TWO Chapter 135 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 9
TWO Chapter 135 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 9
หลังจากนู่หวาได้รับของขวัญจากโอหยางโชว ก็มีเสียงแจ้งเตือนระบบดังขึ้นที่หูของโอหยางโชว
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ที่ได้รับความประทับใจของนู่หวา ได้รับเควสฝ่ายระดับแรงค์ C (การช่วยชีวิต)”
“เบื้องหลังภารกิจ : ในขณะที่จักรพรรดิไฟเตรียมกองกำลังอยู่ที่เมืองจักรพรรดิเหลือง นู่หวาได้มีโอกาสแอบออกไปจากเมือง ไปยังแม่น้ำฮูถัว ทางฝั่งตะวันตกของเมืองจักรพรรดิไฟ น่าเศร้าที่เธอจะจมน้ำที่นั่น”
“ความต้องการภารกิจ : ปกป้องนู่หวา และส่งเธอกลับเมืองจักรพรรดิไฟอย่างปลอดภัย, รางวัลภารกิจ : คะแนนการกุศล 300 แต้ม, คะแนนคณูปการสงคราม 800 แต้ม”
โอหยางโชวตะลึง เขาไม่คิดว่าเรื่องราวของตำนานจิงเว่ยจะปรากฎในสถานการณ์เช่นนี้ มีหลายข่าวลือเกี่ยวกับตำนานจิงเว่ย ในโลกจริง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้น แต่พวกเขาสามารถสัมผัสหัวใจและจิตวิญญาณของมันได้
ตำนานกล่าวไว้ว่า จักรพรรดิเหลืองมีลูกสาวชื่อ ‘หวา’ และเธอมีอายุไม่ยืนนัก ทุกคนเรียกเธอว่านู่หวา จักรพรรดิไฟได้ควบคุมดวงอาทิตย์ และทุกเช้า เขาต้องไปที่ทะเลตะวันออก เพื่อสั่งให้ดวงอาทิตย์ขึ้น และกลับบ้านหลังจากที่ดวงอาทิตย์ตกแล้ว
นู่หวาเป็นเด็กประพฤติดี เมื่อพ่อของเธอไม่อยู่บ้าน เธอก็เล่นด้วยตัวเอง เธอมักจะสวมรองเท้าสีแดง และวิ่งเล่นในเขตทุรกันดาร นำดอกไม้มากมายมาทำเป็นมงกุฎ แล้วสวมไว้ที่หัวของตนเอง
เธอมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงจากทิศตะวันออก อาบแดดอย่างมีความสุข พร้อมกับชมทิวทัศน์รอบๆตัวเธอ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเติบโตภายใต้แสงนี้ นกร้องเพลงเป็นเหมือนการเฉลิมฉลอง มันทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจ เพราะความอบอุ่นและแสงสว่างเหล่านี้ ถูกนำมาโดยพ่อของเธอ
บางครั้งเธอจะไปที่ทุ่งใกล้กับทะเลตะวันออก เพื่อดูดวงอาทิตย์ขึ้น เมื่อเธอเห็นรัศมีของแสงเปล่งออกมา พร้อมด้วยดวงอาทิตย์ที่ผุดขึ้นมาจากทะเลตะวันออก เธอดีใจมาก และอยากจะไปที่ทะเลตะวันออก ในสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้น โชคร้าย เธอยังเด็กเกินไปและจักรพรรดิเหลืองไม่สามารถพาเธอไปที่นั่นได้ เพราะสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั้น ห่างออกไปนับล้านกิโลเมตรจากทะเลตะวันออก และสถานที่นั้นก็ร้อนมาก เด็กไม่สามารถจะทนได้
ด้วยเหตุนี้นู่หวาจึงโกรธ มีครั้งหนึ่งที่เธอไม่ได้ฟังพ่อของเธอ หลังจากที่เขาไป เธอก็กระโดดลงทะเลตะวันออก และว่ายน้ำไปยังสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เธอพยายามว่ายน้ำ และว่ายต่อไปเรื่อยๆ ไม่นาน เธอก็พบว่ามันยาก และค่อยๆยากมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้น คลื่นก็กลืนนู่หวาหายไป
นู่หวาจมลงไปในทะเลตะวันออก และไม่เคยกลับมาอีกเลย
อย่างไรก็ตาม ดวงวิญญาณของเธอไม่เคยตาย และเธอเกลียดคลื่นในมหาสมุทร สัตว์จิตวิญญาณของเธอเป็นนกจิงเว่ย ที่มีลวดลายดอกไม้ป่าบนศีรษะ และมีกรงเล็กสีแดง เธอสัญญาว่าจะเอาคืนทะเลตะวันออก
เพื่อเสริมสร้างพลังของเธอ นกจิงเว่ยได้สืบพันธุ์กับนกนางแอ่น ส่งผ่านจิตวิญญาณและเป้าหมายของเธอไปยังหลายชั่วอายุคน จนกว่าเธอจะสามารถเอาคืนมหาสมุทรได้ ลูกหลานที่กำเนิดขึ้นมา ตัวผู้จะเหมือนกับนกจิงเว่ย และตัวเมียจะดูเหมือนกับนกนางแอ่น
นกจิงเว่ยไม่เคยหยุด มันเอาหินและกิ่งไม้โยนไปในทะเลตะวันออกทุกๆวัน แม้แต่ในค่ำคืนที่มีฝนฟ้าคะนอง พวกมันก็จะยังคงทำต่อไปไม่หยุด บางครั้งที่พวกมันเข้าใกล้ทะเลมากเกินไป คลื่นก็จะกลืนกินพวกมัน แต่พวกมันไม่ได้กังวล เพราะรู้ว่านกจิงเว่ยรุ่นต่อไปจะดำเนินภารกิจต่อไป
การเอาคืนของนกจิงเว่ยทำให้เหล่าเทพตะลึง เทพแห่งสายน้ำทรงชื่นชมจิตวิญญาณของนกจิงเว่ย จึงเรียกน้ำอุทกภัย ที่มาพร้อมกับตะกอนโคลนและทราย จากที่ราบสูงมายังทะเลตะวันออก เปลี่ยนน้ำทะเลให้กลายเป็นสีเหลืองขุ่น จากนั้น ผู้คนก็เรียกส่วนนั้นของทะเลตะวันออกว่าทะเลเหลือง
เมื่อทะเลตะวันออกพบว่ามันถูกเอาคืน มันก็ใช้กระแสน้ำพัดตะกอนโคลนและทรายเข้าฝั่ง ทำให้เกิดเป็นที่ราบลุ่มต่ำ และมันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ได้มาใช้ประโยชน์จากพวกมันในการทำฟาร์มเพาะปลูก
ผู้คนไม่เคยลืมว่า ดินแดนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการทำงานหนักของนกจิงเว่ย พวกเขาได้สอนลูกหลานของพวกเขาให้รักนกเหล่านี้ ปกป้องพวกมัน และเรียนรู้จากจิตวิญญาณของพวกมัน มุ่งมั่นอย่างหนักเพื่อเป้าหมายของตนเอง
สำหรับสาวน้อยในตำนาน โอหยางโชวรู้สึกเศร้าและจบปวดมากกับเธอ เมื่อเขาได้รับเควส แน่นอนว่าเขาจะจัดเตรียมให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
…………………………………………………………………………..
โอหยางโชวออกมาจากพระราชวังของจักรพรรดิไฟ การเดินทางครั้งนี้ช่างพิเศษจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะได้พบกับจักรพรรดิไฟในตำนาน แต่เขายังได้พบกับนู่หวาอีกด้วย ใครจะรู้ เขาอาจเป็นผู้เปลี่ยนโชคชะตาของเธอก็ได้
“พี่หวู่ยี่ เราจะทำอะไรต่อไป?” ขณะที่กำลังเดินไปรอบๆ มู่หลานเยว่ก็ถามขึ้น
โอหยางโชวไม่มีแผนการใดๆ เขาจึงกล่าวว่า “เราจะเดินไปรอบๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมาที่นี่ เราต้องลองดูว่าจะสามารถรับเควสอื่นๆได้อีกหรือไม่”
“อื้อ”
โชคไม่ดีนัก แม้ว่าโอหยางโชวจะพยายามอย่างหนัก จึงถึงเวลา 17.00 น. พวกเขาก็ไม่ได้พบเบาะแสของเควสใดๆ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากออกจากเมืองจักรพรรดิไฟ แล้วมุ่งหน้าไปยังค่ายของพวกเขานอกเมือง
ณ ที่ตั้งค่าย หลี่หมิงเหลียงได้นำกองร้อยทหารม้ามาตั้งค่ายชั่วคราวเสร็จแล้ว ไม่ต่างจากเมื่อคืนมากนัก และเป็นธรรมดาที่มันจะไม่ดีเท่าค่ายหลักที่อยู่นอกเมืองจักรพรรดิเหลือง
มันบังคับให้มู่หลานเยว่ต้องใช้เต็นท์ร่วมกับโอหยางโชว โชคดีที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องนอนหลับจริงๆในเกมส์ พวกเขาสามารถออฟไลน์ออกไปพักผ่อนได้
เนื่องจากอัตราส่วนของเวลา ระหว่างแผนที่สมรภูมิและแผนที่หลักเป็น 10:1
อัตราส่วนเวลา ระหว่างแผนที่หลักกับโลกจริงเป็น 1:1 ส่งผลให้เวลาที่ผู้เล่นออฟไลน์ไม่ใช่เช้าวันถัดไป
ตัวอย่างเช่น 2 วันในแผนที่สมรภูมิ ในโลกจริงเวลาผ่านมาเพียง 4 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น นั่นหมายความว่า โอหยางโชวออฟไลน์มาในเวลาตี 1 ในความเป็นจริง เขาสามารถพักผ่อนได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่จะต้องกลับไปออนไลน์อีกครั้ง เพื่อให้ทันรุ่งเช้าของวันถัดไปในแผนที่สมรภูมิ
ในชีวิตที่แล้วของเขา มีหลายคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องอัตราส่วนเวลานี้ พวกเขาใช้เวลา 8-9 ชั่วโมงในโลกจริง ก่อนจะกลับไปออนไลน์ แล้วพบว่าตนเองได้เสียเวลาฟรีๆไป 3-4 วัน
เพื่อให้สงครามผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องมีความแตกต่างของเวลา ระหว่างแผนที่สมรภูมิและแผนที่หลัก
เขารู้สึกหิวเล็กน้อย ดังนั้น เขาจึงไปที่ห้องครัวเพื่อทำบะหมี่ทาน ด้วยทักษะการทำอาหารของเขา บะหมี่ง่ายๆก็อร่อยได้
ในขณะนั้นเอง เสี่ยวเยว่ก็เดินออกมาจากห้องของเธอ มันทำให้โอหยางโชวประหลาดใจ
“ทำไมเธอตื่นตอนนี้ล่ะ?” โอหยางโชวถาม
เสี่ยวเยว่ที่เพิ่งออกจากเครื่องเล่นเกมส์ยังเบลออยู่เล็กน้อย เธอกล่าวว่า “จะไปห้องน้ำ”
“ว้าว! กลิ่นหอมมาก มันทำให้ฉันหิวเลย”
โอหยางโชวส่ายหัวกับท่าทางของเธอ “ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธออีกชาม”
“ของคุณ” เสี่ยวเยว่กล่าวด้วยความยินดี
หลังจากที่เขาทำบะหมี่ให้เธอเสร็จ เสี่ยวเยว่ทานมัน และถามเขาว่า “ทำไมถึงออกมาตอนนี้ล่ะ?”
“เธอเคยได้ยินเรื่องสงครามโจวหลู่มั้ย?”
“แน่นอน ข่าวใหญ่อย่างนั้นจะไม่รู้ได้ยังไง นายเข้าร่วมด้วยเหรอ?”
โอหยางโชวพยักหน้า “ใช่ อัตราส่วนเวลาระหว่างแผนที่สมรภูมิและแผนที่หลักต่างกัน ดังนั้น เดี๋ยวฉันจะต้องกลับไปออนไลน์ในเร็วๆนี้แล้ว”
เสี่ยวเยว่ไม่ทิ้งโอกาสที่จะแกล้งเขา เธอถามซอกแซกว่า “ไม่เลว นายมีอำนาจที่จะเข้าร่วมสงครามโจวหลู่ มีเพียงลอร์ด 100 คน เท่านั้นในภูมิภาคจีนที่ได้เข้าร่วม นายจะไม่บอกชื่อในเกมส์ของนายให้ฉันรู้หน่อยเหรอ?”
โอหยางโชวส่ายหัว เขาไม่ได้งี่เง่า ทำไมเขาถึงต้องบอกเธอ
“...ไม่เป็นไร ถ้านายไม่อยากบอกฉัน...” เสี่ยวเยว่บ่น แต่อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และถามเขาว่า “แผนที่สมรภูมิสนุกมั้ย? นายได้เห็นจักรพรรดิไฟและจักรพรรดิเหลืองรึยัง?”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่ฉันยังได้พบเล่ยฉูและนู่หวาด้วย ทัศนียภาพและสถาปัตยกรรมของที่นั่นน่าทึ่งมากๆ”
ใบหน้าของเสี่ยวเยว่แสดงถึงความอิจฉาริษยา
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เขาจะกลับไปออนไลน์พอดี
ในเต็นท์ มู่หลานเยว่ยังคงนอนหลับอยู่ เขาได้เตือนเธอก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น เขาจึงไม่ได้กังวลว่าเธอจะพลาดเวลา
เขาเดินออกจากเต็นท์มา ค่ายของเขาอยู่ห่างจากเมืองจักรพรรดิไฟไม่ไกล จึงสามารถสังเกตเห็นว่า พวกเขาเริ่มรวบรวมกองกำลังกันแล้ว
จักรพรรดิไฟได้รวบรวมกองกำลังได้ถึง 30,000 นาย พวกเขาใช้อาวุธที่ทำมาจากหินเป็นหลัก มีอยู่หลายชนิด เช่น ขวาน และหอก อาวุธเหล่านี้เป็นของโบราณ แต่ความสามารถในการฆ่าของพวกมันก็ยังคงแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทหารธนูกลุ่มเล็กๆอยู่ด้วย พวกเขาใช้ธนูไม้เป็นหลัก
หลี่หมิงเหลียงเดินทาหาเขา แล้วกล่าวว่า “เรียนนายท่าน จักรพรรดิไฟได้ส่งคนมาบอกว่า พวกเขาจะเคลื่อนพลในเวลา 9.00 น. และบอกให้พวกเราเตรียมตัวให้พร้อม”
โอหยางโชวพยักหย้า แล้วกล่าวว่า “หมิงเหลียง ข้ามีภารกิจให้เจ้าทำ”
“เชิญนายท่านกล่าว”
“จักรพรรดิไฟมีลูกสาวอยู่คนนึง นางมีชื่อว่านู่หวา ในไม่กี่วันหลังจากนี้ จงนำทหารบางส่วนไปที่แม่น้ำที่อยู่ด้านหลังเมืองจักรพรรดิไฟ ถ้าเจ้าเห็นนาง ให้แอบตามนางไปทันที และปกป้องนางให้ปลอดภัย เจ้าเข้าใจหรือไม่?” โอหยางโชวกล่าวอย่างจริงจัง
หลี่หมิงเหลียงงงงวย เขาไม่เข้าใจว่า เขาคาดคิดและมองเห็นการเคลื่อนไหวของคนอื่นได้อย่างไร? ด้วยความเคารพและความเชื่อมั่นในตัวโอหยางโชว หลี่หมิงเหลียงจึงไม่ได้อะไร เขากล่าวว่า “นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะจัดการมันให้เรียบร้อยเอง”
“ดี หลังจากจบภารกิจแล้ว ให้กลับไปที่ค่ายหลักนอกเมืองจักรพรรดิเหลือง เพื่อรวมตัวกับกองกำลังหลัก จากที่ข้าคิดไว้ สงครามคงจะเกิดขึ้นในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า”
“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ!”
ในเวลานั้นเอง มู่หลานเยว่ก็เดินออกมาจากเต็นท์ “พี่ชายหวู่ยี่ กำลังจะออกเดินทางกันแล้วหรือ? ถึงได้มีเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้”
“ใช่ เราใกล้จะออกเดินทางกันแล้ว”
“เยี่ยม!”
โอหยางโชวสั่งให้กองกำลังของเขาเก็บเต็นท์อย่างรีบเร่ง เพื่อจะได้เข้าร่วมกับกองกำลังของจักรพรรดิไฟ เมื่อเขาเห็นพวกเขา เขาไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่เข้าไปร่วมกับพวกเขาเท่านั้น
แฟนเพจ : TWOแปลไทย