาจริงให้เหลืออยู่ที่80 เปอร์เซ็นต์

 

“เป็นไปไม่ได้ เราเปลี่ยนแปลงราคาไม่ได้” ผู้จัดการซูกล่าว

 

"ผู้จัดการซู ยืดหยุ่นบ้างก็ได้ ตอนนี้คุณคือนายจ้างของตัวเอง หรือคุณคิดว่าพวกเราไม่ทราบราคาที่แท้จริงของสินค้าที่คุณนำมาขาย? นอกจากนี้ เราวางแผนว่าครั้งนี้จะจัดซื้อสินค้าจำนวนมาก" เฝิงหยู่กล่าว

 

"ไม่ว่าพวกเธอจะซื้อมากมายเท่าไหร่ ฉันก็ขายให้ในราคานี้ไม่ได้ ฉันสามารถลดให้อย่างมากสุดคือ 3% จากราคารวม! " ผู้จัดการซูตอบ

 

"แล้วถ้า พวกเราซื้อสินค้ามูลค่า 1 ล้านหยวนละ? " เฝิงหยู่นั่งบนเก้าอี้ ขาไขว่ห้าง

 

"เท่าไหร่นะ? 1 ล้านเชียว? " ผู้จัดการซูถาม

 

"ถูกต้องครับ คนที่อยู่ด้านหลังของผมคือเจ้านายใหญ่จากสหภาพโซเวียต ครั้งนี้เขาต้องการซื้อสินค้ามากมายจนเต็มพ่วงรถไฟที่ใช้ขนส่งสินค้า เขาซื้อสินค้าอย่างน้อย 1 ล้านหยวน แต่หากคุณไม่สามารถจัดหาสินค้าที่คุ้มค่าและเพียงพอกับมูลค่า 1 ล้านหยวนได้ นั่นก็ไม่มีปัญหาครับ พวกเราสามารถไปที่อื่นก็ได้ ต่อให้ที่อื่นไม่มีสินค้ามากมายหลากหลายเหมือนที่นี่ แต่เรายังสามารถไปหาซื้อสินค้าต่างๆจากหลายๆร้าน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะประหยัดเงินได้ " เฝิงหยู่กล่าว

 

“ไม่ไม่ อย่าไปที่อื่นเลย ไม่มีที่ไหนที่ขายสินค้าได้หลากหลายเหมือนที่นี่หรอก เธอรอสักครู่นะ ฉันจะโทรศัพย์สักแปบ ฉันสัญญาว่าฉันจะสรรหาสินค้าที่จำนวนเพียงพอสำหรับเงิน 1 ล้านหยวน” ผู้จัดการซูกล่าว

 

"ผู้จัดการซู ผมจะไม่ละลาบละล้วงว่าคุณมีรายได้เท่าไหร่จากข้อตกลงนี้ แต่คุณไม่คิดลดราคาลงอีกสักหน่อยเหรอ? " เฝิงหยู่ถาม

 

"ไม่มีปัญหา ฉันจะโทรศัพย์ปรึกษากับซัพพลายเออร์ก่อน แน่ใจได้เลยว่าเธอจะได้ราคาที่ถูกที่สุด ร้านของพวกเราไม่คิดจะโกงนายใหญ่ชาวโซเวียตคนนี้หรอก " ผู้จัดการซูตอบ

 

เฝิงหยู่หันกับไปมองจีหลี่เหลียนเคอ และบอกกับเขาว่า  ผู้จัดการซูต้องการติดต่อกับซัพพลายเออร์ของเขา พร้อมรับประกันว่าพวกเราจะได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกที่สุด เฝิงหยู่ยังเน้นย้ำว่าเขาไม่ยักยอกหรือได้เงินจากการทำธุรกิจครั้งนี้แม้แต่แดงเดียว

 

"ไม่ ไม่ ไม่ สหาย เฝิงหยู่ ฉันต้องจ่ายเงินให้เธอ สักประมาณ 5%ตกลงไหม? แล้วเธอก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่ฉันซื้อมีคุณภาพดี ราคาต่ำ และปริมาณเหมาะสมกับราคา " จีหลี่เหลียนเคอกล่าว

จีหลี่เหลียนเคอมองเฝิงหยู่อย่างระแวดระวัง เขาไม่ต้องการเงินหรือไง? แล้วถ้าเฝิงหยู่คดโกงเขาละ? ไม่สิ จะต้องให้เงินเขา และเซ็นสัญญากับเขา ถ้าเมื่อไหร่ที่เฝิงยู่คดโกง เขาจะแจ้งตำรวจทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด