[KotB] บทที่ 75: การปลุกพลัง (สิ้นสุด)
บทที่ 75: การปลุกพลัง (สิ้นสุด)
"นี่คือคำเตือนครั้งสุดท้าย ออกไปซะ"!
"แกนี่พูดมากจัง"
มูยองชิงเคลื่อนไหวก่อน
ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวสั่นไหวเล็กน้อยขณะตัดผ่านอากาศ
มนุษย์หมาป่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีแนวโน้มความแข็งแกร่งมาจากหมาป่า
ทันใดนั้นมันก็หลบพุ่งขึ้นไปในอากาศซึ่งทำให้ขนของมันดูยุ่งเหยิง
หลังจากตกลงสู่พื้น มันโน้มตัวลงและหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
"โอกาสสุดท้ายของแกหมดลงแล้ว"
โอกาสสุดท้าย?
มูยองยักไหล่ของเขา
เขาคุ้นเคยกับความว่องไวของมนุษย์หมาป่า
ในเวลาเดียวกัน เขาได้ตระหนักว่าระดับของสังเวียนที่นี่สูงมาก
"หากฉันลงไปที่ชั้นล่างต่อไป ศัตรูที่แข็งแกร่งจะต้องปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ"
ที่อยู่ปัจจุบันนี้คือชั้น 5
คุณจะได้รับสิทธ์ลงไปที่ชั้นล่าง หากชนะ 10 ครั้ง
แน่นอนว่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งต่างมุ่งหน้าลงไปที่ชั้นล่าง
ดังนั้น
'อย่างไม่รีบร้อน ฉันจะเอาทุกอย่างมา เท่าที่ฉันจะทำได้'
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้แน่นอนว่ามันคือ ออนซ์
เพื่อควบคุมสัดส่วนการเดิมพัน และสร้างผลกำไรให้กับตัวเอง
พวกมอนสเตอร์จะต้องสังเกตเห็นบางอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อมูยองสามารถได้รับออนซ์มากขึ้นในภายหลัง
ไม่มีใครสามารถควบคุม "ความแข็งแกร่ง" ได้อย่างงดงามเท่ามูยอง
แม้กระทั่ง หวังชุงหลินผู้นำองค์กรป่าแห่งความตายก็ประหลาดใจในการควบคุมกล้ามเนื้อของเขา
แล้วมอนสเตอร์จะสามารถสังเกตเห็นทักษะอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ยังไง?
ไม่ว่าจะมองเห็นการเคลื่อนไหวต่างๆได้ดีเพียงใด หากเขาจงใจเปลี่ยนแปลงกก็มีแต่จะทำให้พวกมันสับสนเท่านั้น
"จงดื้อด้านไปกับความพยายามครั้งสุดท้ายของแกไปเถอะ เพราะว่าวันนี้แกจะกลายเป็นเหยื่อให้ข้าล่า"
มนุษย์หมาป่าคุยโม้อย่างมั่นใจ
ร่างกายกำยำที่พร้อมจะทำให้หินแตกเป็นเสี่ยงๆ เขี้ยวอันแหลมคม และกรงเล็บที่ดูเหมือนจะตัดผ่านได้ทุกสิ่ง
ไม่ใช่แค่มนุษย์หมาป่า
ทุกคนที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของพวกเขา ต่างคิดแบบเดียวกัน
ผลของการต่อสู้ถูกตัดสินตั้งแต่ก่อนเริ่ม
ไม่มีทางที่โดเกบิจะเอาชนะมนุษย์หมาป่าได้!
อย่างไรก็ตาม มูยองยกดาบขึ้นมาเงียบ ๆ
เขาไม่สนใจสายตาหรือความคิดเห็นของผู้ใด
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบไหน เขาเพียงกังวลว่าจะจัดการยังไงให้มันดูแนบเนียนมากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น
'แกพูดถึงการล่า?'
มูยองหัวเราะ
มันอาจจะเชื่อในสิ่งที่มันคิด
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังกล้ากล่าวสิ่งที่มูยองต้องการจะทำอยุ๋พอดี ฉะนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่าขบขันมาก
ฉัวะ !!
หัวของหมาป่าแยกออกจากร่างกายบินตัดผ่านไปในอากาศ
ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา
ดวงตามนุษย์หมาป่ายังเต็มไปด้วยความสงสัย
“กรอดดด! ไอ่สารเลวเฮงซวยเอ้ย!”
“บัดซบ! มันเร็วมาก”
มอนสเตอร์ที่เฝ้ามองการต่อสู้ของมูยอง และมนุษย์หมาป่าต่างสบถคำหยาบออกมา
การแข่งขันที่รวดเร็ว
มันเป็นการต่อสู้ที่ผู้คนคิดจริงๆว่าจะได้รับกำไรอย่างง่ายดาย
ไม่สิ หากคุณมองไปที่การต่อสู้จะพบว่ามนุษย์หมาป่าเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ในความเป็นจริง ร่างของมูยองจะต้องถูกฉีกกระชากโดยไม่เหลือชิ้นดี
อย่างไรก็ตามจบลงที่การโจมตีเพียงครั้งเดียว และในท้ายที่สุดมูยองก็สามารถพลิกกระดานโดยรอบได้
เหมือนตอนหนึ่งของละครดราม่าที่การต่อสู้ที่รุนแรงได้เกิดขึ้น
"ฮาา โดเกบิเอาชนะมนุษย์หมาป่า?"
"มันอาจจะเป็นแค่ความโชคดีของพวกมือใหม่ ถ้าดาบกระดอนออกไปในทิศทางอื่น คาอุมจะต้องชนะ "
ขณะที่มูยองกำลังถูกโจมตีโดยมนุษย์หมาป่า ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวก็บังเอิญกระดอนหลุดเฉือนไปที่ดวงตาของมัน และเมื่อมนุษย์หมาป่าเสียจังหวะ มันจึงถูกมูยองปลิดชีพ
ไม่มีที่ว่างสำหรับข้อสงสัย
เป็นความโชคดีของพวกมือใหม่
ถ้ามูยองไม่จัดการทำลายดวงตาของมนุษย์หมาป่าก่อน มันจะเป็นการต่อสู้ที่โดเกบิไม่มีทางชนะ
หากสู้กันยืดเยื้อค่าความความอึดของเขาจะลดลง และถึงจุดจบ
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อว่าทุกอย่างถูกคำนวณโดยมูยอง
ไม่มีใครสักคน
'ฉันสามารถมองเห็นวิถีดาบได้ทุกเส้นทาง'
เมื่อเขาได้รับทักษะผู้เชี่ยวชาญดาบมา ความเข้าใจเกี่ยวกับดาบของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นเส้นทางที่จะใช้ดาบให้เกิดประสิทธภาพสูงสุด
ในขณะที่เขาเก็บดาบไว้กับเอว กระดานอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่บนอากาศก็มีเสียงเตือนขึ้น!
หลังจากนั้นผลการแข่งขันก็ปรากฏสู่เบื้องหน้าของมูยอง
<ในศึกระหว่าง มูยอง vs นักรบคาอุม ชัยชนะเป็นของมูยอง>
<สัดส่วนการเดิมพัน 3.7 เท่า ขอแสดงความยินดี.>
<ด้วยการเดิมพันชนะ 500 ออนซ์ หักค่าธรรมเนียแล้ว คุณจะได้รับ 2,850 ออนซ>
<การบันทึก: ชนะ1 เสมอ 0 แพ้ 0 ปรับแพ้ 0 >
ค่าธรรมเนียม 500 ออนซ์ ที่มูยองและมนุษย์หมาป่าวางไว้ถูกเพิ่มจำนวนขึ้น และทั้งหมดถูกส่งกลับไปที่มูยอง
จากการต่อสู้เพียงครั้งเดียว เขาได้รับเกือบ 3,000 ออนซ์
ถ้าเขาทำแบบนี้ต่อเนื่องไปอีกสักสองสามครั้ง การจะได้รับออนซ์สักสองสามหมื่นก็ดูเหมือนจะไม่ยากเย็นอะไร
'โอโลเนส'
ก่อนที่จะออกจากสนาม มูยองมองหาโอโลเนสผู้ซึ่งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสมรภูมิ
ทาสปีศาจ ตัวตนที่ถูกเรียกว่าผู้สังหารฝ่ายตรงข้ามของเขา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้แสดงฝีมือ
'สัดส่วนการเดิมพัน 1.01?'
น่าอัศจรรย์จริงๆ คุณสามารถบอกได้ว่านั้นเป็นสัดส่วนที่บอกถึงชัยชนะอย่างแน่นอนของเขา
ทุกคนมั่นใจว่า โอโลเนส จะชนะ
ฝ่ายตรงข้ามต่างขอยอมแพ้โดยไม่แข่งขัน การเดิมพันทั้งหมดเป็นโมฆะ นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าโอโลเนสสเป็นเป้าหมายที่ควรหลีกเลี่ยงมาก
"เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มมอนสเตอร์ที่มารวมกันที่นี่"
ตอนนี้มูยองมั่นใจแล้ว
ระดับของนักรบโดยรวมมีค่าสูง แต่คนที่อยู่ด้านบนสุดคือ โอโลเนส
ทำไมปีศาจที่มีลำดับชั้นเหนือขั้นกลางภายใต้คำสั่งของเทพปีศาจวาสซาโก ถึงอยู่ในสถานที่แบบนี้?
"มันเป็นบางสิ่งที่ฉันต้องเอาชนะ"
มูยองตัดสินใจแล้ว
การเผชิญหน้ากับปีศาจไม่ได้ถูกวางแผนไว้แต่แรก แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ดี
มันเป็นโอกาสทองที่จะทดสอบขีดจำกัดและเพื่อดูว่าความแข็งแกร่งของเขาจะสามารถรับมือกับพวกปีศาจได้ดีแค่ไหน
'ถ้าเส้นทางที่ฉันเดินอยู่ถูกต้อง .. '
เขาจะชนะ หรือถ้าไม่ ก็แพ้
แววตาของมูยองดำดิ่งลงไปในห้วงความคิด
*
22,000 ออนซ์
มูยองไม่ได้วางเดิมพันกับการต่อสู้อื่น ๆ
เขาเพิ่งเดิมพันออนซ์ทั้งหมดลงในการต่อสู้ของตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงสามารถคว้า 22,000 ออนซ์ ในการชนะเพียง 3 นัดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะต่อสู้อย่างแนบเนียนแค่ไหน การชนะอย่างต่อเนื่องจะทำให้ดูน่าสงสัยเท่านั้น
ถ้าเขาแกล้งแพ้สักตาหรือยอมแพ้ ข้อสงสัยที่มีอาจจะสามารถถูกลบไปบ้าง
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่ก่อความยุ่งยากแก่เขา
"การทดสอบประเภทนี้มักมีโอกาสที่จะบันทึกลงในหอเกียรติยศของโซโลมอน"
หอเกียรติยศของโซโลมอน
ถ้าเขาเพิ่มอันดับของตัวเองลงไปก็จะได้รับรางวัลที่เหมาะสม
เขาอยู่บนทางที่ต้องเลือกว่าจะฝากชื่อตัวเองลงในบันทึกหอเกียรติยศของโซโลมอน และรับของรางวัล หรือแกล้งสู้ตามวิธีเดิมเพื่อทำกำไรจากการรับเงินรับออนซ์
'บางสิ่งที่ฉันสามารถใช้ออนซ์ซื้อได้ คือทาส และสินค้าทั่วไป'
เขาเดินไปดูร้านขายอาวุธ และเครื่องป้องกัน แต่พวกมันกลับไม่ค่อยมีสินค้าอะไรเลย
แต่เดิมมันเป็นสนามรบที่ให้มอนสเตอร์สู้กัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีใครขายอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับมนุษย์
แต่มีบางอย่างในร้านขายสินค้าทั่วไปที่ดึงดูดความสนใจของเขาไว้
'ถ้าฉันยังคงชนะ ฉันสามารถซื้อทุกสิ่งที่ฉันต้องการ'
เนื่องจากสินค้าทั่วไปเป็นสิ่งที่เขาสามารถซื้อเมื่อใดก็ได้ตราบเท่าที่เขามีออนซ์
อย่างไรก็ตาม รางวัลจากหอเกียรติยศมักเป็นอุปกรณ์ที่หายาก
สิ่งที่ยากต่อการได้รับ และแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับการค้นหา
มันดูเหมือนเขาจะเสียโอกาส
และมูยองก็ตัดสินใจเดินออกจากเส้นทางของหอเกียรติยศโซโลมอน
เพราะปัญหาคือ มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีมนุษย์ผู้ซึ่งแข็งแกร่งกว่ามูยองเข้าร่วมในศึกนี้
มีความเป็นไปได้ที่มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าโอโลเนสจะอยู่ในชั้นล่าง
สาเหตุที่เขาหลีกเลี่ยงการบันทึกของหอเกีรยติยศโซโลมอน เพราะเขาอยากแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก่อน
'บนสังเวียนเป็นการต่อสู้ 1 VS 1 ฉันไม่สามารถใช้อันเดธที่นี่ได้ '
มูยองตัดสินใจ
'ฉันจะใช้ทักษะ อุทิศจิตวิญญาณ'
ตอนแรกเขาจะใช้มันเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่เนื่องเขาได้ตัดสินใจที่จะใช้มันแล้ว ดั้งนั้นดีที่สุดหากรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว
เพื่อเตรียมตัวอย่างเต็มที่สำหรับทุกสถานการณ์ เขาต้องการเวลาในการทำความคุ้นเคยกับร่างกายที่เแข็งแกร่งของเขา
มูยองเปิดดูหน้าต่างสถานะ และอ่านคำอธิบายทักษะอุทิศจิตวิญญาณอีกครั้ง
ชื่อทักษะ: อุทิศจิตวิญญาณ (F)
คำอธิบาย - ดูดกลืนอันเดธที่มีคะแนนศิลปะสูงกว่า 70 เพื่อเพิ่มสเตตัสของตัวเอง มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับทักษะของอันเดธตัวนั้น
ประสิทธิภาพแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคะแนนศิลปะ, ระดับทักษะ และวัตถุดิบที่สร้างอันเดธ
เขาถูกจำกัดให้ใช้ได้เพียงอันเดธที่มีคะแนนศิลปะสูงกว่า 70
เจ้าชายดาร์คกูลและเหล่าผู้ล้างแค้น, พลทหารหอกเพลิง, นักเวทย์สายฟ้า, นักรบสุริยันอันธการ, บาลตัน และ ไฮเดกเกอร์
ในหมู่พวกเขามีสองอันเดธที่เริ่มกลายเป็นไร้ประโยชน์อย่างช้าๆ ในขณะที่มูองแข็งแกร่งขึ้น
'พลทหารหอกเพลิง และ นักเวทย์สายฟ้า'
ทั้งสองเป็นอันเดธที่ถูกสร้างขึ้นในการทดสอบไร้กฎเกณฑ์ตอนที่เข้าอันเดอร์เวิลด์มาใหม่ๆ
พวกเขาฝีมือดีมากสำหรับดาวรุ่งที่กำลังเติบโตในห้าตระกูลใหญ่
อย่างไรก็ตามหลังจากที่กลายเป็นอันเดธความก้าวหน้าของพวกเขาก็ถูกปิดกั้นลง ในเวลานั้นพวกเขามีประโยชน์มาก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ของพวกเขาลดลงอย่างช้าๆ
มูยองอัญเชิญทั้งสองคนออกมาในห้องที่คับแคบของเขา
"ฉันต้องการให้พวกนายกลายเป็นพลังของฉัน"
มันเหมือนกับคำพิพากษา
แม้จะตายไปแล้ว แต่มันก็ยังดูโหดร้ายที่จะใช้ประโยชน์จากดวงวิญญาณของพวกเขา
ทว่ามูยองพูดคำเหล่านั้นราวกับเป็นเรื่องปกติ
"ข้ายินดีมอบตัวเอง"
พลทหารหอกเพลิงนั้งคุกเข่าลง
เช่นเดียวกับนักเวทย์สายฟ้า
ทั้งสองคนนี้เป็นเพียงอันเดธที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น
พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอะไรตั้งแต่แรก ในฐานะที่เป็นอันเดธ พวกเขาจะถูกทำลาย หรือจะถูกใช้งานยังไงล้วนขึ้นอยู่กับคำสั่งของมูยอง
มูยองขยับมืออย่างช้าๆวางไว้เหนือศรีษะของพลทหารหอกเพลิง และนักเวทย์สายฟ้า
ถึงมันจะดูเป็นการสูญเสีย แต่เขาก็ต้องทำ
ความแข็งแกร่งของทั้งคู่จะกลายเป็นพลังงานอาศัยอยู่ภายในร่างกายของมูยอง
'อุทิศจิตวิญญาณ'
ในไม่ช้าวิญญาณโปร่งใสก็ลอยขึ้นมาเหนือศีรษะของทั้งสอง และในขณะที่มูยองคว้าพวกมันไว้การเปลี่ยนแปลงก็บังเกิดขึ้น
<พวกเขาเป็นผลงานศิลปะทีมีคะแนน 80 และ 77 ตามลำดับ>
<จากการตรวจสอบวัตถุดิบและระดับของทักษะ คุณจะได้ประโยชน์ของสเตตัส 5% จากสเตตัสทั้งหมด>
<สเตตัสทั้งหมดของ 'พลทหารหอกเพลิง' คือ '495'.>
<สเตตัสทั้งหมดของ 'นักเวทย์สายฟ้า' คือ '498'.>
<สเตตัส '49' หน่วยที่ได้รับจะถูกแจกจ่ายแบบสุ่ม>
<ถ้าสเตตัสหลักสูงกว่า 100 จะต้องเสียคะแนน 2 แต้มในการอัพสเตตัส 1 หน่วย>
<Str 5 (10), Agi 3 (6), Sta 6(8), Int 5, Wis 5, M.res 7, ออร่าต่อสู้ 3 และ ความสามารถทางวิญญาณ 5>
<คุณประสบความสำเร็จในการได้รับทักษะ 'เสียงเรียกของเปลวเพลิง'.>
พรึ่บบบ!
ทั่วทั้งร่างของมูยองลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟ
เปลวไฟที่ลุกโชนกระตุ้นอสูรกายและภูติผีในเส้นทางของอาชูร่า
พวกมันชักนำเปลวไฟหมุนไปรอบๆมูยองจนหนาขึ้น กลายเป็นฉากที่ดูน่าประหลาด
ราวกับพวกมันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ กำแพงที่แข็งแกร่งถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางเขาได้
หลังจากนั้นวงแหวนทรงกลมก็เริ่มปรากฏขึ้นที่ด้านบนของหัวมูยอง
หนึ่ง สอง สาม สี่ ... และห้าวง
วงแหวนที่มีพลังงานของธาตุทั้งห้า ไม้ ไฟ โลหะ น้ำ และดิน หมุนเวียนรอบๆตัวเขาอย่างช้าๆ
เมื่อวงแหวนทั้งห้าโคจรครบรอบ มันก็กลายเป็นกลุ่มควันพุ่งเข้าสู่การหายใจของมูยองทีละวง ในขณะที่มูยองตัวสั่นเทิ่มราวกับถูกไฟซ๊อต
<คุณบรรลุความพึงพอใจตามเงื่อนไขของการปลุกพลัง ครั้งที่ 1>
<คุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว>
<ความบริสุทธิ์และความสมดุลของร่างกาย มีการประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ>
<คุณได้หยั่งรู้ถึงสัจธรรมอันเป็นแก่นแท้ของจักรวาล >
<สามให้กำเนิดหมื่นสรรพสิ่งได้เริ่มต้น>
ในเวลาเดียวกัน
ร่างกายของมูยองค่อยๆยกลอยขึ้น
"เลือดเนื้อคือขอบเขตแห่งกายสำคัญ พลังงานเป็นลมปราณสร้างกระแสชีวิต จิตวิญญาณโคจรสถิตย์อยู่ทั่วไป"
จิตใจของเขาว่างเปล่า
เหมือนนักบวชที่กระจายคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มูยองย้ำคำพูดเหล่านั้นซ้ำๆไปมา
คุณอาจพูดได้ว่าเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
เขาไม่ได้รบกวนใคร และไม่มีใครสามารถรบกวนเขา
ในโลกสีขาวโพลนมูยองพูดคำเหล่านั้นซ้ำๆ
ในทางกลับกันกำแพงเปลวเพลิง และเหล่าภูติผีเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
มูองหลุดพ้นออกจากทุกอย่าง และได้กลายเป็นจักรวาลที่ยอมรับทุกสิ่ง
ถ้าเขาสัมผัสถูกน้ำเขาจะกลายเป็นน้ำ และถ้าเขาสัมผัสถูกไฟเขาจะกลายเป็นไฟ
เขาสามารถตระหนักรู้ถึงความบริสุทธิ์ที่สมบูรณ์แบบของดวงวิญญาณ และองค์ประกอบต่างๆรอบตัว
อย่างไรก็ตามเวลาที่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้นั้นกลับสั้นมาก
มันสั้น แต่ก็รู้สึกได้ถึงความเป็นนิรันดร์
และท่ามกลางความยิ่งใหญ่เหล่านั้น มูยองก็ได้ยินเสียงของใครบางคน
- เจ้าต้องการจะเป็นสิ่งใด? จงตัดสินใจเลือก