[KotB] บทที่ 69: คลาสที่สอง (5)
บทที่ 69: คลาสที่สอง (5)
อาชานรกที่หายตัวไปนานจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาราวกับสายลม
นั่นเป็นเพราะมูยองหมดทางเลือกอื่นนอกแล้ว สำหรับการวางแผนที่จะจับเฮดลี่คาวด้วยตัวเอง
อาชานรกรู้สึกสุขใจเล็กน้อย เนื่องจากนี่เป็นโอกาสทองที่จะทำให้มูยองใช้พรหนึ่งในสามข้อเสียที
มูยองไม่อาจเสียเวลาคิดมากอีกต่อไป
"ฆ่ามันซะ"
มีความแตกต่างกันมากระหว่าง "จับมัน" และ "ฆ่ามัน"!
อาชานรกกู่ร้องเสียงดังก้อง
ฮี้ๆๆ.....!
มันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง ราวกับพยายามจะบอกว่าสามารถไว้ใจมันได้
มูยองดึงดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวที่ฝังในตัวของเฮดลี่คาวออก ก่อนจะค่อยๆกระโดดลงมา
ภูติผีนับพันตนปรากฏตัวขึ้นสร้างเมฆหมอกเพื่อชะะลอความเร็วในการร่วงหล่นของเขา
มูยองเงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้า หลังจากที่ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
'มันจะต้องสำเร็จ'
หากล้มเหลว เขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแผนการใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม อาชานรกยังมีท่าทีสงบราวกับกำลังเดินเล่นอยู่บนทุ่งหญ้า
มันค่อยๆเข้าใกล้เฮดลี่คาวด้วยท่าทีหยอกล้อโดยการวิ่งไปรอบๆเป็นวงกลม ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปตามทางที่เฮดลี่คาวบินต่อไป
เปรี้ยง!
สายฟ้าสีดำผ่าลงกลางเขาของอาชานรก
เขาของมันเริ่มส่องสว่าง และบาร์เรียสีดำก็ถูกสร้างขึ้นล้อมพื้นที่รอบๆ
เฮดลี่คาวถูกขังอยู่ภายในบาร์เรียนั้น แม้แต่ร่างฟีนิกซ์ก็ไม่สามารถขยับได้อย่างง่ายดาย
แรงดึงดูดทวีความรุนแรงขึ้นจนความเร็วของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะร่วงลงสู่พื้น
ฮี้.... ~!
เวทมนตร์จำนวนมหาศาลเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างหนาแน่นบนเขาของอาชานรก
เมื่อวงเวทย์สีดำถูกสร้างอย่างสมบรูณ์ มันแพร่กระจายสายฟ้าโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงงงงงง!
ด้วยความรุนแรงของมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
ขณะที่อาชานรกเหวี่ยงเขาอีกครั้ง วงเวทย์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 1 เมตร พุ่งตรงไปที่เฮดลี่คาวอย่างรวดเร็ว
ตูมมมมมมมมมม!
ระเบิดรุนแรงดังสนั่นหวั่นไหวในอากาศ และในขณะเดียวกัน 'ความมืด' ก็ได้กลืนกินเฮดลี่คาว
ขณะที่วงเวทย์สัมผัสถูกตัวเฮดลี่คาว พื้นที่รอบๆตัวของมันก็ถูกความมืดทำลายกว้างกว่าร้อยเมตร
มูยองยกมือขึ้นเพื่อป้องกันโดยอัตโนมัติ ลมที่เกิดจากแรงระเบิดพัดกวาดต้นไม้โดยรอบหายไปจนสิ้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หยุดมองไปยังทิศทางของฟีนิกซ์
ภาพที่เห็นเป็นเฮดลี่คาวกำลังร่วงลงสู่พื้นอย่างช้าๆ
ไม่น่าเชื่อว่าฟีนิกซ์จะมีความอึดมากมายได้ถึงขนาดนี้ มันสามารถป้องกันร่างกายของตัวเองหลังจากโดนระเบิดอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เปลวไฟรอบตัวของมันอ่อนแอลง เนื่องจากมันใช้กำลังมากเกินไปเพื่อป้องกันตัวเอง
ฮี้ ?
ดูเหมือนอาชานรกก็แปลกใจเช่นกัน
มันไม่คิดว่าฟีนิกซ์จะมีชีวิตรอดอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เข้าโจมตีซ้ำ
อาชานรกจ้องไปที่มูยอง
<อาชานรกเสนอให้คุณฆ่าเฮดลี่คาวด้วยตัวเอง แม้ว่ามันจะสามารถทำได้เองก็ตาม>
<และหากคุณเปลี่ยนใจไม่รับข้อเสนอในการใช้ความช่วยเหลือ สาบานด้วยเจตจำนงค์อันแรงกล้ามันจะย่างสดคุณให้มอดไหม้เหมือนกับเฮดลี่คาว>
'แกบอกว่านี่เป็นข้อเสนองั้นเหรอ?'
มูยองเค่นหัวเราะ
ข้าจะปล่อยให้เจ้าปลิดชีพมัน ในทางกลับกันเจ้าจะไม่สามารถเปลี่ยนใจได้
นัยน์ตาของอาชานรกดูเหมือนจะแสดงออกถึงถ้อยคำเหล่านี้
และสำหรับมูยองมันเป็นข้อดีสำหรับเขาที่จะปลิดชีพฟินิกซ์
แต่เดิมเขาบอกอาชานรกฆ่ามัน แต่หากคิดถึงผลงานและรางวัล การลงมือด้วยตนเองจะได้รับประโยชน์มากกว่า
มูยองขยับตัวขณะที่กระชับมือจับดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวไว้
เขาเดินไปยังทิศทางที่ฟีนิกซ์ร่วงลง และหยุดมองภาพตรงหน้า
นกขนาดมหึมา หายใจรวยรินในขณะที่มันกำลังนอนกองอยู่บนพื้น
กีซซซซซซ
มันส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารมองมาที่เขาเพื่อขอความเห็นใจ ทว่าการแสดงออกของมูยองไม่ได้ดูเหมือนคนที่เห็นใจเลยสักนิด
วูซ
เขายกดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวขึ้น และพุ่งเป้าตรงไปที่คอของนกฟีนิกซ์
"มันจบแล้ว"
ฉัวะ !
หัวขนาดประมาณท่อนแขนถูกตัดออก
จากนั้นเปลวไฟที่ปกคลุมร่างกายของมันก็มอดดับลง
เขาไม่รู้สึกถึงสัญญาณชีพจรใดๆอีก
มูยองหั่นร่างของมัน และเอาหัวใจที่เต็มไปด้วยเปลวไฟออกมา
'หัวใจฟีนิกซ์'
มูยองเปิดใช้งานทักษะ "เนตรนภา" เพื่อดูเกี่ยวกับรายละเอียดของมัน
หัวใจของนกฟีนิกซ์: หัวใจที่ทำให้ฟีนิกซ์เป็นมอนสเตอร์ที่ได้รับการยอมรับในฐานะมิราจ (mirage) พลังที่ไร้ที่สิ้นสุด ว่ากันว่าหัวใจของมันปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และไม่อนุญาตุให้สิ่งแปลกปลอมใดๆเข้ามาได้ พูดได้ว่ามันเป็นสิ่งที่หายากมากๆ คุณภาพวัสดุจัดอยู่ในระดับสูงสุด อุปกรณ์ใดๆที่สร้างขึ้นมาจากมัน จะมีระดับไม่ต่ำกว่า 'มาสเตอร์'
* หากคุณกินมันเข้าไป ค่าสติปัญญา(Int) และภูมิปัญญา(Wis) จะเพิ่มขึ้นอย่างสูง และค่าความต้านทานต่อเปลวไฟจะเพิ่มขึ้นอย่างสูงเช่นกัน
ถ้ามีคำว่า 'อย่างสูง' ปกติจะหมายความว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ~ 20 หน่วย
ถึงมันจะดูน่ากินแต่มูยองกลับส่ายหน้า
เขาตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะสร้างอุปกรณ์จากหัวใจฟีนิกซ์
มูยองเก็บหัวใจไว้ในกระเป๋ามิติ
ร่างกายของฟีนิกซ์ที่สูญเสียหัวใจไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป
เป็นเพราะพลังงานของมันทั้งหมดมาจากหัวใจดวงนี้
หลังจากฟีนิกซ์สูญเสียหัวใจร่างของมันก็หดเล็กลงจนเหี่ยวแห้ง
ฮี้ !
อาชานรกโน้มตัวลงมาข้างๆเขา
ทำท่าทางสง่างาม มันเดินวนไปรอบๆซากฟินิกซ์
มูยองเดาะลิ้นของเขา ขณะที่เห็น
'มันต้องการคำชมจากฉัน'
เขามองเห็นความตั้งใจของมันได้ชัดเจน
เขาไม่คาดคิดว่าอาชานรกจะมีการแสดงออกแบบนี้
พลังที่สามารถข่มสะกดฟีนิกซ์
สำหรับม้าตัวโปรดของจ้าวแห่งความมืด มันมีค่าต่อการโอ้อวดอย่างแท้จริง
"ขอบใจจริงๆ แกน่าทึ่งมาก "
อาชานรกเชิดหัวขึ้นสูง
สามารถพูดได้ว่ามันเป็นม้าที่คาดเดาได้ยากมาก
เมื่อแผนสิ้นสุดลง แต่ทุกอย่างยังไม่เสร็จสมบูรณ์
'การทดสอบของฮูม เหรียญตราแห่งโอม '
เขานำเหรียญที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนออกจากปากของฟีนิกซ์
เพียงครึ่งเดียว ...
การพิจารณาฮูมแบ่งออกเป็นสอง (ดาวตกฮูมมี 2ลูก)
โดเกบิที่พิชิตการทดสอบได้ในอีกพื้นที่ กำลังครอบครองอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ
ซึ่งเขาสามารถรับรู้ในทันทีได้ว่า การทดสอบนั้นได้จบลงแล้วตั้งแต่ตอนที่เขายังลอยอยู่กลางอากาศ
มูยองหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเดินกลับไป
อาชานรกวิ่งเหยาะๆอยู่ข้างเขาตลอดทาง
ราวกับว่ามันยังทำให้เขาประหลาดใจไม่พอกับความยอดเยี่ยมของมัน
โดเกิบิถูกทำให้ตื่นเต้น
จากการทดสอบของฮูมที่มีถึง 2 แห่ง
ท่ามกลางโดเกบิจำนวน 30,000 คนที่เข้าสู่สมรภูมิไร้จุดจุด เหลือจำนวนเพียงไม่ถึง 300 ที่รอดชีวิตออกมาได้
ตรงกันข้ามกับการทดสอบอีกด้าน มีโดเกบิกว่า 20,000 คนที่เดินออกมา
"อีกครึ่งหนึ่งของตราอยู่ที่ไหน"
เซฮุนขมวดคิ้ว
เขาพึ่งสังหารโดเกบิเพลิงอาร์โลได้สำเร็จ แต่ตอนนี้โดเกบิทองคำกลับเป็นตัวปัญหาใหม่
โดเกบิทองคำปลดปล่อยแรงกดดันออกมาเพื่อแสดงพลังของพวกเขา และดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นผู้ชนะในการทดสอบสุดท้ายอีกด้วย
'ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้ ฉะนั้นอยู่เฉยๆและเชื่อมือข้า'
ถือว่าเป็นการพูดเป็นนัยๆ ชัดเจนว่าใครเป็นผู้เหนือนกว่า
แต่...เซฮุนไม่ได้เป้นผู้ครอบครองเหรียญตรานั้น
"มันอยู่นั่น"
เซฮุนยกมือขึ้นและชี้ไปบนท้องฟ้า
กี๊ซซซซซซซซซ!
ฟีนิกซ์กรีดร้องอย่างโหยหวน
เปรี้ยง! เปรี้ยงงงงงงง!
เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นหวั่นไหวไปรอบโดยมีอาชานรกเป็นจุดศูนย์กลาง
ฉากสะกดใจที่เห็นราวกับเป็นภาพของการสร้างโลก เปลวไฟที่เกิดจากสายฟ้าปกคลุมไปทั่ว แม้แต่ไฟทาร์ก็ไม่สามารถสร้างเปลวไฟได้มากขนาดนี้
หรือว่านี่เป็นการต่อสู้ของพวกมังกร ใช่มีเพียงการต่อสู้ของเหล่ามังกรเท่านั้นที่ส่งผลกระทบได้ขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในอันเดอร์เวิล์ดอันยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มังกรนับว่ามีจำนวนน้อยมาก
"มีฟีนิกซ์อยู่ในการทดสอบของเราได้ยังไง?"
"ข้าไม่แน่ใจ ตอนแรกมันไม่ได้เป็นฟีนิกซ์หรอก แต่จู่ๆมันก็เปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น "
"คำพูดล้อเล่นแบบนี้คืออะไร?"
"ทุกอย่างล้วนเป็นความจริง"
เซฮุนผิดหวัง
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้
สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการที่ฟีนิกซ์ฉกชิงเหรียญตรา และมูยองก็ไล่ตามมันไป
'มูยอง'
เขาเป็นโดเกบิน้ำแข็งจริงๆ หรือ?
ตูมมมมมม!
จากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นในอากาศ
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
"นี่มันพลังอะไรกัน"
"เราไม่ควรตามฟีนิกซ์ไปตอนนี้หรือ?"
"ฟีนิกซ์และมอนสเตอร์ตัวนั้นแข็งแกร่งพอๆกับมังกร เป็นไปได้เหรอที่เราจะขัดขวางมันทั้งสองเพื่อนำเหรียญตราคืนมา? "
เหล่าโดเกบิตกอยู่ในความสับสน
มันเป็นเรื่องไม่คาดฝันสำหรับการที่จะมีใครบางคนโผล่พรวดพราดเข้ามาในการทดสอบของมันได้
หลังจากเวลาล่วงเลยไปสักพัก ใครบางคนกำลังเดินมาจากที่ไกลๆ
เขาเดินผ่านเซฮุนทันที และหันไปพูดกับกลุ่มอื่นๆที่เหลือ
"อีกครึ่งหนึ่งของเหรียญตราอยู่ที่ไหน?"
เซฮุนรู้สึกแย่คูณสองเมื่อได้ยินมัน
เป็นคำพูดเดียวกันกับตอนผู้ปกครองโดเกบิทองคำถามเขา
เขามีหินอ่อนอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในมือ
"เหรียญตราแห่งโอม!"
"เจ้ามีมัน"
มูยองพูดอย่างห้วนๆในขณะที่มองไปยังผู้ปกครองของโดเกบิทองคำ
มันคือการกระทำของผู้ที่หยิ่งยะโส
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถตอบสนองเขาได้
กั่บ กั่บ กั่บ กั่บ
เสียงฝีเท้าที่ดังกว่าคนปกติ
และเจ้าของเสียงฝีเท้าที่ยืนเคียงข้างมูยอง เป็นมอนสเตอร์ที่ทุกคนรู้จักดี
อาชานรก!
ทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็นมันยืนอยู่ข้างๆมูยอง
'ไม่มีทาง ไม่มีใครที่จะสามารถควบคุมมันได้?'
มีเสียงเตือนดังขึ้นภายในหัวของเซฮุน
อาชานรกที่แข็งแกร่งพอๆกับมังกร
มังกรส่วนใหญ่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และมีความทรนงในตนเอง และปกติพวกมันชอบอยู่อาศัยตามลำพังเท่านั้น
ถึงไม่มีทางที่ราชาปีศาจหรือเทพปีศาจจะดูอ่อนโยน
แต่เขาสามารถทำให้มอนสเตอร์ที่ใกล้เคียงกับมังกรเชื่องได้?
เซฮุนไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกประหลาดใจ
"ส่งมันมาให้ข้า"
"......."
มูยองค่อยๆ แบมือออก
เขาต้องการเหรียญตรานี้แม้ว่าจะต้องขอความช่วยเหลือจากอาชานรกอีกครั้งก็ตาม
ผู้ปกครองโดเกบิทองคำยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะค่อยๆส่งหินอ่อนให้ด้วยความตระหนักดีถึงสถานการณ์
ถ้าเขาไม่ได้เห็นอาชานรกวิ่งไปรอบๆ พวกเขาอาจต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ แต่ทุกคนต่างหวาดกลัวกับการปรากฏตัวของมัน
พวกเขาไม่ได้เรียกมันว่ามอนสเตอร์ระดับสูงสุดอย่างเรื่อยเปื่อย
ในอันเดอร์เวิร์ล ผู้แข็งแกร่งย่อมชนะเสมอ ถึงจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงสุดเพียงไม่กี่ตัว แต่พวกมันก็มีพลังขนาดที่สามารถทำลายโลกทั้งใบให้แตกเป็นเสี่ยงๆได้
ช่องว่างระหว่างระดับสูงกับระดับท๊อปมันเกินกว่าจะจินตนาการได้
ถ้าเขาต้องการที่จะปกป้องโดเกบิทั้ง 20,000 คนที่เหลือก็ไม่มีทางเลือกอื่น
มูยองประกบหินอ่อนทั้งคู่เข้าด้วยกัน
วิ้งงงงง!
หินอ่อนเริ่มเปล่งแสง
แสงที่ส่องออกมาค่อยๆซึมซับเข้าสู่ตัวเขา
<คุณได้บรรลุเงื่อนไขในการเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของเหล่าโดเกบิ>
<คุณได้เสร็จสิ้นการทดสอบต่อเนื่องกันทั้ง 3 เงื่อนไขแล้ว>
<สมรภูมิไร้จุดจบ, การจุติของโอม ;และการกำจัดนกฟีนิกซ์ >
<จ้าวแห่งความมืดกำลังเริ่มประเมินผล >
อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า
- สุดยอดจริงๆ เขาเยี่ยมเกินกว่าที่เราคาดไว้
- ถึงเขาจะใช้อาชานรก แต่ ยังไงมันก็คือพลังของเขาแหละนะ
- เราจำเป็นต้องเลือกรางวัลที่เหมาะสมกับการพิชิตเป้าหมายเหล่านี้
- อืมม เห็นจะมีแค่เขาเท่านั้น เขาเหมาะที่จะสร้างสวนแห่งความลับของเรา
- สวนแห่งความลับงั้นเหรอ ไม่ ฉันยังไม่ไว้ใจเขา มีคนอีกเยอะที่มีความสามารถเหมือนไม่ต่างจากนี้
- งั้นเราควรจะให้อะไรกับเขาดีล่ะ?
- ใครมีความเห็นอะไรบ้างไหม?
- ฉันคิดว่าเขามีคุณสมบัติที่จะรับช่วงต่อจากฉันนะ
- คิงสเลเยอร์งั้นเหรอ? คุณไม่เคยแสดงความเห็นมาก่อนเลยนี่นา?
- ยังไงก็เถอะเขามีคลาสอื่นอยู่แล้วนะ?
- ยังมีที่ว่างอีกหลายแห่งในดวงวิญญาณของเขา อาจจะมากกว่าสองหรือสาม
- ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะยกระดับเขา คุณต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการครอบครองในสองอาชีพ ในขณะที่เดธลอร์ดกำลังขาดแคลนและคิงสเลเยอร์นั้นระดับความยากของมันสูงเกินไป นอกจากนี้หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนักหากเราต้องการที่จะยืนหยัดบรรลุชัยชนะเป็นคนสุดท้าย
- ในอีกแง่หนึ่ง มันชัดเจนว่าผู้คนจะเป็นยังไงหากได้รับพลังอำนาจมาอย่างง่ายดาย เราต้องการใครสักคนที่จะก้าวไปข้างหน้าเป็นระยะเวลานานโดยไม่คิดหยุดพัก
และฉันเชื่อว่าทุกคนก็คิดแบบเดียวกันในส่วนนี้
ถ้าเขาเดินไปตามเส้นทางที่แสนลำบากยากเข็ญ เขาก็จะได้รับความแข็งแกร่งและประสบการณ์มากมาย
หากเทียบกับผลไม้ เมื่อเขาเก็บเกี่ยวมันในตอนท้ายของเส้นทาง เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่สุกงอมเต็มที่
หลังจากนั้นจ้าวแห่งความมืดทั้หมดก็เสร็จสิ้นการประเมินผล
มีผู้อนุมัติ 8 ราย และผู้ปฎิเสธ 3 ราย
ขณะที่พวกเขาตัดสินใจเสร็จ บริเวณโดยรอบก็มืดมิดลง
ตอนนี้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา