ตอนที่ 62 ยานถูกโจมตี
ยานคริสตัลปีศาจนั้นเต็มไปด้วยเสียงเอะอะจากความแออัด แต่โชคดี ห้องพักมันมีการกั้นเสียงและหลิน ฮวง ก็ไม่ถูกรบกวน
เขาได้ใช้ชีวิตตามขั้นตอน เขาทานอาหารเที่ยงเมื่อถึงเวลา และวางแผนการของเขาเอาไว้ หลังจากมื้อเที่ยง เขาเดินรอบๆดาดฟ้า
ชั้นแรกของยานคือสิ่งบันเทิง มันมีร้านอาหาร บาร์ โรงหนัง คาสิโนและสระว่ายน้ำ สิ่งบันเทิงหลายๆอย่างล้วนถูกจัดเตรียมไว้ที่นั่น
หลิน ฮวง ได้มองไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นและเดินจากไปเพราะเขาไม่สนใจพวกมัน
ชั้น11ของยานถูกสงวนให้เฉพาะแขกวีไอพี ห้องของชั้นนี้จะไม่เปิดให้จองเพราะพวกมันมีไว้ใช้สำหรับการรองรับชนชั้นสูง มีประตูที่ล็อคอย่างแน่นหนาเป็นพิเศษที่ทางเข้าของชั้น11 ผู้คนเช่นหลิน ฮวง ที่ซื้อตั๋วบินธรรมดาจะไม่อาจเข้าสู่ชั้น11ได้
ดังนั้น หลิน ฮวง และผู้โดยสารที่เหลือจึงไม่รู้ว่าชั้น11เป็นเช่นไร มีคนบอกว่ามันมีเพียง100ห้องบนชั้น11และห้องแต่ละห้องมันใหญ่กว่าห้องธรรมดาหลายเท่า พื้นที่ที่เหลือจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสิ่งบันเทิงระดับสูง แต่ทว่า ไม่มีใครรู้ถึงความจริง
นอกเหนือจากนั้น มันยังมีลานกลางแจ้งที่ชั้น11 ในทำนองเดียวกัน มันก็เปิดให้เฉพาะแขกที่พักอยู่ชั้นนั้น หลิน ฮวง สามารถเห็นได้ว่ามีคนกำลังเดินอยู่บนดาดฟ้าชั้น11 แต่ทว่า มันก็ไม่ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์พิเศษและมันก็มีคนน้อยกว่าระเบียงชั้นอื่น
หลังจากมื้อเย็น หลิน ฮวง ก็ไปที่บาร์
เขาไม่ใช่คนมีชีวิตชีวา เขาแทบจะไม่ได้ไปที่บาร์เมื่อตอนที่เขาอยู่บนโลกและหากเขาทำมัน เขาจะไปก็ต่อเมื่อเขาถูกชักชวนโดยเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นเขา มันคือครั้งแรกที่เขาได้มายังบาร์ในโลกนี้เมื่อเขาอยากจะสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่
สภาพแวดล้อมมันดีและพวกเขากำลังเล่นดนตรีแบบผ่อนคลาย เขารู้สึกผ่อนคลายขณะที่ฟังเพลง อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่คุ้นเคยกับชื่อของเครื่องดื่มเมื่อเขาเห็นในด้านหน้าของเคาน์เตอร์บาร์
“มือปืนรุ่นเก๋านี่มันบ้าอะไรกัน?แล้วลิ้นหอมของความสง่างามคืออะไรกัน?มันมีแม้กระทั่งแข็งกระด้าง......ไมฉันจึงไม่อาจหาชื่อของเครื่องดื่มแบบปกติๆได้?!”หลิน ฮวง ไร้คำพูด เขามองไปที่มันและชื่อทั้งหมดล้วนประกอบด้วยคำที่ทำให้ความคิดเขาบิดเบี้ยว
มีชายชรายืนอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ เขาเตี้ยกว่าหลิน ฮวง และดูมากตัณหาด้วยดวงตาเล็กๆของเขา
“พ่อหนุ่ม เธอต้องการจะสั่งอะไร?”เขาถาม มันยังคงเร็วและมีลูกค้าไม่มากที่บาร์ ชายชรากำลัง
เช็ดแก้วเหล่าองุ่นในขณะที่เขาถาม
“มีเครื่องดื่มเบาๆไหม?”หลิน ฮวง ลังเลและถาม เขาต้องการจะออกไปเมื่อเขาเห็นชื่อของเครื่องดื่ม แต่ทว่า มันเป็นเรื่องหยาบคายสำหรับเขาที่จะจากไปเพราะชายชราได้ร้องถามเขา
“เครื่องดื่มเบาๆ?”ชายชราขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับคำถามของหลิน ฮวง “ใช่ เรามีน้ำผลไม้ใบเขียว”
น้ำผลไม้ใบเขียวคือเครื่องดื่มทั่วไปที่สามารถพบได้แทบจะทุกบาร์และร้านอาหาร มันก็คล้ายกับเบียร์ที่ผู้คนดื่มกันในโลก ปริมาณแอลกอฮอล์ของน้ำผลไม้ใบเขียวเกือบจะเท่ากับเบียร์แต่รสชาติมันดีกว่ามาก มีกลิ่นหอมของมอลต์ที่หวานอ่อนๆ หากมันมีขายในโลก บางทีโรงงานเบียร์อาจจะต้องปิดตัวลงในไม่ช้า
“เอาละ งั้นผมจะสั่งน้ำผลไม้ใบเขียวแก้วหนึ่ง”เขากล่าว หลิน ฮวง กลัวว่าเขาจะเมา เขาจะล่าช้าเมื่อเขาลงจากเรือ เมื่อมองไปยังชื่อของเครื่องดื่ม เขาก็กังวลว่าเครื่องดื่มของลุงแกจะมีผลที่รุนแรง
ในไม่ช้า น้ำผลไม้ใบเขียวก็ถูกวางลงตรงหน้า หลิน ฮวง จิบมันและรสชาติก็เหมือนกับที่อื่น จากนั้นเขาก็มั่นใจและกระดกน้ำผลไม้ในทันที
บางทีมันอาจเป็นเพราะหลิน ฮวง สั่งเพียงแค่น้ำผลไม้ใบเขียว ชายชราจึงไม่ได้สนใจเขาอีก เขายังคงเช็ดแก้วไวน์และไม่ได้พูดกับหลิน ฮวง และนั่นมันทำให้หลิน ฮวง เพลิดเพลินไปกับสิ่งนั้น
ในบาร์ มีชายหุ่นล่ำสันสองคนกำลังพูดคุยและนั่งดื่มอยู่ไม่ไกลจากเขา
หลิน ฮวง แอบฟังการสนทนาของพวกเขาโดยไม่ตั้งใจ มันเกี่ยวกับชั้นที่11ของยาน พวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องของสาวงามคนหนึ่งที่พักอยู่บนชั้น11
จากการสนทนา หลิน ฮวง ได้รู้ว่ามีสมาชิกของชนชั้นสูงอยู่5คนบนยานลำนี้
ชื่อของสาวงามคือเล้ง เยวี่ยซิน และเธอคือลูกคนเดียวของตระกูลเล้ง เธออายุเพียง18ปีแต่เธอกลับเป็นนักล่าระดับทองลำดับที่13ของเขต7
หลิน ฮวง รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินความสำเร็จของเธอ หยี่ เยว่หยู่อายุ19ปีแต่เธอกลับอยู่ลำดับที่997 แม้ว่าหยี่ เสิ่น จะอยู่ที่ลำดับ11 แต่เขาก็อายุ21ปีแล้ว
นอกจาก เล้ง เยวี่ยซิน มันยังมีสมาชิกชนชั้นสูงอีก4คน พวกเขาล้วนเป็นคนหนุ่มสาวและหนึ่งในพวกเขาคือนักล่าระดับทองลำดับที่5ของเขต7 ชื่อของเขาก็คือ หลี่ เอี้ยนซิง
หลิน ฮวง เคยได้ยินชื่อของเขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจบอร์ดนักล่าระดับทองนัก นี่เป็นเพราะเขาเป็นคนที่โด่งดังมาก
เขาคือตำนาน มันมีคนบอกว่าเขาคือเด็กกำพร้า ไม่มีทรัพยากรใดๆ เขาฝึกฝนอย่างหนักจนกระทั่งเขาได้รับการเลี้ยงดูโดยตระกูลหลี่ และมอบชื่อหลี่ เอี้ยนซิง ให้เขา เขาฝึกอย่างหนักจนกระทั่งเขาประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ แต่ทว่า เขามีอายุ27ปีแล้ว
ตามที่พวกเขาบอก หลี่ เอี้ยนซิงกำลังไล่ตามเล้ง เยวี่ยซินอยู่ขณะที่เขาได้เชิญสมาชิกชนชั้นสูงอีกสามคนให้ติดตามเขามา
“หลี่ เอี้ยนซิงฟังดูราวกับจะเป็นคนชอบกดขี่...”แม้ว่าหลิน ฮวง จะไม่รู้จักหลี่ เอี้ยนซิงมากนัก เขาก็รู้สึกได้ว่ามันจะไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะบรรลุสิ่งที่เขามีในตอนนี้ แน่นอน เขาฝึกฝนอย่างหนักแต่ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะสามารถบรรลุได้ด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก มันยังคงเป็นเรื่องลึกลับว่าทำไมตระกูลหลี่จึงมอบความรู้ให้แก่บุคคลภายนอกเนื่องจากพวกเขาก็มีลูกหลานของตน
อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงไม่ได้สนใจมันมากนักเนื่องจากมันเป็นเรื่องของคนอื่นและมันไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเขา
หลิน ฮวง จากไปเมื่อชายหุ่นล่ำสันสองคนเปลี่ยนไปคุยเรื่องบริการพิเศษ
ท้องฟ้าเริ่มมืดเมื่อเขาเดินกลับไปที่ห้อง
จากนั้นเสียงไซเรนก็ดังขึ้นทั่วยานบินขณะที่ขากำลังคิดที่จะฝึกฝนท่าเท้าเงาหิมะ
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงดังและเสียงเอะอะก็ดังขึ้นทั่วยาน
“มีฝูงนกกำลังบินมาทางเรา!เพื่อความปลอดภัย ผู้โดยสารทุกคนควรออกจากดาดฟ้าและกลับไปยังห้องจองคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูและหน้าต่างทุกบานปิดสนิทแล้วและคาดเข็มขัดนิรภัยของท่าน!มันจะปกติหากท่านรู้สึกถึงยานบินที่สั่นเมื่อฝูงนกโจมตี ไม่ต้องกังวลเพราะเราจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ทางเราต้องขอโทษสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น”และเสียงก็หายไป
หลังจากการประกาศ หลิน ฮวง ก็ปิดประตูโดยเร็ว เขาคาดเข็มขัดนิรภัยและนั่งใกล้กับหน้าต่าง เขาอยากรู้ว่ายานบินจะต่อต้านการโจมตีของฝูงนกได้ยังไง
ในไม่ช้า ฝูงนกก็เข้าใกล้ยานบินมากขึ้น
หลิน ฮวง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากหน้าต่างว่ามีนกกระจอกหลายล้านตัว ภายใต้สถานการณ์ปกติ นกจอมทะลวงส่วนใหญ่อยู่ในระดับทองแดงถึงระดับเงิน เห็นได้ชัดว่า มีเพียงนกจอมทะลวงที่มีมงกุฏสีทองบนหัวมันที่อยู่ในระดับทอง
หลิน ฮวง ไม่สามารถมองเห็นได้จากมุมของเขาว่ายานบินใช้มาตรการใดๆเพื่อตอบโต้ฝูงนกกระจอก
อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเห็นได้ชัดว่าฝูนนกกระจอกกำลังบินมาทางยาน ในไม่ช้า ยานบินก็ถูกล้อมรอบโดยพวกมัน....