บทที่ 106 คนฟั่นเฟือนกับการแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ
“เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีจิงสือ” จั่วม่อได้แต่กล่าวเช่นนี้
“อ้อ เจ้าสามารถติดหนี้ข้าได้” ผูเยาแจกแจงอย่างเฉื่อยชา “คราวนี้เจ้าใช้ไปสองชิ้นจิงสือระดับสี่ อ้อ รวมกับค่าตอบแทนของข้า เห็นแก่การที่ล้วนเป็นคนกันเอง ข้าจะลดราคาให้ เหลือเพียงแปดชิ้นจิงสือระดับสี่ รวมทั้งหมดเป็นสิบชิ้นจิงสือระดับสี่ อ้อ กำหนดจ่ายคืนภายในสามเดือน ทุกหนึ่งเดือนที่เกินเวลา ราคาจะเพิ่มทวีคูณเป็นสองเท่า”
จั่วม่อแขนขาเย็นเฉียบ “ผู ราคานี้ไม่หน้าเลือดเกินไปหน่อยหรือ...”
“อ้อ ไม่ ไม่ ไม่ ข้าคืออสูรฟ้า ค่าธรรมเนียมการปรากฏตัวของข้ามีราคาแพงมาก” ผูเยากล่าวอย่างไร้ยางอาย
สิบชิ้นจิงสือระดับสี่ นั่นเท่ากับห้าพันชิ้นจิงสือระดับสาม ... สามเดือน...
จั่วม่อรู้สึกหน้ามืดวิงเวียน พยายามประท้วงครั้งสุดท้าย “นี่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!”
“อืม ไม่สำคัญหรอก ข้าชอบการดิ้นรนกระเสือกกระสนของเจ้า!” ผูเยาเผยรอยยิ้มอันน่าหลงใหล
ในตงฝู จั่วม่อนั่งอยู่ในร้านค้าของสำนัก สมาธิจิตใจทั้งหมดจดจ่ออยู่กับการควบคุมไฟหินงอก ภายในลูกไฟสีขาว มีกลุ่มก้อนของเหลวเรืองประกายที่กำลังเดือดพล่าน ผู้ฝึกตนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง สองตาจ้องมองไปยังลูกไฟสีขาวน้ำนมอย่างตึงเครียด
ทันใดนั้นไฟหินงอกก็เลือนหายไป กลุ่มของเหลวบริสุทธิ์และโปร่งใสลอยเงียบๆ อยู่ข้างหน้าจั่วม่อ กลิ่นหอมแปลกๆ กำจายไปในอากาศจนทั่วห้อง จั่วม่อบังคับยาเหลวอย่างชำนาญ เคลื่อนย้ายลงไปในขวดหยกที่ตระเตรียมไว้ เมื่อของเหลวลงไปในขวด มันก็ปิดจุกตามลงไปทันที
“น้ำสกัดหญ้าระฆังของเจ้า ยี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม” จั่วม่อกล่าวด้วยสีหน้าตายด้าน
“พี่น้อง เจ้าสามารถลดราคาสักหน่อยหรือไม่ ข้ามาเป็นครั้งที่เก้าแล้วนะ!” ซิวเจ่อผู้นั้นวิงวอน
จั่วม่อเงยหน้าไร้อารมณ์ของมัน ตอบว่า “ค่าธรรมเนียมการปรากฏตัวของข้าแพงมาก”
อีกฝ่ายอับจนถ้อยคำ ได้แต่นำจิงสือยี่สิบชิ้นระดับสามออกมาอย่างเจ็บปวดใจ จั่วม่อกระทั่งมองยังไม่มอง เพียงยัดจิงสือลงไปในถุงร้อยสมบัติที่เอว จากนั้นหลับตา เข้าฌานฟื้นฟูพลังปราณ จากนั้นสักครู่หนึ่ง มันลืมตากล่าวว่า “คนต่อไป”
หลี่อิงฟ่งรีบปล่อยให้บุคคลอื่นเข้าไปอีกคนหนึ่ง นับตั้งแต่ที่ศิษย์น้องจั่วม่อมายังร้านค้าของสำนัก การค้าของมันที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน ทำให้นางต้องตกตะลึง ศิษย์น้องไม่ทราบได้รับไฟสีขาวแปลกๆ มาจากที่ใด เป็นไฟที่เย็นยะเยือกเป็นอย่างยิ่ง ศิษย์น้องจั่วม่อยังแสดงให้เห็นความสามารถทางการค้าของมัน มันรับงานประหลาดทุกชนิด อย่างเช่นรับสกัดและกลั่นกรองของเหลวทางยาให้บริสุทธิ์ หรือรับหลอมสร้างวัตถุดิบบางอย่าง งานเหล่านี้นางไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แต่ศิษย์น้องจั่วม่อสามารถกระทำได้ทั้งหมด
นางค้นพบอย่างรวดเร็ว ศิษย์น้องจั่วม่อเพียงรับจ้างทำงานอย่างคนกลางเท่านั้น ดังเช่นการกลั่นกรองวัตถุดิบบางชนิดให้บริสุทธิ์ มันที่แท้ไม่ได้รับคำร้องขอให้หลอมกลั่นโอสถอย่างเต็มรูปแบบ ทีแรกนางงุนงงไม่น้อยกับเรื่องนี้ ก็ศิษย์น้องจั่วม่อมีฝีมือที่สุดในการหลอมกลั่นโอสถไม่ใช่หรือ! หลังจากนั้นนางค่อยเข้าใจความหมายสำคัญของเรื่องนี้ นั่นคือประสิทธิภาพในการทำงาน การรับเพียงงานแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ ควบคู่ไปกับอัตราการฟื้นฟูพลังปราณอันน่าสะพรึงกลัวของศิษย์น้องจั่วม่อ บังเกิดเป็นประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงส่งและพอเหมาะพอดีอย่างแท้จริง
มันประหนึ่งเตาหลอมในรูปร่างของมนุษย์ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
เทียบกันแล้ว ความสามารถในการควบคุมไฟอันน่าพรั่นพรึงของศิษย์น้อง กลับไม่ได้ทำให้นางประหลาดใจเท่าใด!
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ศิษย์น้องจั่วม่อไม่เคยผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว หลี่อิงฟ่งแม้อัศจรรย์ใจ แต่ไม่ได้ตื่นตระหนกนัก ศิษย์น้องจั่วม่อเป็นอัจฉริยะในวิชาหลอมกลั่นโอสถ เป็นธรรมดาที่มันจะมีฝีมือทางการควบคุมไฟ อัตราความสำเร็จอันน่าสะท้านใจของมันโด่งดังไปทั่วตงฝูอย่างรวดเร็ว ทุกผู้คนล่วงรู้ว่าในร้านค้าสุญตามีบุรุษคล้ายผีดิบผู้หนึ่ง มีฝีมือในการควบคุมไฟปานเทพยดา และที่หายากยิ่งกว่า คือมันถึงกับครอบครองไฟเย็นสีขาวขุมหนึ่ง ไฟเย็นสีขาวระดับไม่สูงนัก แต่ทรงพลังมาก สินค้ากึ่งสำเร็จที่แปรสภาพออกมา ล้วนแล้วแต่คุณภาพสูง
เป็นเรื่องยากที่จะหาไฟเย็นพบ บรรดาซิวเจ่อที่ครอบครองไฟเย็นย่อมมีน้อยนิดจนน่าเวทนา โดยทั่วไปแล้วผู้ฝึกตนที่ครอบครองไฟเย็นมักจะมีฝีมือไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นปรุงกลั่นกระยาหาร หรือหลอมกลั่นโอสถ หรือไม่ก็หลอมสร้างยุทธภัณฑ์ ผู้ใดจะเต็มใจทำงานเยี่ยงการแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ?
ดังนั้นเมื่อจู่ๆ พลันปรากฏซิวเจ่อที่เป็นเจ้าของไฟเย็นผู้หนึ่ง รับทำแต่งานแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ ผู้ที่ต้องการต่างหลั่งไหลเข้ามาทันที
ผู้มาในลำดับถัดไป สวมหมวกปิดบังหน้าตา เมื่อมันเห็นจั่วม่อ ฝีเท้าก็หยุดชะงัก
“เจ้าต้องการให้ข้าแปรสภาพสิ่งใด?” จั่วถาม ไม่ได้เงยหน้าขึ้น
“แม่เหล็กเย็น ระดับสี่” อีกฝ่ายตอบ
จั่วม่อประหลาดใจอยู่บ้าง เงยหน้าขึ้นเพ่งพิศอีกฝ่ายแวบหนึ่ง จากนั้นส่ายศีรษะ “ข้าสามารถแปรสภาพได้เพียงสินค้าระดับสาม ระดับสี่อยู่นอกเหนือขอบเขตความสามารถของข้า โปรดเสาะหาผู้อื่นเถอะ”
ไฟหินงอกจะอย่างไรเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ไฟระดับสอง หากมิใช่ว่าจั่วม่อมีพลังจิตสำนึกอันแกร่งกร้าว อีกทั้งความสามารถในการควบคุมไฟสูงส่ง มันจะสามารถแปรสภาพได้เพียงสินค้าระดับสองเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นระดับสามก็ยังคงเป็นขีดจำกัดของมันอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องคิดถึงแม่เหล็กเย็นระดับสี่
ผู้มายังไม่ยอมตัดใจ ถามด้วยเสียงต่ำลึก “เจ้าสามารถตัดแบ่งแม่เหล็กเย็นก้อนนี้ออกเป็นสี่ชิ้นได้หรือไม่?”
ตัดแบ่ง? จั่วม่อขบคิดวูบหนึ่ง จากนั้นกล่าว “ข้าสามารถทดลองดู”
อีกฝ่ายนำก้อนหินสีดำออกมา เห็นผลึกน้ำแข็งสีฟ้าฝังแทรกอยู่ในเนื้อหิน มันยื่นส่งให้จั่วม่อ
จั่วม่อกลับไม่ยื่นมือรับ เพียงกล่าวว่า “ราคาของงานนี้จะเป็นสองร้อยชิ้นจิงสือระดับสาม”
“ตกลง” อีกฝ่ายตอบเรียบๆ
คนร่ำรวย! จั่วม่อในใจเต็มไปด้วยการดูหมิ่น แต่มือรับแม่เหล็กเย็นระดับสี่มาอย่างรวดเร็ว
เหตุผลที่มันมารับงานแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ ย่อมเป็นเพราะถูกบีบบังคับจากความต้องการจิงสือไปใช้หนี้ผูเยา หลังจากต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมหาศาลถึงห้าพันชิ้นจิงสือระดับสาม จั่วม่อต้องเค้นสมองครุ่นคิดเพื่อหาวิธีทำกำไรจิงสือ การปลูกบุปผาแดงคะนองเป็นวิธีที่ดี แต่นั่นหมายความว่ามันต้องเช่าพื้นที่ทุ่งปราณมากกว่าเดิมถึงห้าเท่าตัว และสิ่งที่ทำให้มันอับจนปัญญาเกี่ยวกับวิธีการนี้ คือแม้ว่ามันจะทุ่มเทใช้เวทวิชาของเกษตรปราณทั้งห้าวิชาที่มันมี แต่ช่วงระยะเวลาเติบโตของบุปผาแดงคะนอง ก็ไม่อาจเร่งให้เร็วไปกว่าห้าเดือนอีกแล้ว!
มันได้แต่ยกเลิกแผนการนี้อย่างจำใจ หากเกินกำหนดเวลาไปหนึ่งเดือน หนี้สินจะทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว หากใช้เวลาทั้งหมดห้าเดือน เท่ากับจั่วม่อต้องจ่ายหนี้สินถึงสองหมื่นชิ้นจิงสือระดับสามเลยทีเดียว
เมื่อไม่มีหนทางอื่นใด มันได้แต่วางแผนทำกำไรโดยอาศัยไฟหินงอก
คิดพึ่งพาการหลอมกลั่นโอสถ หวังทำกำไรจิงสือระดับสามจำนวนห้าพันชิ้นภายในสามเดือน นั่นเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันเท่านั้น กว่าจะร่ำเรียนจนพอได้เรื่องได้ราว เกรงว่าคงสายเกินไปมากแล้ว แต่เมื่อคับขันพลันบังเกิดไหวพริบ ความคิดเรื่องการแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จวาบเข้ามาในหัว มันฝึกปรือการสกัดและกลั่นกรองแก่นสารของหญ้าปราณอย่างเต็มที่ รวมทั้งการกลั่นกรองและขัดเกลาวัตถุดิบของวิชาหลอมสร้าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้ในระยะเวลาอันสั้น
ไฟหินงอกเป็นไฟเย็นที่หายากมาก เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแปรสภาพวัตถุดิบและหญ้าปราณที่มีคุณลักษณะสังกัดหยินเย็นเยือก จำนวนของซิวเจ่อที่ครอบครองเมล็ดพันธุ์ไฟมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ในจำนวนเหล่านั้นผู้ที่เป็นเจ้าของไฟเย็นยิ่งน้อยลงไปอีก และในบรรดานั้น มีแต่จั่วม่อเพียงผู้เดียวที่เต็มใจรับงานแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ!
ตอนเริ่มแรก การค้านี้ไม่ได้ทำกำไรอะไรมากมายนัก เนื่องเพราะเป็นแค่การแปรสภาพเพียงขั้นตอนเดียว และมันได้แต่เก็บค่าดำเนินการเท่านั้น แต่หลังจากมันได้รับเมล็ดพันธุ์อสูร ฝีมือในการควบคุมไฟรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ไฟหินงอกในมือมันเกือบจะดูเหมือนมีชีวิต ทั้งยังมีประสิทธิภาพน่าตื่นตาตื่นใจ และอาศัยแผนผังปิศาจ พลังปราณในร่างมันฟื้นฟูด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง เพียงนั่งเข้าฌานชั่วครู่หนึ่ง มันก็จะกลับคืนสู่สภาพพละกำลังเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
จั่วม่อยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการกักเก็บพลังปราณไว้ภายในร่าง แม้ว่ามันดูดซับปราณธรรมชาติได้รวดเร็วขึ้นมาก และเห็นผลอย่างชัดเจนในการเสริมสร้างสังขาร แต่ในด้านการสั่งสมพลังปราณเพื่อเพิ่มพูนพลังบำเพ็ญเพียรกลับมีผลอย่างจำกัด เนื่องด้วยปัญหาข้อนี้ มันเคยไปหารือกับผูเยาหลายครั้งหลายครา สิ่งที่ผูเยาอวดโอ่ไว้ในเรื่องแผนผังปิศาจกับผลที่เกิดขึ้นจริง มีความแตกต่างกันมากเกินไป จั่วม่อจึงเรียกร้องขอลดหนี้สินของมัน
เผชิญกับข้อเท็จจริงที่เห็นอยู่ทนโท่ ผูเยาได้แต่ยอมรับโดยดี และลดหนี้ให้จั่วม่อหนึ่งพันชิ้นจิงสือระดับสาม
หนี้สินที่เหลือสี่พันชิ้นจิงสือระดับสามทำให้จั่วม่อหายใจโล่งขึ้นเล็กน้อย มันค้นพบวิธีใช้แผนผังปิศาจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างรวดเร็ว ในเมื่อความสามารถของแผนผังปิศาจคือเพิ่มความเร็วในการดูดซับปราณธรรมชาติ เช่นนั้นมันจะเร่งใช้พลังปราณในร่างให้หมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อยเพิ่มอย่างรวดเร็ว หากมันทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เช่นนี้ ยังจะเรียกว่าเป็นแผนผังปิศาจที่ใช้การไม่ได้อยู่อีกหรือ?
และมันยังค้นพบอย่างรวดเร็ว ว่าเมล็ดพันธุ์อสูรผนวกกับไฟหินงอก แผนผังปิศาจกับงานแปรสภาพสินค้ากึ่งสำเร็จ ทั้งหมดล้วนผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบเสียจริง!
นอกเหนือจากสองสามวันแรกที่การค้าเป็นไปอย่างธรรมดาแล้ว วันต่อๆ มา การค้าของมันกลายเป็นร้อนแรงและเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากงานชุมนุมวิจารณ์กระบี่แห่งตงฝู ทำให้ซิวเจ่อจากภายนอกเดินทางเข้าสู่ตงฝูมากมาย จั่วม่อเก็บค่าดำเนินการไม่น้อย โดยปกติแล้วราคาเริ่มต้นที่ยี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม หากสินค้าเป็นสิ่งที่ดี อาจข้ามไปเป็นสี่สิบชิ้นจิงสือระดับสามในทันที
ร้องบอกราคาสองร้อยชิ้นจิงสือระดับสามออกไป เป็นจั่วม่อเพียงแสร้งโก่งราคา นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงทันทีโดยไม่มีลังเลเกี่ยงงอน
รายได้ปกติของมัน เฉลี่ยแล้วราววันละสองร้อยชิ้นจิงสือระดับสาม ด้วยระดับความเร็วเช่นนี้ มันจะชดใช้หนี้สินเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว การค้าครั้งนี้นับว่าถูกที่ถูกเวลา หากมิใช่ว่าเวลานี้ตงฝูกำลังจะมีงานประลองชุมนุมวิจารณ์กระบี่แห่งตงฝู อาศัยเพียงเหล่าซิวเจ่อชาวบ้านร้านถิ่นในตงฝู ทุกวันมันสามารถทำกำไรจิงสือได้สามสิบสี่สิบชิ้นก็นับว่าดีมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยงานแปรสภาพอย่างบ้าคลั่งนี้ มันนับว่ามีการเก็บเกี่ยวที่ดี
ยกตัวอย่างเช่นมันได้เรียนรู้และควบคุมบังคับให้ไฟหินงอกเข้าไปในค่ายกลเพลิงสามหวน ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของไฟได้ดี จนถึงขั้นที่สามารถละลายหญ้าปราณระดับสี่บางชนิดได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการแปรสภาพวัตถุดิบระดับสี่ จั่วม่อไม่เคยรับงานอย่างง่ายดาย เหตุผลสำคัญคือความเสี่ยงสูงเกินไป หากมันบังเอิญทำให้วัตถุดิบของใครสักคนเสียหาย เกรงว่าคงไม่มีปัญญาชดใช้แล้ว
ราคาของวัตถุดิบระดับสี่ล้วนสูงล้ำเทียมฟ้า
คราวนี้ผู้มาเพียงต้องการให้ตัดแบ่งแม่เหล็กเย็น จั่วม่อคิดว่าความเสี่ยงนี้ยังพอรับไว้ได้ ในเมื่อเรียกราคาไปสองร้อยชิ้นจิงสือระดับสาม และอีกฝ่ายไม่แม้กระทั่งจะต่อรองสักคำ มันรู้สึกว่ากำไรดีงามจริงๆ
กล่าวถึงความคมกล้า ไม่มีสิ่งใดคมกล้าไปกว่ากระบี่บิน แต่วัตถุดิบบางอย่างไม่สามารถใช้กระบี่บินตัดได้ เนื่องจากอาจเป็นการทำลายวัตถุดิบแทน แม่เหล็กเย็นนี้ก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบประเภทนั้น การตัดแบ่งแม่เหล็กเย็นมีข้อควรระวังมากมาย สนามแม่เหล็กกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของพลังสนามแม่เหล็กในชิ้นส่วนแม่เหล็กแต่ละชิ้น การตัดแบ่งมันจึงเป็นสิ่งที่ซับซ้อนถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม นี่กลับไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจั่วม่อ เมล็ดพันธุ์อสูรราวกับเกิดมาเพื่อเคล็ดบำเพ็ญสูดปราณก่อนกำเนิดโดยเฉพาะ จิตสำนึกของมันรุดหน้าอย่างรวดเร็วดุจติดปีก จนกระทั่งมันเองยังรู้สึกหวาดหวั่น หลังจากพลังแห่งจิตสำนึกแข็งแกร่งขึ้น การตรวจสอบวัตถุดิบระดับสามก็แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอันใด สำหรับวัตถุดิบระดับสี่แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่หากมันใช้เส้นหนวดวิญญาณเข้าช่วย มันก็สามารถสำรวจตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการเพิ่มความสามารถในการควบคุมไฟแล้ว เมล็ดพันธุ์อสูรยังช่วยให้มันสามารถศึกษาวัตถุดิบได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ล่วงรู้จุดเด่นจุดด้อยทุกประการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแปรสภาพวัตถุดิบของมันได้อย่างน่าอัศจรรย์
เนื่องเพราะเกี่ยวข้องกับสองร้อยชิ้นจิงสือระดับสาม จั่วม่อระมัดระวังถึงที่สุด ทุกครั้งที่แปรสภาพวัตถุดิบระดับสี่ ยังเป็นประสบการณ์ที่หายาก
พริ้มตาหลับสนิท อาศัยเส้นหนวดวิญญาณ จั่วม่อตรวจสอบแม่เหล็กเย็นขนาดกลางก้อนนี้หลายต่อหลายครั้ง หลังจากแน่ใจในตำแหน่งการกระจายตัวของสนามแม่เหล็กแล้ว มันก็ลืมตาขึ้น
ลูกค้าผู้สวมหมวกคลุมหน้าสีดำเห็นเพียงจั่วม่อถือแม่เหล็กเย็น หลับตานิ่งนาน ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน
แม่เหล็กเย็นในมือจั่วม่อค่อยๆ ลอยขึ้นกลางอากาศ ในเวลาเดียว ไฟสีขาวน้ำนมปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศกลายเป็นเย็นเยียบในพริบตา
ดวงตาหลังม่านแพรดำ สาดประกายประหลาดใจแวบหนึ่ง แล้วหายวับไป
จั่วม่อนั่งอย่างสงบ ใบหน้ายังคงว่างเปล่า มีเพียงดวงตาคู่นั้น ที่สามารถทำให้คนรู้สึกถึงความตั้งอกตั้งใจอันแน่วแน่ของมัน
สองหัตถ์ที่ยกค้างอยู่กลางหน้าอก พลันผนึกท่ามุทราอย่างกะทันหัน จากนั้นแปรเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง รวดเร็วละลานตา ทิ้งเงาหัตถ์ดรรชนีเกลื่อนกล่นพราวพราย
ไฟหินงอกที่ลอยค้างกลางอากาศก็แปรเปลี่ยนเป็นเส้นด้ายไฟสีขาวบางเฉียบ ราวกับงูสีขาวเพรียวบางตัวเล็กๆ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่รอบแม่เหล็กเย็น
ทันใดนั้น เส้นด้ายงูเพลิงทวีความเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน อาคันตุกะหมวกแพรดำรู้สึกเพียงไฟสีขาวประหนึ่งสายฟ้าฟาด หมุนวนเป็นวงกลม จากหัวจรดหางในรวดเดียว!
ค่ายกลเพลิงสามหวน พลันก่อตัวขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ!