Chapter 136: เสียหน้าด้วยกัน
ด้านนอกนั้นอยู่ๆก็เงียบสงัด ซึ่งมันทำให้คนที่หลบหนีได้สำเร็จรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาตกอยู่ในความฝัน แต่ในความจริงแล้วนั้น พวกเขานั้นยังคงหวาดกลัวเมื่อพวกเขานั้นยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ด้วยเสียงที่เงียบสงัดและการหยุดของรถมินิบัสนี้นั้นทำให้เหมือนกับพวกเขาได้โอกาสครั้งที่สองเลย
ในความคิดของเจียงลู่ฉีแล้วพวกมันไม่ได้มีคุณค่าให้แก่การพูดถึงเลยซัดนิด ไม่มีใครหรอกที่สามารถที่จะเอาชนะความหวาดกลัวหลังจากที่ผ่านการต่อสู้อันเลวร้ายนั้นได้หรอก
ไป๋ปิงไฮ่นั้นมีท่าทางที่ดูผิดหวังและกดดัน เขายืนขึ้นอย่างช้าๆพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธและเดินไปมารอบๆห้อง ปกติแล้วทีมของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจแต่พวกเขานั้นพึ่งผ่านเหตุการณ์การต่อสู้ที่เป็นหายนะขึ้น ด้านนอกนั้นเหมือนกันกับสนามรม ร่างกายของพี่น้องพวกเขานั้นนอนเกลื่อนกลาดบนพื้นดินโดยไม่มีสัญญาณแสดงให้เห็นถึงชีวิต และสำหรับส่วนที่เหลือแล้วนั้นก็เต็มไปด้วยใบหน้าที่ซัดขาว
เมื่อเห็นลูกน้องที่อยู่ต่อจากเขานั้นยังคงสั่นกลัวอยู่ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นและใบหน้าของเขาก็แทบจะระเบิดออกมาได้! “เพื่อน ไม่ต้องกระวนกระวายไป! ไอ้นั่นแม่งไม่กล้าเข้ามาหรอก!”ไป๋ซานชานก็มีใบหน้าที่น่าเกลียดเช่นกัน สำหรับบางคนที่เหลืออยู่ของทีมอื่นนั้นเพียงแค่ยืนมองหน้ากันและกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
“ถึงแม้ว่าพวกมันไม่กล้าที่จะเข้ามาก็ตามที พวกเราก็ไม่สามารถที่จะออกไปได้เช่นกัน”หัวหน้าของทีมนั้นพูดขึ้นมา พี่น้องไป๋นั้นแข็งแกร่งจริงๆแต่เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์แห่งความเป็นหรือความตายแล้วที่มีการทำลายล้างอันรุนแรงแบบนั้นแล้ว พลังมันก็ไร้ประโยชน์!
“ใช่ พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“นายบอกพวกเราให้รอคอยที่นี่และรอดูเกม ‘ไล่จับกระต่าย’ แล้วสำหรับพวกเราละ!”สมาชิกของทีมที่เหลือนั้นก็แสดงออกความคิดของพวกเขาในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทีมที่หัวหน้าของพวกเขานั้นเสียชีวิตไปแล้ว ในความเป็นจริงนั้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะบ่นมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ หัวหน้าของพวกเขานั้นตายลงและความแข็งแกร่งโดยรวมของทีมนั้นก็ลดถอยลง ถ้าไป๋ปิงไฮ่นั้นไม่ได้ยั่วยุพวกเขาให้อยู่ละก็ มันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง!?
เมื่อเห็นสถานการณ์ในปัจจุบัน เขารู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น ศักดิ์ศรีของเขานั้นถูกทำลายอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันนั้นตลาดมืดของเขานั้นก็เกิดหายนะขึ้นและลูกน้องของเขาก็เหมือนกับเต่าที่เอาหัวหลบเข้าไปในกระดอง
“พวกเราเข้ามาในห้องแลกเปลี่ยนแล้ว! พวกนายจะหวาดกลัวอะไรกันอีก? พวกเราจะเอาปืนออกมาและเล็งไปที่หน้าต่างเพื่อฆ่าพวกมัน!”ไป๋ซานชานคำรามด้วยความกราดเกรี้ยว
เสียงคำรามของเขานั้นทำให้คนอื่นนั้นตกอยู่ในสภาวะหูหนวก แต่อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าจะขยับตัว!
ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของไป๋ซานชานก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “ไอ้พวกเหี้..... ไอ้พวกไม่เอาถ่าน! พวกนายไม่กล้าที่จะจัดการปัญหาจิ๊บจ๊อยนี้เลยด้วยซ้ำ!”
ในเวลานั้นเอง ไป๋ปิงไฮ่นั้นก็ทุบลงไปที่โต๊ะอย่างฉับพลัน ความคิดอันน่ากลัวนั้นก็ติดอยู่กับเขา เขาพูดขึ้น “มันก็โอเคหน่า ไม่ต้องไปรีบร้อนที่จะต่อสู้เลย พวกเรานั้นอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเราสามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้ไปตลอดชีวิต!”
เขามองไปที่คนอื่นๆด้วยดวงตาที่เย็นเฉียบซึ่งทำให้คนอื่นรู้สึกได้ถึงความไม่สะดวกสบาย
“หัวหน้าไป๋ซานชาน ฉันตกลงกับนาย”หัวหน้าหยวนนั้นลุกขึ้นยืนมาจากพื้นดิน เขานั้นมีความเกลียดชังที่ลึกมากกับเจียงลู่ฉี ทีมของเขานั้นได้รับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้เขาเหลือลูกน้องเพียงแค่สองคนแล้วในตอนนี้
“ไอ้บัดซบนั้นยังคงอยู่ด้านนอก ถ้าทุกคนนั้นช่วยกัน ผลลัพธ์ที่เยี่ยมนั้นจะสามารถทำได้สำเร็จ พวกเราสามารถที่จะฆ่าเขาได้แน่ๆ!”หัวหน้าหยวนพูด
“ทุกคนนั้นได้รับความสูญเสียที่มากมาย พวกเราจะต้องอยู่ด้วยกันและสู้กับมัน ก่อนอื่นเลยพวกเราจะรอจนกระทั่งเย็น ในจุดนั้นเอง กระสุนของเขาก็จะหมดลงและเสบียงก็เช่นกัน”หัวหน้าหยวนพูดด้วยท่าทางมีความสุข
ไป๋ปิงไฮ่นั้นมองไปที่หัวหน้าหยวนด้วยความไม่ได้ตั้งใจ โดยไม่ได้คาดคิดนั้น หัวหน้าหยวนนั้นมีความคิดอันร้ายกาจ! อย่างไรก็ตามมันก็เป็นหนทางที่ดีที่จะจัดการกับใครบางคนเช่นเจียงลู่ฉี
“เยี่ยม! นายฉลาดมาก”ไป๋ปิงไฮ่พูด
“ใช่! เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรพวกเราได้ตราบเท่าที่พวกเรายังอยู่ในห้องนี้….”หัวหน้าหยวนพูดอย่างดีใจพร้อมกันกับโบกมือ แต่ทันใดนั้นความรู้สึกเสียวสันหลังวูบก็ปรากฏขึ้น
[อะไรวะ?]ก่อนที่หัวหน้าหยวนจะสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกถึงความตายที่เข้าใกล้มาหา เสียงทำลายล้างอันน่าตื่นตระหนกก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก!
‘บูมมมม!’
ร่างของหัวหน้าหยวนนั้นเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดและเขาก็กระแทกเข้ากันกำแพงอย่างรุนแรง ดวงตาของเขายังคงเปิดค้างไว้อยู่ เขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผล เขารู้สึกเหมือนกับจะตาย ร่างกายของเขานั้นสั่นจากบาดแผล เลือดของเขานั้นไหลเวียนไปทั่วๆและเขารู้สึกปวดหัวจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง!
‘ค่อก! ค่อก!’หัวหน้าหยวนนั้นยังคงไม่ตาย เขานั้นเป็นชายที่อ้วนพร้อมกับกันมีพลังเหนือธรรมชาติ เขานั้นพยายามอย่างดีที่สุดที่จะยืนขึ้น เขานั้นมองไปรอบๆเพื่อหาใครสักคนที่จะช่วยเหลือเขาได้ ลำคอของเขานั้นทำให้เกิดเสียงอันแหบแห้ง “ได้โปรด....ช่วยฉันด้วย…..”อย่างไรก็ตามเวลานั้นเองก็ไม่มีใครเลยที่จะสนใจเขา!
พี่สาวฮงนั้นมองไปที่ประตูและขาของเธอนั้นก็หยุดที่จะสั่นไม่ได้ ประตูเหล็กอันหนานั้นที่ซึ่งถูกเชื่อมไว้ด้วยเหล็กที่พิเศษนั้นได้พังลงแล้ว...
นอกจากหัวหน้าหยวนแล้วที่ถูกแรกกระแทกทำให้กระเด็นไปโดยตรงแล้ว ก็มีผู้คนอีกหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างประตูนั้น ทั้งหมดก็ได้ตายลงแล้ว!
เจียงลู่ฉีนั้นได้ใช้ ‘ปืนใหญ่สุญญากาศ’เพื่อที่จะทำลายประตูนั่น!
กำแพงของห้องแลกเปลี่ยนนั้นเต็มไปด้วยรอยแตกคล้ายกับใยแมงมุม กระเบื้องนั้นตกลงมาจากบนหลังคาและเศษซากก็เต็มไปหมดบนพื้น ห้องนี้กลายเป็นความโกลาหล!
เมื่อมองผ่านประตูออกไป พวกที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เห็น รถมินิบัสที่ ‘เงียบงัน’ไม่ไกลออกไป พวกเขาก็เห็นปากกระบอกปืนขนาดใหญ่สีดำและปากกระบอกปืนอันนั้นก็กลับเข้าไปด้านในรถมินิบัสอย่างช้าๆ
ทุกคนนั้นเหมือนกับโดนตบบนใบหน้าอย่างไร้เมตตา
“อึก!”
ทุกคนนั้นพูดไม่ออกอย่างแท้จริง! เพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้น ความกลัวก็เข้าครอบงำทุกคน!