TWO Chapter 133 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 7
TWO Chapter 133 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 7
วุนรุ่งขึ้น หลังจากที่โอหยางโชวออนไลน์ เขาก็เริ่มฝึกวิชาหอกตระกูลหยาง และปาจีฉวน
“ว๊าว พี่ชายหวู่ยี่ดูเท่มากเลย!” มู่หลานเยว่เดินมาหาเขา เธอตั้งใจจะทำให้เขาตกใจ โดยกล่าวออกมาเสียงดัง
โอหยางโชวไม่สนใจเธอ และยังฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานจากนั้น เฟิงฉิวฮวง, ไป๋ฮัว และคนอื่นๆก็ออนไลน์ พวกเขาเดินมาสังเกตรอบๆโอหยางโชว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ จึงหยุดฝึกซ้อม และจบการฝึกในช่วงต้นเท่านี้
“วิชาหอกของพี่ชายหวู่ยี่นั้นยอดเยี่ยมาก มันเป็นเทคนิคระดับสูงใช่หรือไม่?” เฟิงฉิวฮวงพยายามถามหยั่งเชิง
โอหยางโชวไม่ได้พยายามจะซ่อนมัน เขากล่าวอย่างไม่เห็นแก่ตัว่า “ถูกต้องแล้ว นี่เป็นเทคนิคระดับจักรพรรดิ วิชาหอกตระกูลหยาง ข้าได้ซื้อมันมาจากตลาดเมื่อไม่นานมานี้” เขาหันไปมองมู่กุ้ยหยิง เขาหัวเราะ แล้วกล่าวว่า “วิชาหอกนี้มีต้นกำเนิดเช่นเดียวกับขุนพลมู่”
มู่กุ้ยหยิงแสดงท่าทีแปลกๆ มันอาจจะทำให้เธอคิดถึงความทรงจำที่แสนเศ้รา เธอเงียบและไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาเลย
“พี่สาว!” มู่หลานเยว่เดินไปหามู่กุ้ยหยิงด้วยความเป็นห่วง
มู่กุ้ยหยิงรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ และดึงสติตัวเองกลับมา เธอรูปหัวของมู่หลานเยว่ หัวเราะ แล้วกล่าวว่า “ข้าสบายดี”
เมื่อเห็นบรรยากาศไม่ดี กงเฉิงซีก็กระโดดเข้ามา แล้วตะโกนว่า “พวกเราจะไม่ไปทำภารกิจที่ในเมืองหรือ? สาวงามคนใดอยากจะมาร่วมทีมกับข้าบ้าง?”
ไป๋ฮัวและเหล่าน้องสาวของเธอส่ายหัว เป็นอันเข้าใจคำตอบได้
“ทำไม? หัวใจของข้าเจ็บปวดเหลือเกิน” กงเฉิงซีกล่าวเกินจริง
โอหยางโชวหัวเราะ ขณะที่เขามองกงเฉิงซีที่พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ “วันนี้พวกเราจะไปกันเอง ข้าหวังว่าทุกคนจะได้รับรางวัลดีๆนะ เยว่เยว่ไปกันเถอะ”
“โอเค!” อารมณ์ของมู่หลานเยว่เปลี่ยนได้เร็วมาก เธอเปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความสุขแทบจะในทันที
…………………………………………………………………………..
เมื่อเดินเข้าไปในเมืองจักรพรรดิเหลืองอีกครั้ง ในครั้งนี้ นอกจากหวังเฟิงแล้ว ยังมีคนอื่นๆอยู่กับเขาอีก
“พี่ชายหวู่ยี่ พวกเราจะไปรับภารกิจที่ไหน?” มู่หลานเยว่ถามเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็น
โอหยางโชวคิดเกี่ยวกับคำถามนี้ ในบรรดาสมาชิกที่สำคัญของฝ่ายจักรพรรดิเหลือง เขาไม่มีอะไรในมือที่จะทำให้พวกเขาพอใจได้เลย เพียงแค่การปรากฎตัวเพื่อพบหน้า คงไม่มากพอให้บรรลุเป้าหมายอะไรได้
“เยว่เยว่?” โอหยางโชวหัวเราะ และเรียวมู่หลานเยว่ ราวกับว่าเขาเป็นจิ้งจอกเฒ่า
“ค๊า?”
“เจ้าต้องการไปที่พระราชวังหรือไม่?” จิ้งจอกเฒ่าเริ่มโยนเหยื่อล่อ
“เยี่ยม มันน่าสนุกไปเลย!” จิ้งจอกน้อยกินเหยื่ออย่างง่ายดาย
“งั้นไปกันเถอะ!”
……………………………………………………………………….
ด้านหน้าของประตูพระราชวัง เป็นยามคนเดิมจากเมื่อวาน เมื่อเห็นโอหยางโชว เขาก็ถามว่า “ท่านต้องการพบพระนางอีกครั้งหรือไม่? ข้าจะได้ไปรายงานให้ท่าน”
โอหยางโชวส่ายหัว เขายิ้ม แล้วกล่าวว่า “ไม่ เรามาวันนี้เพื่อขอพบองค์จักรพรรดิเหลือง”
ยามเฝ้าประตูตัวแข็งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวว่า “แน่นอน โปรดรอซักครู่”
หลังจากที่ยามไปแล้ว มู่หลานเยว่ก็มองโอหยางโชวอย่างนับถือ “พี่ชายหวู่ยี่ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก แม้แต่ยามของพระราชวังก็ยังปฏิบัติกับท่านอย่างสุภาพ”
“มันเป็นเพราะข้าได้มาที่นี่เมื่อวานนี้ พวกเขาจึงจำข้าได้” โอหยางโชวกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
ยามกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวว่า “ฝาบาทจะให้ท่านเข้าพบในตอนนี้!”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วเดินตามยามเข้าไปในพระราชวังอีกครั้ง ระหว่างทาง มู่หลานเยว่มองไปรอบๆ และดูเหมือนว่าเธอจะสนใจพระราชวังในยุคป่าเถื่อนเช่นนี้ แน่นอนว่าโอหยางโชวไม่ได้รบกวนเธอ
ครั้งนี้จักรพรรดิเหลืองเลือกที่จะพบโอหยางโชวในห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องด้านข้างหลายเท่า บนพื้นเป็นหินสีเทาเข้ม และบนผิวของมันมีลวดลายดอกไม้
เมื่อเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ มีบันใด 4 ขั้นหน้าทางเข้า และมียามถือหอกยาวทั้ง 2 ข้างของทางเข้า ด้านหน้าของทางเข้าเป็นประตูไม้รูปไข่ มีลวดลายดอกไม้บนประตู แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาเกี่ยวกับการก่อสร้างของบรรพบุรุษในยุคนี้
ข้ามประตูรูปไข่มา เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเก้าอี้ขนาดเล็กตั้งอยู่ตรงกลาง โอหยางโชวเดาว่าต้องนั่งไขว่ห้าง มันเป็นมารยาทจากยุคธุรกิจ
ด้านหน้าของห้องโถงมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นพระที่นั่งของจักรพรรดิเหลือง ด้านหลังเป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่และลึกลับ เต็มไปด้วยพลังที่ป่าเถื่อนและรุนแรง
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่คนที่กระปรี้กระเปร่าอย่างมู่หลานเยว่ก็ยังเงียบ
องค์จักรพรรดินั่งอยู่บนบัลลังก์ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำและผูกด้วยเข็มขัดหลังเสือที่เอว ด้านหลังของเขาแขวนด้วยผ้าคลุมสีดำ และมีสร้อยเขี้ยวหมาป่าห้อยอยู่ที่คอของเขา ตรงกลางของสร้อยเป็นก้อนหินสีดำที่ไม่รู้จักร นอกเหนือจากนี้แล้ว ไม่มีเครื่องประดับอื่นอีก
เขามีผิวสีแทน ใบหน้ากว้าง คิ้วหนา ตาโต เคราหนาและปล่อยผม เขานั้นเต็มไปด้วยความเป็นชาย
“ตัวแทนฉีเยว่หวู่ยี่/มู่หลานเย่ คำนับฝ่าบาท!” โอหยางโชวและมู่หลานเยว่โค้งคำนับต่ำ ส่วนหวังเฟิงถูกหยุดโดยยามที่หน้าทางเข้าห้องโถง
“ไม่จำเป็น!” จักรพรรดิเหลืองกล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความพิเศษ “เมื่อวานนี้ชายาของข้าเล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับเจ้า และวันนี้เจ้าก็มาขอพบข้า เจ้ามีเรื่องจะรายงานหรือไม่?”
“เรียนฝ่าบาท ในฐานะตัวแทน ข้าควรบอกท่านเกี่ยวกับสถานะของกองกำลังทั้งหมดของผู้เล่น ดังนั้น ข้าจึงมาที่นี่เพื่อรายงานเรื่องนี้กับท่าน” โอหยางโชวกล่าว แม้แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าคำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยคำโกหก
จักรพรรดิเหลืองพยักหน้าอย่างมีความสุข “ไม่เลว ไม่ใช่ทุกวันที่จะมีคนสติปัญญามาขอพบข้า”
“กองกำลังของเหล่าผู้เล่นมีทั้งสิ้น 8,000 นาย และข้าสามารถเคลื่อนพบได้ทันที 2,000 นาย หากสงครามเริ่มขึ้น ข้าสามรถเคลื่อนพลได้ 5,000 นาย ส่วนที่เหลืออีก 3,000 นาย พวกเขาอยู่นอกเหนือการควบคุมของข้า โดยทหารส่วนใหญ่จะเป็นทหารโล่ดาบ และมีบางส่วนเป็นทหารธนูและทหารม้า” โอหยางโชวรายงาน และเขาไม่ลืมที่จะทิ้งเหยื่อไว้
“พลังต่อสู้ของพวกเขาเป็นอย่างไร?”
“ข้าไม่สามารถบอกของคนอื่นได้ แต่ทหารทั้ง 2,000 นาย ของข้า เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะสู้เพื่อท่าน” คำกล่าวของโอหยางโชวนี้ค่อนข้างหน้าอาย แม้กระทั่งมู่หลานเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็แอบขำในใจ
ถึงแม้มันจะดูน่าอาบ แต่ทุกก็ชอบมันที่จะได้ยินมัน “ดี ข้ามี 2 ภารกิจสำหรับเจ้า เจ้ายินดีจะยอมรับมันหรือไม่?”
“ข้ายินดีที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อท่าน!” โอหยางโชวตะโกนด้วยความสุข
มู่หลานเยว่อ้าปากกว้าง เธอไม่อยากจะเชื่อ “นี่ท่านรับภารกิจด้วยการทำเช่นนี้หรือ?”
โอหยางโชวไม่สนใจเธอ และตรวจสอบการแจ้งเตือนระบบ
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ สำหรับการเปิดเควสฝ่าย ระดับแรงค์ D (การส่งจดหมาย)”
“เบื้องหลังภารกิจ : สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น จักรพรรดิเหลืองจึงได้เริ่มรวบรวมเผ่าต่างๆ”
“ความต้องการของภารกิจ : รีบไปที่เมืองจักรพรรดิไฟ และบอกให้จักรพรรดิไฟนำกองกำลังของเขามารวมกับจักรพรรดิเหลือง, รางวัลภารกิจ : คะแนนการกุศล 200 แต้ม,คะแนนคณูปการสงคราม 400 แต้ม”
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ สำหรับการเปิดเควสฝ่าย ระดับแรงค์ B (การสอดแนม)[เควสสามารถแชร์ได้]”
“เบื้องหลังภารกิจ : จักรพรรดิเหลืองต้องการทำความเข้าใจ สถานการณ์ในฝ่ายชี่โหยว”
“ความต้องการของภารกิจ : ไปที่ที่มั่นของชี่โหยว และตรวจสอบสถาณการณ์ทางทหารของพวกเขา, รางวัลภารกิจ : คะแนนการกุศล 400 แต้ม, คะแนนคณูปการสงคราม 1,600 แต้ม”
การที่โอหยางโชวจะทันฟื้นตัว ก็ได้มีเสียงแจ้งเตือนสงครามดังขึ้น
“แจ้งเตือนสงคราม : ผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ได้เปิดภารกิจฝ่าย, ลีดเดอร์บอร์ดผลของสงครามได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ผู้เล่นโปรดดู!”
“แจ้งเตือนสงคราม : มี 3 วิธีที่จะได้รับคะแนนคณูปการสงคราม วิธีแรกคือ การทำเควสฝ่าย, วิธีที่ 2 คือ การฆ่าศัตรู และวิธีที่ 3 คือ การดำเนินการโดยรวม”
“แจ้งเตือนสงคราม : คะแนนคณูปการที่จะได้จากการฆ่าศัตรู สามารถคำนวณได้ดังนี้ ฆ่าทหารทั่วไป จะได้รับ 10 แต้ม, ฆ่าขุนพลทั่วไปของศัตรู จะได้รับ 100 แต้ม, ฆ่าขุนพลคนสำคัญของศัตรู จะได้รับ 1,000 แต้ม และฆ่าผู้นำของศัตรู จะได้รับ 20,000 แต้ม”
“แจ้งเตือนสงคราม : การคำนวณการดำเนินการโดยรวมมีดังนี้ หลังจบสงคราม ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพโดยรวมของพวกเขา การมีส่วนร่วมกับฝ่าย และการช่วยเหลือฝ่าย โดยจะได้รับเป็นคะแนนคณูปการพิเศษ”
“แจ้งเตือนสงคราม : หลังจบสงคราม คะแนนคณูปการสงคราม จะถูกแปลงเป็นคะแนนการกุศล ในอัตราส่วน 10 : 1, นอกจากนี้ ยังมีคะแนนการกุศลที่จะได้รับจากการจัดอันดับในลีดเดอร์บอร์ด, อันดับ 1 จะได้รับคะแนนการกุศล 4,000 แต้ม, อันดับ 2 จะได้รับ 3,000 แต้ม, อันดับ 3 จะได้รับ 2,000 แต้ม, อันดับ 4-10 จะได้รับ ลดลงไปอันดับละ 200 แต้ม, อันดับ 11-20 จะได้รับ 500 แต้ม, อันดับ 21-30 จะได้รับ 400 แต้ม, อันดับ 31-40 จะได้รับ 300 แต้ม, อันดับ 41-50 จะได้รับ 200 แต้ม, อันดับ 51-100 จะได้รับ 100 แต้ม และไม่มีรางวัลใดๆสำหรับผู้ที่ได้รับอันดับเกิน 100”
รูปแบบการให้รางวัลของระบบเป็นแบบพีรมิดทั่วไป โดยด้านบนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีแต่มีจำนวนผู้รับน้อย และจะได้รับลดลงมาในด้านล่างแต่จะมีจำนวนผู้รับมากขึ้น เพื่อเป็นการให้ผู้เล่นพยายามอย่างที่สุด ภายใต้รูปแบบดังกล่าว ความแตกต่างกันมากของรางวัล จะยิ่งเพิ่มความแตกต่างระหว่างลอร์ด ทำให้ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในตำแหน่งด้านบน เพิ่มตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่นๆ และมันจะส่งผลต่อการนำทหารของพวกเขาเข้าร่วมในแผนที่สมรภูมิครั้งต่อไปด้วย
รูปแบบประเภทนี้นับเป็นวงจรเชิงลบสำหรับผู้ที่อ่อนแอ ในทางตรงกันข้าม มันคือวงจรเชิงบวกสำหรับผู้เล่นที่แข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ที่แข็งแกร่งจะมีชีวิตรอด และผู้ที่อ่านแอจะถูกกำจัดออกไป
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู่เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ สำหรับการเปิดลีดเดอร์บอร์ดผลของสงคราม, รางวัลพิเศษ : คะแนนคณูปการ 500 แต้ม”
ถึงจะน่าประหลาดใจที่ได้รับ แต่คะแนนคณูปการสงคราม 500 แต้ม ก็เทียบได้กับคะแนนการกุศลเพียง 510 แต้ม เท่านั้น อันดับในปัจจุบันของเขาก็เพียงแค่ชั่วคราว
ในสงครามครั้งแรกนี้ จำนวนของกองกำลังถูกจำกัด ดังนั้น การได้รับคะแนนคณูปการก็มีข้อจำกัดเช่นกัน ถ้าคุณไม่สามารถฆ่าขุนพลหรือผู้นำของศัตรูเพื่อให้ได้รับรางวัลที่ดีได้ คุณต้องพึ่งพารางวัลจากลีดเดอร์บอร์ด ถ้าใครเข้าไปอยู่ใน 3 อันดับแรกได้ ก็จะกลายเป็นผู้นำของภูมิภาคได้เลย
แต่หากกล่าวเกี่ยวกับสงครามในอนาคต กองกำลังของพวกเขาจะมีมากกว่านี้ และพวกเขาก็จะได้รับคะแนนคณูปการจากการฆ่าได้สูงขึ้น และอาจสูงยิ่งกว่าที่ได้รับจากลีดเดอร์บอร์ดเสียอีก
แฟนเพจ : TWOแปลไทย