TXV – 121 เคลื่อนไหวดั่งสายลมโจมตีอย่างหนักหน่วง !
TXV – 121 เคลื่อนไหวดั่งสายลมโจมตีอย่างหนักหน่วง !
วัยรุ่นในบาร์หลายต่อหลายคนกำลังสนุกกันมาก
หลังจากที่อเลน่าได้ดื่มเบียร์เข้าไปหลายแก้วแล้วเธอก็ออกไปเต้นรำอย่างสนุกสนาน เซี่ยเหล่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะเล็กๆ และกำลังคิดถึงเรื่องนี้อย่างช้าๆ ‘ในวันหนึ่งของการทำงาน รอบๆตัวเขาต้องติดต่อกับเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงถึงแปดครั้ง ยกเว้นตอนที่ซ่อมรถจักรยานยนต์ของอเลน่าในเวลานั้นแค่เพียงเจ็ดครั้งที่เขาได้มองเห็นผ่านไปยังเครื่องจักรเจ็ดครั้ง เขาดูโครงสร้างภายในของเครื่องจักรเครื่องนั้นแล้วเก็บบันทึกไว้ในตาซ้ายของเขา ในเวลานี้ความทรงจำของเขาได้จดจำโครงสร้างเหล่านั้นและทำให้เป็นภาพถ่ายในหัวของเขาเรียบร้อยแล้ว’
‘เครื่องจักรที่อเลน่าใช้ไม่ใช่เครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดของเยอรมนี แต่ยังทันสมัยกว่าเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดของประเทศจีนอยู่ ว่ากันว่าความเหลื่อมหล้ำของความทันสมัยของเครื่องจักรนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 ปีกว่าที่จีนจะมีเครื่องจักรที่ทันสมัยเทียบเท่ากับเยอรมัน เราต้องพัฒนาเครื่องจักรของผมเรายังต้องติดต่อเครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย นอกจากนี้โครงสร้างไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญสิ่งเดียว สิ่งสำคัญที่สุดคือโปรแกรมการควบคุมเชิงตัวเลข เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรอย่างไรดี’ เซี่ยเหล่ย กำลังคิดด้วยความหนักใจ
ความแตกต่างของเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงและเครื่องจักรทั่วไปบนการใช้โปรแกรมควบคุมเชิงตัวเลข คือหากเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงไม่มีการใช้โปรแกรมควบคุมเชิงตัวเลข เครื่องจักรจะไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นต้องเข้าใจว่าแค่โครงสร้างของมันยังไม่เพียงพอ แต่ต้องใช้โปรแกรมการควบคุมเชิงตัวเลขด้วย ในตอนนี้เราสามารถเห็นโครงสร้างและจดจำได้ด้วยตาข้างซ้าย แต่ปัญหาใหญ่เลยก็คือจะทำยังไงที่จะทำให้ได้มาซึ่งโปรแกรมควบคุมเชิงตัวเลข?
‘เราต้องหาวิธีที่จะติดต่อแบบจำลองเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงให้มากกว่านี้ ยิ่งทันสมัยยิ่งดี และฉันจะต้องศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมควบคุมเชิงตัวเลข ถ้าฉันสามารถเข้าใจมันได้ดี แต่ถ้าฉันไม่สามารถศึกษามันได้ฉันจะต้องหาวิธีที่จะขโมย ซอฟแวร์หรือไมโครชิปที่เกี่ยวข้องแทน’ เซี่ยเหล่ยได้เตรียมแผนไว้
เขาเป็นคนผู้บริสุทธิ์ในตอนนี้เขาไม่ใช่สายลับ แต่ลึกๆแล้วยังไงเขาก็เป็นหน่วยสืบราชการลับอยู่ดี เขาไม่ได้เป็นคนเลือกหลังจากมาที่นี่เขาไม่มีทางเลือกเลย แต่เขาจะเสร็จสิ้นหน้าที่ในเร็วๆนี้ และเขาจะได้กำจัดความเป็นอันตรายนี้ออกไปจากชีวิตได้ซักที..........
ดีเจในบาร์เปิดเพลงที่มีจังหวะเร้าใจ เหล่าวัยรุ่นบนฟลอร์เต้นรำยังคงครึกครื้น ยังคงเต้นกันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
สายตาของเซี่ยเหล่ยได้มองไปยังเวทีที่กำลังมีเหล่าวัยรุ่นเต้นกันอย่างครึกครื้นเขาสังเกตเห็นอเลน่าได้อย่างรวดเร็ว เพราะบนเวทีเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเพียงคนเดียว มีผู้ชายหลายคนมาเต้นรอบๆตัวเธอ เพื่อพยายามทำให้เธอสนใจ ซึ่งอเลน่าก็ดูเหมือนจะสนราวกับว่าสนุกไปกับความรู้สึกที่คนมาหมุนวนไปมารอบๆเธอ ยิ่งมีผู้คนเยอะเธอก็ดูจะยิ่งสนุกมากขึ้นไปอีก
ในความคิดของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้เธอแตกต่างในขณะที่เธอทำงานอยู่มาก ราวกับว่าเป็นคนละคน !
ในขณะนี้ได้มีวัยรุ่นผิวดำเอามือไปแตะที่ก้นของอเลน่า !
"ทำอะไรหน่ะ..?" อเลน่าหันหน้าเพื่อมองไปยังวัยรุ่นผิวดำ
ใบหน้าของเขายิ้มอย่างไม่รู้สึกผิดกับการกระทำที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย จากนั้นอเลน่าก็พูดด้วยความไม่พอใจไปว่า "คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้?" แต่วัยรุ่นผิวดำนั้นก็ยังคงไม่ตอบสนองอะไร และยิ้มอย่างไม่รู้สึกผิดกับการกระทำเมื่อกี้นี้เหมือนเดิม
"หน้าด้าน!!!" อเลน่าด่าว่าเขา "คุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง..!"
เมื่อเห็นว่าอเลน่าไม่ได้ตอบโต้อะไรนอกจากด่าแล้ว วัยรุ่นผิวดำคนอื่นๆก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป พวกเขาจึงได้ไปแตะก้นของอเลน่าบ้าง
อเลน่ารู้สึกโกรธและไม่พอใจอย่างมากเธอหันไปรอบๆ เธอได้ยกมือขึ้นมาในวินาทีนั้นและตบลงไปยังใบหน้าของวัยรุ่นผิวดำที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างสุดแรง
เสียงตบนี้ดังไปไกลและได้ยินกันอย่างชัดเจน แม้ว่าในบาร์ตอนนี้จะมีเสียงดนดนตรีที่ดังมากๆอยู่ก็ตาม
"นังแพศยา!" วัยรุ่นผิวดำที่โดนตบหน้าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขารู้สึกถึงความอับอายและความอัปยศที่ได้รับท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาไม่รอช้าที่จะยกมือของเขาแล้วจิกไปที่ผมยาวสีทองของอเลน่า ในเวลานั้นอเลน่าก็ไม่รีรอที่จะพยายามเอามือของเขาออกไปจากผม
ผู้รักษาความปลอดภัยประจำร้านกำลังเดินไปที่พวกเขา
วัยรุ่นผิวดำหลายคนทะยอยไปอยู่ด้านหน้าที่เป็นบริเวณปลอดภัยของบาร์อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผิวดำที่ตัวสูงใหญ่ยกนิ้วสักที่มีรอยสักขึ้นและชี้ออกไปพร้อมพูดว่า "อย่าขยับ..!! นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ หากพูดแล้วยังไม่รู้เรื่อง คุณจะกลายเป็นศัตรูกับเรา และสิ่งสุดท้ายที่รอคุณอยู่คือความตายอย่างเวทนา "
การรักษาความปลอดภัยแบบนี้ดูจะได้ผลเป็นอย่างมาก แต่ดูจะไม่ได้ผลกับชายผิวดำกลุ่มนี้เลย......
เซี่ยเหล่ยยืนขึ้นและมุ่งหน้าไปยังฟลอร์เต้นรำแล้วไปหยุดอยู่บริเวณขอบฟลอร์เต้นรำ
อันที่จริงวัยรุ่นผิวดำคนแรกที่จับก้นอเลน่า เซี่ยเหล่ยสามารถจัดการวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้เพียงคนเดียว แต่ปัญหาคือเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจากเมืองเอสเทิร์นจะต้องมาตรวจสอบตัวเขาแน่ๆดีไม่ดีอาจจะต้องเจอกับการผู้ที่มีทักษะการป้องกันตัวระดับสูงเช่นเดียวกับเขา ซึ่งจะทำให้ชาวจีนเป็นจุดสนใจได้จากผู้คนเป็นจำนวนมาก มันเรื่องยากมากที่จะพูดคุยกันให้ชัดเจน นอกจากนี้เขายังต้องเผชิญสิ่งที่ไม่คาดคิดหลายๆอย่างเพราะมันจะขัดกับกฎหมายเยอรมันที่จะส่งผลในภายหลังให้กับเขาและหน้าที่ของหลงบิง ก่อนที่ภารกิจจะสำเร็จ!
ขณะที่เซี่ยเหล่ยยังลังเลกับสถานการณ์ วัยรุ่นผิวดำที่จิกผมของอเลน่า พวกเขาพาอเลน่าเดินตรงไปยังประตูหลังร้าน.......
อเลน่าตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่างเสียงดัง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่คนเดียว เพราะสำหรับคนแปลกหน้าแล้วไม่มีใครกล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับแก๊งอันธพาลชื่อดังของพื้นที่นี้
เซี่ยเหล่ยได้เดินไปยังประตูหลังและออกไปก่อนที่สมาชิกของแก๊งที่เหลือจะเดินมาถึงเพื่อตามไปสมทบ
ภายนอกประตูหลังเมื่อออกมาแล้วจะเป็นซอยเปลี่ยวๆ มีการวางถังขยะขนาดใหญ่มากหลายถังซึ่งภายในก็มีขยะเต็มไปหมดส่งกลิ่นเหม็นออกไปทั่วทุกทิศทาง โดยกลิ่นเหม็นเปรียบเสมือนกำแพงทำให้ไม่มีใครต้องการที่จะเข้ามาใกล้ที่นี่
เซี่ยเหล่ยได้ถอดเสื้อของตัวเองออกและเอามาคลุมหน้าไว้จากนั้นจึงไปซ่อนอยู่ด้านข้างหลังของถังขยะ
มีวัยรุ่นผิวดำหลายคนผลักดันให้อเลน่าเดินไป
“นังแพศยา!!!” เสียงของวัยรุ่นผิวดำที่โดนอเลน่าตบหน้าดังขึ้นอีกครั้ง
อเลน่าไม่ยังไม่ทันได้หันกลับไปมองก็โดนจับกดให้นอนคว่ำลงกับพื้นอย่างรุนแรง และวัยรุ่นผิวดำได้พูดต่อว่า "แกกล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะทำให้แกได้รู้จักกับความโหดเหี้ยมที่แกคงไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนเลย ฮ่าฮ่าฮ่า....!"
วัยรุ่นผิวดำหลายคนล้อมรอบบริเวณที่อเลน่านอนคว่ำอยู่กับพื้น
"แกจะทำอะไร...แกต้องการอะไร?" อเลน่าพูดด้วยน้ำเสียงตกใจกลัว ในเวลานี้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจที่มีทั้งหมดของตัวเองแล้ว
วัยรุ่นผิวดำพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า "เราจะไม่ปล่อยแกให้รอดออกไปจากที่นี่หรอก หลังจากนั้นเราจะขายแกให้กับตลาดมืด มันทำเงินมหาศาลเลยนะ"
"ลูคัส!" เอเลน่าเรียกออกมาเสียงดัง "ลูคัส... ลูคัส...!"
"มึงเรียกใคร?" วัยรุ่นผิวดำหนึ่งในสมาชิกแก๊งถาม
"แฟนของมึงเหรอ..? หรือมึงกำลังเรียกตำรวจ...? มึงต้องการฮีโร่ที่จะมาช่วยมึงงั้นเหรอ...? "
จากนั้นหัวหน้าแก๊งก็ได้พูดว่า "มันมีเพื่อนอยู่ เสียงของมันอาจจะบอกสถานที่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้ เราต้องออกไปจากที่นี่ และพานั่งนี่กับรังลับของเราด้วย "
"ดี!" วัยรุ่นผิวดำหลายคนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ซะใจ
วัยรุ่นผิวดำยังคงจิกผมของอเลน่าเอาไว้ที่พื้นเหมือนเดิม
อเลน่าร้องไห้และพูดว่า "ปล่อยฉันไปเถอะ ในกระเป๋าสตางค์ฉันมีเงินอยู่ 1000 ยูโร คุณเอามันไปได้เลย!"
วัยรุ่นผิวดำพูดด้วยท่าทางเยาะเย้ยพร้อมโยกศีรษะไปด้วยว่า "ทุกๆอย่างของมึงเป็นของเรา มึงต้องให้เราแต่โดยดี ไม่งั้นแกจะได้ตายตอนนี้แน่..!!!"
วัยรุ่นผิวดำหลายคนได้ลากอเลน่าขึ้นมาจากพื้นและกระชากให้เดินตามทางของซอยเพื่อนกลับถิ่นฐานของตน
ในขณะนั้นเองก็มีเงาของใครคนหนึ่งพุ่งออกมาจากถังขยะ ในมือของเขามีอิฐที่หยิบไว้ก่อนหน้านี้ เขายกมือที่ถืออิฐขึ้นมาแล้วฝาดไปยังของวัยรุ่นผิวดำที่เดินอยู่ท้ายแถว!
‘ปั๊ก…’ เป็นเสียงที่เกิดจากการที่ของแข็งกระทบกับศรีษะ สิ้นเสียงไปได้ไม่นานวัยรุ่นคนดังกล่าวได้ลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
‘ปั๊ก…’ เสียงที่เกิดจากการที่ของแข็งกระทบกับศรีษะดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นวัยรุ่นผิวดำคนที่อยู่ถัดไปที่กำลังจะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
จากนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหน้าว่า
"ฆ่ามันซะ!!!" เป็นเสียงหัวหน้าแก๊งที่อยู่ไม่ไกลและเห็นเหตุการณ์กำลังไม่พอใจและโกรธเป็นอย่างมาก
เป็นใบหน้าของคนที่ไม่รู้จักเนื่องจากเค้าได้สวมหน้ากากได้โผล่ออกมา และยกกำปั้นแล้วต่อยไปยังลำคอของวัยรุ่นผิวดำ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก !
ลำคอเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของร่างกายมนุษย์หากถูกกระแทกอย่างหนักจะทำให้เกิดอาการขาดอากาศหายใจระยะสั้น และในสภาพนี้เขาจะยังสามารถดึงปืนขึ้นมายิงได้ยังไงล่ะ ?
พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสองวัยรุ่นผิวดำในเวลานี้ สัญชาตญาณของพวกเขาเอามือจับปืนพก ด้วยความเร็วของคนที่สวมหน้ากากเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด จะเห็นได้ว่ามือของเขาถึงปืนพร้อมที่จะลั่นไกไปยังวัยรุ่นผิวดำทั้งสองคน
คนสวมหน้ากากปล่อยหมัดออกไปไวเหมือนกับสายลม และหนึ่งในหมัดของเขาได้ตรงเข้าเป้า ทันใดนั้นก็ได้ปล่อยหมัดออกไปยังลำตัวของสองวัยรุ่นผิวดำอีกหลายครั้ง มันเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที พวกเขาก็ได้กลายเป็นหมูที่ล้มลงอย่างไม่มีทางสู้
อเลน่ายังดูมึนงง เธอคิดว่าคนที่มาช่วยมีลักษณะบางอย่างที่ดูคุ้นเคย แต่การตอบสนองของสมองเธอช้ามากในตอนนี้ เธอไม่สามารถตัดสินรูปร่างของคนสวมหน้ากากได้
ในเวลานี้วัยรุ่นผิวดำได้หายใจเข้าออกอย่างช้า เขาพยายามจะปกปิดอาการเจ็บคอด้วยเสียงแปลกๆว่า "มึงกล้ามามีเรื่องกับพวกเรา มึงจะต้องไม่ตายดีแน่..!!!”
เซี่ยเหล่ยยกเท้าแล้วเหยียบไปหน้าของพวกมันเพื่อจะได้ปิดปากอย่างฉับพลัน
"คุณ ...... " อเลน่ามองไปที่เซี่ยเหล่ยถึงแม้ว่าในตอนนี้ความกลัวจะหายไปจากสมองของเธอ แต่สมองของเธอยังไม่เป็นระเบียบพอที่จะประมวลผลให้เหมือนปกติได้
"ไปจากที่นี่กันเถอะ..!" เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหันไปมองรอบๆเพื่อหาทางออกไปจากที่นี่ ในเวลานี้เขาไม่ต้องการให้อเลน่าเห็นใบหน้าของเขา
เมื่อเดินออกมาไกลและเห็นว่าน่าจะเป็นที่ปลอดภัยแล้วเซี่ยเหล่ยจึงขอแยกทางกับอเลน่าเพื่อรีบกลับไปที่บาร์
อเลน่ามองย้อนกลับไปยังเซี่ยเหล่ยที่กำลังเดินห่างไกลออกไป เธอก็พูดกับตัวเองเบาๆว่า "แปลกจัง..!! รู้สึกว่าเคยเห็นคุณมาก่อน ? "
เมื่อลับสายตาไปแล้วเซี่ยเหล่ยรีบวิ่งพร้อมถอดเสื้อที่ปลอมตัวออก หลังจากนั้นสองนาทีเขาก็กลับมาที่บาร์แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ในห้องน้ำเขาล้างมือ ล้างหน้า จัดเสื้อใหม่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องน้ำ
ในเวลานี้อเลน่าเดินมาจากประตูหลังเธอมองไปรอบๆ และหาเซี่ยเหล่ยพบอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเหล่ยเดินไปหาเธอพร้อมทำท่างประหลาดใจ "อเลน่า...เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเสื้อผ้าคุณถึงสกปรกอย่างนี้..? "
"คุณ ...... " อเลน่าถาม "คุณไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ..?"
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า "ผมรู้สึกปวดท้องนิดหน่อยเลยไปเข้าห้องน้ำ ทีนี้คุณจะเล่าได้แล้วหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"
"เราออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ ฉันจะบอกคุณอีกครั้งบนถนนข้างนอก" อเลน่ากล่าว
"ดี.. เอาล่ะ..ไปกันเถอะ" เซี่ยเหล่ยเดินออกจากบาร์พร้อมกับอเลน่า
ทั้งคู่ก้าวขึ้นไปคร่อมบนรถจักรยานยนต์ เซี่ยเหล่ยเอามือไปจับเอวของอเลน่า
รูจมูกของอเลน่าเคลื่อนไหวเล็กน้อย เธอได้กลิ่นเหม็นบางอย่างไม่นานนักเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็แสดงให้เห็นถึงความสุขออกมาอย่างเงียบๆ
รถจักรยานยนต์ที่กำลังขับผ่านไปตามถนน ความเร็วของรถที่เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ เพื่อรับลมธรรมชาติ
ติดตามตอนต่อไป..........