ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 150 ข้าเพียงช่วยเหลือตนเองเท่านั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 152 ก้าวเข้าสู่ระดับสาม

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 151 ปีศาจเลือดเย็น


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 151 ปีศาจเลือดเย็น

"ว่าไงนะ!?" เหยาลี่ตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้

ฟางหยวนยกฝ่ามือสับลำคอของเธออย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าทำให้เธอสลบไปทันที

เด็กหญิงล้มลงในอ้อมแขนของฟางหยวนก่อนที่เขาจะกระตุ้นใช้งานวิญญาณเกล็ดลี้ลับและพาเธอหายไปจากจุดนั้นในพริบตา

เหยาลี่ตื่นขึ้นอีกครั้งในถ้ำแห่งหนึ่ง

เธอเงยศีรษะและพยายามจะลุกขึ้น แต่ในไม่ช้าเธอก็พบว่าแขนของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ด้านหลัง ร่างของเธอถูกมัดไว้กับหินก้อนใหญ่

วิญญาณทั้งหมดในร่างของเธอถูกปล้นสะดมไปโดยฟางหยวนและกลายเป็นวิญญาณของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

เวลานี้เธอกลายเป็นเพียงสาวน้อยที่อ่อนแอผู้หนึ่ง แล้วเธอจะสามารถหลุดรอดจากการพันธนาการนี้ได้อย่างไร

ด้วยการถูกจับตัวมายังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ช่วยไม่ได้ที่เด็กหญิงจะรู้สึกขุ่นเคือง เธอเริ่มคิดถึงช่วงเวลาก่อนหน้าที่เธอจะหมดสติและตระหนักว่าแม้แต่คนโง่เขลายังรู้ว่าฟางหยวนกำลังจะทำบางสิ่งที่เลวร้ายกับเธอ

'ฟางหยวนต้องการจัดการข้าใช่หรือไม่? เขาตั้งใจทำสิ่งใด? นี่เป็นเพราะข้าบ่นกับท่านยายเกี่ยวกับเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการแก้แค้นงั้นหรือ?' แม้เด็กหญิงจะถูกมัด เธอยังสามารถคิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว

แต่นั่นกลับทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวาดกลัวและต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อาจควบคุม

"ท่านยาย ท่านอยู่ที่ใด? รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า" เธอร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและเดียวดาย

ฟางหยวนไม่ปรากฏตัวอยู่ในถ้ำและมันจึงมีเพียงเสียงร้องไห้ของเธอเท่านั้นที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

"ฟางหยวนต้องการกักขังข้าเป็นเวลาเจ็ดวันเพื่อให้ข้าทุกข์ทรมานกับความหิวโหยใช่หรือไม่? ข้าจะไม่พูดดีกับเขาอีกแล้ว" หลังจากร้องไห้อยู่ชั่วครู่ เธอจึงเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆอีกครั้ง

'เลวเกินไปแล้ว'

'ฟางหยวน ข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้า!'

เธอกัดฟันแน่น ด้วยความประทับใจที่ไม่ดีต่อฟางหยวนตั้งแต่เริ่มแรก เวลานี้มันจึงยิ่งกลายเป็นความรู้สึกในด้านลบมากขึ้นไปอีก

"ฟางหยวน เจ้าต้องการสิ่งใด? ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้มิฉะนั้นท่านยายของข้าจะต้องมาจัดการเจ้า!" เมื่อมองเห็นฟางหยวน เด็กหญิงจึงเริ่มกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ

"เจ้าช่างมีชีวิตชีวาจริงๆ" ฟางหยวนก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน

เหยาลี่กำลังจะกรีดร้องอีกครั้งแต่เธอกลับต้องหุบปากลงเมื่อมองเห็นหมียักษ์ที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังฟางหยวน

"มะ...หมี..." ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะยกมือขึ้นลูบขนของหมียักษ์สีดำตัวนั้น "เนื่องจากสถานการณ์คลื่นหมาป่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาหมีป่าสักตัว ข้าต้องใช้เวลาและความพยายามอยากมากกว่าจะได้มันมา"

เป็นเพียงเวลานี้ที่เหยาลี่ตื่นจากภวังค์และจดจำได้ว่าฟางหยวนเคยกรรโชกวิญญาณผู้พิทักษ์หมีมาจากซ่งเจียวม่าน

"เช่นนั้นก็เป็นมัน..." เหยาลี่หัวเราะเสียงต่ำ แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับก้มหน้ามองมาที่เธอ

"เจ้าจะทำสิ่งใด?" เด็กหญิงพยายามดิ้นรน แต่ฟางหยวนยกมือขึ้นบีบพวงแก้มของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา

"แท้จริงแล้วเจ้าดูน่ารักมาก" ฟางหยวนกล่าวเสียงเรียบ

"แคว๊ก..."

มือขวาของฟางหยวนกระชากเสื้อของเหยาลี่ให้หลุดออกมาและเผยให้เห็นชุดชั้นในสีชมพูของเธออย่างกะทันหัน

"อา..." เด็กหญิงตะลึงก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน แม้เธอจะรู้สึกเจ็บปวดจากเชือกที่ดึงรั้งร่างกายของเธอเอาไว้ แต่เธอก็ไม่สนใจความเรื่องเหล่านั้นในเวลานี้

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นและยังฉีกเสื้อของเธอต่อไป

"แคว๊ก..."

ในไม่ช้าชุดของเธอจึงถูกปลดออกและทิ้งไว้เพียงเศษผ้าชิ้นเล็กๆที่เผยให้เห็นเรือนร่างของเธออย่างชัดเจนเท่านั้น

"ไม่! ไม่!" เธอกรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ขณะที่เธอคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆที่ฟางหยวนจะกระทำกับเธอ นี่ทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อน

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้ทำสิ่งที่เธอคิดไว้ ตรงข้ามเขายืนขึ้นและก้าวถอยหลังกลับไป

เสียงกรีดร้องของเด็กสาวกลายเป็นเสียงร้องไห้

แต่ในจังหวะนี้หมีดำกลับเคลื่อนอุ้งเท้าเข้ามา

รูม่านตาของเด็กสาวหดเล็กลงขณะที่เธอรู้สึกถึงรางมรณะอย่างชัดเจน

"ฉัวะ!"

อุ้งเท้าหมีกวาดผ่านอากาศก่อนจะฟาดลงบนศีรษะของเด็กหญิงเป็นเหตุให้คอของเธอหักสะบัดลงในพริบตา

ศีรษะของเธอบิดเบี้ยวในมุมที่น่าขนลุกและแขวนอยู่ด้านหนึ่งของลำตัว

วินาทีก่อนหน้าการปรากฏตัวของเธอยังดูน่ารักน่าหลงใหล แต่เพียงครู่ต่อมาเธอกลับกลายเป็นซากศพที่น่าสยดสยอง ร่างกายที่ยังอบอุ่นเธอถูกผูกติดอยู่กับหินก้อนใหญ่ทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาของเล่นที่แตกหัก

ในจังหวะนี้แม้จะไม่มีคำสั่งจากฟางหยวน หมีดำก็เริ่มลดศีรษะลงและเพลิดเพลินกับมื้ออาหารอันโอชะของมันทันที

อันดับแรกมันเริ่มจากลำคอของเด็กสาว ทำให้เลือดจำนวนมากสาดเทลงบนเส้นขนสีดำของมัน

ถัดมาคือหน้าอกสีขาวที่ดูอ่อนโยนราวกับดอกไม้ตูมที่ยังไม่ผลิบาน

ศีรษะหมีดำหมอบอยู่ที่หน้าอกข้างขวาของเธอ ด้วยการกัดเพียงหนึ่งคำ มันเผยให้เห็นถึงซี่โครงสีขาวซีด

ขณะที่หมีดำใช้อุ้มเท้าตะปบทำลายซี่โครงเหล่านี้ อวัยวะภายในและเลือดของเด็กสาวไหลทะลักออกมาทันที

เมื่อไม่มีชั้นซี่โครงคอยกีดขวาง มันจึงก้มศีรษะลงไปอีกครั้งและงับหัวใจที่ยังเต้นอยู่ของสาวน้อยเข้าปากไปในหนึ่งคำ

หัวใจของหญิงสาวเคลื่อนที่ผ่านลำคอลงไปในกระเพาะอาหารของมันอย่างรวดเร็ว

เดิมทีหมีดำตัวนี้ซ่อนตัวอยู่รอบๆภูเขา เนื่องจากภัยพิบัติคลื่นหมาป่าทำให้มันไม่สามารถหาอาหาร

ดังนั้นเมื่อเลือดเนื้อของเด็กสาวที่อ่อนเยาว์วางอยู่ตรงหน้า มันจึงพุ่งเข้าเขมือบซากร่างของมนุษย์ผู้นี้อย่างตะกละตะกลาม

"กรุบ กรุบ กรุบ"

ปากของหมีดำเปิดออกและกลืนอาหารจำนวนมากลงไปในลำคอราวกับน้ำไหล

หน้าอกของเด็กสาวกลายเป็นว่างเปล่า อย่างไรก็ตามดูเหมือนหมีดำจะไม่สนใจลำไส้สีขาวผ่องของเธอ ตรงข้าม มันเริ่มให้ความสนใจกับเรียวขาบางๆคู่นั้น

มือของหญิงสาวถูกกัดออกไปในครั้งเดียว ด้วยการขบเคี้ยวเสียงดังกรุบกรับ นิ้วมือของเธอแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในปากหมีอย่างง่ายดาย

ต้นขาของหญิงสาววัยเยาว์เป็นอาหารที่มันชื่นชอบเช่นกัน

ผิวที่อ่อนนุ่มและเนื้อต้นขาของเธอส่งกลิ่นหอมที่บริสุทธ์ออกมาทำให้หมีดำยิ่งกระหายอยาก ในพริบตาหลังจากนั้นสิ่งที่เหลือทิ้งไว้จึงมีเพียงกระดูกต้นขาของเธอเท่านั้น

ด้วยการสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดหย่อน ในที่สุดศีรษะของเด็กสาวก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น

กล่าวอย่างซื่อตรง แท้จริงแล้วเธอเป็นเด็กหญิงน่ารักที่มีดวงตากลมโต จมูกเล็กๆของเธอเชิดขึ้น แก้มของเธอเป็นสีชมพูราวกับดอกไม้แรกแย้ม ริมฝีปากเล็กๆมาพร้อมกับฟันสีขาวที่เรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ

แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอกลับเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดขณะที่เส้นผมสีดำของเธอทิ้งตัวลงมาปกคลุมใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นยังเบิกค้างด้วยความหวาดกลัวและตกใจอีกด้วย

มันเป็นความตายที่ไม่เต็มใจ!

ขณะที่เฝ้ามองซากร่างของเหยาลี่ มันทำให้ฟางหยวนคิดไปถึงคำสอนบางประการบนโลกมนุษย์ใบเดิม

ทุกคนล้วนเท่าเทียม ไม่มีความแตกต่าง

โลกมีความเสมอภาค ไม่มีความแตกต่าง

ทุกสิ่งบนโลกเป็นเช่นเดียวกัน ไม่มีความแตกต่าง

ไม่ว่าสิ่งใดจะคงอยู่หรือไม่ ไม่มีความแตกต่าง

ไม่ว่าคนผู้หนึ่งจะงดงามเพียงใด สุดท้ายพวกเธอหรือพวกเขาก็จะกลายเป็นเพียงโครงกระดูก ไม่มีความแตกต่าง

เนื้อหนังเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ผู้คนหนึ่งมักจะชื่นชอบผิวพรรณขณะที่หวาดกลัวโครงกระดูก นี่เป็นการยึดติดกับภาพลักษณ์ภายนอก หาได้เป็นคุณค่าที่แท้จริงของพวกเขาไม่

ความงามเป็นเพียงสิ่งผิวเผิน หากคนผู้หนึ่งสามารถมองข้ามสิ่งผิวเผินทั้งหมด พวกเขาจะเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

หากคนทั่วไปเห็นหมีกำลังกัดกินมนุษย์ผู้หนึ่ง พวกเขาอาจกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า "เดรัจฉาน! กล้ากินมนุษย์งั้นหรือ!?" หรือ "คนสวย อย่ากลัว พี่ชายผู้นี้กำลังจะช่วยเจ้าแล้ว!" เป็นต้น

นี่คือความรักและความเกลียดชังของมนุษย์ พวกเขารักสาวน้อยผู้งดงามและเกลียดชังหมียักษ์ตัวใหญ่ มันคือการยึดติดกับภาพลักษณ์ภายนอกและไม่สามารถมองเห็นโครงกระดูกที่อยู่ภายใน

อย่างไรก็ตามเวลานี้เมื่อเป็นฟางหยวนที่ยืนอยู่ต่อหน้าหมียักษ์ที่กำลังกัดกินเด็กสาว

เห็นความตายที่น่าอนาถของเธอ หัวใจของฟางหยวนยังสงบนิ่งและปราศจากระลอกคลื่นแม้แต่น้อย

นี่ไม่ใช่ความชินชากับความตายแต่เขาไม่ได้มองเพียงสิ่งผิวเผิน ตรงข้ามเขาสามารถมองทะลุเปลือกนอกทั้งหมด มนุษย์ทุกคนล้วนเท่าเทียม ไม่มีความแตกต่าง ทุกสิ่งบนโลกเป็นเช่นเดียวกัน ไม่มีความแตกต่าง

ดังนั้นความตายของเด็กสาวจึงไม่ต่างจากความตายของหมาป่าหรือต้นไม้

ด้วยความตายของสาวน้อย มันอาจทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกโกรธ เกลียด หรือสงสาร ในทางตรงข้าม กรณีที่เด็กหญิงกินหมีเป็นอาหาร พวกเขาจะไม่รู้สึกสิ่งใด แต่หากเป็นหญิงชราถูกหมีกัดกิน ความรู้สึกสงสารของผู้คนที่พบเห็นอาจลดลงครึ่งหนึ่ง หากเป็นคนชั่วร้ายหรือฆาตกรที่ถูกหมีกิน พวกเขาอาจปรบมือด้วยความชื่นชนยินดี

ในความเป็นจริง ธรรมชาติยุติธรรมเสมอ มันไม่มีความรัก ไม่มีความเกลียดชัง ไม่มีความรู้สึก และไม่แบ่งแยกความแตกต่าง

ความแข็งแกร่งคือกฎ ชัยชนะคือทั้งหมด

ความตายไม่อาจหลีกเลี่ยง มีผู้ใดสามารถเลือกที่จะไม่ตาย? ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อย หมี หมาป่า หญิงชรา คนชั่ว ฆาตกร หรือต้นไม้

หากตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขาจะสามารถมองข้ามสิ่งผิวเผินและพบกับความจริง

มีเพียงความจริงที่จะนำผู้คนไปสู่นิพพาน ด้วยตรัสรู้ หากคนผู้หนึ่งมุ่งสู่เส้นทางแห่งแสงสว่าง พวกเขาจะกลายเป็นเช่นพระพุทธเจ้า แต่หากคนผู้นั้นเลือกเส้นทางแห่งความมืด พวกเขาจะกลายเป็นปีศาจ...

ปีศาจเลือดเย็น!