บทที่ 23 ข่าวจากพี่จี (อ่านฟรี)
ปัญหาใหญ่ในครอบครัวตระกูลหลี่ก็ผ่านพ้นไปในที่สุด เฝิงหยู่รู้ซึ้งดีว่าหลี่ซื่อเฉียงจะไม่กลับไปทำงานยังที่ทำการไปรษณีย์อีก
เฝิงซิ่งไท่ดึงหูของเฝิงหยู่ แล้วพาเขากลับไปโรงเรียน เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องตีเฝิงหยู่ หากเขาไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมประจำเมืองได้
เฝิงซิ่งไท่ไม่ได้ถามเฝิงหยู่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองมากนัก เฝิงหยู่เลยคิดว่าเฝิงซิ่งไท่ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่เฝิงหยู่ไม่ทราบคือ หลี่ซื่อเฉียงได้บอกเฝิงซิ่งไท่ว่าเงินของครอบครัวตระกูลเฝิงเพิ่มสูงถึง 200,000หยวนแล้ว!
อย่างไรก็ตาม พันธบัตรเหล่านี้เป็นพันธบัตรรัฐบาล แม้นพวกเขาไม่ปล่อยขาย พวกเขายังได้รับดอกเบี้ยอีก ดอกเบี้ยจำนวนนี้มากกว่าออมเงินในธนาคารเสียอีก เฝิงซิ่งไท่ได้รับรู้ว่าครอบครัวของพวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก สืบเนื่องมาจากการที่เฝิงหยู่เข้าเรียนในโรงเรียน จึงก่อเกิดความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆมากมาย เช่นนั้น เฝิงหยู่ต้องได้เรียนต่อในโรงเรียนมัธยมปลาย และสามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ในที่สุด
เมื่อเฝิงซิ่งไท่กลับบ้าน เขาซื้อโทรทัศน์สี 19 นิ้วกลับมาด้วย เพราะเขาเผอิญเห็นทีวีสีที่บ้านของหลี่ซื่อเฉียง จึงมีต้องการอยากจะซื้อมาไว้ที่บ้านสักเครื่อง
เฝิงซิ่งไท่เดินทางกลับถึงบ้านพร้อมด้วยทีวีสี เป็นเหตุให้จางมู่วาบ่นพร่ำเพรื่อกับการใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายของเขา แต่เมื่อรู้ว่าเงินออมของพวกเขาเพิ่มจำนวนเป็น 200,000 หยวน เธอจึงใคร่อยากจะซื้อตู้เย็นใหม่
ผลการเรียนของเฝิงหยู่ดีขึ้นมากในแต่ละเดือนที่ผ่าน ผลคะแนนจากการทดสอบในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมมามีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน ครูซุนสรุปผลการเรียนของเฝิงหยู่ หากเฝิงหยู่ยังรักษาผลคะแนนในระดับนี้ไว้ได้ มั่นใจได้เลยว่าเขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองปิงได้cojovo
เขาทำเป็นไม่รับรู้ต่อเรื่องที่เฝิงหยู่และหลี่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันในห้องเรียน เพราะทั้งสองคนกำลังช่วยติวบทเรียนเสริมให้แก่กันและกัน จึงสมควรที่จะได้รับคำชื่นชม
เฝิงหยู่ตั้งใจอ่านศึกษาปานจะจมอยู่ในภูเขาหนังสือ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากหลี่ซื่อเฉียง
หลี่ซื่อเฉียงได้รับโทรเลขภาษารัสเซียจากจีหลี่เหลียนเคอ เขาจำต้องจ่ายเงินให้อาจารย์เพื่อแปลให้เขา อนึ่ง เขาจดจำได้ว่าพวกเขาทำกำไรได้จำนวนมากจากการร่วมงานกับจีหลี่เหลียนเคอ พวกเขาจึงไม่พลาดโอกาสนี้
อย่างไรเสีย นี่อาจจะเป็นการรบกวนการศึกษาเล่าเรียนของเฝิงหยู่ และอาจทำให้เฝิงซิ่งไท่ไม่พึงพอใจ แต่หากไม่มีเฝิงหยู่อยู่ด้วย พวกเขาจำต้องจ้างล่าม แต่พวกล่ามส่วนใหญ่ไม่ถนัดการทำธุรกิจ
"เขาจะมาถึงเมื่อไหร่?" เฝิงหยู่ถาม
“วันพรุ่งนี้ เขาจะมาพักที่โรงแรมนานาชาติ” หลี่ซื่อเฉียงตอบ
"ตกลงครับ. พี่คงต้องเช่ารถจี๊ปในวันนั้น เพื่อโอ้อวดให้เห็นเสียหน่อยว่าเราเป็นคนร่ำรวย ส่วนผมจะรีบไปเมืองปิงในวันมะรืนตอนเย็นครับ เมื่อผมไปถึงเราค่อยคุยรายละเอียดกัน " เฝิงหยู่ตอบ
"พี่จะขับรถตรงไปรับเธอในวันมะรืน พี่ยืมรถจี๊ปมาแล้ว " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
เฝิงหยู่ยิ้ม หลี่ซื่อเฉียงฉลาดกว่าที่เขาคิด หลังจากผ่านการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลเป็นเวลาไม่กี่เดือน เขาทำงานได้อย่างเปิดกว้างมากขึ้นและคิดตรึกตรองถี่ถ้วนยิ่งขึ้น
......
"อะไรกัน? เธอจะขอลาหยุดอีกแล้ว? สอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้ว นี่เป็นการเตรียมตัวโค้งสุดท้ายสำหรับการสอบปลายภาค ว่าแต่ เธอขอลาหยุดด้วยสาเหตุอันใด? "ครูซุนถาม
"ครูซุนครับ พี่เขยของผมมีเส้นสายในเมืองปิง ผมจึงจะไปพบกับเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถรับประกันได้ว่า ผมจะสามารถเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองปิงได้ครับ" เฝิงหยู่ตอบ
แน่นอน คำโกหกนี้มีประสิทธิภาพอย่างมาก เพราะเป็นการยากที่ครูซุนจะปฏิเสธไม่ให้ใบลาแก่เฝิงหยู่ในการไปพบเส้นสายของพวกเขาที่เมืองปิง ถึงแม้ครูซุนไม่ชื่นชอบการกระทำเช่นนี้ แต่ทุกคนล้วนใช้ประโยชน์จากเส้นสายเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต
เมื่อครูซุนเห็นหลี่ซื่อเฉียงจอดรถจี๊ปไว้ที่ประตูหลักของโรงเรียน ครูซันถึงได้เชื่อในตัวของเฝิงหยู่อย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลง พี่เขยของเฝิงหยู่ช่างเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ ยังหนุ่มยังแน่น แต่เขากลับสามารถขับรถจี๊ปได้
รถจี๊ปที่จอดตรงประตูโรงเรียนดึงดูดความสนใจของนักเรียนหลายคน บางคนที่รู้จักเฝิงหยู่ ล้วนอยากจะขึ้นไปสัมผัสรถจี๊ปคันนี้
แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นรถจี๊ปยี่ห้อนี้ในเมือง หรือแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีเพียงระดับหัวหน้าเท่านั้นที่สามารถนั่งรถประเภทนี้ได้ ส่วนพวกเขาเหล่านี้ยังคงเดินทางโดยจักรยานไปมาจากโรงเรียน
"เฝิงหยู่ จะสอบกลางภาคอยู่แล้ว นายยังจะไปไหนอีก? " หลี่น่าถาม พร้อมดึงชายเสื้อเฝิงหยู่
"ฉันจะไปพบญาติที่ช่วยรับรองให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย ฉันอาจจะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายโดยไม่ต้องสอบ เธออยากให้ฉันช่วยเธอด้วยวิธีการนี้หรือเปล่า? " เฝิงหยู่ถาม เขาจงใจเย้าแหย่แกล้งเธอเล่นๆ
หลี่น่าแทบจะร้องไห้ออกมา เธอคิดว่าเฝิงหยู่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่เขาก็ยังเป็นนักฉวยโอกาสที่ต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม
"ฉันจะสอบด้วยตัวเอง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย!" หลี่น่ากล่าว จากนั้น เธอหันกลังแล้ววิ่งกลับไปโรงเรียน ร้องห่มร้องไห้
เฝิงหยู่เอ่ยปาก อยากจะร้องเรียกเธอ แต่ไม่ดีกว่า เขาค่อยกลับมาอธิบายให้เธอฟังอีกทีในตอนเขากลับมา ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ จีหลี่เหลียนเคอ
"สวัสดีครับ เรามาขอพบ Mr. จีหลี่เหลียนเคอ จากมอสโกครับ" เฝิงหยู่ยืนอยู่ที่แผนกต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรงนานาชาติ
"พ่อหนุ่ม เธอรู้คุณจีหลี่เหลียนเคอด้วยหรือ? เธอมาหาเขาด้วยเรื่องอันใด? "พนักงานต้อนรับของโรงแรมถามไถ่
"คุณพนักงาน คุณลองโทรศัพท์ไปหาเขาก็ได้ เขาเป็นคนบอกให้พี่เขยของผมมาหา แล้วพี่เขยของผมก็อยู่ในรถซึ่งจอดอยู่ด้านนอกคันนั้น " เฝิงหยู่กล่าว
พนักงานต้อนรับโทรหาจีหลี่เหลียนเคอ เมื่อมีคนรับสาย เธอพูดภาษารัสเซียสองสามคำเพื่อบอกอีกฝ่ายว่ามีใครบางคนกำลังมาหาเขา
จีหลี่เหลียนเคอลงมาที่ฟล้อนของโรงแรมด้านล่าง พอเห็นเฝิงหยู่ จีหลี่เหลียนเคอความสุขมากจนสวมกอดเขา พร้อมยกตัวเฝิงหยู่ลอยขึ้นจากพื้น
เฝิงหยู่เกือบจะหายใจไม่ออกเพราะแรงกอดของจีหลี่เหลียนเคอ เฝิงหยู่จึงพยายามที่จะผละออกจากอ้อมกอด เมื่อเป็นอิสระจากอ้อมกอดของจีหลี่เหลียนเคอแล้ว เฝิงหยู่ก็รีบบอกเขาทันทีว่ารถจี๊ปอยู่ข้างนอก พร้อมทั้งบอกว่าจะพาไปยังสถานที่ที่ขายสุราขาวจีนชั้นดี พวกเขาจะได้ดื่มไปพลางพูดคุยกันไปพลางๆ
จีหลี่เหลียนเคอเป็นคนที่ชื่นชอบรสชาติของเหล้าขาวจีนเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะมันเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยมและถูกปากเขา พอได้ยินคำพูดของเฝิงหยู่ จีหลี่เหลียนเคอจึงดึงเฝิงหยู่ออกไปที่รถอย่างตื่นเต้น
เฝิงหยู่ยังคงอยู่ในช่วงวัยรุ่น จึงไม่สามารถดื่มได้ ส่วนหลี่ซื่อเฉียงต้องทำหน้าที่ขับรถให้เขา จึงไม่สามารถดื่มได้เช่นกัน ท้ายที่สุด มีเพียงจีหลี่เหลียนเคอเพียงคนเดียวที่ดื่มเหล้า
หลังจากเหล้าหมดไปครึ่งขวด หน้าของจีหลี่เหลียนเคอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เฝิงหยู่พูดคุยกับจีหลี่เหลียนเคออยู่สักพัก แล้วจีหลี่เหลียนเคอระบายเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของเขาให้เฝิงหยู่ฟัง
หลังจากที่ได้รับฟังพื้นเพครอบครัวของจีหลี่เหลียนเคอแล้ว เฝิงหยู่จึงตกอยู่ในอารมณ์ตกใจ เขาไม่คิดว่าพี่จีจะมีภูมิหลังเช่นนี้
พ่อของจีหลี่เหลียนเคอเป็นทหารอากาศประจำโซเวียตติดยศพันเอก เฝิงหยู่คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินชื่อของเขา และดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายพลในอนาคต
จีหลี่เหลียนเคอยังมีพี่ชายอีกคน พี่ชายของเขามีตำแหน่งสูงอยู่ในกองทัพด้วยเช่นกัน ส่วนจีหลี่เหลียนเคอเองก็ยังอยู่ในกองทัพ แต่เขาไม่สนใจสักเท่าไหร่ เขาแค่อยากใช้ชีวิตไปวันๆอย่างอย่างความสุขก็เท่านั้น
เป็นเพราะบิดาของจีหลี่เหลียนเคอมีตำแหน่งในแผนกโลจิสติก เขาจึงมักจะใช้การจัดซื้อเป็นข้ออ้างในการเดินทาง พร้อมด้วยเงินจำนวนอีกจำนวนหนึ่งสำหรับการเดินทาง
ครั้งก่อนที่เขามายังเมืองปิง ก็เพื่อเยี่ยมชมไซต์งาน ในช่วงเวลาของการมาเยือนครั้งนั้น เขาได้นำสิ่งต่างๆติดตัวมามากมาย มั้งยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากสหภาพโซเวียต ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียตกับประเทศจีนไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล เพียงแต่ทั้งสองประเทศไม่ได้ทำการค้าด้วยกัน
เพื่อนบางคนของจีหลี่เหลียนเคอต้องการแฮมและสินค้ากระป๋องจำนวนหนึ่ง แต่พวกเขาไม่มีหนทางในการจับจ่ายซื้อสินค้าเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้เอง จีหลี่เหลียนเคอจึงอาสามาเป็นตัวแทนเพื่อจัดซื้อสินค้าเหล่านี้ในประเทศจีน
ครั้งก่อน จีหลี่เหลียนเคอได้พบกับเฝิงหยู่ เขาได้เล็งเห็นความสามารถของเฝิงหยู่ เฝิงหยู่ไม่เพียงแต่ช่วยให้เขาซื้อสินค้าได้จำนวนมาก ยังช่วยเป็นธุระจัดส่งสินค้าให้ไปที่คลังสินค้าของสนามบิน นอกจากนี้ จีหลี่เหลียนเคอยังรู้ด้วยว่า ในประเทศจีน ไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถจี๊ป ก็หมายความว่ามีคนในครอบครัวน่าจะมีใครสักคนที่เป็นข้าราชการ
การที่จะมีอำนาจได้ นั่นหมายถึง บุคคลนั้นจักต้องมีความสามารถ คนที่มีความสามารถจะช่วยให้เขาซื้อสินค้าจำนวนมากได้ ฉะนั้น จีหลี่เหลียนเคอจึงนำเงินเป็นจำนวนมากมาเพื่อการนี้ เขาตั้งใจที่จะซื้อสิ้นค้ายกแพ็ค
แต่ในสายตาของเฝิงหยู่ จีหลี่เหลียนเคอเป็นดั่งหมูทองที่กำลังรอการถูกเชือด
ในสมัยยุคนี้ การค้าทวิภาคีสามารถทำกำไรได้อยย่างเป็นที่แน่นอน หากเฝิงหยู่จดจำไม่ผิด ทั้งสองประเทศจะลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีแบบปลอดภาษี แต่เขาจำไม่ได้ว่าข้อตกลงเหล่านี้เริ่มบังคับใช้เมื่อไหร่
"พี่จีหลี่เหลียนเคอ ครั้งก่อน ผมลืมบอกบางสิ่งบางอย่างกับคุณไป โชคดีที่คุณกลับมาที่นี่อีก ตอนนี้ ผมจะพูดกับคุณอย่างตรงไปตรงมา"