Chapter 138: ออกมาซะ!
ในห้องแลกเปลี่ยนนั้นไม่มีใครเลยที่กล้าแม้แต่จะพูดออกมาสักคำหนึ่ง มันทำให้สถานที่อย่างกับเป็นฝันร้าย หลังจากที่พวกเขาฟื้นคืนสติได้แล้ว การกระทำแรกของพวกเขาก็คือการหลบหนี! มิฉะนั้นละก็พวกเขาก็จะมีชะตาที่จะต้องตาย พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องหนีในตอนท้าย
พวกเขานั้นเคยที่จะโอ้อวดและหยิ่งยโสก่อนหน้านี้แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีค่าอะไรเลย ปราศจากรถยนต์แล้วพวกเขาก็สามารถที่จะหลบหนีได้เพียงการใช้ขาทั้งสองข้าง ซึ่งมันจะทำให้เกิดบทสรุปที่น่าอายขึ้น! สำหรับคำถามว่าถ้าพวกเขาไปเจอซอมบี้พวกเขาจะทำยังไงกับมันละก็ พวกเขาจะค่อยคิดหลังจากที่พวกเขาหลบหนีได้สำเร็จก่อน ถ้าพวกเขายังคงอยู่ที่นี่ละก็พวกเขาก็จะตายอย่างง่ายแน่ๆ!
“ปัง!”กัปตันของทีมนั้นเป็นคนนำในการเปิดหน้าต่างด้านหลัง หลังจากนั้นเขาก็มองกลับไปและสาปแช่งอย่างรุนแรง “ไอ้พวก7เทพ ไอ้เหี้..!”สมาชิกของทีมเขาหลายคนนั้นถูกฆ่า และเขาก็ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะไปหาเจียงลู่ฉีเพื่อที่จะล้างแค้นดังนั้นเขาจึงระบายความโกรธแค้นของเขาลงไปที่กลุ่มของเทพเจ้าทั้ง7
ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นหวาดกลัวกลุ่มเทพเจ้าทั้ง7มาก่อนหน้านี้ แต่มันก็ถึงจุดสิ้นสุดของความอดทนของพวกเขาแล้ว กลุ่มเทพเจ้าทั้ง7นั้นเหมือนพระพุทธรูปที่ทำมาจากดินเหนียวกำลังข้ามแม่น้ำ มันเป็นเรื่องยากที่จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
พี่สาวฮงก็ติดตามกลุ่มคนพวกนี้ไปอย่างลับๆด้วย สุนัขนั้นสามารถกระโดดข้ามกำแพงได้ถ้ามันตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวัง ดังนั้นพวกเธอนั้นเตรียมพร้อมที่จะตายไปพร้อมๆกัน!
ไป๋ซานชานมองไปที่ฉากนี้พร้อมกับท่าทางที่น่ารังเกียจ หลังจากที่เจียงลู่ฉีทำลายรถของพวกเขาแล้ว หัวใจของเขาก็แทบจะระเบิดด้วยความโกรธ มันหมายถึงว่าตลาดมืดของเขานั้นถึงจุดจบเรียบร้อยแล้ว
“บัดซบเอ้ย!”ตาของไป๋ซานชานเริ่มที่จะแดงขึ้น ตลาดมืดนั้นเพียงแค่เป็นจุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยานของเขา เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะถูกทำลายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ความเจ็บปวดแบบนี้นั้นทำให้เขาอยากจะพุ่งไปฆ่าเจียงลู่ฉีในทันทีเลย
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เองเขาก็เห็นหัวหน้าอันดับสามของกลุ่ม7เทพที่เขากำลังพยายามจะหลบหนีไปอย่างลับๆพร้อมกับคนอีกหลายๆคน “นายก็ต้องการที่จะหนีด้วยเหรอ!?”การแสดงออกของไป๋ซานชานก็ตัวสั่นไปอย่างฉับพลัน
หัวหน้าอันดับสามนั้นกำลังถือปืนและยืนประจันหน้ากับไป๋ซานชานและเขาก็พูดขึ้น “ไป๋ซานชาน ถ้าพวกเราไม่ถอนตัวตอนนี้ พี่น้องของพวกเราจะตายกันทั้งหมด!”แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะตัดเส้นทางของตัวเองออก
แต่สมาชิกของกลุ่มเทพเจ้าทั้ง7อีกคนพูดตรงๆขึ้น “ไป๋ซานชานนายเป็นคนที่ยั่วยุพวกเขา พวกเราเพียงแค่ต้องการมีชีวิตอยู่ นายมันเห็นแก่ตัวเกินไป มันยากเกินจะเป็นความจริงไปที่พวกเราจะหนีไปพร้อมกันกับนายได้ โจวจิงคือตัวอย่างที่ดี”
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกเขานั้นมีโอกาสที่จะหนี พี่น้องไป๋นั้นจะพาพวกเขาหนีไปด้วยกันอย่างงั้นเหรอ? เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูมันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีใครบางคนอยู่และต่อสู้มัน แน่นอนว่าทุกคนรู้ความจริงนี้ดี
“เหี้...เอ้ย!”ไป๋ซานชานยกปืนขึ้น
เขานั้นเป็นชายที่มีความทะเยอทะยาน แต่คนพวกนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน ปกติแล้วพวกเขาจะปกป้องกันและกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความกราดเกรี้ยวของเจียงลู่ฉีแล้ว พวกเขาก็จะไม่เข้าร่วมกับเขาเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเกินไป.....
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ไป๋ปิงไฮ่จึงโกรธขึ้น
“ฉันเป็นเพียงคนเดียวงั้นเรอะที่ยั่วยุพวกมัน? นายอย่าบอกฉันนะว่านายไม่มีความคิดแบบนั้นเลยซักนิดเดียว? มันสายเกินไปแล้วที่นายจะพูดมันในตอนนี้”ไป๋ซานชานพูดออกมาทีละคำทีละคำ
หัวหน้าคนที่สามตอบ “พี่ไป๋ซานชาน มันคือทางเลือกของพวกเรา พี่ต้องการที่จะบังคับพวกเราอย่างงั้นสินะ?” ในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาเล็งไปที่ไป๋ซานชานในทันที เมื่อเห็นคนพวกนี้ตกอยู่ในความเงียบงัน ไป๋ซานชานก็สั่นไปด้วยความโกรธ เขาต้องการที่จะฆ่าคนพวกนี้จริงๆแล้ว!
“พี่!”ในเวลานั้นเอง ไป๋ปิงไฮ่ก็หยุดเขาและพูด “ปล่อยให้พวกมันหนีไป!”
เมื่อเห็นคนพวกนี้แล้วไป๋ซานชานก็รู้สึกรำคาญ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดขึ้น เขาเกลียดกลุ่มคนพวกนี้ที่สุด! และเขาก็ยังคงเกลียดไอ้เหี้...เจียงลู่ฉีด้วย!
“พี่ ในขณะที่พวกมันหนีกันอยู่ พวกเราควรที่จะหาโอกาสในการถอนตัวด้วย!”ไป๋ปิงไฮ่พูด ตลาดมืดนั้นถึงจุดจบแล้วแต่ถ้าพวกเขายังสามารถที่จะมีชีวิตรอดอยู่ละก็ ทุกสิ่งทุกอย่างก็สามารถที่จะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีได้ เจียงลู่ฉีจะไม่ปล่อยพวกเขาหนีไปง่ายๆ
ไป๋ซานชานสับสนและถามอีกครั้งหนึ่ง “ไฮ่ซิ นายหมายความว่ายังไงนะ?”
“ชายคนนี้แม่งทรงพลังเกินไปพร้อมกันกับรถที่ยอดเยี่ยมและปืนหลายกระบอกแบบนั้น อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าเขาจะต้องหวาดกลัวสิ่งของพวกนี้!”ไป๋ปิงไฮ่โบกมือให้ชายที่อยู่ข้างเขาและพูด “เอาพวกมันมานี่!”
ชายคนนี้รีบเปิดกระเป๋าที่ด้านในนั้นมีระเบิดอยู่หกลูกอยู่! “พี่ ผมเชื่อว่าเขาจะหนีไปแน่นอน!”ไป๋ปิงไฮ่พูดอย่างดุร้าย
เจียงลู่ฉีนั้นโหดร้ายเกินไป แต่ต่อหน้าการระเบิดนี้แล้วเขาก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลย! ไป๋ซานชานนั้นก็ไอเดียที่แสนชาญฉลาดแล้ว “ใช่เลย ไอ้เหี้...นั่นจะต้องหลบอยู่หลังกระดองแน่ๆ”
“พร้อมกันกับระเบิดพวกนี้แล้ว พวกเราสามารถที่จะฆ่าเขาได้อีกด้วย! มึง! มึง! ตามกูมา”ไป๋ปิงไฮ่เลือกผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิดมาทั้งหมด มีเพียงแค่กรณีนี้เองที่พวกเขายังคงมีความกล้าที่จะจู่โจม ส่วนสำหรับทีมอื่นแล้ว พวกเขาก็มีเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป
น้องชายของเขานั้นจัดระเบียบเกือบแทบทุกอย่างแล้ว มันมีเพียงทางเลือกทางนี้เพียงทางเดียว! พวกเขารีบไปหลบหลังบังเกอร์ในทันทีและเล็งปืนไปที่ประตู ไป๋ปิงไฮ่และผู้เชี่ยวชาญอีกบางคนนั้นยังคงแอบซ่อนอยู่ พวกเขานั้นรอคอยโอกาสในการโจมตี! ไป๋ซานชานนั้นเปิดเผยรอยยิ้มที่บ้าคลั่งให้คนอื่นเห็น “ไอ้พวกเหี้... มึงรอกูก่อน! กูมั่นใจว่ามึงจะตายแน่ๆรอบนี้!”
…
“นั่นเยี่ยมไปเลย” ในรถมินิบัส จางไฮ่และซุนคุนมองไปที่รถที่พลิกคว่ำด้านหน้าพวกเขา มันทำให้เลือดพวกเขานั้นร้อนระอุด้วยความตื่นเต้น
หลันซิหยู่มองไปที่ชายที่แข็งแกร่งทั้งสองคนที่ตื่นเต้น ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการกระทำของจางไฮ่และซุนคุนนั้นจะป่าเถื่อนไปสักหน่อย เพียงแค่เธอนั่งอยู่ในรถนี้และเห็นกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอก็รู้สึกแบบนั้นด้วยเช่นกัน
เมื่อเธอนั้นถูกขังอยู่ในกรง เธอสามารถที่จะรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง แต่ในตอนนี้เธอนั้นได้ฟื้นคืนความมั่นใจมาแล้ว เธอมองไปที่ประตูของห้องแลกเปลี่ยนและกระตือรือร้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
ในเวลานั้นเอง เสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง! เจียงลู่ฉีและหยิงนั้นจะไม่ให้โอกาสไป๋ซานชานหนีเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุผลหลักที่พวกเขากลับมานั้นก็คือฆ่าเขา ดังนั้นรถมินิบัสก็พุ่งไปยังห้องแปลกเปลี่ยนคล้ายกันกับสัตว์ประหลาด
“ไป๋ซานชาน! ออกมาซะ!”