ตอนที่ 60 เจ้าอ้วนโทรมา
สองวันต่อมา หลิน ฮวง ได้เตรียมพร้อมที่จะออกล่าปีศาจ6แขน เขาใช้จ่ายไปถึง1แสนเครดิตเพื่อขยายช่องเก็บของเขาให้เป็น100ลูกบาศก์เมตร
หลังจากที่ขึ้นยานคริสตัลปีศาจ เขาก็มาถึงเมือง7C87ภายในไม่กี่ชั่วโมง เขามองหาโรงแรมและพักอยู่ที่นั่น
เมือง7C87คือเมืองที่ตั้งอยู่ด้านบนของ7D101 เมืองหวู่หลินที่หลิน ฮวง อาศัยอยู่นั่นเอง ชาวบ้านเรียกมันว่าเมืองปาฉี ซึ่งฟังดูคล้ายกับเลข87 ผู้คนได้ลืมชื่อเดิมของมันไปขณะที่พวกเขามักจะเรียกมันว่าเมืองปาฉี
เมืองปาฉีเป็นเมืองเกรดC มันคือเมืองขนาดกลางที่มีขนาดใหญ่กว่าเมืองขนาดเล็กมาก
ในการเปรียบเทียบ พื้นที่ของเมืองขนาดเล็กก็เกือบจะคล้ายกับเมืองบนโลก ในอีกแง่หนึ่ง เมืองขนาดกลางก็เทียบได้กับเมือง3เมืองบนโลกนั่นเอง ซึ่งเมืองขนาดกลางจะมีประชากรที่มากกว่า1ล้านคน
เมืองปาฉีนั้นมีชีวิตชีวากว่าเมืองหวู่หลินและเมืองภูเขาหิมะ
ในเมืองหวู่หลิน มันดูเหมือนจะไม่มีงานอะไรที่จัดในตอนกลางคืน มันมีชีวิตชีวาเล็กน้อยที่เมืองภูเขาหิมะเนื่องจากมีนักท่องเที่ยว แต่เมื่อเทียบกับเมืองปาฉี เมืองภูเขาหิมะยังห่างไกลจากมันนัก
หลิน ฮวง รู้สึกว่าเขาได้กลับสู่อารยธรรมสมัยใหม่เมื่อเขามาถึงเมืองปาฉี
มีตึกระฟ้าและแม้กระทั่งอาคารที่มีการออกแบบอย่างพิเศษ
โรงแรมของหลิน ฮวง เป็นตึกระฟ้า โรงแรมมีทั้งหมด39ชั้นและห้องของหลิน ฮวง อยู่ที่ชั้น21
เขาสงสัยว่าคนจะไปถึงชั้นบนสุดได้ยังไงเพราะตั้งแต่ที่เขาเข้าโรงแรมมาเขายังไม่เห็นลิฟท์ในโลกนี้เลย และเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะมันมีบันไดลอยอยู่ในโรงแรมซึ่งดูเหมือนจะเป็นลิฟท์ หลิน ฮวง ไม่รู้ถึงทฤษฏีและกลไกที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของบันไดลอย เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับมัน
หลังจากที่เช็คอิน เขาก็เข้าไปในห้องเขา หลิน ฮวง ส่งข้อความถึงหลิน ซิน เพื่อบอกเธอว่าเขาปลอดภัย ขณะที่เขายังคงเฝ้าดูวิดิโอการต่อสู้ของปีศาจ6แขนที่หยี่ เสิ่น ส่งมาให้เขา
เมื่อเขาบอกกับหยี่ เสิ่น ว่าเขาเลือกปีศาจ6แขนเป็นเหยื่อของเมล็ดพันธ์ชีวิตเขา หยี่ เสิ่น ก็แนะนำให้เขาเปลี่ยนเป้าหมายแต่เขากลับยืนยันในตัวเลือกของเขา
เนื่องจากปีศาจ6แขนเป็นมอนสเตอร์ที่อันตรายมาก หลิน ฮวง จึงไม่กล้าที่จะประมาท ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา หลิน ฮวง เอาแต่ดูวิดิโอซ้ำไปซ้ำมาขณะที่เขาพยายามจะสังเกตและเรียนรู้ถึงการโจมตีของมัน โดยการพิจารณารูปแบบการโจมตี อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ในแง่ของคนธรรมดา การโจมตีของปีศาจ6แขนจัดได้ว่าน่ากลัว เร็ว และอำมหิต
เธอดูเหมือนจะไม่มีทักษะพิเศษใดๆ การโจมตีของเธอไม่สม่ำเสมอและการโจมตีทุกครั้งจะส่งผลให้ศัตรูของเธอตายในทันที หลิน ฮวง ปวดหัวเมื่อเขาสังเกตเห็นมัน และไม่อาจระบุรูปแบบการโจมตีของเธอได้
ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาสรุปได้ว่าวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการโจมตีระยะไกล
แต่น่าเสียดาย หลิน ฮวง ไม่สามารถใช้อาวุธของเขาได้เพราะผลกระทบของGrayEagle17ที่มีต่อปีศาจ6แขนนั้นมีข้อจำกัด เธอดูเหมือนจะไม่มีจุดอ่อนใดๆ แม้กระทั่งระเบิดก็แทบจะไร้ผลต่อเธอ ดังนั้น หลิน ฮวง จึงถูกบังคับให้ต้องต่อสู้ระยะประชิด
มนุษย์ที่ฆ่ามอนสเตอร์จะต้องทำพิธีชะล้างแสงแห่งชีวิต เพื่อรับเมล็ดพันธ์แห่งชีวิตและการอัปเกรด กระบวนการทั้งหมดจะถูกยับยั้งโดยเงื่อนไขทั้งสอง
ประการแรก มอนสเตอร์จะต้องถูกฆ่าผู้ทำพิธีชะล้างแสงแห่งชีวิต มันจะไม่ได้ผลหากมันถูกฆ่าโดยคนอื่น
ประการที่สอง พิธีชะล้างสามารถนำผู้ร่วมเดินทางไปด้วยได้ แต่ทว่า ระดับของมนุษย์ที่ร่วมเดินทางจะต้องต่ำกว่าระดับของมอนสเตอร์ มิฉะนั้น แสงแห่งชีวิตจะกระจายออกจากศพของมอนสเตอร์และเมล็ดพันธ์ชีวิตจะพังทลาย
หลิน ฮวง เริ่มรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขที่สอง หากเขาต้องลงมือล่าทั้งหมดด้วยตัวเขาเองและเขาไม่ได้รับอนุญาติให้อัญเชิญมอนสเตอร์เพื่อมาช่วยเหลือ อัตราการสำเร็จของเขาจะใกล้เคียงกับ0 เขาอาจจะถูกฆ่าโดยปีศาจ6แขน อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นวิดิโอของผู้ควบคุมบางคนที่เสร็จสิ้นพิธีชะล้าง
มอนสเตอร์ที่ถูกอัญเชิญโดยผู้ควบคุมไม่ใช่มนุษย์ ระดับการต่อสู้ของพวกมันจะไม่ส่งผลต่อแสงแห่งชีวิตและเมล็ดพันธ์ชีวิต ดังนั้น หลิน ฮวง จึงสามารถอัญเชิญไป่หรือไทแรนด์มาเพื่อช่วยต่อสู้ได้
เนื่องจากเขาถูกยับยั้งโดยเงื่อนไขแรก การฆ่าจะต้องเป็นตัวหลิน ฮวง เอง มอนสเตอร์อัญเชิญจะไม่สามารถฆ่าปีศาจ6แขนได้ มิฉะนั้น หลิน ฮวง จะไม่สามารถประกอบพิธีชะล้างแสงแห่งชีวิตได้
“ฉันได้ดูวิดิโอเหล่านี้มาหลายครั้งและไม่มีช่องว่างใดในการป้องกันของเธอ บางที ฉันน่าจะปล่อยให้ไป่ป้องกันการโจมตีของเธอด้วยพลังโลหิตและฉันจะฆ่าเธอ”หลิน ฮวง คิด เขาหวังว่าวิธีโง่ๆนี้จะทำให้เขาสามารถฆ่าเธอได้
เขาปิดหน้าข้อมูลลงและพร้อมที่จะออกไปทานมื้อเย็น เขาต้องการจะเดินไปรอบๆเมืองและผ่อนคลายความเครียดภายในหัวเขา
เมื่อเปิดหน้าผู้ติดต่อขึ้น คนแรกที่โทรหาเขาก็คือเจ้าอ้วน หยิน หยางยี่
หลิน ฮวง ขมวดคิ้วและรับสาย
“หลิน ฮวง นายยังมีชีวิตอยู่!”ใบหน้าอ้วนๆปรากฏบนภาพที่ฉาย(เหมือนโฮโลแกรม)
“ฉันควรจะพูดเช่นเดียวกันกับนาย ฉันบอกให้นายรอฉันแต่เมื่อฉันกลับไป นายกลับหายไป”หลิน ฮวง บอก
“ฉันต้องการช่วยนาย นายกลับไม่ซาบซึ้งใจ!”เจ้าอ้วนหัวเราะเล็กน้อยและกล่าว“หากแม่มดไม่ได้บอกฉันว่านายยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่มีทางรู้ได้เลย เธอบอกฉันว่านายได้ขอเบอร์ฉันไปจากเธอ ทำไมนายจึงไม่ติดต่อฉันมา?”
“มีอยู่สองเหตุผล หนึ่งคือเพราะฉันยุ่งและอีกเหตุผลก็คือ ฉันลืมนะ...”สิ่งที่หลิน ฮวง พูดคือความจริง เขาต้องการที่จะโทรหาเจ้าอ้วนหลังจากเสร็จสิ้นการประเมิน อย่างไรก็ตาม เขากลับลืมมันไปเมื่อแผชิญหน้ากับฝูงมอนสเตอร์
“มันน่าเสียใจนัก ฉันคิดถึงนายในทุกวันและแม้กระทั่งตั้งรูปนายขึ้นหิ้ง ฉันจุดธูปเทียนทุกครั้งที่ฉันคิดถึงนาย…”
“หยุด!”หลิน ฮวง พูดขัดก่อนที่เจ้าอ้วนจะพูดจบประโยค
“เอาละ เอาละ มาพูดเรื่องอื่นกัน”เจ้าอ้วนกล่าวขณะที่นึกได้ถึงเรื่องร้ายแรงที่จะบอกเขา“อ่อ...ฉันได้ยินมาจากแม่มดว่านายเลือกปีศาจ6แขนเป็นเหยื่อเมล็ดพันธ์ชีวิตนาย นายกำลังจะไปป่าลืมเลือนในอีกสองวัน?”
“ใช่ ฉันเอง ทำไม?”หลิน ฮวง ถาม
“นายต้องการที่จะล่าปีศาจ6แขนจริงๆ?มันคือมอนสเตอร์ระดับเหล็กที่อันตรายที่สุด แม้กระทั่งนักล่าระดับทองแดงยังไม่อยากยั่วยุมัน”เขาตอบ เห็นได้ชัดว่าเจ้าอ้วนรู้จักมันมาก่อน
“ฉันรู้ดี ฉันได้เฝ้าดูวิดิโอการต่อสู้ของเธออยู่หลายครั้ง มันยากที่จะรับมือแต่ฉันก็มีวิธีของฉัน”เขาตอบ หลิน ฮวงได้กำหนดแผนต่อสู้และมั่นใจว่าเขามีโอกาส
“โอ้ หากนายคิดเช่นนั้น ก็ไม่เป็นไร”
“เจ้าอ้วน นายทำท่าแปลกๆ เกิดอะไรขึ้น?”หลิน ฮวง ถามในทันที
“แม่มดขอให้ฉันเกลี้ยกล่อมไม่ให้นายไป เนื่องจากนายมั่นใจว่านายสามารถทำมันได้ งั้นมันก็ไม่เป็นไรแล้วละ”เจ้าอ้วนบอกความจริงแก่เขา
“เธอมีเบอร์ติดต่อฉัน ทำไมเธอจึงไม่โทรหาฉัน?”หลิน ฮวง รู้สึกตะงิดใจ
“เธอบอกว่าพี่ชายของเธอได้เตือนนายแล้ว แต่นายไม่ฟัง เธอเดาว่าเธอเองก็จะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมนายได้เช่นกันและเธอจึงร้องขอให้ฉันโน้วน้าวนาย”เจ้าอ้วนพูด จากนั้นเขาก็ถาม“พวกนายสองคนพัฒนาความสัมพันธ์ได้เร็วดีนี่ นายไปพบพ่อแม่ของเธอรึยัง?”
“หยุดล้อฉันเสียที ฉันจะวางสายแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งวาง!บอกฉันทีใครคือพี่ชายเธอ...”เจ้าอ้วนถามพร้อมกับหัวเราะ
หลิน ฮวง ไม่ต้องการจะพูดเรื่องเช่นนี้ต่อและวางสายโทรศัพท์ไป