Chapter 3 : อาชีพขยะ
***ตอนที่สอง มีเด็กผู้หญิงในกลุ่มหลี่ซัวที่ชื่อว่าเมิ่งเมิ่งครับ แต่ในตอนนี้ในเรื่องถูกเรียกว่าหยี่หยี่ ซึ่งนิยายเรื่องเช้าวันต่อมา หลี่ซัวก็เคาะไปที่ห้องนอนของคู่รัก และก็เอาพัสดุเล็กๆมาด้วย
“นี่คืออุปกรณ์อย่างงั้นเหรอ?” หวังหยู่เปิดกล่องออกมาและเขาก็หยิบสิ่งที่เหมือนกันกับหมวกออกมา
หลี่ซัวก็ตอบกลับ “ใช่ พี่จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อมันกับอินเตอร์เน็ต แหล่งพลังงานของมันก็จะทำให้สวิตช์มันเปิดขึ้น และอุปกรณ์นี้นั้นจะเชื่อมเข้ากับระบบคลาวด์ให้อัตโนมัติ มันสะดวกสบายมากเลยละ!”
“น่าสนใจมาก”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็หยิบอุปกรณ์นี้กลับไปยังห้องของเขา
เมื่อเขากลับไปในห้อง หวังหยู่ก็เริ่มที่จะอธิบายให้กับมู่จี่เซียนฟังว่าเขานั้นพุ่งเข้าร่วมกับสตูดิโอโกลด์รัชไป หลังจากที่ฟังข่าวใหม่นี้ มู่จี่เซียนก็สนับสนุนกับการตัดสินใจของหวังหยู่
ในความเป็นจริงแล้ว มู่จี่เซียนไม่ได้คาดคิดว่าหวังหยู่นั้นจะได้เงินมากสักเท่าไหร่ เธอแค่กลัวว่าหวังหยู่นั้นจะเบื่อจนตายโดยที่นั่งอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน ช่วงหลังๆมานี้ หวังหยู่ดูเหมือนกับมีความคิดที่ย่ำแย่อยู่ ซึ่งมันทำให้มู่จี่เซียนนั้นกังวลเกี่ยวกับมันมาก ในความเป็นจริงนั้นเธอมีไอเดียที่จะให้หวังหยู่นั้นเล่นวิดิโอเกมฆ่าเวลา แต่ไอเดียนี้ก็ถูกปฏิเสธไปโดยหวังหยู่แล้วก่อนหน้านี้
นี่มันเป็นเรื่องที่ดีเลยในตอนนี้หวังหยู่ก็เข้าร่วมสตูดิโอ ไม่ว่าเขาจะทำเงินกับมันได้หรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย สิ่งที่สำคัญก็คือหวังหยู่นั้นบรรเทาความเบื่อหน่ายของเขาได้
มู่จี่เซียนนั้นดึงหวังหยู่ไว้และเธอก็แนะนำ “ที่รัก ให้ฉันบอกคุณว่า เมื่อคุณเข้าไปในเกม คุณจะต้องไปหาผู้ใหญ่บ้านและตกลงรับเควสที่เขาให้ ผู้ใหญ่บ้านคือคนที่มีเครื่องหมายตกใจอยู่บนหัวของเขา เครื่องหมายคำถามนั้นหมายความว่าคุณนั้นได้ทำภารกิจนั้นสำเร็จแล้ว...”
หวังหยู่โบกมือของเขาและหัวเราะอย่างข่มขื่น “ที่รัก ได้โปรด! ผมยังเป็นคนหนุ่มอยู่เลย สิ่งที่เหมือนกันกับเกมคอมพิวเตอร์พวกนี้ ผมเคยเห็นรุ่นน้องของผมเล่นมันอยู่ตลอดเวลาเมื่อตอนผมยังเป็นเด็กและผมก็รู้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดเลย! ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณเหมือนกับดูแลผมเหมือนกับผมมาจากต่างโลกยังไงยังงั้น....”
หลังจากที่หางานได้แล้ว อารมณ์ของหวังหยู่นั้นก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากและเขานั้นก็เป็นคนที่พูดคุยมากขึ้นอีกด้วย
มู่จี่เซียนยิ้ม และแตะไปที่ใบหน้าของหวังหยู่และเธอก็พูด “อ๊า นั่นเป็นเรื่องจริงเลย.....ฮ่าๆ หลังจากนั้นคุณก็ไปทดลองมันดูละกัน ถ้ามีสิ่งใดที่คุณไม่รู้ละก็ถามฉันได้เสมอๆนะ!”เมื่อใครบางคนที่อยู่ในแผนกของฝ่ายบริการลูกค้าในเกมแบบนี้นั้นทำให้มู่จี่เซียนนั้นเข้าใจเกี่ยวกับเกมได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าหลี่ซั่วและที่เหลืออีก
“อื้ม!”
หวังหยู่พยักหน้า และก็เปิดไฟอุปกรณ์นี้
แสงสว่างอันสุกสกาวนั้นก็วาปเข้ากับหวังหยู่และเขาก็เข้าไปในเกม
เวลานั้นเอง สิ่งที่ปรากฏด้านหน้าของหวังหยู่ก็คือศาลเก่าๆ และผนังทั้งสี่ด้านของศาลนั้นทรุดโทรมเกินกว่าที่มันจะซ่อมได้และตรงกลางของศาลนั้นมีแท่นบูชาขนาดมหึมาตั้งไว้อยู่
บนแท่นบูชานั้นรูปปั้น 7รูปตั้งไว้อยู่
{ติ๊ง ได้โปรดเลือกอาชีพ!}
เสียงที่เป็นธรรมชาติดังขึ้นมาด้านข้างหูของหวังหยู่
เมื่อหวังหยู่นั้นก็เดินเข้าไปใกล้กันกับแท่นบูชา เขานั้นก็เดาขนาดของรูปปั้นทั้ง7รูปที่ละรูป ทีละรูป
รูปปั้นทั้ง7รูปนั้นเป็นตัวแทนของอาชีพทั้ง7อาชีพที่มีให้เล่นในเกมนี้
{ราชาแห่งการต่อสู้ระยะประชิด : นักรบ ครอบครองศักยภาพในการโจมตีที่แข็งแกร่งและความสามารถในการป้องกัน
ผู้ที่นำพาหายนะ : นักเวทย์ ครอบครองพลังกายที่อ่อนแอแต่พร้อมกันกับพลังอันทำลายล้างที่ไม่สมดุล
คำอวยพรของพระเจ้า : นักบวช เพื่อนร่วมทีมที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในสนามรบ
นักล่าในยามค่ำคืน : โจร ความเร็วและการสร้างความเสียหายอันรุนแรง นิยามถึงการดำรงอยู่ของตัวตนที่น่าหวาดกลัว
ปราชญ์แห่งเกียรติยศ : อัศวิน ป้องกันด้วยเกียรติยศของคุณพร้อมกันกับมีการป้องกันอันแข็งแกร่ง
นักแม่นปืนลวงตา : นักธนู ฝั่งตรงข้ามจะไม่สามารถที่จะเห็นได้แม้กระทั่งเงาของคุณ
ผู้ที่รับมรดกอันลึกลับ : นักต่อสู้ มือและขาของคุณก็คืออาวุธ! }
หลังจากที่ฟังคำอธิบายแล้ว หวังหยู่ก็ชี้ไปที่รูปปั้นสุดท้ายโดยไม่มีความลังเลใดๆเลยแม้แต่น้อยและพูดขึ้น “ข้าเลือกนักต่อสู้!”
{ยืนยันอาชีพ ------- นักต่อสู้!}
{ยืนยัน}
{ได้โปรดตั้งชื่อ}
“เซี่ยนหยู่!”เมื่อใครบางคนที่ไม่มีเซนส์ในการตั้งชื่อแบบเขานั้น หวังหยู่ก็ใช้เวลาทั้งคืนในการคิดชื่อของเขา...
{ขอโทษค่ะ ชื่อนี้ถูกใช้ไปแล้ว}
“…..”หวังหยู่นั้นมึนงง แม้กระทั่งชื่อที่ถูกตั้งได้อย่างยากเย็นแบบนี้ก็ถูกเอาไปแล้วโดยใครคนอื่น จำนวนของผู้เล่นในเกมนี้นั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หลังจากครุ่นคิดไปชั่วครู่หนึ่ง หวังหยู่ก็พูดอย่างง่ายๆ “กระทิงเหล็ก!” ชื่อนี้คือชื่อเล่นของเขา ตั้งแต่ที่เขาเกิดมาเขานั้นเหมือนกับกระทิง ด้วยเหตุนี้นี่เองพ่อของเขาจึงคิดว่านี่คือชื่อเล่นที่เข้ากับเขา
{ชื่อนี้สามารถที่จะใช้ได้ ตัวละครนั้นกำลังถูกสร้างขึ้น ได้โปรดสนุกกับประสบการณ์ในเกมที่คุณจะเจอด้วยค่ะ!!}
แสงสุกสกาวก็สว่างวาบในตาของเขาอีกครั้งหนึ่งและหวังหยู่ก็ถูกส่งตัวไปยังหมู่บ้านเล็กๆหมู่บ้านหนึ่ง และใจกลางจัตุรัสก็มีชายแก่ผมสีขาวยืนอยู่พร้อมกันนั้นก็มีเครื่องหมายตกใจอยู่บนหัวของเขา ชายแก่นั้นก็คือผู้ใหญ่บ้าน
เกมก็เริ่มที่จะให้คำแนะนำเบื้องต้นบางอย่าง..... และเมื่อทำตามการแนะนำของระบบเกมแล้ว หวังหยู่ก็เดินไปรอบๆชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเปิดสถานะตัวละครของเขาขึ้นมาดู
{คุณสมบัติส่วนตัว}
ไอดี : กระทิงเหล็ก (นักต่อสู้-)
ระดับ : ระดับ 1
พลังชีวิต : 120 (4x30)
มานา: 90 (3x30)
ความแข็งแกร่ง : 5
พละกำลัง : 4
จิตวิญญาณ : 3
สติปัญญา : 3
ความคล่องแคล่ว : 5
การโจมตีกายภาพ : 2-7
พลังโจมตีเวทย์ : 1-3
พลังป้องกันกายภาพ : 2-5
พลังป้องกันเวทย์ : 1-3
อุปกรณ์ :
- เสื้อเก่าๆ : พลังป้องกัน : 1-1
- ถุงมือเก่าๆ : พลังโจมตี : 1-2
สกิล :
[ เตะด้านข้าง ] (ระดับ1) นักต่อสู้นั้นใช้กล้ามเนื้อขาที่แข็งแกร่งของผู้ใช้นั้นทำความเสียหายกายภาพ 120% กับป้าหมายและทำให้เป้าหมายนั้นลอยด้วย ค่าใช้งาน มานา : 30
เกมนี้นั้นสมดุลกับผู้เล่นมาก ทุกอาชีพนั้นจะเริ่มต้นด้วยค่าสถานะ 20ทุกคน นักต่อสู้ก็ค่อนข้างที่จะปานกลางทั่วไป
หวังหยู่นั้นก็เดินไปถึงป้ายอันยาวๆ และยอมแพ้ให้กับความจริงที่ว่าเขานั้นเดินตามฝูงคนจำนวนมาก ที่กำลังผลักเขาไปหาผู้ใหญ่บ้านอยู่
“ขอโทษนะครับ มีอะไรที่ให้ผมช่วยเหลือท่านบ้างไหม?”หวังหยู่ถามไปอย่างสุภาพ เมื่อเขามาถึงด้านหน้าของผู้ใหญ่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านก็ยิ้มออกมาและเขาก็พูดขึ้น “กระทิงเหล็ก นายมาถึงแล้ว ช่วงนี้สุนัขป่านั้นมีจำนวนมากเกินไปซึ่งทำให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านนี้ ท่านสามารถที่จะช่วยฉันฆ่ามันทั้งหมดสิบตัวให้แก่พวกเราได้ไหม?”
{แจ้งเตือนจากระบบ – คุณจะตกลงรับเควส : การคุกคามของสุนัขป่า?}
หน้าต่าสงแจ้นเตือนก็เปิดขึ้นอย่างฉับพลันด้านหน้าของหวังหยู่
หวังหยู่ก็กดปุ่ม “ตกลง” ในทันที
แน่นอนว่าเขาตกลงรับเควส สำหรับเหตุผลอื่นนั้นก็คือเขานั้นเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะเบียดตัวจนเกือบถึงแก่ความตายเพื่อที่จะมาถึงที่นี่
{การแจ้งเตือน เควส : ฆ่าสุนัขป่าคลั่ง 0/10}
หลังจากตกลงรับเควสแล้ว หวังหยู่ก็เบียดตัวหาทางออกจากฝูงและวิ่งออกมานอกหมู่บ้าน
เมื่อมาถึงด้านนอกของหมู่บ้านแล้ว หวังหยู่ก็ตกตะลึงเต็มที่
มันมีสิ่งผิดปกติกับตาของผู้ใหญ่บ้านอย่างงั้นเหรอ? มันจะกลายเป็นเรื่องที่สุนัขป่านั้นมีจำนวนมากเกินไปได้ยังไง? มันเป็นเรื่องที่มีจำนวนคนมากล้นเกินไปต่างหาก
ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เขามองอยู่เลยว่า มันก็มีผู้เล่นที่สวมเสื้อเก่าๆอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเหมือนกันกับซอมบี้ที่เดินไปทั่วทั้งแผ่นดิน ทันทีที่พวกเขาเห็นว่าสุนัขป่านั้นเกิดขึ้น พวกเขาก็จะกระโดดโถมเข้าไปหาเหมือนกันกับพวกเขานั้นเหมือนกับกำลังต่อสู้เพื่อที่จะแย่งเงินที่ฟรี มันไม่ถึงสามวินาทีเต็มๆที่สุนัขป่าที่น่าสงสารนั้นเกิดขึ้นมา มันก็ถูกส่งกลับไปที่ระบบอีกครั้งหนึ่ง
เพียงแค่เขากำลังเหม่ออยู่ สุนัขป่าตัวใหม่ก็เกิดขึ้นด้านข้างหวังหยู่ พร้อมกันกับเขี้ยวอันว่างเปล่าและมันก็ขู่ใส่เขา
{สุนัขป่าคลั่ง (ระดับ1)}
พลังชีวิต : 30
มานา : 0
สกิล : [ กัดกระชาก ]
หวังหยู่นั้นหันกลับไปเผชิญหน้ากับสุนัขป่าคลั่งและส่งเตะด้านข้างใส่มันซึ่งทำให้มันลอยขึ้นกลางอากาศ และหวังหยู่ก็ตามโดยต่อยไปที่คอของมัน
-9
-7
ตัวอักษรสีเลือดปรากฏขึ้นบนหัวของสุนัขป่าคลั่งสองครั้ง
หมัดของหวังหยู่นั้นต่อยเข้าไปติดกับจุดพลังชีวิตของฝั่งตรงข้ามโดยความสามารถของเขา ถ้านี่เป็นโลกความเป็นจริงละก็ไม่ต้องพูดถึงสุนัขป่านี่เลย หมัดนี้นั้นสามารถที่จะจัดการกับหมาป่าได้เลยด้วยซ้ำ
แต่สุนัขป่านี้ค่อนข้างที่จะมีความสามารถ หลังจากที่มันขู่ออกมาเสียงต่ำ มันก็กลับมาในทันทีและกัดเข้าทีขาของหวังหยู่
ตัวเลขกฎปรากฏขึ้นมาบนหัวของหวังหยู่
-3
หวังหยู่จ้องไปอย่างว่างเปล่าไปที่ฝั่งตรงข้ามเขาหลังจากที่เขาปล่อยหมัดไปอีกสองครั้งใส่หัวของสุนัขป่าคลั่ง ในที่สุดมันก็ถูกทุบตีจนถึงแก่ความตาย
หลังจากที่มันตายลง สุนัขป่าคลั่งก็ดรอปเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญลงมา
“มันไม่สมเหตุสมผลเลย มันไม่สมเหตุสมผลไปซะทั้งหมดเลย!!” หวังหยู่พึมพำกับตัวเอง เมื่อเขาหยิบเหรียญทองแดงขึ้นมาและเดินไปตามหาเป้าหมายใหม่
เมื่อมันผู้เล่นมากกว่ามอนสเตอร์ หวังหยู่นั้นก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการที่จะฆ่าสุนัขป่าคลั่งได้ทั้งหมดสิบตัว มันไม่มีข้อยกเว้นอะไรเลย มันก็ต้องใช้การโจมตีของเขาประมาณสี่หรือห้าครั้งเพื่อที่จะฆ่าพวกมัน
อย่างไรก็ตามหลังจากการสู้ครั้งแรกแล้ว หวังหยู่ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและก็ไม่โดนกัดจากสุนัขป่าคลั่งอีกเลย ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นรอบข้างจำนวนมากที่เล่นอยู่ข้างๆเขานั้นตกตะลึง
มันมีผู้เล่นจำนวนมากในเกมนี้ และมันก็มีผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์การเล่นเกมอันกว้างขวาง ที่สามารถจะคลำหาได้ว่าพวกเขาสามารถที่จะกระตุ้นให้เกิดคอมโบขึ้นมาได้ แต่การที่จะทำคอมโบจนกระทั่งมอนสเตอร์เหล่านั้นตายเช่นหวังหยู่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อฟังเรื่องที่พูด นอกจากเตะด้านข้างที่เขาใช้ในตอนแรก การโจมตีอื่นๆของเขานั้นสามารถที่จะพิจารณาได้ว่าอยู่ในระดับ A ความเสียหายจากการโจมตีของเขานั้นต่ำ ซึ่งมันก็ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นๆ ผู้เล่นอื่นนั้นก็มีความเร็วการโจมตีที่ช่วงช้า ดังนั้นจังหวะการโจมตีของพวกเขานั้นไม่ได้ดีซักเท่าไหร่ มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะโดนการโจมตีจากพวกมอนสเตอร์
หลังจากที่ฆ่าสุนัขป่าคลั่งเสร็จแล้ว หวังหยู่ก็กลับไปที่หมู่บ้านก่อนที่จะออกจากเกม
หลังจากนั้นเขาก็ถอดหมวกออก มู่จี่เซียนยิ้มให้กับหวังหยู่และพูด “เกมนี้มันไม่แย่เลยใช่ไหม มากินข้าวก่อนและหลังจากนั้นคุณค่อยไปเล่นเกมต่อ!”
“อื้ม!”หวังหยู่ก็วางหมวกลงและเดินตามมู่จี่เซียนกลับไปในห้องนั่งเล่น
กลุ่มทั้งสี่ของหลี่ซั่วก็นั่งอยู่ที่นั่นเช่นกัน เมื่อเห็นท่าทางยินดีของพวกเขาแล้ว มันก็เรื่องที่แน่ชัดว่าพวกเขานั้นเล่นเกมกันไปแล้ว
“คุณเจ้าของบ้าน! เกมสนุกไหม? พี่ระดับอะไรแล้ว?”แมรี่โบกมือให้กับหวังหยู่และก็ถามด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยกัน
หวังหยู่หัวเราะและเขาก็ตอบกลับ “เพียงแค่ระดับ 1 พึ่งจะเริ่มเล่นเมื่อกี้นี้เอง”
“พี่ฝึกไปทั้งเกือบเช้าและพี่ก็ยังคงระดับไม่เพิ่มขึ้น? พี่เล่นอาชีพอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าพี่เล่นอาชีพนักต่อสู้!”
หวังหยู่ตอบกลับด้วยความสงสัย “ใช่ พี่เล่นมัน ทำไมเธอถึงรู้ละ?”
แมรี่ตกตะลึงอย่างเต็มที่ “เหี้... นั่นจะไม่ต้องใช่เรื่องจริงใช่ไหมคุณเจ้าของบ้าน ทุกอาชีพนั้นมีให้เลือก แต่คุณก็ยังเลือกอาชีพขยะอีกเหรอ?”
แม้แต่คนอื่นก็จ้องไปที่หวังหยู่ด้วยความแปลกประหลาดใจพร้อมกันกับตาที่ไม่เชื่อ
แม้กระทั่งมู่จี่เซียนก็เผยให้เห็นถึงการแสดงออกที่ย่ำแย่ “อั้ยหยา ฉันลืมบอกคุณไปว่าอย่าเลือกอาชีพนักต่อสู้!”
สถานะในปัจจุบันของหวังหยู่นั้นคือนักฝึกศิลปะการต่อสู้ระดับต้นๆ เมื่อเลือกเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกคาดไว้ แต่มู่จี่เซียนก็ทำความผิดครั้งยิ่งใหญ่ที่ลืมบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปอย่างสมบูรณ์แบบ
“ทำไมละ?”หวังหยู่สับสน
หลี่ซั่วอธิบาย “นักต่อสู้คืออาชีพที่สมดุลที่สุดในเกม {REBIRTH}!”
“มันไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างงั้นเหรอ?”
“มันจะกลายเป็นสิ่งที่ดีได้ยังไงละ”แมรี่พูดขัดด้วยเสียงดัง “เมื่อมันสมดุลนั้นแปลว่านายสามารถที่จะทำได้ทุกอย่างแต่ไม่มีอะไรที่เป็นที่สุดยอดเลย! ไม่สามารถที่จะโจมตีได้และไม่สามารถที่จะป้องกัน ถึงแม้ว่าค่าสถานะของพี่นั้นไม่ว่าจะสูงหรือต่ำก็ตาม อาชีพนี้นั้นก็เป็นแค่ขยะ....”
หวังหยู่คิดไปชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบว่า “พี่ก็ยังรู้ว่ามันก็ยังโอเคอยู่ดี”
หลี่ซั่วตอบกลับ “ในช่วงเวลาเริ่มต้นความแตกต่างนั้นไม่ค่อยเด่นชัด แต่เดี๋ยวความแตกต่างก็จะเกิดขึ้น เนื่องจากว่านักต่อสู้นั้นมีการต่อสู้ที่สมดุล อาชีพนี้นั้นไม่สามารถที่จะมีความเชี่ยวชาญในอาวุธหรือว่าการความสามารถในการป้องกันที่สุดยอดได้ ถ้าอาชีพอื่นนั้นโจมตีมอนสเตอร์ตายในสามที นักต่อสู้นั้นจะต้องใช้สี่หรือห้าที..... และในช่วงหลังของเกมนั้นความเชี่ยวชาญของอาวุธนั้นก็จะสูงยิ่งขึ้น ความแตกต่างของความเสียหายนั้นก็จะเห็นได้เด่นชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมอาชีพนี้ถึงไม่ดี เพียงแค่เรื่องนี้แล้ว มันก็การบ่นเป็นจำนวนมากในระบบคลาวด์แล้วในตอนนี้!”
“เหี้..! เกมที่พังแล้วเหี้...นี่มัน!”หลังจากที่ฟังคำอธิบายของเธอ หวังหยู่ก็โกรธขึ้น
มันไม่ใช่กรณีทีว่าหวังหยู่นั้นเสียใจที่เขาเลือกอาชีพนี้ แต่เขานั้นรู้สึกผิดหวัง นักฝึกศิลปะการต่อสู้ในโลกจริงก็น่าสมเพศเพียงพอแล้ว! ใครจะไปคิดอีกว่าในเกมมันก็ยังเป็นแบบนี้เหมือนกัน พวกเขาได้กระทำผิดอย่างร้ายแรงเช่นนี้แน่นอน!
หยี่หยี่นั้นก็เข้าใจเป็นอย่างดีและรีบพยายามที่จะปลอบโยนหวังหยู่ “คุณเจ้าของบ้านไม่ต้องผิดหวังไป! มันไม่ใช่ว่านักต่อสู้นั้นไม่มีข้อดี อย่างน้อยอาชีพนี้ก็ไม่มีข้อจำกัดในอาวุธที่พวกเขาสามารถที่จะใช้ได้ ในอนาคตเมื่อพวกเรามีอาวุธที่ดีขึ้น พวกเราก็จะให้อาวุธที่ไม่ได้ใช้ให้แก่คุณ!”
“ถ้าอย่างงั้นละก็ ขอบคุณเธอมากเลยนะ....”หลังจากฟังสิ่งนี้ หวังหยู่ก็ผิดหวังมากขึ้นไปอีก ในโลกความเป็นจริงเขาไม่สามารถที่จะปลดปล่อยไปจากความเป็นจริงที่ว่าเขานั้นให้ภรรยาเลี้ยงดูเขา และมันก็เหมือนกับว่าในเกมเขาจะต้องให้คนอื่นเลี้ยงดูเขาอีกแล้ว....
***ตอนที่สอง มีเด็กผู้หญิงในกลุ่มหลี่ซัวที่ชื่อว่าเมิ่งเมิ่งครับ แต่ในตอนนี้ในเรื่องถูกเรียกว่าหยี่หยี่ ซึ่งนิยายเรื่องนี้คนแปลอังกฤษเปลี่ยนชื่อสับสนมากครับ ตั้งแต่มู่จี่เซียน บางทีเขาก็เขียนว่า โม่จี่เซียน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเมิ่งเมิ่งหรือว่าหยี่หยี่ครับ จะปรับเปลี่ยนให้อนาคตนะครับ